Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๗. โคปาลสุตฺตํ
7. Gopālasuttaṃ
๑๗. ‘‘เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภโพฺพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาติํ กาตุํ 1ฯ กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, โคปาลโก น รูปญฺญู โหติ, น ลกฺขณกุสโล โหติ, น อาสาฎิกํ หาเรตา 2 โหติ, น วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติ, น ธูมํ กตฺตา โหติ, น ติตฺถํ ชานาติ, น ปีตํ ชานาติ, น วีถิํ ชานาติ, น โคจรกุสโล โหติ, อนวเสสโทหี จ โหติ, เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกา เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ ฯ อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก อภโพฺพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาติํ กาตุํฯ
17. ‘‘Ekādasahi, bhikkhave, aṅgehi samannāgato gopālako abhabbo gogaṇaṃ pariharituṃ phātiṃ kātuṃ 3. Katamehi ekādasahi? Idha, bhikkhave, gopālako na rūpaññū hoti, na lakkhaṇakusalo hoti, na āsāṭikaṃ hāretā 4 hoti, na vaṇaṃ paṭicchādetā hoti, na dhūmaṃ kattā hoti, na titthaṃ jānāti, na pītaṃ jānāti, na vīthiṃ jānāti, na gocarakusalo hoti, anavasesadohī ca hoti, ye te usabhā gopitaro gopariṇāyakā te na atirekapūjāya pūjetā hoti . Imehi kho, bhikkhave, ekādasahi aṅgehi samannāgato gopālako abhabbo gogaṇaṃ pariharituṃ phātiṃ kātuṃ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภโพฺพ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํฯ กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น รูปญฺญู โหติ, น ลกฺขณกุสโล โหติ, น อาสาฎิกํ หาเรตา โหติ, น วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติ, น ธูมํ กตฺตา โหติ, น ติตฺถํ ชานาติ, น ปีตํ ชานาติ, น วีถิํ ชานาติ, น โคจรกุสโล โหติ, อนวเสสโทหี จ โหติ, เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติฯ
‘‘Evamevaṃ kho, bhikkhave, ekādasahi dhammehi samannāgato bhikkhu abhabbo imasmiṃ dhammavinaye vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjituṃ. Katamehi ekādasahi? Idha , bhikkhave, bhikkhu na rūpaññū hoti, na lakkhaṇakusalo hoti, na āsāṭikaṃ hāretā hoti, na vaṇaṃ paṭicchādetā hoti, na dhūmaṃ kattā hoti, na titthaṃ jānāti, na pītaṃ jānāti, na vīthiṃ jānāti, na gocarakusalo hoti, anavasesadohī ca hoti, ye te bhikkhū therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā te na atirekapūjāya pūjetā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น รูปญฺญู โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยํ กิญฺจิ รูปํ ( ) 5 ‘จตฺตาริ มหาภูตานิ, จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’นฺติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น รูปญฺญู โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na rūpaññū hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu yaṃ kiñci rūpaṃ ( ) 6 ‘cattāri mahābhūtāni, catunnañca mahābhūtānaṃ upādāyarūpa’nti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na rūpaññū hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ลกฺขณกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโต’ติ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ลกฺขณกุสโล โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na lakkhaṇakusalo hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ‘kammalakkhaṇo bālo, kammalakkhaṇo paṇḍito’ti yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na lakkhaṇakusalo hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อาสาฎิกํ หาเรตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ อธิวาเสติ นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหิํสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปเนฺน ปาปเก อกุสเล ธเมฺม อธิวาเสติ นปฺปชหติ น วิโนเทติ น พฺยนฺตีกโรติ น อนภาวํ คเมติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อาสาฎิกํ หาเรตา โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na āsāṭikaṃ hāretā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu uppannaṃ kāmavitakkaṃ adhivāseti nappajahati na vinodeti na byantīkaroti na anabhāvaṃ gameti, uppannaṃ byāpādavitakkaṃ… uppannaṃ vihiṃsāvitakkaṃ… uppannuppanne pāpake akusale dhamme adhivāseti nappajahati na vinodeti na byantīkaroti na anabhāvaṃ gameti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na āsāṭikaṃ hāretā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยญฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฎิปชฺชติ; น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ นาปชฺชติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย นิมิตฺตคฺคาหี โหติ อนุพฺยญฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย น ปฎิปชฺชติ; น รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ นาปชฺชติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na vaṇaṃ paṭicchādetā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā nimittaggāhī hoti anubyañjanaggāhī; yatvādhikaraṇamenaṃ cakkhundriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya na paṭipajjati; na rakkhati cakkhundriyaṃ, cakkhundriye saṃvaraṃ nāpajjati. Sotena saddaṃ sutvā… ghānena gandhaṃ ghāyitvā… jivhāya rasaṃ sāyitvā… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā… manasā dhammaṃ viññāya nimittaggāhī hoti anubyañjanaggāhī; yatvādhikaraṇamenaṃ manindriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya na paṭipajjati; na rakkhati manindriyaṃ, manindriye saṃvaraṃ nāpajjati. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na vaṇaṃ paṭicchādetā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ธูมํ กตฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น 7 ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสตา โหติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ธูมํ กตฺตา โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na dhūmaṃ kattā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu na 8 yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ desetā hoti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na dhūmaṃ kattā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ติตฺถํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา น ปริปุจฺฉติ น ปริปญฺหติ – ‘อิทํ, ภเนฺต, กถํ, อิมสฺส โก อโตฺถ’ติ? ตสฺส เต อายสฺมโนฺต อวิวฎเญฺจว น วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตญฺจ น อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฐานิเยสุ ธเมฺมสุ กงฺขํ น ปฎิวิโนเทนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ติตฺถํ ชานาติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na titthaṃ jānāti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū bahussutā āgatāgamā dhammadharā vinayadharā mātikādharā, te kālena kālaṃ upasaṅkamitvā na paripucchati na paripañhati – ‘idaṃ, bhante, kathaṃ, imassa ko attho’ti? Tassa te āyasmanto avivaṭañceva na vivaranti, anuttānīkatañca na uttānīkaronti, anekavihitesu ca kaṅkhāṭhāniyesu dhammesu kaṅkhaṃ na paṭivinodenti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na titthaṃ jānāti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปีตํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน น ลภติ อตฺถเวทํ, น ลภติ ธมฺมเวทํ , น ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น ปีตํ ชานาติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na pītaṃ jānāti? Idha, bhikkhave, bhikkhu tathāgatappavedite dhammavinaye desiyamāne na labhati atthavedaṃ, na labhati dhammavedaṃ , na labhati dhammūpasaṃhitaṃ pāmojjaṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na pītaṃ jānāti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วีถิํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น วีถิํ ชานาติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na vīthiṃ jānāti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na vīthiṃ jānāti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น โคจรกุสโล โหติ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาโร สติปฎฺฐาเน ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น โคจรกุสโล โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu na gocarakusalo hoti? Idha , bhikkhave, bhikkhu cattāro satipaṭṭhāne yathābhūtaṃ nappajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu na gocarakusalo hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนวเสสโทหี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ สทฺธา คหปติกา อภิหฎฺฐุํ ปวาเรนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิฯ ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ น ชานาติ ปฎิคฺคหณายฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อนวเสสโทหี โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu anavasesadohī hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhuṃ saddhā gahapatikā abhihaṭṭhuṃ pavārenti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārehi. Tatra bhikkhu mattaṃ na jānāti paṭiggahaṇāya. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu anavasesadohī hoti.
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต น อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เตสุ น เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฎฺฐาเปติ อาวิ เจว รโห จ, น เมตฺตํ วจีกมฺมํ… น เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฎฺฐาเปติ อาวิ เจว รโห จฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, น เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā, te na atirekapūjāya pūjetā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā, tesu na mettaṃ kāyakammaṃ paccupaṭṭhāpeti āvi ceva raho ca, na mettaṃ vacīkammaṃ… na mettaṃ manokammaṃ paccupaṭṭhāpeti āvi ceva raho ca. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā, na te atirekapūjāya pūjetā hoti.
‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อภโพฺพ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํฯ
‘‘Imehi kho, bhikkhave, ekādasahi dhammehi samannāgato bhikkhu abhabbo imasmiṃ dhammavinaye vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjituṃ.
