Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā

    ๘. คูถขาทกเปตวตฺถุวณฺณนา

    8. Gūthakhādakapetavatthuvaṇṇanā

    คูถกูปโต อุคฺคนฺตฺวาติ อิทํ สตฺถริ เชตวเน วิหรเนฺต เอกํ คูถขาทกเปตํ อารมฺภ วุตฺตํฯ สาวตฺถิยา กิร อวิทูเร อญฺญตรสฺมิํ คามเก เอโก กุฎุมฺพิโก อตฺตโน กุลูปกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส วิหารํ กาเรสิฯ ตตฺถ นานาชนปทโต ภิกฺขู อาคนฺตฺวา ปฎิวสิํสุฯ เต ทิสฺวา มนุสฺสา ปสนฺนจิตฺตา ปณีเตน ปจฺจเยน อุปฎฺฐหิํสุฯ กุลูปโก ภิกฺขุ ตํ อสหมาโน อิสฺสาปกโต หุตฺวา เตสํ ภิกฺขูนํ โทสํ วทโนฺต กุฎุมฺพิกํ อุชฺฌาเปสิฯ กุฎุมฺพิโก เต ภิกฺขู กุลูปกญฺจ ปริภวโนฺต ปริภาสิฯ อถ กุลูปโก กาลํ กตฺวา ตสฺมิํเยว วิหาเร วจฺจกุฎิยํ เปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, กุฎุมฺพิโก ปน กาลํ กตฺวา ตเสฺสว อุปริ เปโต หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ อถายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ทิสฺวา ปุจฺฉโนฺต –

    Gūthakūpatouggantvāti idaṃ satthari jetavane viharante ekaṃ gūthakhādakapetaṃ ārambha vuttaṃ. Sāvatthiyā kira avidūre aññatarasmiṃ gāmake eko kuṭumbiko attano kulūpakaṃ bhikkhuṃ uddissa vihāraṃ kāresi. Tattha nānājanapadato bhikkhū āgantvā paṭivasiṃsu. Te disvā manussā pasannacittā paṇītena paccayena upaṭṭhahiṃsu. Kulūpako bhikkhu taṃ asahamāno issāpakato hutvā tesaṃ bhikkhūnaṃ dosaṃ vadanto kuṭumbikaṃ ujjhāpesi. Kuṭumbiko te bhikkhū kulūpakañca paribhavanto paribhāsi. Atha kulūpako kālaṃ katvā tasmiṃyeva vihāre vaccakuṭiyaṃ peto hutvā nibbatti, kuṭumbiko pana kālaṃ katvā tasseva upari peto hutvā nibbatti. Athāyasmā mahāmoggallāno taṃ disvā pucchanto –

    ๗๖๖.

    766.

    ‘‘คูถกูปโต อุคฺคนฺตฺวา, โก น ทีโน ปติฎฺฐสิ;

    ‘‘Gūthakūpato uggantvā, ko na dīno patiṭṭhasi;

    นิสฺสํสยํ ปาปกมฺมโนฺต, กิํ นุ สทฺทหเส ตุว’’นฺติฯ –

    Nissaṃsayaṃ pāpakammanto, kiṃ nu saddahase tuva’’nti. –

    คาถมาหฯ ตํ สุตฺวา เปโต –

    Gāthamāha. Taṃ sutvā peto –

    ๗๖๗.

    767.

    ‘‘อหํ ภทเนฺต เปโตมฺหิ, ทุคฺคโต ยมโลกิโก;

    ‘‘Ahaṃ bhadante petomhi, duggato yamalokiko;

    ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติฯ –

    Pāpakammaṃ karitvāna, petalokaṃ ito gato’’ti. –

    คาถาย อตฺตานํ อาจิกฺขิฯ อถ นํ เถโร –

    Gāthāya attānaṃ ācikkhi. Atha naṃ thero –

    ๗๖๘.

    768.

    ‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฎํ กตํ;

    ‘‘Kiṃ nu kāyena vācāya, manasā dukkaṭaṃ kataṃ;

    กิสฺสกมฺมวิปาเกน, อิทํ ทุกฺขํ นิคจฺฉสี’’ติฯ –

    Kissakammavipākena, idaṃ dukkhaṃ nigacchasī’’ti. –

    คาถาย เตน กตกมฺมํ ปุจฺฉิฯ โส เปโต –

    Gāthāya tena katakammaṃ pucchi. So peto –

    ๗๖๙.

    769.

