Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi |
๒. อิทฺธิกถา
2. Iddhikathā
๙. กา อิทฺธิ? กติ อิทฺธิโย? อิทฺธิยา กติ ภูมิโย, กติ ปาทา, กติ ปทานิ, กติ มูลานิ? กา อิทฺธีติ? อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิฯ กติ อิทฺธิโยติ? ทส อิทฺธิโยฯ อิทฺธิยา กติ ภูมิโยติ? อิทฺธิยา จตโสฺส ภูมิโย, จตฺตาโร ปาทา, อฎฺฐ ปทานิ, โสฬส มูลานิฯ
9. Kā iddhi? Kati iddhiyo? Iddhiyā kati bhūmiyo, kati pādā, kati padāni, kati mūlāni? Kā iddhīti? Ijjhanaṭṭhena iddhi. Kati iddhiyoti? Dasa iddhiyo. Iddhiyā kati bhūmiyoti? Iddhiyā catasso bhūmiyo, cattāro pādā, aṭṭha padāni, soḷasa mūlāni.
๑๐. กตมา ทส อิทฺธิโย? อธิฎฺฐานา อิทฺธิ, วิกุพฺพนา อิทฺธิ, มโนมยา อิทฺธิ, ญาณวิปฺผารา อิทฺธิ, สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ, อริยา อิทฺธิ, กมฺมวิปากชา อิทฺธิ, ปุญฺญวโต อิทฺธิ, วิชฺชามยา อิทฺธิ, ตตฺถ ตตฺถ สมฺมา ปโยคปจฺจยา 1 อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิฯ
10. Katamā dasa iddhiyo? Adhiṭṭhānā iddhi, vikubbanā iddhi, manomayā iddhi, ñāṇavipphārā iddhi, samādhivipphārā iddhi, ariyā iddhi, kammavipākajā iddhi, puññavato iddhi, vijjāmayā iddhi, tattha tattha sammā payogapaccayā 2 ijjhanaṭṭhena iddhi.
อิทฺธิยา กตมา จตโสฺส ภูมิโย? วิเวกชาภูมิ ปฐมํ ฌานํ, ปีติสุขภูมิ ทุติยํ ฌานํ, อุเปกฺขาสุขภูมิ ตติยํ ฌานํ, อทุกฺขมสุขาภูมิ จตุตฺถํ ฌานํฯ อิทฺธิยา อิมา จตโสฺส ภูมิโย อิทฺธิลาภาย อิทฺธิปฎิลาภาย อิทฺธิวิกุพฺพนตาย อิทฺธิวิสวิตาย อิทฺธิวสีภาวาย อิทฺธิเวสารชฺชาย สํวตฺตนฺตีติฯ
Iddhiyā katamā catasso bhūmiyo? Vivekajābhūmi paṭhamaṃ jhānaṃ, pītisukhabhūmi dutiyaṃ jhānaṃ, upekkhāsukhabhūmi tatiyaṃ jhānaṃ, adukkhamasukhābhūmi catutthaṃ jhānaṃ. Iddhiyā imā catasso bhūmiyo iddhilābhāya iddhipaṭilābhāya iddhivikubbanatāya iddhivisavitāya iddhivasībhāvāya iddhivesārajjāya saṃvattantīti.
อิทฺธิยา กตเม จตฺตาโร ปาทา? อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, จิตฺตสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ, วีมํสาสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติฯ อิทฺธิยา อิเม จตฺตาโร ปาทา อิทฺธิลาภาย อิทฺธิปฎิลาภาย อิทฺธิวิกุพฺพนตาย อิทฺธิวิสวิตาย อิทฺธิวสีภาวาย อิทฺธิเวสารชฺชาย สํวตฺตนฺตีติฯ
Iddhiyā katame cattāro pādā? Idha bhikkhu chandasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti, cittasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti, vīriyasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti, vīmaṃsāsamādhipadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti. Iddhiyā ime cattāro pādā iddhilābhāya iddhipaṭilābhāya iddhivikubbanatāya iddhivisavitāya iddhivasībhāvāya iddhivesārajjāya saṃvattantīti.
