Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๙. โคลิยานิสุตฺตํ
9. Goliyānisuttaṃ
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน สพฺรหฺมจารีสุ สคารเวน ภวิตพฺพํ สปฺปติเสฺสนฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต สพฺรหฺมจารีสุ อคารโว โหติ อปฺปติโสฺส, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน, โย อยมายสฺมา สพฺรหฺมจารีสุ อคารโว โหติ อปฺปติโสฺส’ติ – ตสฺส 7 ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน สพฺรหฺมจารีสุ สคารเวน ภวิตพฺพํ สปฺปติเสฺสนฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena sabrahmacārīsu sagāravena bhavitabbaṃ sappatissena. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto sabrahmacārīsu agāravo hoti appatisso, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena, yo ayamāyasmā sabrahmacārīsu agāravo hoti appatisso’ti – tassa 8 bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena sabrahmacārīsu sagāravena bhavitabbaṃ sappatissena.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํ – ‘อิติ เถเร จ ภิกฺขู นานุปขชฺช นิสีทิสฺสามิ นเว จ ภิกฺขู น อาสเนน ปฎิพาหิสฺสามี’ติฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต น อาสนกุสโล โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน, โย อยมายสฺมา อาสนกุสโล น โหตี’ติ 9 – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena āsanakusalena bhavitabbaṃ – ‘iti there ca bhikkhū nānupakhajja nisīdissāmi nave ca bhikkhū na āsanena paṭibāhissāmī’ti. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto na āsanakusalo hoti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena, yo ayamāyasmā āsanakusalo na hotī’ti 10 – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena āsanakusalena bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อาภิสมาจาริโกปิ ธโมฺม ชานิตโพฺพฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต อาภิสมาจาริกมฺปิ ธมฺมํ น ชานาติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อาภิสมาจาริกมฺปิ ธมฺมํ น ชานาตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อาภิสมาจาริโกปิ ธโมฺม ชานิตโพฺพ 11ฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena ābhisamācārikopi dhammo jānitabbo. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto ābhisamācārikampi dhammaṃ na jānāti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā ābhisamācārikampi dhammaṃ na jānātī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena ābhisamācārikopi dhammo jānitabbo 12.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน นาติกาเลน คาโม ปวิสิตโพฺพ นาติทิวา 13 ปฎิกฺกมิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต อติกาเลน คามํ ปวิสติ อติทิวา ปฎิกฺกมติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อติกาเลน คามํ ปวิสติ อติทิวา ปฎิกฺกมตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน นาติกาเลน คาโม ปวิสิตโพฺพ, นาติทิวา ปฎิกฺกมิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena nātikālena gāmo pavisitabbo nātidivā 14 paṭikkamitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto atikālena gāmaṃ pavisati atidivā paṭikkamati, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā atikālena gāmaṃ pavisati atidivā paṭikkamatī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena nātikālena gāmo pavisitabbo, nātidivā paṭikkamitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน น ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘อยํ นูนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน วิหรโต วิกาลจริยา พหุลีกตา, ตเมนํ สงฺฆคตมฺปิ สมุทาจรตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน น ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตํ กุเลสุ จาริตฺตํ อาปชฺชิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena na purebhattaṃ pacchābhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto purebhattaṃ pacchābhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjati, tassa bhavanti vattāro. ‘Ayaṃ nūnimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena viharato vikālacariyā bahulīkatā, tamenaṃ saṅghagatampi samudācaratī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena na purebhattaṃ pacchābhattaṃ kulesu cārittaṃ āpajjitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อนุทฺธเตน ภวิตพฺพํ อจปเลนฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต อุทฺธโต โหติ จปโล, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘อิทํ นูนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน วิหรโต อุทฺธจฺจํ จาปลฺยํ พหุลีกตํ, ตเมนํ สงฺฆคตมฺปิ สมุทาจรตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อนุทฺธเตน ภวิตพฺพํ อจปเลนฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena anuddhatena bhavitabbaṃ acapalena. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto uddhato hoti capalo, tassa bhavanti vattāro. ‘Idaṃ nūnimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena viharato uddhaccaṃ cāpalyaṃ bahulīkataṃ, tamenaṃ saṅghagatampi samudācaratī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena anuddhatena bhavitabbaṃ acapalena.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส , ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อมุขเรน ภวิตพฺพํ อวิกิณฺณวาเจนฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต มุขโร โหติ วิกิณฺณวาโจ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา มุขโร วิกิณฺณวาโจ’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน อมุขเรน ภวิตพฺพํ อวิกิณฺณวาเจนฯ
