Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๓. หาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา

    3. Hāliddikānisuttavaṇṇanā

    . ตติเย อวนฺตีสูติ อวนฺติทกฺขิณาปถสงฺขาเต อวนฺติรเฎฺฐฯ กุรรฆเรติ เอวํนามเก นคเรฯ ปปาเตติ เอกโต ปปาเตฯ ตสฺส กิร ปพฺพตสฺส เอกํ ปสฺสํ ฉินฺทิตฺวา ปาติตํ วิย อโหสิฯ ‘‘ปวเตฺต’’ติปิ ปาโฐ, นานาติตฺถิยานํ ลทฺธิปวตฺตฎฺฐาเนติ อโตฺถฯ อิติ เถโร ตสฺมิํ รเฎฺฐ ตํ นครํ นิสฺสาย ตสฺมิํ ปพฺพเต วิหรติฯ หาลิทฺทิกานีติ เอวํนามโกฯ อฎฺฐกวคฺคิเย มาคณฺฑิยปเญฺหติ อฎฺฐกวคฺคิกมฺหิ มาคณฺฑิยปโญฺห นาม อตฺถิ, ตสฺมิํ ปเญฺหฯ รูปธาตูติ รูปกฺขโนฺธ อธิเปฺปโตฯ รูปธาตุราควินิพทฺธนฺติ รูปธาตุมฺหิ ราเคน วินิพทฺธํ ฯ วิญฺญาณนฺติ กมฺมวิญฺญาณํฯ โอกสารีติ เคหสารี อาลยสารีฯ

    3. Tatiye avantīsūti avantidakkhiṇāpathasaṅkhāte avantiraṭṭhe. Kuraraghareti evaṃnāmake nagare. Papāteti ekato papāte. Tassa kira pabbatassa ekaṃ passaṃ chinditvā pātitaṃ viya ahosi. ‘‘Pavatte’’tipi pāṭho, nānātitthiyānaṃ laddhipavattaṭṭhāneti attho. Iti thero tasmiṃ raṭṭhe taṃ nagaraṃ nissāya tasmiṃ pabbate viharati. Hāliddikānīti evaṃnāmako. Aṭṭhakavaggiye māgaṇḍiyapañheti aṭṭhakavaggikamhi māgaṇḍiyapañho nāma atthi, tasmiṃ pañhe. Rūpadhātūti rūpakkhandho adhippeto. Rūpadhāturāgavinibaddhanti rūpadhātumhi rāgena vinibaddhaṃ . Viññāṇanti kammaviññāṇaṃ. Okasārīti gehasārī ālayasārī.

    กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘วิญฺญาณธาตุ โข, คหปตี’’ติ น วุตฺตนฺติ? สโมฺมหวิฆาตตฺถํฯ ‘‘โอโก’’ติ หิ อตฺถโต ปจฺจโย วุจฺจติ, ปุเรชาตญฺจ กมฺมวิญฺญาณํ ปจฺฉาชาตสฺส กมฺมวิญฺญาณสฺสปิ วิปากวิญฺญาณสฺสปิ วิปากวิญฺญาณญฺจ วิปากวิญฺญาณสฺสปิ กมฺมวิญฺญาณสฺสปิ ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา ‘‘กตรํ นุ โข อิธ วิญฺญาณ’’นฺติ? สโมฺมโห ภเวยฺย, ตสฺส วิฆาตตฺถํ ตํ อคเหตฺวา อสมฺภินฺนาว เทสนา กตาฯ อปิจ อารมฺมณวเสน จตโสฺส อภิสงฺขารวิญฺญาณฎฺฐิติโย วุตฺตาติ ตา ทเสฺสตุมฺปิ อิธ วิญฺญาณํ น คหิตํฯ

    Kasmā panettha ‘‘viññāṇadhātu kho, gahapatī’’ti na vuttanti? Sammohavighātatthaṃ. ‘‘Oko’’ti hi atthato paccayo vuccati, purejātañca kammaviññāṇaṃ pacchājātassa kammaviññāṇassapi vipākaviññāṇassapi vipākaviññāṇañca vipākaviññāṇassapi kammaviññāṇassapi paccayo hoti, tasmā ‘‘kataraṃ nu kho idha viññāṇa’’nti? Sammoho bhaveyya, tassa vighātatthaṃ taṃ agahetvā asambhinnāva desanā katā. Apica ārammaṇavasena catasso abhisaṅkhāraviññāṇaṭṭhitiyo vuttāti tā dassetumpi idha viññāṇaṃ na gahitaṃ.