    ‘‘อหุ อาวาสิโก มยฺหํ, อิสฺสุกี กุลมจฺฉรี;

    ‘‘Ahu āvāsiko mayhaṃ, issukī kulamaccharī;

    อชฺฌาสิโต มยฺหํ ฆเร, กทริโย ปริภาสโกฯ

    Ajjhāsito mayhaṃ ghare, kadariyo paribhāsako.

    ๗๗๐.

    770.

    ‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิกฺขโว ปริภาสิสํ;

    ‘‘Tassāhaṃ vacanaṃ sutvā, bhikkhavo paribhāsisaṃ;

    ตสฺสกมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คโต’’ติฯ –

    Tassakammavipākena, petalokaṃ ito gato’’ti. –

    ทฺวีหิ คาถาหิ อตฺตนา กตกมฺมํ กเถสิฯ

    Dvīhi gāthāhi attanā katakammaṃ kathesi.

    ๗๖๙. ตตฺถ อหุ อาวาสิโก มยฺหนฺติ มยฺหํ อาวาเส มยา กตวิหาเร เอโก ภิกฺขุ อาวาสิโก นิพทฺธวสนโก อโหสิฯ อชฺฌาสิโต มยฺหํ ฆเรติ กุลูปกภาเวน มม เคเห ตณฺหาภินิเวสวเสน อภินิวิโฎฺฐฯ

    769. Tattha ahu āvāsiko mayhanti mayhaṃ āvāse mayā katavihāre eko bhikkhu āvāsiko nibaddhavasanako ahosi. Ajjhāsito mayhaṃ ghareti kulūpakabhāvena mama gehe taṇhābhinivesavasena abhiniviṭṭho.

    ๗๗๐. ตสฺสาติ ตสฺส กุลูปกภิกฺขุสฺสฯ ภิกฺขโวติ ภิกฺขูฯ ปริภาสิสนฺติ อโกฺกสิํฯ เปตโลกํ อิโต คโตติ อิมินา อากาเรน เปตโยนิํ อุปคโต เปตภูโตฯ

    770.Tassāti tassa kulūpakabhikkhussa. Bhikkhavoti bhikkhū. Paribhāsisanti akkosiṃ. Petalokaṃ ito gatoti iminā ākārena petayoniṃ upagato petabhūto.

    ตํ สุตฺวา เถโร อิตรสฺส คติํ ปุจฺฉโนฺต –

    Taṃ sutvā thero itarassa gatiṃ pucchanto –

    ๗๗๑.

    771.

    ‘‘อมิโตฺต มิตฺตวเณฺณน, โย เต อาสิ กุลูปโก;

    ‘‘Amitto mittavaṇṇena, yo te āsi kulūpako;

    กายสฺส เภทา ทุปฺปโญฺญ, กิํ นุ เปจฺจ คติํ คโต’’ติฯ –

    Kāyassa bhedā duppañño, kiṃ nu pecca gatiṃ gato’’ti. –

    คาถมาหฯ ตตฺถ มิตฺตวเณฺณนาติ มิตฺตปฎิรูเปน มิตฺตปฎิรูปตายฯ

    Gāthamāha. Tattha mittavaṇṇenāti mittapaṭirūpena mittapaṭirūpatāya.

    ปุน เปโต เถรสฺส ตมตฺถํ อาจิกฺขโนฺต –

    Puna peto therassa tamatthaṃ ācikkhanto –

    ๗๗๒.

    772.

    ‘‘ตเสฺสวาหํ ปาปกมฺมสฺส, สีเส ติฎฺฐามิ มตฺถเก;

    ‘‘Tassevāhaṃ pāpakammassa, sīse tiṭṭhāmi matthake;

    โส จ ปรวิสยํ ปโตฺต, มเมว ปริจารโกฯ

    So ca paravisayaṃ patto, mameva paricārako.

    ๗๗๓.

    773.