อิทฺธิยา กตมานิ อฎฺฐ ปทานิ? ฉนฺทํ เจ ภิกฺขุ นิสฺสาย ลภติ สมาธิํ, ลภติ จิตฺตสฺส เอกคฺคตํฯ ฉโนฺท น สมาธิ, สมาธิ น ฉโนฺทฯ อโญฺญ ฉโนฺท, อโญฺญ สมาธิฯ วีริยํ เจ ภิกฺขุ นิสฺสาย ลภติ สมาธิํ, ลภติ จิตฺตสฺส เอกคฺคตํฯ วีริยํ น สมาธิ, สมาธิ น วีริยํฯ อญฺญํ วีริยํ, อโญฺญ สมาธิฯ จิตฺตํ เจ ภิกฺขุ นิสฺสาย ลภติ สมาธิํ, ลภติ จิตฺตสฺส เอกคฺคตํฯ จิตฺตํ น สมาธิ, สมาธิ น จิตฺตํฯ อญฺญํ จิตฺตํ, อโญฺญ สมาธิฯ วีมํสํ เจ ภิกฺขุ นิสฺสาย ลภติ สมาธิํ, ลภติ จิตฺตสฺส เอกคฺคตํฯ วีมํสา น สมาธิ, สมาธิ น วีมํสาฯ อญฺญา วีมํสา, อโญฺญ สมาธิฯ อิทฺธิยา อิมานิ อฎฺฐ ปทานิ อิทฺธิลาภาย อิทฺธิปฎิลาภาย อิทฺธิวิกุพฺพนตาย อิทฺธิวิสวิตาย อิทฺธิวสีภาวาย อิทฺธิเวสารชฺชาย สํวตฺตนฺตีติฯ
Iddhiyā katamāni aṭṭha padāni? Chandaṃ ce bhikkhu nissāya labhati samādhiṃ, labhati cittassa ekaggataṃ. Chando na samādhi, samādhi na chando. Añño chando, añño samādhi. Vīriyaṃ ce bhikkhu nissāya labhati samādhiṃ, labhati cittassa ekaggataṃ. Vīriyaṃ na samādhi, samādhi na vīriyaṃ. Aññaṃ vīriyaṃ, añño samādhi. Cittaṃ ce bhikkhu nissāya labhati samādhiṃ, labhati cittassa ekaggataṃ. Cittaṃ na samādhi, samādhi na cittaṃ. Aññaṃ cittaṃ, añño samādhi. Vīmaṃsaṃ ce bhikkhu nissāya labhati samādhiṃ, labhati cittassa ekaggataṃ. Vīmaṃsā na samādhi, samādhi na vīmaṃsā. Aññā vīmaṃsā, añño samādhi. Iddhiyā imāni aṭṭha padāni iddhilābhāya iddhipaṭilābhāya iddhivikubbanatāya iddhivisavitāya iddhivasībhāvāya iddhivesārajjāya saṃvattantīti.
อิทฺธิยา กตมานิ โสฬส มูลานิ? อโนนตํ 3 จิตฺตํ โกสเชฺช น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ อนุนฺนตํ 4 จิตฺตํ อุทฺธเจฺจ น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ อนภินตํ จิตฺตํ ราเค น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ อนปนตํ จิตฺตํ พฺยาปาเท น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ อนิสฺสิตํ จิตฺตํ ทิฎฺฐิยา น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ อปฺปฎิพทฺธํ จิตฺตํ ฉนฺทราเค น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ วิปฺปมุตฺตํ จิตฺตํ กามราเค น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํ ฯ วิสญฺญุตฺตํ จิตฺตํ กิเลเส น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ วิมริยาทิกตํ จิตฺตํ กิเลสมริยาเท น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ เอกตฺตคตํ 5 จิตฺตํ นานตฺตกิเลเสหิ 6 น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ สทฺธาย ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ อสฺสทฺธิเย น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ วีริเยน ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ โกสเชฺช น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ สติยา ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ ปมาเท