‘‘Āraññikenāvuso , bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena amukharena bhavitabbaṃ avikiṇṇavācena. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto mukharo hoti vikiṇṇavāco, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā mukharo vikiṇṇavāco’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena amukharena bhavitabbaṃ avikiṇṇavācena.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน สุวเจน 15 ภวิตพฺพํ กลฺยาณมิเตฺตนฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ สงฺฆคโต สเงฺฆ วิหรโนฺต ทุพฺพโจ โหติ ปาปมิโตฺต, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ทุพฺพโจ ปาปมิโตฺต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สงฺฆคเตน สเงฺฆ วิหรเนฺตน สุวเจน ภวิตพฺพํ กลฺยาณมิเตฺตนฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena suvacena 16 bhavitabbaṃ kalyāṇamittena. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu saṅghagato saṅghe viharanto dubbaco hoti pāpamitto, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā dubbaco pāpamitto’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā saṅghagatena saṅghe viharantena suvacena bhavitabbaṃ kalyāṇamittena.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาเรน ภวิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาโร’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาเรน ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā indriyesu guttadvārena bhavitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu indriyesu aguttadvāro hoti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā indriyesu aguttadvāro’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā indriyesu guttadvārena bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา โภชเน มตฺตญฺญุนา ภวิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก โภชเน อมตฺตญฺญู โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา โภชเน อมตฺตญฺญู’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา โภชเน มตฺตญฺญุนา ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā bhojane mattaññunā bhavitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhojane amattaññū hoti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā bhojane amattaññū’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā bhojane mattaññunā bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา ชาคริยํ อนุยุเตฺตน ภวิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ ชาคริยํ อนนุยุโตฺต โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ชาคริยํ อนนุยุโตฺต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา ชาคริยํ อนุยุเตฺตน ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā jāgariyaṃ anuyuttena bhavitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu jāgariyaṃ ananuyutto hoti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā jāgariyaṃ ananuyutto’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā jāgariyaṃ anuyuttena bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส , ภิกฺขุนา อารทฺธวีริเยน ภวิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ กุสีโต โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา กุสีโต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อารทฺธวีริเยน ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso , bhikkhunā āraddhavīriyena bhavitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu kusīto hoti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā kusīto’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā āraddhavīriyena bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อุปฎฺฐิตสฺสตินา ภวิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ มุฎฺฐสฺสตี โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา มุฎฺฐสฺสตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อุปฎฺฐิตสฺสตินา ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā upaṭṭhitassatinā bhavitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu muṭṭhassatī hoti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā muṭṭhassatī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā upaṭṭhitassatinā bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา สมาหิเตน ภวิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อสมาหิโต โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อสมาหิโต’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา สมาหิเตน ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā samāhitena bhavitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu asamāhito hoti, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā asamāhito’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā samāhitena bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา ปญฺญวตา ภวิตพฺพํฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ ทุปฺปโญฺญ โหติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโร ฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ทุปฺปโญฺญ’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา ปญฺญวตา ภวิตพฺพํฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā paññavatā bhavitabbaṃ. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu duppañño hoti, tassa bhavanti vattāro . ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā duppañño’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā paññavatā bhavitabbaṃ.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อภิธเมฺม อภิวินเย โยโค กรณีโยฯ สนฺตาวุโส, อารญฺญิกํ ภิกฺขุํ อภิธเมฺม อภิวินเย ปญฺหํ ปุจฺฉิตาโรฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อภิธเมฺม อภิวินเย ปญฺหํ ปุโฎฺฐ น สมฺปายติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา อภิธเมฺม อภิวินเย ปญฺหํ ปุโฎฺฐ น สมฺปายตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อภิธเมฺม อภิวินเย โยโค กรณีโยฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā abhidhamme abhivinaye yogo karaṇīyo. Santāvuso, āraññikaṃ bhikkhuṃ abhidhamme abhivinaye pañhaṃ pucchitāro. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu abhidhamme abhivinaye pañhaṃ puṭṭho na sampāyati, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā abhidhamme abhivinaye pañhaṃ puṭṭho na sampāyatī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā abhidhamme abhivinaye yogo karaṇīyo.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส , ภิกฺขุนา เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ โยโค กรณีโยฯ สนฺตาวุโส, อารญฺญิกํ ภิกฺขุํ เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ ปญฺหํ ปุจฺฉิตาโรฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ ปญฺหํ ปุโฎฺฐ น สมฺปายติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ ปญฺหํ ปุโฎฺฐ น สมฺปายตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา ตตฺถ โยโค กรณีโยฯ
‘‘Āraññikenāvuso , bhikkhunā ye te santā vimokkhā atikkamma rūpe āruppā tattha yogo karaṇīyo. Santāvuso, āraññikaṃ bhikkhuṃ ye te santā vimokkhā atikkamma rūpe āruppā tattha pañhaṃ pucchitāro. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu ye te santā vimokkhā atikkamma rūpe āruppā tattha pañhaṃ puṭṭho na sampāyati, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā ye te santā vimokkhā atikkamma rūpe āruppā tattha pañhaṃ puṭṭho na sampāyatī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā ye te santā vimokkhā atikkamma rūpe āruppā tattha yogo karaṇīyo.
‘‘อารญฺญิเกนาวุโส, ภิกฺขุนา อุตฺตริ มนุสฺสธเมฺม โยโค กรณีโยฯ สนฺตาวุโส, อารญฺญิกํ ภิกฺขุํ อุตฺตริ มนุสฺสธเมฺม ปญฺหํ ปุจฺฉิตาโรฯ สเจ, อาวุโส, อารญฺญิโก ภิกฺขุ อุตฺตริ มนุสฺสธเมฺม ปญฺหํ ปุโฎฺฐ น สมฺปายติ, ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ‘กิํ ปนิมสฺสายสฺมโต อารญฺญิกสฺส เอกสฺสารเญฺญ เสริวิหาเรน โย อยมายสฺมา ยสฺสตฺถาย ปพฺพชิโต ตมตฺถํ น ชานาตี’ติ – ตสฺส ภวนฺติ วตฺตาโรฯ ตสฺมา อารญฺญิเกน ภิกฺขุนา อุตฺตริ มนุสฺสธเมฺม โยโค กรณีโย’’ติฯ
‘‘Āraññikenāvuso, bhikkhunā uttari manussadhamme yogo karaṇīyo. Santāvuso, āraññikaṃ bhikkhuṃ uttari manussadhamme pañhaṃ pucchitāro. Sace, āvuso, āraññiko bhikkhu uttari manussadhamme pañhaṃ puṭṭho na sampāyati, tassa bhavanti vattāro. ‘Kiṃ panimassāyasmato āraññikassa ekassāraññe serivihārena yo ayamāyasmā yassatthāya pabbajito tamatthaṃ na jānātī’ti – tassa bhavanti vattāro. Tasmā āraññikena bhikkhunā uttari manussadhamme yogo karaṇīyo’’ti.
เอวํ วุเตฺต, อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน 17 อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อารญฺญิเกเนว นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุนา อิเม ธมฺมา สมาทาย วตฺติตพฺพา อุทาหุ คามนฺตวิหารินาปี’’ติ ? ‘‘อารญฺญิเกนาปิ โข, อาวุโส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุนา อิเม ธมฺมา สมาทาย วตฺติตพฺพา ปเคว คามนฺตวิหารินา’’ติฯ
Evaṃ vutte, āyasmā mahāmoggallāno 18 āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca – ‘‘āraññikeneva nu kho, āvuso sāriputta, bhikkhunā ime dhammā samādāya vattitabbā udāhu gāmantavihārināpī’’ti ? ‘‘Āraññikenāpi kho, āvuso moggallāna, bhikkhunā ime dhammā samādāya vattitabbā pageva gāmantavihārinā’’ti.
โคลิยานิสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ นวมํฯ
Goliyānisuttaṃ niṭṭhitaṃ navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. โคลิยานิสุตฺตวณฺณนา • 9. Goliyānisuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๙. โคลิยานิสุตฺตวณฺณนา • 9. Goliyānisuttavaṇṇanā