    อุปยุปาทานาติ ตณฺหูปยทิฎฺฐูปยวเสน เทฺว อุปยา, กามุปาทานาทีนิ จตฺตาริ อุปาทานานิ จฯ เจตโส อธิฎฺฐานาภินิเวสานุสยาติ อกุสลจิตฺตสฺส อธิฎฺฐานภูตา เจว อภินิเวสภูตา จ อนุสยภูตา จฯ ตถาคตสฺสาติ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ สเพฺพสมฺปิ หิ ขีณาสวานํ เอเต ปหีนาว, สตฺถุ ปน ขีณาสวภาโว โลเก อติปากโฎติ อุปริมโกฎิยา เอวํ วุตฺตํฯ วิญฺญาณธาตุยาติ อิธ วิญฺญาณํ กสฺมา คหิตํ? กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถํฯ กิเลสา หิ น เกวลํ จตูสุเยว ขเนฺธสุ ปหีนา ปหียนฺติ, ปญฺจสุปิ ปหียนฺติเยวาติ กิเลสปฺปหานทสฺสนตฺถํ คหิตํฯ เอวํ โข, คหปติ, อโนกสารี โหตีติ เอวํ กมฺมวิญฺญาเณน โอกํ อสรเนฺตน อโนกสารี นาม โหติฯ

    Upayupādānāti taṇhūpayadiṭṭhūpayavasena dve upayā, kāmupādānādīni cattāri upādānāni ca. Cetaso adhiṭṭhānābhinivesānusayāti akusalacittassa adhiṭṭhānabhūtā ceva abhinivesabhūtā ca anusayabhūtā ca. Tathāgatassāti sammāsambuddhassa. Sabbesampi hi khīṇāsavānaṃ ete pahīnāva, satthu pana khīṇāsavabhāvo loke atipākaṭoti uparimakoṭiyā evaṃ vuttaṃ. Viññāṇadhātuyāti idha viññāṇaṃ kasmā gahitaṃ? Kilesappahānadassanatthaṃ. Kilesā hi na kevalaṃ catūsuyeva khandhesu pahīnā pahīyanti, pañcasupi pahīyantiyevāti kilesappahānadassanatthaṃ gahitaṃ. Evaṃ kho, gahapati, anokasārī hotīti evaṃ kammaviññāṇena okaṃ asarantena anokasārī nāma hoti.

    รูปนิมิตฺตนิเกตวิสารวินิพนฺธาติ รูปเมว กิเลสานํ ปจฺจยเฎฺฐน นิมิตฺตํ, อารมฺมณกิริยสงฺขาตนิวาสนฎฺฐานเฎฺฐน นิเกตนฺติ รูปนิมิตฺตนิเกตํฯ วิสาโร จ วินิพโนฺธ จ วิสารวินิพนฺธาฯ อุภเยนปิ หิ กิเลสานํ ปตฺถฎภาโว จ วินิพนฺธนภาโว จ วุโตฺต, รูปนิมิตฺตนิเกเต วิสารวินิพนฺธาติ รูปนิมิตฺตนิเกตวิสารวินิพนฺธา, ตสฺมา รูปนิมิตฺตนิเกตมฺหิ อุปฺปเนฺนน กิเลสวิสาเรน เจว กิเลสพนฺธเนน จาติ อโตฺถฯ นิเกตสารีติ วุจฺจตีติ อารมฺมณกรณวเสน นิวาสนฎฺฐานํ สารีติ วุจฺจติฯ ปหีนาติ เต รูปนิมิตฺตนิเกตกิเลสวิสารวินิพนฺธา ปหีนาฯ

    Rūpanimittaniketavisāravinibandhāti rūpameva kilesānaṃ paccayaṭṭhena nimittaṃ, ārammaṇakiriyasaṅkhātanivāsanaṭṭhānaṭṭhena niketanti rūpanimittaniketaṃ. Visāro ca vinibandho ca visāravinibandhā. Ubhayenapi hi kilesānaṃ patthaṭabhāvo ca vinibandhanabhāvo ca vutto, rūpanimittanikete visāravinibandhāti rūpanimittaniketavisāravinibandhā, tasmā rūpanimittaniketamhi uppannena kilesavisārena ceva kilesabandhanena cāti attho. Niketasārīti vuccatīti ārammaṇakaraṇavasena nivāsanaṭṭhānaṃ sārīti vuccati. Pahīnāti te rūpanimittaniketakilesavisāravinibandhā pahīnā.