น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ สมาธินา ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ อุทฺธเจฺจ น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ ปญฺญาย ปริคฺคหิตํ จิตฺตํ อวิชฺชาย น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ โอภาสคตํ จิตฺตํ อวิชฺชนฺธกาเร น อิญฺชตีติ – อาเนญฺชํฯ อิทฺธิยา อิมานิ โสฬส มูลานิ อิทฺธิลาภาย อิทฺธิปฎิลาภาย อิทฺธิวิกุพฺพนตาย อิทฺธิวิสวิตาย อิทฺธิวสีภาวาย อิทฺธิเวสารชฺชาย สํวตฺตนฺตีติฯ
Iddhiyā katamāni soḷasa mūlāni? Anonataṃ 7 cittaṃ kosajje na iñjatīti – āneñjaṃ. Anunnataṃ 8 cittaṃ uddhacce na iñjatīti – āneñjaṃ. Anabhinataṃ cittaṃ rāge na iñjatīti – āneñjaṃ. Anapanataṃ cittaṃ byāpāde na iñjatīti – āneñjaṃ. Anissitaṃ cittaṃ diṭṭhiyā na iñjatīti – āneñjaṃ. Appaṭibaddhaṃ cittaṃ chandarāge na iñjatīti – āneñjaṃ. Vippamuttaṃ cittaṃ kāmarāge na iñjatīti – āneñjaṃ . Visaññuttaṃ cittaṃ kilese na iñjatīti – āneñjaṃ. Vimariyādikataṃ cittaṃ kilesamariyāde na iñjatīti – āneñjaṃ. Ekattagataṃ 9 cittaṃ nānattakilesehi 10 na iñjatīti – āneñjaṃ. Saddhāya pariggahitaṃ cittaṃ assaddhiye na iñjatīti – āneñjaṃ. Vīriyena pariggahitaṃ cittaṃ kosajje na iñjatīti – āneñjaṃ. Satiyā pariggahitaṃ cittaṃ pamāde na iñjatīti – āneñjaṃ. Samādhinā pariggahitaṃ cittaṃ uddhacce na iñjatīti – āneñjaṃ. Paññāya pariggahitaṃ cittaṃ avijjāya na iñjatīti – āneñjaṃ. Obhāsagataṃ cittaṃ avijjandhakāre na iñjatīti – āneñjaṃ. Iddhiyā imāni soḷasa mūlāni iddhilābhāya iddhipaṭilābhāya iddhivikubbanatāya iddhivisavitāya iddhivasībhāvāya iddhivesārajjāya saṃvattantīti.
ทสอิทฺธินิเทฺทโส
Dasaiddhiniddeso
๑๐. กตมา อธิฎฺฐานา อิทฺธิ? อิธ ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฎฺฎํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเสฯ ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเกฯ อุทเกปิ อภิชฺชมาเน 11 คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํฯ อากาเสปิ ปลฺลเงฺกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณฯ อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชติฯ ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วเตฺตตีติฯ
10. Katamā adhiṭṭhānā iddhi? Idha bhikkhu anekavihitaṃ iddhividhaṃ paccanubhoti – ekopi hutvā bahudhā hoti, bahudhāpi hutvā eko hoti; āvibhāvaṃ tirobhāvaṃ; tirokuṭṭaṃ tiropākāraṃ tiropabbataṃ asajjamāno gacchati, seyyathāpi ākāse. Pathaviyāpi ummujjanimujjaṃ karoti, seyyathāpi udake. Udakepi abhijjamāne 12 gacchati, seyyathāpi pathaviyaṃ. Ākāsepi pallaṅkena kamati, seyyathāpi pakkhī sakuṇo. Imepi candimasūriye evaṃmahiddhike evaṃmahānubhāve pāṇinā parāmasati parimajjati. Yāva brahmalokāpi kāyena vasaṃ vattetīti.
