Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā |
๑๐. โคตฺรภุญาณนิเทฺทสวณฺณนา
10. Gotrabhuñāṇaniddesavaṇṇanā
๕๙. โคตฺรภุญาณนิเทฺทเส อภิภุยฺยตีติ อภิภวติ อติกฺกมติฯ พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตนฺติ สกสนฺตานปฺปวตฺตอกุสลกฺขนฺธโต พหิทฺธาภูตํ สงฺขารนิมิตฺตํฯ โลกิกสงฺขารา หิ กิเลสานํ นิมิตฺตตฺตา, นิมิตฺตากาเรน อุปฎฺฐานโต วา นิมิตฺตนฺติ วุจฺจนฺติฯ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภูติ จ ปุถุชฺชนโคตฺตาภิภวนโต โคตฺรภุภาโว วุโตฺตฯ ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภูติ อริยโคตฺตภาวนโต โคตฺรภุภาโว วุโตฺตฯ อภิภุยฺยิตฺวา ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภูติ อุโภ อเตฺถ สมาเสตฺวา วุตฺตํฯ วุฎฺฐาตีติ โคตฺรภูติ จ วิวฎฺฎตีติ โคตฺรภูติ จ มาติกาย วุฎฺฐานวิวฎฺฎนปทานุรูเปน ปุถุชฺชนโคตฺตาภิภวนโตฺถเยว วุโตฺตฯ สมถวเสน วุตฺตโคตฺรภูนํ ปน นีวรณาทิโคตฺตาภิภวนโต โคตฺรภูติ, ‘‘โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถายา’’ติอาทีสุ ฉสุ สมาปตฺติวาเรสุ อุปฺปาทาทิโคตฺตาภิภวนโต โคตฺรภูติ, ‘‘สกทาคามิมคฺคํ ปฎิลาภตฺถายา’’ติอาทีสุ ตีสุ มคฺควาเรสุ โสตาปนฺนาทิโคตฺตาภิภวนโต โคตฺรภูติ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ โคตฺตโตฺถ เจตฺถ พีชโตฺถฯ วตฺตนิปกรเณ กิร วุตฺตํ – โคตฺตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพปริปเนฺถหิ คุตฺตตฺตา, ตํ ปฎิปชฺชตีติ โคตฺรภูติ, อฎฺฐ สมาปตฺติโยปิ โคตฺตํ โคตฺรภุปริปเนฺถหิ คุตฺตตฺตา, ตํ โคตฺตํ ปฎิปชฺชตีติ โคตฺรภูติ วุตฺตํฯ ‘‘จตุนฺนํ มคฺคานํเยว โคตฺรภุ นิพฺพานารมฺมณํ, จตสฺสนฺนํ ผลสมาปตฺตีนํ โคตฺรภุ สงฺขารารมฺมณํ ผลสมาปตฺตินินฺนตฺตา’’ติ วทนฺติฯ วุตฺตเญฺหตํ วิสุทฺธิมเคฺค – ‘‘ตสฺส ปวตฺตานุปุพฺพวิปสฺสนสฺส สงฺขารารมฺมณโคตฺรภุญาณานนฺตรํ ผลสมาปตฺติวเสน นิโรเธ จิตฺตํ อเปฺปตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๖๓)ฯ เตเนเวตฺถ มคฺควาเรสุ โสฬสมํ กตฺวา คหิตสฺส พหิทฺธาสงฺขารนิมิตฺตปทสฺส สมาปตฺติวาเรสุ ฉฎฺฐํ กตฺวา คหณํ น กตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อิตรถา หิ มูลปทคหเณน คเหตพฺพํ ภเวยฺยฯ
59. Gotrabhuñāṇaniddese abhibhuyyatīti abhibhavati atikkamati. Bahiddhā saṅkhāranimittanti sakasantānappavattaakusalakkhandhato bahiddhābhūtaṃ saṅkhāranimittaṃ. Lokikasaṅkhārā hi kilesānaṃ nimittattā, nimittākārena upaṭṭhānato vā nimittanti vuccanti. Abhibhuyyatīti gotrabhūti ca puthujjanagottābhibhavanato gotrabhubhāvo vutto. Pakkhandatīti gotrabhūti ariyagottabhāvanato gotrabhubhāvo vutto. Abhibhuyyitvā pakkhandatīti gotrabhūti ubho atthe samāsetvā vuttaṃ. Vuṭṭhātīti gotrabhūti ca vivaṭṭatīti gotrabhūti ca mātikāya vuṭṭhānavivaṭṭanapadānurūpena puthujjanagottābhibhavanatthoyeva vutto. Samathavasena vuttagotrabhūnaṃ pana nīvaraṇādigottābhibhavanato gotrabhūti, ‘‘sotāpattiphalasamāpattatthāyā’’tiādīsu chasu samāpattivāresu uppādādigottābhibhavanato gotrabhūti, ‘‘sakadāgāmimaggaṃ paṭilābhatthāyā’’tiādīsu tīsu maggavāresu sotāpannādigottābhibhavanato gotrabhūti attho veditabbo. Gottattho cettha bījattho. Vattanipakaraṇe kira vuttaṃ – gottaṃ vuccati nibbānaṃ sabbaparipanthehi guttattā, taṃ paṭipajjatīti gotrabhūti, aṭṭha samāpattiyopi gottaṃ gotrabhuparipanthehi guttattā, taṃ gottaṃ paṭipajjatīti gotrabhūti vuttaṃ. ‘‘Catunnaṃ maggānaṃyeva gotrabhu nibbānārammaṇaṃ, catassannaṃ phalasamāpattīnaṃ gotrabhu saṅkhārārammaṇaṃ phalasamāpattininnattā’’ti vadanti. Vuttañhetaṃ visuddhimagge – ‘‘tassa pavattānupubbavipassanassa saṅkhārārammaṇagotrabhuñāṇānantaraṃ phalasamāpattivasena nirodhe cittaṃ appetī’’ti (visuddhi. 2.863). Tenevettha maggavāresu soḷasamaṃ katvā gahitassa bahiddhāsaṅkhāranimittapadassa samāpattivāresu chaṭṭhaṃ katvā gahaṇaṃ na katanti veditabbaṃ. Itarathā hi mūlapadagahaṇena gahetabbaṃ bhaveyya.
