Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๓๖๖] ๖. คุมฺพิยชาตกวณฺณนา
[366] 6. Gumbiyajātakavaṇṇanā
มธุวณฺณํ มธุรสนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อุกฺกณฺฐิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตญฺหิ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺฐิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘กิํ ทิสฺวา’’ติ วตฺวา ‘‘อลงฺกตมาตุคาม’’นฺติ วุเตฺต ‘‘ภิกฺขุ อิเม ปญฺจ กามคุณา นาม เอเกน คุมฺพิเยน ยเกฺขน หลาหลวิสํ ปกฺขิปิตฺวา มเคฺค ฐปิตมธุสทิสา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Madhuvaṇṇaṃmadhurasanti idaṃ satthā jetavane viharanto ukkaṇṭhitabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tañhi satthā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ bhikkhu ukkaṇṭhitosī’’ti pucchitvā ‘‘saccaṃ, bhante’’ti vutte ‘‘kiṃ disvā’’ti vatvā ‘‘alaṅkatamātugāma’’nti vutte ‘‘bhikkhu ime pañca kāmaguṇā nāma ekena gumbiyena yakkhena halāhalavisaṃ pakkhipitvā magge ṭhapitamadhusadisā’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต สตฺถวาหกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต พาราณสิโต ปญฺจหิ สกฎสเตหิ ภณฺฑํ อาทาย โวหารตฺถาย คจฺฉโนฺต มหาวตฺตนิอฎวิทฺวารํ ปตฺวา สตฺถเก สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘‘อโมฺภ, อิมสฺมิํ มเคฺค วิสปณฺณปุปฺผผลาทีนิ อตฺถิ, ตุเมฺห กิญฺจิ อขาทิตปุพฺพํ ขาทนฺตา มํ อปุจฺฉิตฺวา มา ขาทิตฺถ, อมนุสฺสาปิ วิสํ ปกฺขิปิตฺวา ภตฺตปุฎมธุกผลานิ มเคฺค ฐเปนฺติ, ตานิปิ มํ อนาปุจฺฉิตฺวา มา ขาทิตฺถา’’ติ โอวาทํ ทตฺวา มคฺคํ ปฎิปชฺชิฯ อเถโก คุมฺพิโย นาม ยโกฺข อฎวิยา มชฺฌฎฺฐาเน มเคฺค ปณฺณานิ อตฺถริตฺวา หลาหลวิสสํยุตฺตานิ มธุปิณฺฑานิ ฐเปตฺวา สยํ มคฺคสามเนฺต มธุํ คณฺหโนฺต วิย รุเกฺข โกเฎฺฎโนฺต วิจรติฯ อชานนฺตา ‘‘ปุญฺญตฺถาย ฐปิตานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ ขาทิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณนฺติฯ อมนุสฺสา อาคนฺตฺวา เต ขาทนฺติฯ โพธิสตฺตสฺส สตฺถกมนุสฺสาปิ ตานิ ทิสฺวา เอกเจฺจ โลลชาติกา อธิวาเสตุํ อสโกฺกนฺตา ขาทิํสุ, ปณฺฑิตชาติกา ‘‘ปุจฺฉิตฺวา ขาทิสฺสามา’’ติ คเหตฺวา อฎฺฐํสุฯ โพธิสโตฺต เต ทิสฺวา หตฺถคตานิ ฉฑฺฑาเปสิ, เยหิ ปฐมตรํ ขาทิตานิ, เต มริํสุฯ เยหิ อฑฺฒขาทิตานิ, เตสํ วมนวิเรจนํ ทตฺวา วนฺตกาเล จตุมธุรํ อทาสิฯ อิติ เต ตสฺส อานุภาเวน ชีวิตํ ปฎิลภิํสุฯ โพธิสโตฺต โสตฺถินา อิจฺฉิตฎฺฐานํ คนฺตฺวา ภณฺฑํ วิสฺสเชฺชตฺวา อตฺตโน เคหเมว อคมาสิฯ ตมตฺถํ กเถโนฺต สตฺถา อิมา อภิสมฺพุทฺธคาถา อภาสิ –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto satthavāhakule nibbattitvā vayappatto bārāṇasito pañcahi sakaṭasatehi bhaṇḍaṃ ādāya vohāratthāya gacchanto mahāvattaniaṭavidvāraṃ patvā satthake sannipātāpetvā ‘‘ambho, imasmiṃ magge visapaṇṇapupphaphalādīni atthi, tumhe kiñci akhāditapubbaṃ khādantā maṃ apucchitvā mā khādittha, amanussāpi visaṃ pakkhipitvā bhattapuṭamadhukaphalāni magge ṭhapenti, tānipi maṃ anāpucchitvā mā khāditthā’’ti ovādaṃ datvā maggaṃ paṭipajji. Atheko gumbiyo nāma yakkho aṭaviyā majjhaṭṭhāne magge paṇṇāni attharitvā halāhalavisasaṃyuttāni madhupiṇḍāni ṭhapetvā sayaṃ maggasāmante madhuṃ gaṇhanto viya rukkhe koṭṭento vicarati. Ajānantā ‘‘puññatthāya ṭhapitāni bhavissantī’’ti khāditvā jīvitakkhayaṃ pāpuṇanti. Amanussā āgantvā te khādanti. Bodhisattassa satthakamanussāpi tāni disvā ekacce lolajātikā adhivāsetuṃ asakkontā khādiṃsu, paṇḍitajātikā ‘‘pucchitvā khādissāmā’’ti gahetvā aṭṭhaṃsu. Bodhisatto te disvā hatthagatāni chaḍḍāpesi, yehi paṭhamataraṃ khāditāni, te mariṃsu. Yehi aḍḍhakhāditāni, tesaṃ vamanavirecanaṃ datvā vantakāle catumadhuraṃ adāsi. Iti te tassa ānubhāvena jīvitaṃ paṭilabhiṃsu. Bodhisatto sotthinā icchitaṭṭhānaṃ gantvā bhaṇḍaṃ vissajjetvā attano gehameva agamāsi. Tamatthaṃ kathento satthā imā abhisambuddhagāthā abhāsi –
๘๕.
85.
‘‘มธุวณฺณํ มธุรสํ, มธุคนฺธํ วิสํ อหุ;
‘‘Madhuvaṇṇaṃ madhurasaṃ, madhugandhaṃ visaṃ ahu;
คุมฺพิโย ฆาสเมสาโน, อรเญฺญ โอทหี วิสํฯ
Gumbiyo ghāsamesāno, araññe odahī visaṃ.
๘๖.
86.
‘‘มธุ อิติ มญฺญมานา, เย ตํ วิสมขาทิสุํ;
‘‘Madhu iti maññamānā, ye taṃ visamakhādisuṃ;
เตสํ ตํ กฎุกํ อาสิ, มรณํ เตนุปาคมุํฯ
Tesaṃ taṃ kaṭukaṃ āsi, maraṇaṃ tenupāgamuṃ.
๘๗.
87.
‘‘เย จ โข ปฎิสงฺขาย, วิสํ ตํ ปริวชฺชยุํ;
‘‘Ye ca kho paṭisaṅkhāya, visaṃ taṃ parivajjayuṃ;
เต อาตุเรสุ สุขิตา, ฑยฺหมาเนสุ นิพฺพุตาฯ
Te āturesu sukhitā, ḍayhamānesu nibbutā.
๘๘.
88.
‘‘เอวเมว มนุเสฺสสุ, วิสํ กามา สโมหิตา;
‘‘Evameva manussesu, visaṃ kāmā samohitā;
อามิสํ พนฺธนเญฺจตํ, มจฺจุเวโส คุหาสโยฯ
Āmisaṃ bandhanañcetaṃ, maccuveso guhāsayo.
๘๙.
89.
‘‘เอวเมว อิเม กาเม, อาตุรา ปริจาริเก;
‘‘Evameva ime kāme, āturā paricārike;
เย สทา ปริวเชฺชนฺติ, สงฺคํ โลเก อุปจฺจคุ’’นฺติฯ
Ye sadā parivajjenti, saṅgaṃ loke upaccagu’’nti.
ตตฺถ คุมฺพิโยติ ตสฺมิํ วนคุเมฺพ วิจรเณน เอวํลทฺธนาโม ยโกฺขฯ ฆาสเมสาโนติ ‘‘ตํ วิสํ ขาทิตฺวา มเต ขาทิสฺสามี’’ติ เอวํ อตฺตโน ฆาสํ ปริเยสโนฺตฯ โอทหีติ ตํ มธุนา สมานวณฺณคนฺธรสํ วิสํ นิกฺขิปิฯ กฎุกํ อาสีติ ติขิณํ อโหสิฯ มรณํ เตนุปาคมุนฺติ เตน วิเสน เต สตฺตา มรณํ อุปคตาฯ
Tattha gumbiyoti tasmiṃ vanagumbe vicaraṇena evaṃladdhanāmo yakkho. Ghāsamesānoti ‘‘taṃ visaṃ khāditvā mate khādissāmī’’ti evaṃ attano ghāsaṃ pariyesanto. Odahīti taṃ madhunā samānavaṇṇagandharasaṃ visaṃ nikkhipi. Kaṭukaṃ āsīti tikhiṇaṃ ahosi. Maraṇaṃ tenupāgamunti tena visena te sattā maraṇaṃ upagatā.