อิธาติ อิมิสฺสา ทิฎฺฐิยา อิมิสฺสา ขนฺติยา อิมิสฺสา รุจิยา อิมสฺมิํ อาทาเย อิมสฺมิํ ธเมฺม อิมสฺมิํ วินเย อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย อิมสฺมิํ ปาวจเน อิมสฺมิํ พฺรหฺมจริเย อิมสฺมิํ สตฺถุสาสเนฯ เตน วุจฺจติ – ‘‘อิธา’’ติฯ ภิกฺขูติ ปุถุชฺชนกลฺยาณโก วา โหติ ภิกฺขุ เสโข วา อรหา วา อกุปฺปธโมฺมฯ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภตีติ นานปฺปการํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติฯ เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตีติ ปกติยา เอโก พหุกํ อาวชฺชติ, สตํ วา สหสฺสํ วา สตสหสฺสํ วา อาวชฺชติฯ อาวชฺชิตฺวา ญาเณน อธิฎฺฐาติ – ‘‘พหุโล โหมี’’ติ 13ฯ พหุโล โหติฯ ยถายสฺมา จูฬปนฺถโก 14 เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, เอวเมวํ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติฯ พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหตีติ ปกติยา พหุโก เอกํ อาวชฺชติ; อาวชฺชิตฺวา ญาเณน อธิฎฺฐาติ – ‘‘เอโก โหมี’’ติฯ เอโก โหติฯ ยถายสฺมา จูฬปนฺถโก พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ, เอวเมวํ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติฯ
Idhāti imissā diṭṭhiyā imissā khantiyā imissā ruciyā imasmiṃ ādāye imasmiṃ dhamme imasmiṃ vinaye imasmiṃ dhammavinaye imasmiṃ pāvacane imasmiṃ brahmacariye imasmiṃ satthusāsane. Tena vuccati – ‘‘idhā’’ti. Bhikkhūti puthujjanakalyāṇako vā hoti bhikkhu sekho vā arahā vā akuppadhammo. Anekavihitaṃ iddhividhaṃ paccanubhotīti nānappakāraṃ iddhividhaṃ paccanubhoti. Ekopi hutvā bahudhā hotīti pakatiyā eko bahukaṃ āvajjati, sataṃ vā sahassaṃ vā satasahassaṃ vā āvajjati. Āvajjitvā ñāṇena adhiṭṭhāti – ‘‘bahulo homī’’ti 15. Bahulo hoti. Yathāyasmā cūḷapanthako 16 ekopi hutvā bahudhā hoti, evamevaṃ so iddhimā cetovasippatto ekopi hutvā bahudhā hoti. Bahudhāpi hutvā eko hotīti pakatiyā bahuko ekaṃ āvajjati; āvajjitvā ñāṇena adhiṭṭhāti – ‘‘eko homī’’ti. Eko hoti. Yathāyasmā cūḷapanthako bahudhāpi hutvā eko hoti, evamevaṃ so iddhimā cetovasippatto bahudhāpi hutvā eko hoti.
๑๑. อาวิภาวนฺติ เกนจิ อนาวฎํ โหติ อปฺปฎิจฺฉนฺนํ วิวฎํ ปากฎํฯ ติโรภาวนฺติ เกนจิ อาวฎํ โหติ ปฎิจฺฉนฺนํ ปิหิตํ ปฎิกุชฺชิตํฯ ติโรกุฎฺฎํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเสติ ปกติยา อากาสกสิณสมาปตฺติยา ลาภี โหติฯ ติโรกุฎฺฎํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อาวชฺชติฯ อาวชฺชิตฺวา ญาเณน อธิฎฺฐาติ – ‘‘อากาโส โหตู’’ติฯ อากาโส โหติฯ ติโรกุฎฺฎํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติฯ ยถา มนุสฺสา ปกติยา อนิทฺธิมโนฺต เกนจิ อนาวเฎ อปริกฺขิเตฺต อสชฺชมานา คจฺฉนฺติ, เอวเมวํ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต ติโรกุฎฺฎํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเสฯ
11.Āvibhāvanti kenaci anāvaṭaṃ hoti appaṭicchannaṃ vivaṭaṃ pākaṭaṃ. Tirobhāvanti kenaci āvaṭaṃ hoti paṭicchannaṃ pihitaṃ paṭikujjitaṃ. Tirokuṭṭaṃtiropākāraṃ tiropabbataṃ asajjamāno gacchati, seyyathāpiākāseti pakatiyā ākāsakasiṇasamāpattiyā lābhī hoti. Tirokuṭṭaṃ tiropākāraṃ tiropabbataṃ āvajjati. Āvajjitvā ñāṇena adhiṭṭhāti – ‘‘ākāso hotū’’ti. Ākāso hoti. Tirokuṭṭaṃ tiropākāraṃ tiropabbataṃ asajjamāno gacchati. Yathā manussā pakatiyā aniddhimanto kenaci anāvaṭe aparikkhitte asajjamānā gacchanti, evamevaṃ so iddhimā cetovasippatto tirokuṭṭaṃ tiropākāraṃ tiropabbataṃ asajjamāno gacchati, seyyathāpi ākāse.
ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเกติ ปกติยา อาโปกสิณสมาปตฺติยา ลาภี โหติฯ ปถวิํ อาวชฺชติฯ อาวชฺชิตฺวา ญาเณน อธิฎฺฐาติ – ‘‘อุทกํ โหตู’’ติฯ อุทกํ โหติฯ โส ปถวิยา อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติฯ ยถา มนุสฺสา ปกติยา อนิทฺธิมโนฺต อุทเก อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ, เอวเมวํ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต ปถวิยา อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเกฯ
Pathaviyāpi ummujjanimujjaṃ karoti, seyyathāpi udaketi pakatiyā āpokasiṇasamāpattiyā lābhī hoti. Pathaviṃ āvajjati. Āvajjitvā ñāṇena adhiṭṭhāti – ‘‘udakaṃ hotū’’ti. Udakaṃ hoti. So pathaviyā ummujjanimujjaṃ karoti. Yathā manussā pakatiyā aniddhimanto udake ummujjanimujjaṃ karonti, evamevaṃ so iddhimā cetovasippatto pathaviyā ummujjanimujjaṃ karoti, seyyathāpi udake.
อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยนฺติ ปกติยา ปถวีกสิณสมาปตฺติยา ลาภี โหติฯ อุทกํ อาวชฺชติฯ อาวชฺชิตฺวา ญาเณน อธิฎฺฐาติ – ‘‘ปถวี โหตู’’ติฯ ปถวี โหติฯ โส อภิชฺชมาเน อุทเก คจฺฉติฯ ยถา มนุสฺสา ปกติยา อนิทฺธิมโนฺต อภิชฺชมานาย ปถวิยา คจฺฉนฺติ, เอวเมวํ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต อภิชฺชมาเน อุทเก คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํฯ
Udakepiabhijjamāne gacchati, seyyathāpi pathaviyanti pakatiyā pathavīkasiṇasamāpattiyā lābhī hoti. Udakaṃ āvajjati. Āvajjitvā ñāṇena adhiṭṭhāti – ‘‘pathavī hotū’’ti. Pathavī hoti. So abhijjamāne udake gacchati. Yathā manussā pakatiyā aniddhimanto abhijjamānāya pathaviyā gacchanti, evamevaṃ so iddhimā cetovasippatto abhijjamāne udake gacchati, seyyathāpi pathaviyaṃ.
อากาเสปิ ปลฺลเงฺกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณติ ปกติยา ปถวีกสิณสมาปตฺติยา ลาภี โหติฯ อากาสํ อาวชฺชติ ฯ อาวชฺชิตฺวา ญาเณน อธิฎฺฐาติ – ‘‘ปถวี โหตู’’ติฯ ปถวี โหติฯ โส อากาเส อนฺตลิเกฺข จงฺกมติปิ ติฎฺฐติปิ นิสีทติปิ เสยฺยมฺปิ กเปฺปติฯ ยถา มนุสฺสา ปกติยา อนิทฺธิมโนฺต ปถวิยา จงฺกมนฺติปิ ติฎฺฐนฺติปิ นิสีทนฺติปิ เสยฺยมฺปิ กเปฺปนฺติ, เอวเมวํ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต อากาเส อนฺตลิเกฺข จงฺกมติปิ ติฎฺฐติปิ นิสีทติปิ เสยฺยมฺปิ กเปฺปติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณฯ
Ākāsepi pallaṅkena kamati, seyyathāpi pakkhī sakuṇoti pakatiyā pathavīkasiṇasamāpattiyā lābhī hoti. Ākāsaṃ āvajjati . Āvajjitvā ñāṇena adhiṭṭhāti – ‘‘pathavī hotū’’ti. Pathavī hoti. So ākāse antalikkhe caṅkamatipi tiṭṭhatipi nisīdatipi seyyampi kappeti. Yathā manussā pakatiyā aniddhimanto pathaviyā caṅkamantipi tiṭṭhantipi nisīdantipi seyyampi kappenti, evamevaṃ so iddhimā cetovasippatto ākāse antalikkhe caṅkamatipi tiṭṭhatipi nisīdatipi seyyampi kappeti, seyyathāpi pakkhī sakuṇo.