    ‘‘ยํ ภทเนฺต หทนฺตเญฺญ, เอตํ เม โหติ โภชนํ;

    ‘‘Yaṃ bhadante hadantaññe, etaṃ me hoti bhojanaṃ;

    อหญฺจ โข ยํ หทามิ, เอตํ โส อุปชีวตี’’ติฯ – คาถาทฺวยมาห;

    Ahañca kho yaṃ hadāmi, etaṃ so upajīvatī’’ti. – gāthādvayamāha;

    ๗๗๒. ตตฺถ ตเสฺสวาติ ตเสฺสว มยฺหํ ปุเพฺพ กุลูปกภิกฺขุภูตสฺส เปตสฺสฯ ปาปกมฺมสฺสาติ ปาปสมาจารสฺสฯ สีเส ติฎฺฐามิ มตฺถเกติ สีเส ติฎฺฐามิ, ติฎฺฐโนฺต จ มตฺถเก เอว ติฎฺฐามิ, น สีสปฺปมาเณ อากาเสติ อโตฺถฯ ปรวิสยํ ปโตฺตติ มนุสฺสโลกํ อุปาทาย ปรวิสยภูตํ เปตฺติวิสยํ ปโตฺตฯ มเมวาติ มยฺหํ เอว ปริจารโก อโหสีติ วจนเสโสฯ

    772. Tattha tassevāti tasseva mayhaṃ pubbe kulūpakabhikkhubhūtassa petassa. Pāpakammassāti pāpasamācārassa. Sīse tiṭṭhāmi matthaketi sīse tiṭṭhāmi, tiṭṭhanto ca matthake eva tiṭṭhāmi, na sīsappamāṇe ākāseti attho. Paravisayaṃ pattoti manussalokaṃ upādāya paravisayabhūtaṃ pettivisayaṃ patto. Mamevāti mayhaṃ eva paricārako ahosīti vacanaseso.

    ๗๗๓. ยํ ภทเนฺต หทนฺตเญฺญติ ภทเนฺต, อยฺย มหาโมคฺคลาน, ตสฺสํ วจฺจกุฎิยํ ยํ อเญฺญ อุหทนฺติ วจฺจํ โอสฺสชนฺติฯ เอตํ เม โหติ โภชนนฺติ เอตํ วจฺจํ มยฺหํ ทิวเส ทิวเส โภชนํ โหติฯ ยํ หทามีติ ตํ ปน วจฺจํ ขาทิตฺวา ยมฺปหํ วจฺจํ กโรมิฯ เอตํ โส อุปชีวตีติ เอตํ มม วจฺจํ โส กุลูปกเปโต ทิวเส ทิวเส ขาทนวเสน อุปชีวติ, อตฺตภาวํ ยาเปตีติ อโตฺถฯ

    773.Yaṃ bhadante hadantaññeti bhadante, ayya mahāmoggalāna, tassaṃ vaccakuṭiyaṃ yaṃ aññe uhadanti vaccaṃ ossajanti. Etaṃ me hoti bhojananti etaṃ vaccaṃ mayhaṃ divase divase bhojanaṃ hoti. Yaṃ hadāmīti taṃ pana vaccaṃ khāditvā yampahaṃ vaccaṃ karomi. Etaṃ so upajīvatīti etaṃ mama vaccaṃ so kulūpakapeto divase divase khādanavasena upajīvati, attabhāvaṃ yāpetīti attho.

    เตสุ กุฎุมฺพิโก เปสเล ภิกฺขู ‘‘เอวํ อาหารปริโภคโต วรํ ตุมฺหากํ คูถขาทน’’นฺติ อโกฺกสิฯ กุลูปโก ปน กุฎุมฺพิกมฺปิ ตถาวจเน สมาทเปตฺวา สยํ ตถา อโกฺกสิ, เตนสฺส ตโตปิ ปฎิกุฎฺฐตรา ชีวิกา อโหสิฯ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ตํ ปวตฺติํ ภควโต อาโรเจสิฯ ภควา ตมตฺถํ อฎฺฐุปฺปตฺติํ กตฺวา อุปวาเท อาทีนวํ ทเสฺสตฺวา สมฺปตฺตปริสาย ธมฺมํ เทเสสิฯ สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติฯ

    Tesu kuṭumbiko pesale bhikkhū ‘‘evaṃ āhāraparibhogato varaṃ tumhākaṃ gūthakhādana’’nti akkosi. Kulūpako pana kuṭumbikampi tathāvacane samādapetvā sayaṃ tathā akkosi, tenassa tatopi paṭikuṭṭhatarā jīvikā ahosi. Āyasmā mahāmoggallāno taṃ pavattiṃ bhagavato ārocesi. Bhagavā tamatthaṃ aṭṭhuppattiṃ katvā upavāde ādīnavaṃ dassetvā sampattaparisāya dhammaṃ desesi. Sā desanā mahājanassa sātthikā ahosīti.

    คูถขาทกเปตวตฺถุวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Gūthakhādakapetavatthuvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi / ๘. คูถขาทกเปตวตฺถุ • 8. Gūthakhādakapetavatthu


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact