Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา
5. Hatthakasuttavaṇṇanā
๑๒๘. ปญฺจเม อภิกฺกนฺตาติ อติกฺกนฺตา, วิคตาติ อโตฺถติ อาห ‘‘ขเย ทิสฺสตี’’ติฯ เตเนว หิ ‘‘นิกฺขโนฺต ปฐโม ยาโม’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตํฯ อภิกฺกนฺตตโรติ อติวิย กนฺตตโรฯ ตาทิโส จ สุนฺทโร ภทฺทโก นาม โหตีติ อาห ‘‘สุนฺทเร ทิสฺสตี’’ติฯ โกติ เทวนาคยกฺขคนฺธพฺพาทีสุ โก กตโม? เมติ มมฯ ปาทานีติ ปาเทฯ อิทฺธิยาติ อิมาย เอวรูปาย เทวิทฺธิยาฯ ยสสาติ อิมินา เอทิเสน ปริวาเรน ปริเจฺฉเทนฯ ชลนฺติ วิโชฺชตมาโนฯ อภิกฺกเนฺตนาติ อติวิย กเนฺตน กมนีเยน อภิรูเปนฯ วเณฺณนาติ ฉวิวเณฺณน สรีรวณฺณนิภายฯ สพฺพา โอภาสยํ ทิสาติ ทส ทิสา ปภาเสโนฺต, จโนฺท วิย สูริโย วิย จ เอโกภาสํ เอกาโลกํ กโรโนฺตติ คาถาย อโตฺถฯ อภิรูเปติ อุฬารรูเป สมฺปนฺนรูเปฯ อพฺภนุโมทเนติ สมฺปหํสเน ฯ อิธ ปนาติ ‘‘อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา’’ติ เอตสฺมิํ ปเทฯ เตนาติ สุนฺทรปริยายตฺตาฯ ขเย วา อิธ อภิกฺกนฺตสโทฺท ทฎฺฐโพฺพ, เตน ‘‘อภิกฺกนฺตาย ปริกฺขีณาย รตฺติยา’’ติ วุตฺตํ โหติฯ
128. Pañcame abhikkantāti atikkantā, vigatāti atthoti āha ‘‘khaye dissatī’’ti. Teneva hi ‘‘nikkhanto paṭhamo yāmo’’ti anantaraṃ vuttaṃ. Abhikkantataroti ativiya kantataro. Tādiso ca sundaro bhaddako nāma hotīti āha ‘‘sundare dissatī’’ti. Koti devanāgayakkhagandhabbādīsu ko katamo? Meti mama. Pādānīti pāde. Iddhiyāti imāya evarūpāya deviddhiyā. Yasasāti iminā edisena parivārena paricchedena. Jalanti vijjotamāno. Abhikkantenāti ativiya kantena kamanīyena abhirūpena. Vaṇṇenāti chavivaṇṇena sarīravaṇṇanibhāya. Sabbā obhāsayaṃ disāti dasa disā pabhāsento, cando viya sūriyo viya ca ekobhāsaṃ ekālokaṃ karontoti gāthāya attho. Abhirūpeti uḷārarūpe sampannarūpe. Abbhanumodaneti sampahaṃsane . Idha panāti ‘‘abhikkantāya rattiyā’’ti etasmiṃ pade. Tenāti sundarapariyāyattā. Khaye vā idha abhikkantasaddo daṭṭhabbo, tena ‘‘abhikkantāya parikkhīṇāya rattiyā’’ti vuttaṃ hoti.
