Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๗. อิจฺฉาสุตฺตํ
7. Icchāsuttaṃ
๗๗. ตตฺร โข อายสฺมา สาริปุโตฺต ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขโว’’ติ! ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา สาริปุโตฺต เอตทโวจ –
77. Tatra kho āyasmā sāriputto bhikkhū āmantesi – ‘‘āvuso bhikkhavo’’ti! ‘‘Āvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato sāriputtassa paccassosuṃ. Āyasmā sāriputto etadavoca –
1 ‘‘อฎฺฐิเม, อาวุโส, ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิํฯ กตเม อฎฺฐ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ, ฆฎติ, วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต, ฆฎโต, วายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, อุฎฺฐหติ, ฆฎติ , วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
2 ‘‘Aṭṭhime, āvuso, puggalā santo saṃvijjamānā lokasmiṃ. Katame aṭṭha? Idhāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati, ghaṭati, vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato, ghaṭato, vāyamato lābhāya lābho nuppajjati. So tena alābhena socati kilamati paridevati, urattāḷiṃ kandati, sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso, ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, uṭṭhahati, ghaṭati , vāyamati lābhāya, na ca lābhī, socī ca paridevī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ, ฆฎติ, วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต ฆฎโต วายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน มชฺชติ ปมชฺชติ ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, มที จ ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha panāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati, ghaṭati, vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato ghaṭato vāyamato lābhāya lābho uppajjati. So tena lābhena majjati pamajjati pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso, ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya, lābhī ca, madī ca pamādī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต, อฆฎโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน โสจติ กิลมติ ปริเทวติ, อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, โสจี จ ปริเทวี จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha panāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato, aghaṭato, avāyamato lābhāya lābho nuppajjati. So tena alābhena socati kilamati paridevati, urattāḷiṃ kandati, sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso, ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya, na ca lābhī, socī ca paridevī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต, อฆฎโต, อวายมโต ลาภาย ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน มชฺชติ ปมชฺชติ ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ น ฆฎติ น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, มที จ ปมาที จ, จุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha panāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato, aghaṭato, avāyamato lābhāya lābho uppajjati. So tena lābhena majjati pamajjati pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso, ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati na ghaṭati na vāyamati lābhāya, lābhī ca, madī ca pamādī ca, cuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ, ฆฎติ, วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต, ฆฎโต, วายมโต ลาภาย, ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, น สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, อุฎฺฐหติ ฆฎติ วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha panāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati, ghaṭati, vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato, ghaṭato, vāyamato lābhāya, lābho nuppajjati. So tena alābhena na socati na kilamati na paridevati, na urattāḷiṃ kandati, na sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso, ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, uṭṭhahati ghaṭati vāyamati lābhāya, na ca lābhī, na ca socī na ca paridevī, accuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส อุฎฺฐหติ, ฆฎติ, วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อุฎฺฐหโต, ฆฎโต, วายมโต ลาภาย, ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน น มชฺชติ น ปมชฺชติ น ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, อุฎฺฐหติ, ฆฎติ, วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha panāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So uṭṭhahati, ghaṭati, vāyamati lābhāya. Tassa uṭṭhahato, ghaṭato, vāyamato lābhāya, lābho uppajjati. So tena lābhena na majjati na pamajjati na pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso, ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, uṭṭhahati, ghaṭati, vāyamati lābhāya, lābhī ca, na ca madī na ca pamādī, accuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต, อฆฎโต, อวายมโต ลาภาย, ลาโภ นุปฺปชฺชติฯ โส เตน อลาเภน น โสจติ น กิลมติ น ปริเทวติ, น อุรตฺตาฬิํ กนฺทติ, น สโมฺมหํ อาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภาย, น จ ลาภี, น จ โสจี น จ ปริเทวี, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’’’ฯ
‘‘Idha panāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato, aghaṭato, avāyamato lābhāya, lābho nuppajjati. So tena alābhena na socati na kilamati na paridevati, na urattāḷiṃ kandati, na sammohaṃ āpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso, ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya, na ca lābhī, na ca socī na ca paridevī, accuto ca saddhammā’’’.
‘‘อิธ ปนาวุโส, ภิกฺขุโน ปวิวิตฺตสฺส วิหรโต นิรายตฺตวุตฺติโน อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ ลาภายฯ โส น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ, น วายมติ ลาภายฯ ตสฺส อนุฎฺฐหโต, อฆฎโต, อวายมโต ลาภาย, ลาโภ อุปฺปชฺชติฯ โส เตน ลาเภน น มชฺชติ น ปมชฺชติ น ปมาทมาปชฺชติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส , ‘ภิกฺขุ อิโจฺฉ วิหรติ ลาภาย, น อุฎฺฐหติ, น ฆฎติ , น วายมติ ลาภาย, ลาภี จ, น จ มที น จ ปมาที, อจฺจุโต จ สทฺธมฺมา’ฯ อิเม โข, อาวุโส, อฎฺฐ ปุคฺคลา สโนฺต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’’นฺติฯ สตฺตมํฯ
‘‘Idha panāvuso, bhikkhuno pavivittassa viharato nirāyattavuttino icchā uppajjati lābhāya. So na uṭṭhahati, na ghaṭati, na vāyamati lābhāya. Tassa anuṭṭhahato, aghaṭato, avāyamato lābhāya, lābho uppajjati. So tena lābhena na majjati na pamajjati na pamādamāpajjati. Ayaṃ vuccatāvuso , ‘bhikkhu iccho viharati lābhāya, na uṭṭhahati, na ghaṭati , na vāyamati lābhāya, lābhī ca, na ca madī na ca pamādī, accuto ca saddhammā’. Ime kho, āvuso, aṭṭha puggalā santo saṃvijjamānā lokasmi’’nti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓-๙. มรณสฺสติสุตฺตทฺวยาทิวณฺณนา • 3-9. Maraṇassatisuttadvayādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๑๐. สทฺธาสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-10. Saddhāsuttādivaṇṇanā