    กสฺมา ปเนตฺถ ปญฺจกฺขนฺธา ‘‘โอกา’’ติ วุตฺตา, ฉ อารมฺมณานิ ‘‘นิเกต’’นฺติ? ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตายฯ สมาเนปิ หิ เอเตสํ อาลยเฎฺฐน วิสยภาเว โอโกติ นิจฺจนิวาสนฎฺฐานเคหเมว วุจฺจติ, นิเกตนฺติ ‘‘อชฺช อสุกฎฺฐาเน กีฬิสฺสามา’’ติ กตสเงฺกตฎฺฐานํ นิวาสฎฺฐานํ อุยฺยานาทิฯ ตตฺถ ยถา ปุตฺตทารธนธญฺญปุณฺณเคเห ฉนฺทราโค พลวา โหติ, เอวํ อชฺฌตฺติเกสุ ขเนฺธสุฯ ยถา ปน อุยฺยานฎฺฐานาทีสุ ตโต ทุพฺพลตโร โหติ, เอวํ พาหิเรสุ ฉสุ อารมฺมเณสูติ ฉนฺทราคสฺส พลวทุพฺพลตาย เอวํ เทสนา กตาติ เวทิตโพฺพฯ

    Kasmā panettha pañcakkhandhā ‘‘okā’’ti vuttā, cha ārammaṇāni ‘‘niketa’’nti? Chandarāgassa balavadubbalatāya. Samānepi hi etesaṃ ālayaṭṭhena visayabhāve okoti niccanivāsanaṭṭhānagehameva vuccati, niketanti ‘‘ajja asukaṭṭhāne kīḷissāmā’’ti katasaṅketaṭṭhānaṃ nivāsaṭṭhānaṃ uyyānādi. Tattha yathā puttadāradhanadhaññapuṇṇagehe chandarāgo balavā hoti, evaṃ ajjhattikesu khandhesu. Yathā pana uyyānaṭṭhānādīsu tato dubbalataro hoti, evaṃ bāhiresu chasu ārammaṇesūti chandarāgassa balavadubbalatāya evaṃ desanā katāti veditabbo.

    สุขิเตสุ สุขิโตติ อุปฎฺฐาเกสุ ธนธญฺญลาภาทิวเสน สุขิเตสุ ‘‘อิทานาหํ มนาปํ โภชนํ ลภิสฺสามี’’ติ เคหสิตสุเขน สุขิโต โหติ, เตหิ ปตฺตสมฺปตฺติํ อนุภวมาโน วิย จรติฯ ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขิโตติ เตสํ เกนจิเทว การเณน ทุเกฺข อุปฺปเนฺน สยํ ทฺวิคุเณน ทุเกฺขน ทุกฺขิโต โหติฯ กิจฺจกรณีเยสูติ กิจฺจสงฺขาเตสุ กรณีเยสุฯ เตสุ โยคํ อาปชฺชตีติ อุปโยคํ สยํ เตสํ กิจฺจานํ กตฺตพฺพตํ อาปชฺชติฯ กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุฯ เอวํ โข, คหปติ, กาเมหิ อริโตฺต โหตีติ เอวํ กิเลสกาเมหิ อริโตฺต โหติ อโนฺต กามานํ ภาเวน อตุโจฺฉฯ สุกฺกปโกฺข เตสํ อภาเวน ริโตฺต ตุโจฺฉติ เวทิตโพฺพฯ

    Sukhitesu sukhitoti upaṭṭhākesu dhanadhaññalābhādivasena sukhitesu ‘‘idānāhaṃ manāpaṃ bhojanaṃ labhissāmī’’ti gehasitasukhena sukhito hoti, tehi pattasampattiṃ anubhavamāno viya carati. Dukkhitesu dukkhitoti tesaṃ kenacideva kāraṇena dukkhe uppanne sayaṃ dviguṇena dukkhena dukkhito hoti. Kiccakaraṇīyesūti kiccasaṅkhātesu karaṇīyesu. Tesu yogaṃ āpajjatīti upayogaṃ sayaṃ tesaṃ kiccānaṃ kattabbataṃ āpajjati. Kāmesūti vatthukāmesu. Evaṃ kho, gahapati, kāmehi aritto hotīti evaṃ kilesakāmehi aritto hoti anto kāmānaṃ bhāvena atuccho. Sukkapakkho tesaṃ abhāvena ritto tucchoti veditabbo.

