Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) |
๘. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
8. Gopakamoggallānasuttavaṇṇanā
๗๙. กมฺมํเยว กมฺมโนฺต, โส เอตฺถ อตฺถีติ กมฺมกรณฎฺฐานํ ‘‘กมฺมโนฺต’’ติ วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘กมฺมนฺตฎฺฐาน’’นฺติฯ เตหิ ธเมฺมหีติ พุทฺธคุเณหิฯ เต ปน สพฺพญฺญุตญฺญาณปฺปมุขาติ กตฺวา อาห ‘‘สพฺพญฺญุตญฺญาณธเมฺมหี’’ติฯ สเพฺพน สพฺพนฺติ สพฺพปฺปกาเรน อนวเสสํ, เอตฺตโก คุณานํ ปการเภโท, เตสุ กิญฺจิปิ ปการํ อนวเสเสตฺวาฯ สพฺพโกฎฺฐาเสหิ สพฺพนฺติ ยตฺตกา คุณภาคา, เตหิ สเพฺพหิ อนวเสสํ นิเสฺสสเมว กตฺวาฯ โยปิ อโหสีติ โยปิ โกสมฺพิวาสีนํ ภิกฺขูนํ วเสน โกสมฺพิยํ กลโห อโหสิฯ โสปิ ตเตฺถว อุปฺปนฺนฎฺฐาเนเยว อุปฺปนฺนมโตฺต วูปสมิโตฯ ปรินิพฺพุตกาเล ปนสฺสาติ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปรินิพฺพุตกาเล ปนฯ ภิโยฺยโสมตฺตาย ภิกฺขู สมคฺคา ชาตา, กถญฺจ สํเวโค ชาโตติ ทเสฺสตุํ ‘‘อฎฺฐสฎฺฐี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สาติสยํ อภิณฺหญฺจ อุปสมปฺปตฺติยา อติวิย อุปสนฺตุปสนฺตาฯ อนุสํยายมาโนติ อนุ อนุ สมฺมเทว ชานโนฺต วิจาเรโนฺต โวสาสมาโนฯ ‘‘อนุสญฺญายมาโน’’ติ วา ปาโฐฯ ตตฺถ ย-การสฺส ญ-การํ กตฺวา นิเทฺทโสติ อาห ‘‘อนุวิจรมาโน’’ติฯ
79. Kammaṃyeva kammanto, so ettha atthīti kammakaraṇaṭṭhānaṃ ‘‘kammanto’’ti vuttaṃ. Tenāha ‘‘kammantaṭṭhāna’’nti. Tehi dhammehīti buddhaguṇehi. Te pana sabbaññutaññāṇappamukhāti katvā āha ‘‘sabbaññutaññāṇadhammehī’’ti. Sabbena sabbanti sabbappakārena anavasesaṃ, ettako guṇānaṃ pakārabhedo, tesu kiñcipi pakāraṃ anavasesetvā. Sabbakoṭṭhāsehi sabbanti yattakā guṇabhāgā, tehi sabbehi anavasesaṃ nissesameva katvā. Yopi ahosīti yopi kosambivāsīnaṃ bhikkhūnaṃ vasena kosambiyaṃ kalaho ahosi. Sopi tattheva uppannaṭṭhāneyeva uppannamatto vūpasamito. Parinibbutakāle panassāti assa sammāsambuddhassa parinibbutakāle pana. Bhiyyosomattāya bhikkhū samaggā jātā, kathañca saṃvego jātoti dassetuṃ ‘‘aṭṭhasaṭṭhī’’tiādi vuttaṃ. Sātisayaṃ abhiṇhañca upasamappattiyā ativiya upasantupasantā. Anusaṃyāyamānoti anu anu sammadeva jānanto vicārento vosāsamāno. ‘‘Anusaññāyamāno’’ti vā pāṭho. Tattha ya-kārassa ña-kāraṃ katvā niddesoti āha ‘‘anuvicaramāno’’ti.
๘๐. เหฎฺฐิมปุจฺฉเมวาติ โคปกโมคฺคลฺลาเนน ปุจฺฉิตปุจฺฉเมวฯ โส หิ ‘‘เตหิ ธเมฺมหี’’ติอาทินา, ‘‘อตฺถิ โกจิ ตุมฺหากํ สาสนสฺส สารภูโต ภิกฺขู’’ติ ปุจฺฉิฯ อยญฺจ ตเมว ‘‘ปฎิสรโณ’’ติ ปริยาเยน ปุจฺฉิฯ อปฺปฎิสรเณติ ยํ ตุเมฺห ภิกฺขุํ ปฎิโพเธยฺยาถ, ตาทิสสฺส อภาเวน อปฺปฎิสรเณฯ ตถาคเตน ปเวทิโต ธโมฺม ปฎิสรณํ เอเตสนฺติ ธมฺมปฎิสรณาฯ เตนาห ‘‘ธโมฺม อวสฺสโย’’ติฯ
80.Heṭṭhimapucchamevāti gopakamoggallānena pucchitapucchameva. So hi ‘‘tehi dhammehī’’tiādinā, ‘‘atthi koci tumhākaṃ sāsanassa sārabhūto bhikkhū’’ti pucchi. Ayañca tameva ‘‘paṭisaraṇo’’ti pariyāyena pucchi. Appaṭisaraṇeti yaṃ tumhe bhikkhuṃ paṭibodheyyātha, tādisassa abhāvena appaṭisaraṇe. Tathāgatena pavedito dhammo paṭisaraṇaṃ etesanti dhammapaṭisaraṇā. Tenāha ‘‘dhammo avassayo’’ti.
๘๑. อาคจฺฉตีติ วาจุคฺคตภาเวน อาคจฺฉติฯ วตฺถุวีติกฺกมสงฺขาเต ครุครุตรลหุลหุตราทิเภเท อชฺฌาจาเร อาปตฺติสมญฺญาติ อาห – ‘‘อาปตฺติ…เป.… อาณาติกฺกมนเมวา’’ติฯ ยถาธมฺมนฺติ ธมฺมานุรูปํฯ ยถาสิฎฺฐนฺติ ยถานุสิฎฺฐํฯ ธโมฺม โนติ เอตฺถ โน-สโทฺท อวธารเณ ‘‘น โน สมํ อตฺถิ ตถาคเตนา’’ติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๖.๓; สุ. นิ. ๒๒๖) วิยฯ เตเนวาห ‘‘ธโมฺมว กาเรตี’’ติฯ
81.Āgacchatīti vācuggatabhāvena āgacchati. Vatthuvītikkamasaṅkhāte garugarutaralahulahutarādibhede ajjhācāre āpattisamaññāti āha – ‘‘āpatti…pe… āṇātikkamanamevā’’ti. Yathādhammanti dhammānurūpaṃ. Yathāsiṭṭhanti yathānusiṭṭhaṃ. Dhammo noti ettha no-saddo avadhāraṇe ‘‘na no samaṃ atthi tathāgatenā’’tiādīsu (khu. pā. 6.3; su. ni. 226) viya. Tenevāha ‘‘dhammova kāretī’’ti.
๘๓. ‘‘ยถา ตํ ตุมฺหาทิเสหิ รกฺขเกหิ โคปเกหี’’ติ เอวํ ปสนฺนเวเสน อตฺตานํ อุกฺกํสาเปตุกาโม ฯ อริยูปวาทปาปํ ขมาปเน สติ อนฺตรายาย น โหตีติ อาห – ‘‘อิเจฺจตํ กุสล’’นฺติฯ โคนงฺคลมกฺกโฎติ โคนงฺคุฎฺฐมกฺกโฎฯ
83. ‘‘Yathā taṃ tumhādisehi rakkhakehi gopakehī’’ti evaṃ pasannavesena attānaṃ ukkaṃsāpetukāmo . Ariyūpavādapāpaṃ khamāpane sati antarāyāya na hotīti āha – ‘‘iccetaṃ kusala’’nti. Gonaṅgalamakkaṭoti gonaṅguṭṭhamakkaṭo.
๘๔. อยํ อุกฺกํสาเปตุํ อิจฺฉิตํ ยถารทฺธมตฺถํ วิสํวาเทติ อวณฺณิตมฺปิ วณฺณิตํ กตฺวา กเถโนฺต; อิมสฺส วจนสฺส ปฎิเกฺขเปน อิมินา ทาตพฺพปิณฺฑปาตสฺส อนฺตราโย มา โหตูติ เอวํ ปิณฺฑปาตํ รกฺขิตุํ น โข ปน สกฺกาติ โยชนาฯ อิทนฺติ ‘‘น โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา’’ติอาทิเทสนํฯ อพฺภนฺตรํ กริตฺวาติ นิพฺพานโนฺตคธํ กตฺวา, อนฺตรํ วา ตสฺส นิชฺฌานสฺส การณํ กตฺวาฯ กามราควเสน หิ ตํ นิชฺฌานํ โหตีติฯ อิธาติ อิมสฺมิํ สุตฺตปเทเสฯ สพฺพสงฺคาหิกชฺฌานนฺติ โลกิยโลกุตฺตรสฺส อนฺตราโย มา โหตูติ เอวํ กตฺวาปิ รูปาวจรสฺส มคฺคฌานสฺส ผลฌานสฺสาติ สพฺพสฺสปิ สงฺคณฺหนวเสน เทสิตตฺตา สพฺพสงฺคาหกชฺฌานํ นาม กถิตํฯ
84. Ayaṃ ukkaṃsāpetuṃ icchitaṃ yathāraddhamatthaṃ visaṃvādeti avaṇṇitampi vaṇṇitaṃ katvā kathento; imassa vacanassa paṭikkhepena iminā dātabbapiṇḍapātassa antarāyo mā hotūti evaṃ piṇḍapātaṃ rakkhituṃ na kho pana sakkāti yojanā. Idanti ‘‘na kho, brāhmaṇa, so bhagavā’’tiādidesanaṃ. Abbhantaraṃ karitvāti nibbānantogadhaṃ katvā, antaraṃ vā tassa nijjhānassa kāraṇaṃ katvā. Kāmarāgavasena hi taṃ nijjhānaṃ hotīti. Idhāti imasmiṃ suttapadese. Sabbasaṅgāhikajjhānanti lokiyalokuttarassa antarāyo mā hotūti evaṃ katvāpi rūpāvacarassa maggajhānassa phalajhānassāti sabbassapi saṅgaṇhanavasena desitattā sabbasaṅgāhakajjhānaṃ nāma kathitaṃ.
ยํ โน มยนฺติ เอตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํฯ ตํ โนติ เอตฺถ ปน โนติ อมฺหากนฺติ อโตฺถฯ อุสูยติ ราชกิจฺจปสุตตาธีนตาย เอกตฺถาภินิเวสภาวโต ฯ มนฺทปญฺญตาย วสฺสการคตอิสฺสาภิภูตจิตฺตตาย ปริปุณฺณํ กตฺวา วุตฺตมฺปิ อตฺถํ อนุปธาเรโนฺต อาห – ‘‘เอกเทสเมว กเถสี’’ติฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Yaṃ no mayanti ettha noti nipātamattaṃ. Taṃ noti ettha pana noti amhākanti attho. Usūyati rājakiccapasutatādhīnatāya ekatthābhinivesabhāvato . Mandapaññatāya vassakāragataissābhibhūtacittatāya paripuṇṇaṃ katvā vuttampi atthaṃ anupadhārento āha – ‘‘ekadesameva kathesī’’ti. Sesaṃ suviññeyyameva.
โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ
Gopakamoggallānasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๘. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ • 8. Gopakamoggallānasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา • 8. Gopakamoggallānasuttavaṇṇanā