‘‘เอกาทสหิ, ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก ภโพฺพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาติํ กาตุํฯ กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ, ภิกฺขเว, โคปาลโก รูปญฺญู โหติ, ลกฺขณกุสโล โหติ, อาสาฎิกํ หาเรตา โหติ, วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติ, ธูมํ กตฺตา โหติ, ติตฺถํ ชานาติ, ปีตํ ชานาติ, วีถิํ ชานาติ, โคจรกุสโล โหติ, สาวเสสโทหี จ โหติ, เย เต อุสภา โคปิตโร โคปริณายกา เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ – อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ อเงฺคหิ สมนฺนาคโต โคปาลโก ภโพฺพ โคคณํ ปริหริตุํ ผาติํ กาตุํฯ
‘‘Ekādasahi, bhikkhave, aṅgehi samannāgato gopālako bhabbo gogaṇaṃ pariharituṃ phātiṃ kātuṃ. Katamehi ekādasahi? Idha, bhikkhave, gopālako rūpaññū hoti, lakkhaṇakusalo hoti, āsāṭikaṃ hāretā hoti, vaṇaṃ paṭicchādetā hoti, dhūmaṃ kattā hoti, titthaṃ jānāti, pītaṃ jānāti, vīthiṃ jānāti, gocarakusalo hoti, sāvasesadohī ca hoti, ye te usabhā gopitaro gopariṇāyakā te atirekapūjāya pūjetā hoti – imehi kho, bhikkhave, ekādasahi aṅgehi samannāgato gopālako bhabbo gogaṇaṃ pariharituṃ phātiṃ kātuṃ.
‘‘เอวเมวํ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภโพฺพ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุํฯ กตเมหิ เอกาทสหิ? อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปญฺญู โหติ, ลกฺขณกุสโล โหติ, อาสาฎิกํ หาเรตา โหติ, วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติ, ธูมํ กตฺตา โหติ, ติตฺถํ ชานาติ, ปีตํ ชานาติ, วีถิํ ชานาติ, โคจรกุสโล โหติ, สาวเสสโทหี จ โหติ, เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติฯ
‘‘Evamevaṃ kho, bhikkhave, ekādasahi dhammehi samannāgato bhikkhu bhabbo imasmiṃ dhammavinaye vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjituṃ. Katamehi ekādasahi? Idha , bhikkhave, bhikkhu rūpaññū hoti, lakkhaṇakusalo hoti, āsāṭikaṃ hāretā hoti, vaṇaṃ paṭicchādetā hoti, dhūmaṃ kattā hoti, titthaṃ jānāti, pītaṃ jānāti, vīthiṃ jānāti, gocarakusalo hoti, sāvasesadohī ca hoti, ye te bhikkhū therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā te atirekapūjāya pūjetā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปญฺญู โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยํ กิญฺจิ รูปํ ‘จตฺตาริ มหาภูตานิ, จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปญฺญู โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu rūpaññū hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu yaṃ kiñci rūpaṃ ‘cattāri mahābhūtāni, catunnañca mahābhūtānaṃ upādāyarūpa’nti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu rūpaññū hoti.
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลกฺขณกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ‘กมฺมลกฺขโณ พาโล, กมฺมลกฺขโณ ปณฺฑิโต’ติ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลกฺขณกุสโล โหติฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, bhikkhu lakkhaṇakusalo hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ‘kammalakkhaṇo bālo, kammalakkhaṇo paṇḍito’ti yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu lakkhaṇakusalo hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสาฎิกํ หาเรตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติ, อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหิํสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปเนฺน ปาปเก อกุสเล ธเมฺม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสาฎิกํ หาเรตา โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu āsāṭikaṃ hāretā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu uppannaṃ kāmavitakkaṃ nādhivāseti pajahati vinodeti byantīkaroti anabhāvaṃ gameti, uppannaṃ byāpādavitakkaṃ… uppannaṃ vihiṃsāvitakkaṃ… uppannuppanne pāpake akusale dhamme nādhivāseti pajahati vinodeti byantīkaroti anabhāvaṃ gameti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu āsāṭikaṃ hāretā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชติ; รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ, จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยญฺชนคฺคาหี; ยตฺวาธิกรณเมนํ มนินฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺตํ อภิชฺฌาโทมนสฺสา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ, ตสฺส สํวราย ปฎิปชฺชติ; รกฺขติ มนินฺทฺริยํ, มนินฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วณํ ปฎิจฺฉาเทตา โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu vaṇaṃ paṭicchādetā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā na nimittaggāhī hoti nānubyañjanaggāhī; yatvādhikaraṇamenaṃ cakkhundriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjati; rakkhati cakkhundriyaṃ, cakkhundriye saṃvaraṃ āpajjati. Sotena saddaṃ sutvā… ghānena gandhaṃ ghāyitvā… jivhāya rasaṃ sāyitvā… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā… manasā dhammaṃ viññāya na nimittaggāhī hoti nānubyañjanaggāhī; yatvādhikaraṇamenaṃ manindriyaṃ asaṃvutaṃ viharantaṃ abhijjhādomanassā pāpakā akusalā dhammā anvāssaveyyuṃ, tassa saṃvarāya paṭipajjati; rakkhati manindriyaṃ, manindriye saṃvaraṃ āpajjati. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu vaṇaṃ paṭicchādetā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธูมํ กตฺตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาสุตํ ยถาปริยตฺตํ ธมฺมํ วิตฺถาเรน ปเรสํ เทเสตา โหติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ธูมํ กตฺตา โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu dhūmaṃ kattā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu yathāsutaṃ yathāpariyattaṃ dhammaṃ vitthārena paresaṃ desetā hoti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu dhūmaṃ kattā hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติตฺถํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปญฺหติ – ‘อิทํ, ภเนฺต, กถํ, อิมสฺส โก อโตฺถ’ติ? ตสฺส เต อายสฺมโนฺต อวิวฎเญฺจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตญฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฐานิเยสุ ธเมฺมสุ กงฺขํ ปฎิวิโนเทนฺติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ติตฺถํ ชานาติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu titthaṃ jānāti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū bahussutā āgatāgamā dhammadharā vinayadharā mātikādharā, te kālena kālaṃ upasaṅkamitvā paripucchati paripañhati – ‘idaṃ, bhante, kathaṃ, imassa ko attho’ti? Tassa te āyasmanto avivaṭañceva vivaranti, anuttānīkatañca uttānīkaronti, anekavihitesu ca kaṅkhāṭhāniyesu dhammesu kaṅkhaṃ paṭivinodenti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu titthaṃ jānāti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีตํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตถาคตปฺปเวทิเต ธมฺมวินเย เทสิยมาเน ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปีตํ ชานาติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu pītaṃ jānāti? Idha, bhikkhave, bhikkhu tathāgatappavedite dhammavinaye desiyamāne labhati atthavedaṃ, labhati dhammavedaṃ, labhati dhammūpasaṃhitaṃ pāmojjaṃ. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu pītaṃ jānāti.
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วีถิํ ชานาติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วีถิํ ชานาติฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, bhikkhu vīthiṃ jānāti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu vīthiṃ jānāti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โคจรกุสโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตฺตาโร สติปฎฺฐาเน ยถาภูตํ ปชานาติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ โคจรกุสโล โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu gocarakusalo hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu cattāro satipaṭṭhāne yathābhūtaṃ pajānāti. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu gocarakusalo hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สาวเสสโทหี โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ สทฺธา คหปติกา อภิหฎฺฐุํ ปวาเรนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิฯ ตตฺร ภิกฺขุ มตฺตํ ชานาติ ปฎิคฺคหณายฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สาวเสสโทหี โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu sāvasesadohī hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhuṃ saddhā gahapatikā abhihaṭṭhuṃ pavārenti cīvarapiṇḍapātasenāsanagilānapaccayabhesajjaparikkhārehi. Tatra bhikkhu mattaṃ jānāti paṭiggahaṇāya. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu sāvasesadohī hoti.
‘‘กถญฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฎฺฐาเปติ อาวิ เจว รโห จ, เมตฺตํ วจีกมฺมํ… เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฎฺฐาเปติ อาวิ เจว รโห จฯ เอวํ โข , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เย เต ภิกฺขู เถรา รตฺตญฺญู จิรปพฺพชิตา สงฺฆปิตโร สงฺฆปริณายกา, เต อติเรกปูชาย ปูเชตา โหติฯ
‘‘Kathañca, bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā, te atirekapūjāya pūjetā hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu ye te therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā, tesu mettaṃ kāyakammaṃ paccupaṭṭhāpeti āvi ceva raho ca, mettaṃ vacīkammaṃ… mettaṃ manokammaṃ paccupaṭṭhāpeti āvi ceva raho ca. Evaṃ kho , bhikkhave, bhikkhu ye te bhikkhū therā rattaññū cirapabbajitā saṅghapitaro saṅghapariṇāyakā, te atirekapūjāya pūjetā hoti.
‘‘อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, เอกาทสหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภโพฺพ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย วุทฺธิํ วิรูฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตุ’’นฺติฯ สตฺตมํฯ
‘‘Imehi kho, bhikkhave, ekādasahi dhammehi samannāgato bhikkhu bhabbo imasmiṃ dhammavinaye vuddhiṃ virūḷhiṃ vepullaṃ āpajjitu’’nti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. โคปาลสุตฺตวณฺณนา • 7. Gopālasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. โคปาลสุตฺตวณฺณนา • 7. Gopālasuttavaṇṇanā