    ปุรกฺขราโนติ วฎฺฎํ ปุรโต กุรุมาโนฯ เอวํรูโป สิยนฺติอาทีสุ ทีฆรสฺสกาโฬทาตาทีสุ รูเปสุ ‘‘เอวํรูโป นาม ภเวยฺย’’นฺติ ปเตฺถติฯ สุขาทีสุ เวทนาสุ เอวํเวทโน นาม; นีลสญฺญาทีสุ สญฺญาสุ เอวํ สโญฺญ นาม; ปุญฺญาภิสงฺขาราทีสุ สงฺขาเรสุ เอวํสงฺขาโร นาม; จกฺขุวิญฺญาณาทีสุ วิญฺญาเณสุ ‘‘เอวํ วิญฺญาโณ นาม ภเวยฺย’’นฺติ ปเตฺถติฯ

    Purakkharānoti vaṭṭaṃ purato kurumāno. Evaṃrūpo siyantiādīsu dīgharassakāḷodātādīsu rūpesu ‘‘evaṃrūpo nāma bhaveyya’’nti pattheti. Sukhādīsu vedanāsu evaṃvedano nāma; nīlasaññādīsu saññāsu evaṃ sañño nāma; puññābhisaṅkhārādīsu saṅkhāresu evaṃsaṅkhāro nāma; cakkhuviññāṇādīsu viññāṇesu ‘‘evaṃ viññāṇo nāma bhaveyya’’nti pattheti.

    อปุรกฺขราโนติ วฎฺฎํ ปุรโต อกุรุมาโนฯ สหิตํ เม, อสหิตํ เตติ ตุยฺหํ วจนํ อสหิตํ อสิลิฎฺฐํ, มยฺหํ สหิตํ สิลิฎฺฐํ มธุรปานสทิสํฯ อธิจิณฺณํ เต วิปราวตฺตนฺติ ยํ ตุยฺหํ ทีเฆน กาเลน ปริจิตํ สุปฺปคุณํ, ตํ มม วาทํ อาคมฺม สพฺพํ ขเณน วิปราวตฺตํ นิวตฺตํฯ อาโรปิโต เต วาโทติ ตุยฺหํ โทโส มยา อาโรปิโตฯ จร วาทปฺปโมกฺขายาติ ตํ ตํ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา อุตฺตริ ปริเยสโนฺต อิมสฺส วาทสฺส โมกฺขาย จร อาหิณฺฑาหิฯ นิเพฺพเฐหิ วา สเจ ปโหสีติ อถ สยเมว ปโหสิ, อิเธว นิเพฺพเฐหีติฯ ตติยํฯ

    Apurakkharānoti vaṭṭaṃ purato akurumāno. Sahitaṃ me, asahitaṃ teti tuyhaṃ vacanaṃ asahitaṃ asiliṭṭhaṃ, mayhaṃ sahitaṃ siliṭṭhaṃ madhurapānasadisaṃ. Adhiciṇṇaṃ te viparāvattanti yaṃ tuyhaṃ dīghena kālena paricitaṃ suppaguṇaṃ, taṃ mama vādaṃ āgamma sabbaṃ khaṇena viparāvattaṃ nivattaṃ. Āropito te vādoti tuyhaṃ doso mayā āropito. Cara vādappamokkhāyāti taṃ taṃ ācariyaṃ upasaṅkamitvā uttari pariyesanto imassa vādassa mokkhāya cara āhiṇḍāhi. Nibbeṭhehi vā sace pahosīti atha sayameva pahosi, idheva nibbeṭhehīti. Tatiyaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. หาลิทฺทิกานิสุตฺตํ • 3. Hāliddikānisuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. หาลิทฺทิกานิสุตฺตวณฺณนา • 3. Hāliddikānisuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact