Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๓. โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา
3. Gotamakacetiyasuttavaṇṇanā
๑๒๖. ตติเย โคตมเก เจติเยติ โคตมกยกฺขสฺส ภวเนฯ ตถาคโต หิ ปฐมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ กทาจิ จาปาเล เจติเย, กทาจิ สารนฺทเท, กทาจิ พหุปุเตฺต, กทาจิ โคตมเกติ เอวํ เยภุเยฺยน เทวกุเลสุเยว วิหาสิฯ อิมสฺมิํ ปน กาเล เวสาลิํ อุปนิสฺสาย โคตมกสฺส ยกฺขสฺส ภวนฎฺฐาเน วิหาสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘โคตมเก เจติเย’’ติฯ เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อภิญฺญายาห’’นฺติอาทิกํ สุตฺตํ อโวจฯ
126. Tatiye gotamake cetiyeti gotamakayakkhassa bhavane. Tathāgato hi paṭhamabodhiyaṃ vīsati vassāni kadāci cāpāle cetiye, kadāci sārandade, kadāci bahuputte, kadāci gotamaketi evaṃ yebhuyyena devakulesuyeva vihāsi. Imasmiṃ pana kāle vesāliṃ upanissāya gotamakassa yakkhassa bhavanaṭṭhāne vihāsi. Tena vuttaṃ – ‘‘gotamake cetiye’’ti. Etadavocāti etaṃ ‘‘abhiññāyāha’’ntiādikaṃ suttaṃ avoca.
อิทญฺจ ภควตา สุตฺตํ อตฺถุปฺปตฺติยํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ กตรอตฺถุปฺปตฺติยนฺติ? มูลปริยายอตฺถุปฺปตฺติยํ (ม. นิ. ๑.๑ อาทโย)ฯ สมฺพหุลา กิร พฺราหฺมณปพฺพชิตา อตฺตนา อุคฺคหิตพุทฺธวจนํ นิสฺสาย ชานนมทํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมสฺสวนคฺคํ น คจฺฉนฺติ – ‘‘สมฺมาสมฺพุโทฺธ กเถโนฺต อเมฺหหิ ญาตเมว กเถสฺสติ, โน อญฺญาต’’นฺติฯ ภิกฺขู ตถาคตสฺส อาโรเจสุํฯ สตฺถา เต ภิกฺขู ปโกฺกสาเปตฺวา มุขปฎิญฺญํ คเหตฺวา มูลปริยายํ เทเสสิฯ เต ภิกฺขู เทสนาย เนว อาคตฎฺฐานํ, น คตฎฺฐานํ อทฺทสํสุฯ อปสฺสนฺตา ‘‘สมฺมาสมฺพุโทฺธ ‘มยฺหํ กถา นิยฺยาตี’ติ มุขสมฺปตฺตเมว กเถตี’’ติ จินฺตยิํสุฯ สตฺถา เตสํ มนํ ชานิตฺวา อิมํ สุตฺตนฺตํ อารภิฯ
Idañca bhagavatā suttaṃ atthuppattiyaṃ vuttanti veditabbaṃ. Kataraatthuppattiyanti? Mūlapariyāyaatthuppattiyaṃ (ma. ni. 1.1 ādayo). Sambahulā kira brāhmaṇapabbajitā attanā uggahitabuddhavacanaṃ nissāya jānanamadaṃ uppādetvā dhammassavanaggaṃ na gacchanti – ‘‘sammāsambuddho kathento amhehi ñātameva kathessati, no aññāta’’nti. Bhikkhū tathāgatassa ārocesuṃ. Satthā te bhikkhū pakkosāpetvā mukhapaṭiññaṃ gahetvā mūlapariyāyaṃ desesi. Te bhikkhū desanāya neva āgataṭṭhānaṃ, na gataṭṭhānaṃ addasaṃsu. Apassantā ‘‘sammāsambuddho ‘mayhaṃ kathā niyyātī’ti mukhasampattameva kathetī’’ti cintayiṃsu. Satthā tesaṃ manaṃ jānitvā imaṃ suttantaṃ ārabhi.
ตตฺถ อภิญฺญายาติ ‘‘อิเม ปญฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฎฺฐารส ธาตุโย, พาวีสตินฺทฺริยานิ, จตฺตาริ สจฺจานิ, นว เหตู, สตฺต ผสฺสา, สตฺต เวทนา, สตฺต เจตนา, สตฺต สญฺญา, สตฺต จิตฺตานี’’ติ ชานิตฺวา ปฎิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขํ กตฺวา, ตถา – ‘‘อิเม จตฺตาโร สติปฎฺฐานา’’ติอาทินา นเยน เต เต ธเมฺม ชานิตฺวา ปฎิวิชฺฌิตฺวา ปจฺจกฺขเมว กตฺวาติ อโตฺถฯ สนิทานนฺติ สปฺปจฺจยเมว กตฺวา กเถมิ, โน อปฺปจฺจยํฯ สปฺปาฎิหาริยนฺติ ปจฺจนีกปฎิหรเณน สปฺปาฎิหาริยเมว กตฺวา กเถมิ, โน อปฺปาฎิหาริยํฯ อลญฺจ ปน โวติ ยุตฺตญฺจ ปน ตุมฺหากํฯ ตุฎฺฐิยาติ ‘‘สมฺมาสมฺพุโทฺธ ภควา, สฺวากฺขาโต ธโมฺม, สุปฺปฎิปโนฺน สโงฺฆ’’ติ ตีณิ รตนานิ คุณโต อนุสฺสรนฺตานํ ตุมฺหากํ ยุตฺตเมว ตุฎฺฐิํ กาตุนฺติ อโตฺถฯ เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ
Tattha abhiññāyāti ‘‘ime pañcakkhandhā, dvādasāyatanāni, aṭṭhārasa dhātuyo, bāvīsatindriyāni, cattāri saccāni, nava hetū, satta phassā, satta vedanā, satta cetanā, satta saññā, satta cittānī’’ti jānitvā paṭivijjhitvā paccakkhaṃ katvā, tathā – ‘‘ime cattāro satipaṭṭhānā’’tiādinā nayena te te dhamme jānitvā paṭivijjhitvā paccakkhameva katvāti attho. Sanidānanti sappaccayameva katvā kathemi, no appaccayaṃ. Sappāṭihāriyanti paccanīkapaṭiharaṇena sappāṭihāriyameva katvā kathemi, no appāṭihāriyaṃ. Alañca pana voti yuttañca pana tumhākaṃ. Tuṭṭhiyāti ‘‘sammāsambuddho bhagavā, svākkhāto dhammo, suppaṭipanno saṅgho’’ti tīṇi ratanāni guṇato anussarantānaṃ tumhākaṃ yuttameva tuṭṭhiṃ kātunti attho. Sesapadadvayepi eseva nayo.
อกมฺปิตฺถาติ ฉหิ อากาเรหิ อกมฺปิตฺถฯ เอวรูโป หิ ปถวิกโมฺป โพธิมเณฺฑปิ อโหสิฯ โพธิสเตฺต กิร ทกฺขิณทิสาภาเคน โพธิมณฺฑํ อภิรุเฬฺห ทกฺขิณทิสาภาโค เหฎฺฐา อวีจิํ ปาปุณโนฺต วิย อโหสิ, อุตฺตรภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนโนฺต วิยฯ ปจฺฉิมทิสํ คเต ปจฺฉิมภาโค เหฎฺฐา อวีจิํ ปาปุณโนฺต วิย อโหสิ, ปาจีนภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนโนฺต วิยฯ อุตฺตรทิสํ คเต อุตฺตรทิสาภาโค เหฎฺฐา อวีจิํ ปาปุณโนฺต วิย, ทกฺขิณทิสาภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนโนฺต วิยฯ ปาจีนทิสํ คเต ปาจีนทิสาภาโค เหฎฺฐา อวีจิํ ปาปุณโนฺต วิย, ปจฺฉิมภาโค อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนโนฺต วิยฯ โพธิรุโกฺขปิ สกิํ เหฎฺฐา อวีจิํ ปาปุณโนฺต วิย, สกิํ อุคฺคนฺตฺวา ภวคฺคํ อภิหนโนฺต วิยฯ ตสฺมิมฺปิ ทิวเส เอวํ ฉหิ อากาเรหิ จกฺกวาฬสหสฺสี มหาปถวี อกมฺปิตฺถฯ
Akampitthāti chahi ākārehi akampittha. Evarūpo hi pathavikampo bodhimaṇḍepi ahosi. Bodhisatte kira dakkhiṇadisābhāgena bodhimaṇḍaṃ abhiruḷhe dakkhiṇadisābhāgo heṭṭhā avīciṃ pāpuṇanto viya ahosi, uttarabhāgo uggantvā bhavaggaṃ abhihananto viya. Pacchimadisaṃ gate pacchimabhāgo heṭṭhā avīciṃ pāpuṇanto viya ahosi, pācīnabhāgo uggantvā bhavaggaṃ abhihananto viya. Uttaradisaṃ gate uttaradisābhāgo heṭṭhā avīciṃ pāpuṇanto viya, dakkhiṇadisābhāgo uggantvā bhavaggaṃ abhihananto viya. Pācīnadisaṃ gate pācīnadisābhāgo heṭṭhā avīciṃ pāpuṇanto viya, pacchimabhāgo uggantvā bhavaggaṃ abhihananto viya. Bodhirukkhopi sakiṃ heṭṭhā avīciṃ pāpuṇanto viya, sakiṃ uggantvā bhavaggaṃ abhihananto viya. Tasmimpi divase evaṃ chahi ākārehi cakkavāḷasahassī mahāpathavī akampittha.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๓. โคตมกเจติยสุตฺตํ • 3. Gotamakacetiyasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓. โคตมกเจติยสุตฺตวณฺณนา • 3. Gotamakacetiyasuttavaṇṇanā