รูปายตนาทีสูติ อาทิสเทฺทน อกฺขราทีนํ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ สุวณฺณวโณฺณติ สุวณฺณจฺฉวีติ อยเมตฺถ อโตฺถติ อาห ‘‘ฉวิย’’นฺติฯ ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘กญฺจนสนฺนิภตฺตโจ’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๕๖)ฯ สญฺญูฬฺหาติ สมฺพนฺธิตา, คนฺถิตาติ อโตฺถฯ วณฺณาติ คุณวณฺณาติ อาห ‘‘ถุติย’’นฺติ, โถมนายนฺติ อโตฺถฯ กุลวเคฺคติ ขตฺติยาทิกุลโกฎฺฐาเสฯ ตตฺถ ‘‘อโจฺฉ วิปฺปสโนฺน’’ติอาทินา วณฺณิตพฺพเฎฺฐน วโณฺณ, ฉวิฯ วณฺณนเฎฺฐน อภิตฺถวเฎฺฐน วโณฺณ, ถุติฯ อญฺญมญฺญํ อสงฺกรโต วเณฺณตพฺพโต ฐเปตพฺพโต วโณฺณ, ขตฺติยาทิกุลวโคฺคฯ วณฺณียติ ญาปียติ เอเตนาติ วโณฺณ, ญาปกการณํฯ วณฺณนโต ถูลรสฺสาทิภาเวน อุปฎฺฐานโต วโณฺณ, สณฺฐานํฯ มหนฺตํ ขุทฺทกํ มชฺฌิมนฺติ วเณฺณตพฺพโต ปมิตพฺพโต วโณฺณ, ปมาณํฯ วณฺณียติ จกฺขุนา ปสฺสียตีติ วโณฺณ, รูปายตนนฺติ เอวํ ตสฺมิํ ตสฺมิํ อเตฺถ วณฺณสทฺทสฺส ปวตฺติ เวทิตพฺพาฯ โสติ วณฺณสโทฺทฯ ฉวิยา ทฎฺฐโพฺพ รูปายตเน คยฺหมานสฺสปิ ฉวิมุเขเนว คเหตพฺพโตฯ ฉวิคตา ปน วณฺณธาตุ เอว ‘‘สุวณฺณวโณฺณ’’ติ เอตฺถ วณฺณคฺคหเณน คหิตาติ อปเรฯ
Rūpāyatanādīsūti ādisaddena akkharādīnaṃ saṅgaho daṭṭhabbo. Suvaṇṇavaṇṇoti suvaṇṇacchavīti ayamettha atthoti āha ‘‘chaviya’’nti. Tathā hi vuttaṃ ‘‘kañcanasannibhattaco’’ti (ma. ni. 2.399; su. ni. 556). Saññūḷhāti sambandhitā, ganthitāti attho. Vaṇṇāti guṇavaṇṇāti āha ‘‘thutiya’’nti, thomanāyanti attho. Kulavaggeti khattiyādikulakoṭṭhāse. Tattha ‘‘accho vippasanno’’tiādinā vaṇṇitabbaṭṭhena vaṇṇo, chavi. Vaṇṇanaṭṭhena abhitthavaṭṭhena vaṇṇo, thuti. Aññamaññaṃ asaṅkarato vaṇṇetabbato ṭhapetabbato vaṇṇo, khattiyādikulavaggo. Vaṇṇīyati ñāpīyati etenāti vaṇṇo, ñāpakakāraṇaṃ. Vaṇṇanato thūlarassādibhāvena upaṭṭhānato vaṇṇo, saṇṭhānaṃ. Mahantaṃ khuddakaṃ majjhimanti vaṇṇetabbato pamitabbato vaṇṇo, pamāṇaṃ. Vaṇṇīyati cakkhunā passīyatīti vaṇṇo, rūpāyatananti evaṃ tasmiṃ tasmiṃ atthe vaṇṇasaddassa pavatti veditabbā. Soti vaṇṇasaddo. Chaviyā daṭṭhabbo rūpāyatane gayhamānassapi chavimukheneva gahetabbato. Chavigatā pana vaṇṇadhātu eva ‘‘suvaṇṇavaṇṇo’’ti ettha vaṇṇaggahaṇena gahitāti apare.
เกวลปริปุณฺณนฺติ เอกเทสมฺปิ อเสเสตฺวา นิรวเสสโตว ปริปุณฺณนฺติ อยเมตฺถ อโตฺถติ อาห ‘‘อนวเสสตา อโตฺถ’’ติฯ เกวลกปฺปาติ กปฺป-สโทฺท นิปาโต ปทปูรณมตฺตํ, ‘‘เกวลํ’’อิเจฺจว อโตฺถฯ เกวลสโทฺท จ พหุลวาจีติ อาห ‘‘เยภุยฺยตา อโตฺถ’’ติฯ เกจิ ปน ‘‘อีสกํ อสมตฺตํ เกวลํ เกวลกปฺป’’นฺติ วทนฺติฯ อนวเสสโตฺถ เอตฺถ เกวลสโทฺท สิยา, อนตฺถนฺตเรน ปน กปฺปสเทฺทน ปทวฑฺฒนํ กตํ ‘‘เกวลา เอว เกวลกปฺปา’’ติฯ ตถา วา กปฺปนียตฺตา ปญฺญเปตพฺพตฺตา เกวลกปฺปาฯ อพฺยามิสฺสตา วิชาติเยน อสงฺกโร สุทฺธตาฯ อนติเรกตา ตํปรมตา วิเสสาภาโวฯ เกวลกปฺปนฺติ เกวลํ ทฬฺหํ กตฺวาติ อโตฺถฯ เกวลํ วุจฺจติ นิพฺพานํ สพฺพสงฺขตวิวิตฺตตฺตา, ตํ เอตสฺส อธิคตํ อตฺถีติ เกวลี, สจฺฉิกตนิโรโธ ขีณาสโวฯ
Kevalaparipuṇṇanti ekadesampi asesetvā niravasesatova paripuṇṇanti ayamettha atthoti āha ‘‘anavasesatā attho’’ti. Kevalakappāti kappa-saddo nipāto padapūraṇamattaṃ, ‘‘kevalaṃ’’icceva attho. Kevalasaddo ca bahulavācīti āha ‘‘yebhuyyatā attho’’ti. Keci pana ‘‘īsakaṃ asamattaṃ kevalaṃ kevalakappa’’nti vadanti. Anavasesattho ettha kevalasaddo siyā, anatthantarena pana kappasaddena padavaḍḍhanaṃ kataṃ ‘‘kevalā eva kevalakappā’’ti. Tathā vā kappanīyattā paññapetabbattā kevalakappā. Abyāmissatā vijātiyena asaṅkaro suddhatā. Anatirekatā taṃparamatā visesābhāvo. Kevalakappanti kevalaṃ daḷhaṃ katvāti attho. Kevalaṃ vuccati nibbānaṃ sabbasaṅkhatavivittattā, taṃ etassa adhigataṃ atthīti kevalī, sacchikatanirodho khīṇāsavo.
