Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
(๗) ๒. ภูมิจาลวโคฺค
(7) 2. Bhūmicālavaggo
๑. อิจฺฉาสุตฺตํ
1. Icchāsuttaṃ
๖๑. 1 ‘‘อฎฺฐิเม , ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม อฎฺฐ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต ฆฎโต วายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย , อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
61.2 ‘‘Aṭṭhime , bhikkhave, puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame aṭṭha? Idha, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato ghaṭato vāyamato lābhāya lābho nuppajjati. So tena alābhena socati kilamati paridevati, urattāḷiṃ kandati, sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya , uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya, na ca lābhī, socī ca paridevī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต ฆฎโต วายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน มชฺชติ ปมชฺชติ ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภาย, ลาภี จ มที จ ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato ghaṭato vāyamato lābhāya lābho uppajjati. So tena lābhena majjati pamajjati pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya, lābhī ca madī ca pamādī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ น ฆฎติ น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต อฆฎโต อวายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน โสจติ, กิลมติ, ปริเทวติ, อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ น ฆฎติ น วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati na ghaṭati na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato aghaṭato avāyamato lābhāya lābho nuppajjati. So tena alābhena socati, kilamati, paridevati, urattāḷiṃ kandati, sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati na ghaṭati na vāyamati lābhāya, na ca lābhī, socī ca paridevī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต, อฆฎโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน มชฺชติ, ปมชฺชติ, ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ น ฆฎติ น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ มที จ, ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato, aghaṭato, avāyamato lābhāya lābho uppajjati. So tena lābhena majjati, pamajjati, pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati na ghaṭati na vāyamati lābhāya, lābhī ca madī ca, pamādī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต ฆฎโต วายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, น สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato ghaṭato vāyamato lābhāya lābho nuppajjati. So tena alābhena na socati na kilamati na paridevati, na urattāḷiṃ kandati, na sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya, na ca lābhī, na ca socī na ca paridevī, accuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต ฆฎโต วายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน น มชฺชติ, น ปมชฺชติ, น ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato ghaṭato vāyamato lābhāya lābho uppajjati. So tena lābhena na majjati, na pamajjati, na pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya, lābhī ca, na ca madī na ca pamādī, accuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต, อฆฎโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน น โสจติ, น กิลมติ, น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, น สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภาย , น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato, aghaṭato, avāyamato lābhāya lābho nuppajjati. So tena alābhena na socati, na kilamati, na paridevati, na urattāḷiṃ kandati, na sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya , na ca lābhī, na ca socī na ca paridevī, accuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต อฆฎโต อวายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน น มชฺชติ, น ปมชฺชติ, น ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว – ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา ’ฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, อฎฺฐ ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติฯ ปฐมํฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato aghaṭato avāyamato lābhāya lābho uppajjati. So tena lābhena na majjati, na pamajjati, na pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccati, bhikkhave – ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya, lābhī ca, na ca madī na ca pamādī, accuto ca saddhammā ’. Ime kho, bhikkhave, aṭṭha puggalā santo saṃvijjamānā lokasmi’’nti. Paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. อิจฺฉาสุตฺตวณฺณนา • 1. Icchāsuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๕. อิจฺฉาสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-5. Icchāsuttādivaṇṇanā