อเญฺญ ปน ‘‘โย นิพฺพาเน ปฐมาโภโค ปฐมสมนฺนาหาโร, อยํ วุจฺจติ โคตฺรภู’’ติ วทนฺติฯ ตํ ผลํ สนฺธาย น ยุชฺชติฯ ปนฺนรส โคตฺรภุธมฺมา กุสลาติ เอตฺถ อรหโต อภิภวิตพฺพนีวรณาภาวโต วิตกฺกวิจาราทีนํ สุเขเนว ปหาตพฺพภาวโต จ อภิภวนเฎฺฐน โคตฺรภุนามํ นารหนฺตีติ กตฺวา โคตฺรภูนํ อพฺยากตตา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ อรหตา ปน ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชเนฺตน สงฺขาเร อนภิภุยฺย สมาปชฺชิตุํ น สกฺกาติ ‘‘ตโย โคตฺรภุธมฺมา อพฺยากตา’’ติ วุตฺตาฯ เกจิ ปน ‘‘อฎฺฐ สมาปตฺติโย นิเพฺพธภาคิยา เอว อิธ นิทฺทิฎฺฐา, ตสฺมา อฎฺฐ สมาปตฺติโคตฺรภู กุสลา โหนฺตี’’ติ วทนฺติฯ ตถา สงฺขารุเปกฺขายปิ เวทิตพฺพํฯ
Aññe pana ‘‘yo nibbāne paṭhamābhogo paṭhamasamannāhāro, ayaṃ vuccati gotrabhū’’ti vadanti. Taṃ phalaṃ sandhāya na yujjati. Pannarasa gotrabhudhammā kusalāti ettha arahato abhibhavitabbanīvaraṇābhāvato vitakkavicārādīnaṃ sukheneva pahātabbabhāvato ca abhibhavanaṭṭhena gotrabhunāmaṃ nārahantīti katvā gotrabhūnaṃ abyākatatā na vuttāti veditabbā. Arahatā pana phalasamāpattiṃ samāpajjantena saṅkhāre anabhibhuyya samāpajjituṃ na sakkāti ‘‘tayo gotrabhudhammā abyākatā’’ti vuttā. Keci pana ‘‘aṭṭha samāpattiyo nibbedhabhāgiyā eva idha niddiṭṭhā, tasmā aṭṭha samāpattigotrabhū kusalā hontī’’ti vadanti. Tathā saṅkhārupekkhāyapi veditabbaṃ.