กปฺป-สโทฺท ปนายํ สอุปสโคฺค อนุปสโคฺค จาติ อธิปฺปาเยน โอกปฺปนิยปเท ลพฺภมานํ โอกปฺปสทฺทมตฺตํ นิทเสฺสติ, อญฺญถา กปฺปสทฺทสฺส อตฺถุทฺธาเร โอกปฺปนิยปทํ อนิทสฺสนเมว สิยาฯ สมณกเปฺปหีติ วินยสิเทฺธหิ สมณโวหาเรหิฯ นิจฺจกปฺปนฺติ นิจฺจกาลํฯ ปญฺญตฺตีติ นามํฯ นามเญฺหตํ ตสฺส อายสฺมโต, ยทิทํ กโปฺปติฯ กปฺปิตเกสมสฺสูติ กตฺตริยา เฉทิตเกสมสฺสุฯ ทฺวงฺคุลกโปฺปติ มชฺฌนฺหิกเวลาย วีติกฺกนฺตาย ทฺวงฺคุลตาวิกโปฺปฯ เลโสติ อปเทโสฯ อนวเสสํ ผริตุํ สมตฺถสฺส โอภาสสฺส เกนจิ การเณน เอกเทสผรณมฺปิ สิยา, อยํ ปน สพฺพเสฺสว ผรตีติ ทเสฺสตุํ สมนฺตโตฺถ กปฺปสโทฺท คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสํ สมนฺตโต’’ติฯ
Kappa-saddo panāyaṃ saupasaggo anupasaggo cāti adhippāyena okappaniyapade labbhamānaṃ okappasaddamattaṃ nidasseti, aññathā kappasaddassa atthuddhāre okappaniyapadaṃ anidassanameva siyā. Samaṇakappehīti vinayasiddhehi samaṇavohārehi. Niccakappanti niccakālaṃ. Paññattīti nāmaṃ. Nāmañhetaṃ tassa āyasmato, yadidaṃ kappoti. Kappitakesamassūti kattariyā cheditakesamassu. Dvaṅgulakappoti majjhanhikavelāya vītikkantāya dvaṅgulatāvikappo. Lesoti apadeso. Anavasesaṃ pharituṃ samatthassa obhāsassa kenaci kāraṇena ekadesapharaṇampi siyā, ayaṃ pana sabbasseva pharatīti dassetuṃ samantattho kappasaddo gahitoti āha ‘‘anavasesaṃ samantato’’ti.
อาภาย ผริตฺวาติ วตฺถมาลาลงฺการสรีรสมุฎฺฐิตาย อาภาย ผริตฺวาฯ เทวตานญฺหิ สรีโรภาสํ ทฺวาทสโยชนมตฺตํ ฐานํฯ ตโต ภิโยฺยปิ ผริตฺวา ติฎฺฐติ, ตถา วตฺถาภรณาทิสมุฎฺฐิตา ปภาฯ
Ābhāya pharitvāti vatthamālālaṅkārasarīrasamuṭṭhitāya ābhāya pharitvā. Devatānañhi sarīrobhāsaṃ dvādasayojanamattaṃ ṭhānaṃ. Tato bhiyyopi pharitvā tiṭṭhati, tathā vatthābharaṇādisamuṭṭhitā pabhā.
หตฺถกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Hatthakasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๕. หตฺถกสุตฺตํ • 5. Hatthakasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๕. หตฺถกสุตฺตวณฺณนา • 5. Hatthakasuttavaṇṇanā