อาตุเรสูติ วิสเวเคน อาสนฺนมรเณสุฯ ฑยฺหมาเนสูติ วิสเตเชเนว ฑยฺหมาเนสุฯ วิสํ กามา สโมหิตาติ ยถา ตสฺมิํ วตฺตนิมหามเคฺค วิสํ สโมหิตํ นิกฺขิตฺตํ, เอวํ มนุเสฺสสุปิ เย เอเต รูปาทโย ปญฺจ วตฺถุกามา ตตฺถ ตตฺถ สโมหิตา นิกฺขิตฺตา, เต ‘‘วิส’’นฺติ เวทิตพฺพาฯ อามิสํ พนฺธนเญฺจตนฺติ เอเต ปญฺจ กามคุณา นาม เอวํ อิมสฺส มจฺฉภูตสฺส โลกสฺส มารพาลิสิเกน ปกฺขิตฺตํ อามิสเญฺจว , ภวาภวโต นิกฺขมิตุํ อปฺปทาเนน อนฺทุอาทิปฺปเภทํ นานปฺปการํ พนฺธนญฺจฯ มจฺจุเวโส คุหาสโยติ สรีรคุหาย วสนโก มรณมจฺจุเวโสฯ
Āturesūti visavegena āsannamaraṇesu. Ḍayhamānesūti visatejeneva ḍayhamānesu. Visaṃ kāmā samohitāti yathā tasmiṃ vattanimahāmagge visaṃ samohitaṃ nikkhittaṃ, evaṃ manussesupi ye ete rūpādayo pañca vatthukāmā tattha tattha samohitā nikkhittā, te ‘‘visa’’nti veditabbā. Āmisaṃ bandhanañcetanti ete pañca kāmaguṇā nāma evaṃ imassa macchabhūtassa lokassa mārabālisikena pakkhittaṃ āmisañceva , bhavābhavato nikkhamituṃ appadānena anduādippabhedaṃ nānappakāraṃ bandhanañca. Maccuveso guhāsayoti sarīraguhāya vasanako maraṇamaccuveso.
เอวเมว อิเม กาเมติ ยถา วตฺตนิมหามเคฺค วิสํ นิกฺขิตฺตํ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ นิกฺขิเตฺต อิเม กาเมฯ อาตุราติ เอกนฺตมรณธมฺมตาย อาตุรา อาสนฺนมรณา ปณฺฑิตมนุสฺสาฯ ปริจาริเกติ กิเลสปริจาริเก กิเลสพนฺธเกฯ เย สทา ปริวเชฺชนฺตีติ เย วุตฺตปฺปการา ปณฺฑิตปุริสา นิจฺจํ เอวรูเป กาเม วเชฺชนฺติฯ สงฺคํ โลเกติ โลเก สงฺคนเฎฺฐน ‘‘สงฺค’’นฺติ ลทฺธนามํ ราคาทิเภทํ กิเลสชาตํฯ อุปจฺจคุนฺติ อตีตา นามาติ เวทิตพฺพา, อติกฺกมนฺตีติ วา อโตฺถฯ
Evameva ime kāmeti yathā vattanimahāmagge visaṃ nikkhittaṃ, evaṃ tattha tattha nikkhitte ime kāme. Āturāti ekantamaraṇadhammatāya āturā āsannamaraṇā paṇḍitamanussā. Paricāriketi kilesaparicārike kilesabandhake. Ye sadā parivajjentīti ye vuttappakārā paṇḍitapurisā niccaṃ evarūpe kāme vajjenti. Saṅgaṃ loketi loke saṅganaṭṭhena ‘‘saṅga’’nti laddhanāmaṃ rāgādibhedaṃ kilesajātaṃ. Upaccagunti atītā nāmāti veditabbā, atikkamantīti vā attho.
สตฺถา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺฐิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิฯ ตทา สตฺถวาโห อหเมว อโหสินฺติฯ
Satthā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne ukkaṇṭhitabhikkhu sotāpattiphale patiṭṭhahi. Tadā satthavāho ahameva ahosinti.
คุมฺพิยชาตกวณฺณนา ฉฎฺฐาฯ
Gumbiyajātakavaṇṇanā chaṭṭhā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๖๖. คุมฺพิยชาตกํ • 366. Gumbiyajātakaṃ