๖๐. สามิสญฺจาติอาทีสุ วฎฺฎามิสโลกามิสกิเลสามิสานํ กิเลสามิเสน สามิสํ สนิกนฺติกตฺตาฯ กิํ ตํ? อฎฺฐวิธํ สมถโคตฺรภุญาณํฯ วฎฺฎามิสนฺติ เจตฺถ เตภูมกวฎฺฎเมวฯ โลกามิสนฺติ ปญฺจ กามคุณาฯ กิเลสามิสนฺติ กิเลสา เอวฯ นิรามิสนฺติ ทสวิธํ วิปสฺสนาโคตฺรภุญาณํ อนิกนฺติกตฺตาฯ น หิ อริยา โคตฺรภุสฺมิํ นิกนฺติํ กโรนฺติฯ โปตฺถเก ‘‘สามิสเญฺจ’’ติ ลิขนฺติ, ตํ น สุนฺทรตรํฯ เอวเมว ปณิหิตญฺจ อปฺปณิหิตํ สญฺญุตฺตญฺจ วิสญฺญุตฺตํ วุฎฺฐิตญฺจ อวุฎฺฐิตํ เวทิตพฺพํฯ นิกนฺติปณิธิยา หิ ปณิหิตํ ปตฺถิตนฺติ อโตฺถฯ ตทภาเวน อปฺปณิหิตํ ฯ นิกนฺติสโญฺญเคเนว สญฺญุตฺตํฯ ตทภาเวน วิสญฺญุตฺตํฯ วุฎฺฐิตนฺติ วิปสฺสนาโคตฺรภุญาณเมวฯ ตญฺหิ นิกนฺติเจฺฉทกตฺตา วุฎฺฐิตํ นามฯ อิตรํ อวุฎฺฐิตํฯ พหิทฺธา วุฎฺฐานตฺตา วา วุฎฺฐิตํฯ ผลโคตฺรภุปิ หิ นิพฺพานชฺฌาสยวเสน นิพฺพานาภิมุขีภูตตฺตา พหิทฺธาสงฺขารนิมิตฺตา วุฎฺฐิตํ นามาติ เวทิตพฺพํฯ เหฎฺฐาภิภวนวุฎฺฐานวิวฎฺฎนวาเรสุปิ ผลโคตฺรภุ อชฺฌาสยวเสน นิพฺพานาภิมุขีภูตตฺตา อภิภุยฺยติ วุฎฺฐาติ วิวฎฺฎตีติ เวทิตพฺพํฯ ติณฺณํ วิโมกฺขาน ปจฺจยาติ ติณฺณํ โลกุตฺตรวิโมกฺขานํ สมถโคตฺรภุ ปกตูปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติ, วิปสฺสนาโคตฺรภุ อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยปจฺจยา โหนฺติฯ ปญฺญา ยสฺส ปริจฺจิตาติ ปุพฺพภาคปญฺญา ยสฺส ปริจิตา ปริจิณฺณาฯ กุสโล วิวเฎฺฎ วุฎฺฐาเนติ อสโมฺมหวเสเนว วิวฎฺฎสงฺขาเต โคตฺรภุญาเณ กุสโล เฉโก, ปุพฺพภาคญาเณน วา กุสโลฯ นานาทิฎฺฐีสุ น กมฺปตีติ สมุเจฺฉเทน ปหีนาสุ นานปฺปการาสุ ทิฎฺฐีสุ น เวธตีติฯ
60.Sāmisañcātiādīsu vaṭṭāmisalokāmisakilesāmisānaṃ kilesāmisena sāmisaṃ sanikantikattā. Kiṃ taṃ? Aṭṭhavidhaṃ samathagotrabhuñāṇaṃ. Vaṭṭāmisanti cettha tebhūmakavaṭṭameva. Lokāmisanti pañca kāmaguṇā. Kilesāmisanti kilesā eva. Nirāmisanti dasavidhaṃ vipassanāgotrabhuñāṇaṃ anikantikattā. Na hi ariyā gotrabhusmiṃ nikantiṃ karonti. Potthake ‘‘sāmisañce’’ti likhanti, taṃ na sundarataraṃ. Evameva paṇihitañca appaṇihitaṃ saññuttañca visaññuttaṃ vuṭṭhitañca avuṭṭhitaṃ veditabbaṃ. Nikantipaṇidhiyā hi paṇihitaṃ patthitanti attho. Tadabhāvena appaṇihitaṃ. Nikantisaññogeneva saññuttaṃ. Tadabhāvena visaññuttaṃ. Vuṭṭhitanti vipassanāgotrabhuñāṇameva. Tañhi nikanticchedakattā vuṭṭhitaṃ nāma. Itaraṃ avuṭṭhitaṃ. Bahiddhā vuṭṭhānattā vā vuṭṭhitaṃ. Phalagotrabhupi hi nibbānajjhāsayavasena nibbānābhimukhībhūtattā bahiddhāsaṅkhāranimittā vuṭṭhitaṃ nāmāti veditabbaṃ. Heṭṭhābhibhavanavuṭṭhānavivaṭṭanavāresupi phalagotrabhu ajjhāsayavasena nibbānābhimukhībhūtattā abhibhuyyati vuṭṭhāti vivaṭṭatīti veditabbaṃ. Tiṇṇaṃ vimokkhāna paccayāti tiṇṇaṃ lokuttaravimokkhānaṃ samathagotrabhu pakatūpanissayapaccayā honti, vipassanāgotrabhu anantarasamanantarūpanissayapaccayā honti. Paññā yassa pariccitāti pubbabhāgapaññā yassa paricitā pariciṇṇā. Kusalo vivaṭṭe vuṭṭhāneti asammohavaseneva vivaṭṭasaṅkhāte gotrabhuñāṇe kusalo cheko, pubbabhāgañāṇena vā kusalo. Nānādiṭṭhīsu na kampatīti samucchedena pahīnāsu nānappakārāsu diṭṭhīsu na vedhatīti.
โคตฺรภุญาณนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Gotrabhuñāṇaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๑๐. โคตฺรภุญาณนิเทฺทโส • 10. Gotrabhuñāṇaniddeso