Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๓. โคธสกฺกสุตฺตํ
3. Godhasakkasuttaṃ
๑๐๑๙. กปิลวตฺถุนิทานํ ฯ อถ โข มหานาโม สโกฺก เยน โคธา สโกฺก เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา โคธํ สกฺกํ เอตทโวจ – ‘‘กติหิ 1 ตฺวํ, โคเธ, ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานาสิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณ’’นฺติ?
1019. Kapilavatthunidānaṃ . Atha kho mahānāmo sakko yena godhā sakko tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā godhaṃ sakkaṃ etadavoca – ‘‘katihi 2 tvaṃ, godhe, dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāsi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇa’’nti?
‘‘ตีหิ ขฺวาหํ, มหานาม, ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณํฯ กตเมหิ ตีหิ? อิธ, มหานาม, อริยสาวโก พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – อิติปิ โส ภควา…เป.… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควาติฯ ธเมฺม…เป.… สเงฺฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – สุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ…เป.… อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสาติฯ อิเมหิ ขฺวาหํ, มหานาม, ตีหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณํฯ
‘‘Tīhi khvāhaṃ, mahānāma, dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇaṃ. Katamehi tīhi? Idha, mahānāma, ariyasāvako buddhe aveccappasādena samannāgato hoti – itipi so bhagavā…pe… satthā devamanussānaṃ buddho bhagavāti. Dhamme…pe… saṅghe aveccappasādena samannāgato hoti – suppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho…pe… anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassāti. Imehi khvāhaṃ, mahānāma, tīhi dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇaṃ.
‘‘ตฺวํ ปน, มหานาม, กติหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานาสิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณ’’นฺติ? ‘‘จตูหิ ขฺวาหํ, โคเธ, ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณํฯ กตเมหิ จตูหิ? อิธ, โคเธ, อริยสาวโก พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – อิติปิ โส ภควา…เป.… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควาติฯ ธเมฺม…เป.… สเงฺฆ…เป.… อริยกเนฺตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขเณฺฑหิ…เป.… สมาธิสํวตฺตนิเกหิฯ อิเมหิ ขฺวาหํ, โคเธ, จตูหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณ’’นฺติฯ
‘‘Tvaṃ pana, mahānāma, katihi dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāsi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇa’’nti? ‘‘Catūhi khvāhaṃ, godhe, dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇaṃ. Katamehi catūhi? Idha, godhe, ariyasāvako buddhe aveccappasādena samannāgato hoti – itipi so bhagavā…pe… satthā devamanussānaṃ buddho bhagavāti. Dhamme…pe… saṅghe…pe… ariyakantehi sīlehi samannāgato hoti akhaṇḍehi…pe… samādhisaṃvattanikehi. Imehi khvāhaṃ, godhe, catūhi dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇa’’nti.
‘‘อาคเมหิ ตฺวํ, มหานาม, อาคเมหิ ตฺวํ, มหานาม! ภควาว เอตํ ชาเนยฺย เอเตหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ วา อสมนฺนาคตํ วา’’ติฯ ‘‘อายาม, โคเธ, เยน ภควา เตนุปสงฺกเมยฺยาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสามา’’ติฯ อถ โข มหานาโม สโกฺก โคธา จ สโกฺก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข มหานาโม สโกฺก ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘Āgamehi tvaṃ, mahānāma, āgamehi tvaṃ, mahānāma! Bhagavāva etaṃ jāneyya etehi dhammehi samannāgataṃ vā asamannāgataṃ vā’’ti. ‘‘Āyāma, godhe, yena bhagavā tenupasaṅkameyyāma; upasaṅkamitvā bhagavato etamatthaṃ ārocessāmā’’ti. Atha kho mahānāmo sakko godhā ca sakko yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinno kho mahānāmo sakko bhagavantaṃ etadavoca –
‘‘อิธาหํ , ภเนฺต, เยน โคธา สโกฺก เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา โคธํ สกฺกํ เอตทโวจํ – ‘กติหิ ตฺวํ, โคเธ, ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานาสิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณํ’? เอวํ วุเตฺต, ภเนฺต, โคธา สโกฺก มํ เอตทโวจ –
‘‘Idhāhaṃ , bhante, yena godhā sakko tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā godhaṃ sakkaṃ etadavocaṃ – ‘katihi tvaṃ, godhe, dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāsi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇaṃ’? Evaṃ vutte, bhante, godhā sakko maṃ etadavoca –
‘‘ตีหิ ขฺวาหํ, มหานาม, ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณํฯ กตเมหิ ตีหิ? อิธ, มหานาม, อริยสาวโก พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – อิติปิ โส ภควา…เป.… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควาติฯ ธเมฺม…เป.… สเงฺฆ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – สุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ…เป.… อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสาติฯ อิเมหิ ขฺวาหํ, มหานาม, ตีหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณํฯ ตฺวํ ปน, มหานาม, กตเมหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานาสิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณ’’นฺติ?
‘‘Tīhi khvāhaṃ, mahānāma, dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇaṃ. Katamehi tīhi? Idha, mahānāma, ariyasāvako buddhe aveccappasādena samannāgato hoti – itipi so bhagavā…pe… satthā devamanussānaṃ buddho bhagavāti. Dhamme…pe… saṅghe aveccappasādena samannāgato hoti – suppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho…pe… anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassāti. Imehi khvāhaṃ, mahānāma, tīhi dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇaṃ. Tvaṃ pana, mahānāma, katamehi dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāsi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇa’’nti?
‘‘เอวํ วุตฺตาหํ, ภเนฺต, โคธํ สกฺกํ เอตทโวจํ – ‘จตูหิ ขฺวาหํ, โคเธ, ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณํฯ กตเมหิ จตูหิ? อิธ, โคเธ, อริยสาวโก พุเทฺธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ – อิติปิ โส ภควา…เป.… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควาติฯ ธเมฺม…เป.… สเงฺฆ…เป.… อริยกเนฺตหิ สีเลหิ สมนฺนาคโต โหติ อขเณฺฑหิ…เป.… สมาธิสํวตฺตนิเกหิฯ อิเมหิ ขฺวาหํ, โคเธ, จตูหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ โสตาปนฺนปุคฺคลํ อาชานามิ อวินิปาตธมฺมํ นิยตํ สโมฺพธิปรายณ’’’นฺติฯ
‘‘Evaṃ vuttāhaṃ, bhante, godhaṃ sakkaṃ etadavocaṃ – ‘catūhi khvāhaṃ, godhe, dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇaṃ. Katamehi catūhi? Idha, godhe, ariyasāvako buddhe aveccappasādena samannāgato hoti – itipi so bhagavā…pe… satthā devamanussānaṃ buddho bhagavāti. Dhamme…pe… saṅghe…pe… ariyakantehi sīlehi samannāgato hoti akhaṇḍehi…pe… samādhisaṃvattanikehi. Imehi khvāhaṃ, godhe, catūhi dhammehi samannāgataṃ sotāpannapuggalaṃ ājānāmi avinipātadhammaṃ niyataṃ sambodhiparāyaṇa’’’nti.
‘‘เอวํ วุเตฺต, ภเนฺต, โคธา สโกฺก มํ เอตทโวจ – ‘อาคเมหิ ตฺวํ, มหานาม, อาคเมหิ ตฺวํ, มหานาม! ภควาว เอตํ ชาเนยฺย เอเตหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ วา อสมนฺนาคตํ วา’’’ติฯ ‘‘อิธ , ภเนฺต, โกจิเทว ธโมฺม สมุปฺปาโท อุปฺปเชฺชยฺย, เอกโต อสฺส ภควา เอกโต ภิกฺขุสโงฺฆ จฯ เยเนว ภควา เตเนวาหํ อสฺสํฯ เอวํ ปสนฺนํ มํ, ภเนฺต, ภควา ธาเรตุฯ อิธ, ภเนฺต, โกจิเทว ธโมฺม สมุปฺปาโท อุปฺปเชฺชยฺย, เอกโต อสฺส ภควา เอกโต ภิกฺขุสโงฺฆ ภิกฺขุนิสโงฺฆ จฯ เยเนว ภควา เตเนวาหํ อสฺสํฯ เอวํ ปสนฺนํ มํ, ภเนฺต, ภควา ธาเรตุฯ อิธ, ภเนฺต, โกจิเทว ธโมฺม สมุปฺปาโท อุปฺปเชฺชยฺย, เอกโต อสฺส ภควา เอกโต ภิกฺขุสโงฺฆ ภิกฺขุนิสโงฺฆ จ อุปาสกา จฯ เยเนว ภควา เตเนวาหํ อสฺสํฯ เอวํ ปสนฺนํ มํ, ภเนฺต, ภควา ธาเรตุฯ อิธ, ภเนฺต, โกจิเทว ธโมฺม สมุปฺปาโท อุปฺปเชฺชยฺย, เอกโต อสฺส ภควา เอกโต ภิกฺขุสโงฺฆ ภิกฺขุนิสโงฺฆ อุปาสกา อุปาสิกาโย จฯ เยเนว ภควา เตเนวาหํ อสฺสํฯ เอวํ ปสนฺนํ มํ, ภเนฺต, ภควา ธาเรตุฯ อิธ, ภเนฺต, โกจิเทว ธโมฺม สมุปฺปาโท อุปฺปเชฺชยฺย, เอกโต อสฺส ภควา เอกโต ภิกฺขุสโงฺฆ ภิกฺขุนิสโงฺฆ อุปาสกา อุปาสิกาโย สเทวโก จ โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา สเทวมนุสฺสาฯ เยเนว ภควา เตเนวาหํ อสฺสํฯ เอวํ ปสนฺนํ มํ, ภเนฺต, ภควา ธาเรตู’’ติฯ ‘‘เอวํวาที ตฺวํ, โคเธ, มหานามํ สกฺกํ กิํ วเทสี’’ติ? ‘‘เอวํวาทาหํ, ภเนฺต, มหานามํ สกฺกํ น กิญฺจิ วทามิ, อญฺญตฺร กลฺยาณา อญฺญตฺร กุสลา’’ติฯ ตติยํฯ
‘‘Evaṃ vutte, bhante, godhā sakko maṃ etadavoca – ‘āgamehi tvaṃ, mahānāma, āgamehi tvaṃ, mahānāma! Bhagavāva etaṃ jāneyya etehi dhammehi samannāgataṃ vā asamannāgataṃ vā’’’ti. ‘‘Idha , bhante, kocideva dhammo samuppādo uppajjeyya, ekato assa bhagavā ekato bhikkhusaṅgho ca. Yeneva bhagavā tenevāhaṃ assaṃ. Evaṃ pasannaṃ maṃ, bhante, bhagavā dhāretu. Idha, bhante, kocideva dhammo samuppādo uppajjeyya, ekato assa bhagavā ekato bhikkhusaṅgho bhikkhunisaṅgho ca. Yeneva bhagavā tenevāhaṃ assaṃ. Evaṃ pasannaṃ maṃ, bhante, bhagavā dhāretu. Idha, bhante, kocideva dhammo samuppādo uppajjeyya, ekato assa bhagavā ekato bhikkhusaṅgho bhikkhunisaṅgho ca upāsakā ca. Yeneva bhagavā tenevāhaṃ assaṃ. Evaṃ pasannaṃ maṃ, bhante, bhagavā dhāretu. Idha, bhante, kocideva dhammo samuppādo uppajjeyya, ekato assa bhagavā ekato bhikkhusaṅgho bhikkhunisaṅgho upāsakā upāsikāyo ca. Yeneva bhagavā tenevāhaṃ assaṃ. Evaṃ pasannaṃ maṃ, bhante, bhagavā dhāretu. Idha, bhante, kocideva dhammo samuppādo uppajjeyya, ekato assa bhagavā ekato bhikkhusaṅgho bhikkhunisaṅgho upāsakā upāsikāyo sadevako ca loko samārako sabrahmako sassamaṇabrāhmaṇī pajā sadevamanussā. Yeneva bhagavā tenevāhaṃ assaṃ. Evaṃ pasannaṃ maṃ, bhante, bhagavā dhāretū’’ti. ‘‘Evaṃvādī tvaṃ, godhe, mahānāmaṃ sakkaṃ kiṃ vadesī’’ti? ‘‘Evaṃvādāhaṃ, bhante, mahānāmaṃ sakkaṃ na kiñci vadāmi, aññatra kalyāṇā aññatra kusalā’’ti. Tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. โคธสกฺกสุตฺตวณฺณนา • 3. Godhasakkasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. โคธสกฺกสุตฺตวณฺณนา • 3. Godhasakkasuttavaṇṇanā