Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๑๐. หตฺถิงฺคปโญฺห
10. Hatthiṅgapañho
๑๐. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘หตฺถิสฺส ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, หตฺถี นาม จรโนฺต เยว ปถวิํ ทาเลติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กายํ สมฺมสมาเนเนว สเพฺพ กิเลสา ทาเลตพฺพาฯ อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
10. ‘‘Bhante nāgasena, ‘hatthissa pañca aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni pañca aṅgāni gahetabbānī’’ti? ‘‘Yathā, mahārāja, hatthī nāma caranto yeva pathaviṃ dāleti, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena kāyaṃ sammasamāneneva sabbe kilesā dāletabbā. Idaṃ, mahārāja, hatthissa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี สพฺพกาเยเนว อปโลเกติ, อุชุกํ เยว เปกฺขติ, น ทิสาวิทิสา วิโลเกติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพกาเยน อปโลกินา ภวิตพฺพํ, น ทิสาวิทิสา วิโลเกตพฺพา, น อุทฺธํ อุโลฺลเกตพฺพํ, น อโธ โอโลเกตพฺพํ, ยุคมตฺตเปกฺขินา ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, hatthī sabbakāyeneva apaloketi, ujukaṃ yeva pekkhati, na disāvidisā viloketi, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena sabbakāyena apalokinā bhavitabbaṃ, na disāvidisā viloketabbā, na uddhaṃ ulloketabbaṃ, na adho oloketabbaṃ, yugamattapekkhinā bhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, hatthissa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี อนิพทฺธสยโน โคจรายมนุคนฺตฺวา น ตเมว เทสํ วาสตฺถมุปคจฺฉติ, น ธุวปฺปติฎฺฐาลโย, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนิพทฺธสยเนน ภวิตพฺพํ, นิราลเยน ปิณฺฑาย คนฺตพฺพํ, ยทิ ปสฺสติ วิปสฺสโก มนุญฺญํ ปติรูปํ รุจิรเทเส ภวํ มณฺฑปํ วา รุกฺขมูลํ วา คุหํ วา ปพฺภารํ วา, ตเตฺถว วาสมุปคนฺตพฺพํ, ธุวปฺปติฎฺฐาลโย น กาตโพฺพฯ อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, hatthī anibaddhasayano gocarāyamanugantvā na tameva desaṃ vāsatthamupagacchati, na dhuvappatiṭṭhālayo, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena anibaddhasayanena bhavitabbaṃ, nirālayena piṇḍāya gantabbaṃ, yadi passati vipassako manuññaṃ patirūpaṃ ruciradese bhavaṃ maṇḍapaṃ vā rukkhamūlaṃ vā guhaṃ vā pabbhāraṃ vā, tattheva vāsamupagantabbaṃ, dhuvappatiṭṭhālayo na kātabbo. Idaṃ, mahārāja, hatthissa tatiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี อุทกํ โอคาหิตฺวา สุจิวิมลสีตลสลิลปริปุณฺณํ กุมุทุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกสญฺฉนฺนํ มหติมหนฺตํ ปทุมสรํ โอคาหิตฺวา กีฬติ คชวรกีฬํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สุจิวิมลวิปฺปสนฺนมนาวิลธมฺมวรวาริปุณฺณํ วิมุตฺติกุสุมสญฺฉนฺนํ มหาสติปฎฺฐานโปกฺขรณิํ โอคาหิตฺวา ญาเณน สงฺขารา โอธุนิตพฺพา วิธุนิตพฺพา, โยคาวจรกีฬา กีฬิตพฺพาฯ อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, hatthī udakaṃ ogāhitvā sucivimalasītalasalilaparipuṇṇaṃ kumuduppalapadumapuṇḍarīkasañchannaṃ mahatimahantaṃ padumasaraṃ ogāhitvā kīḷati gajavarakīḷaṃ, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena sucivimalavippasannamanāviladhammavaravāripuṇṇaṃ vimuttikusumasañchannaṃ mahāsatipaṭṭhānapokkharaṇiṃ ogāhitvā ñāṇena saṅkhārā odhunitabbā vidhunitabbā, yogāvacarakīḷā kīḷitabbā. Idaṃ, mahārāja, hatthissa catutthaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี สโต ปาทํ อุทฺธรติ, สโต ปาทํ นิกฺขิปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สเตน สมฺปชาเนน ปาทํ อุทฺธริตพฺพํ, สเตน สมฺปชาเนน ปาทํ นิกฺขิปิตพฺพํ, อภิกฺกมปฎิกฺกเม สมิญฺชนปสารเณ สพฺพตฺถ สเตน สมฺปชาเนน ภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ปญฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, hatthī sato pādaṃ uddharati, sato pādaṃ nikkhipati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena satena sampajānena pādaṃ uddharitabbaṃ, satena sampajānena pādaṃ nikkhipitabbaṃ, abhikkamapaṭikkame samiñjanapasāraṇe sabbattha satena sampajānena bhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, hatthissa pañcamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā devātidevena saṃyuttanikāyavare –
‘‘‘กาเยน สํวโร สาธุ, สาธุ วาจาย สํวโร;
‘‘‘Kāyena saṃvaro sādhu, sādhu vācāya saṃvaro;
มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร;
Manasā saṃvaro sādhu, sādhu sabbattha saṃvaro;
สพฺพตฺถ สํวุโต ลชฺชี, รกฺขิโตติ ปวุจฺจตี’’’ติฯ
Sabbattha saṃvuto lajjī, rakkhitoti pavuccatī’’’ti.
หตฺถิงฺคปโญฺห ทสโมฯอุปจิกาวโคฺค จตุโตฺถฯ
Hatthiṅgapañho dasamo.Upacikāvaggo catuttho.
ตสฺสุทฺทานํ –
Tassuddānaṃ –
อุปจิกา พิฬาโร จ, อุนฺทูโร วิจฺฉิเกน จ;
Upacikā biḷāro ca, undūro vicchikena ca;
นกุโล สิงฺคาโล มิโค,
Nakulo siṅgālo migo,
โครูโป วราโห หตฺถินา ทสาติฯ
Gorūpo varāho hatthinā dasāti.