๑๒. อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปรามสติ ปริมชฺชตีติ อิธ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต นิสินฺนโก วา นิปนฺนโก วา จนฺทิมสูริเย อาวชฺชติฯ อาวชฺชิตฺวา ญาเณน อธิฎฺฐาติ – ‘‘หตฺถปาเส โหตู’’ติฯ หตฺถปาเส โหติฯ โส นิสินฺนโก วา นิปนฺนโก วา จนฺทิมสูริเย ปาณินา อามสติ ปรามสติ ปริมชฺชติฯ ยถา มนุสฺสา ปกติยา อนิทฺธิมโนฺต กิญฺจิเทว รูปคตํ หตฺถปาเส อามสนฺติ ปรามสนฺติ ปริมชฺชนฺติ, เอวเมวํ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต นิสินฺนโก วา นิปนฺนโก วา จนฺทิมสูริเย ปาณินา อามสติ ปรามสติ ปริมชฺชติฯ
12.Imepi candimasūriye evaṃmahiddhike evaṃmahānubhāve pāṇinā parāmasati parimajjatīti idha so iddhimā cetovasippatto nisinnako vā nipannako vā candimasūriye āvajjati. Āvajjitvā ñāṇena adhiṭṭhāti – ‘‘hatthapāse hotū’’ti. Hatthapāse hoti. So nisinnako vā nipannako vā candimasūriye pāṇinā āmasati parāmasati parimajjati. Yathā manussā pakatiyā aniddhimanto kiñcideva rūpagataṃ hatthapāse āmasanti parāmasanti parimajjanti, evamevaṃ so iddhimā cetovasippatto nisinnako vā nipannako vā candimasūriye pāṇinā āmasati parāmasati parimajjati.
ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วเตฺตตีติ สเจ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต พฺรหฺมโลกํ คนฺตุกาโม โหติ, ทูเรปิ สนฺติเก อธิฎฺฐาติ – ‘‘สนฺติเก โหตู’’ติฯ สนฺติเก โหติฯ สนฺติเกปิ ทูเร อธิฎฺฐาติ – ‘‘ทูเร โหตู’’ติฯ ทูเร โหติฯ พหุกมฺปิ โถกํ อธิฎฺฐาติ – ‘‘โถกํ โหตู’’ติฯ โถกํ โหติฯ โถกมฺปิ พหุกํ อธิฎฺฐาติ – ‘‘พหุกํ โหตู’’ติฯ พหุกํ โหติฯ ทิเพฺพน จกฺขุนา ตสฺส พฺรหฺมุโน รูปํ ปสฺสติฯ ทิพฺพาย โสตธาตุยา ตสฺส พฺรหฺมุโน สทฺทํ สุณาติฯ เจโตปริยญาเณน ตสฺส พฺรหฺมุโน จิตฺตํ ปชานาติฯ สเจ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต ทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คนฺตุกาโม โหติ, กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมติ, กายวเสน จิตฺตํ อธิฎฺฐาติฯ กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมตฺวา, กายวเสน จิตฺตํ อธิฎฺฐหิตฺวา, สุขสญฺญญฺจ ลหุสญฺญญฺจ โอกฺกมิตฺวา ทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติฯ สเจ โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปโตฺต อทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คนฺตุกาโม โหติ, จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมติ, จิตฺตวเสน กายํ อธิฎฺฐาติฯ จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมตฺวา, จิตฺตวเสน กายํ อธิฎฺฐหิตฺวา สุขสญฺญญฺจ ลหุสญฺญญฺจ โอกฺกมิตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉติฯ โส ตสฺส พฺรหฺมุโน ปุรโต รูปิํ 17 อภินิมฺมินาติ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคิํ 18 อหีนินฺทฺริยํฯ สเจ โส อิทฺธิมา จงฺกมติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ จงฺกมติฯ สเจ โส อิทฺธิมา ติฎฺฐติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ ติฎฺฐติฯ สเจ โส อิทฺธิมา นิสีทติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ นิสีทติฯ สเจ โส อิทฺธิมา เสยฺยํ กเปฺปติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ เสยฺยํ กเปฺปติฯ สเจ โส อิทฺธิมา ธูมายติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ ธูมายติฯ สเจ โส อิทฺธิมา ปชฺชลติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ ปชฺชลติฯ สเจ โส อิทฺธิมา ธมฺมํ ภาสติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ ธมฺมํ ภาสติฯ สเจ โส อิทฺธิมา ปญฺหํ ปุจฺฉติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ ปญฺหํ ปุจฺฉติฯ สเจ โส อิทฺธิมา ปญฺหํ ปุโฎฺฐ วิสเชฺชติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ ปญฺหํ ปุโฎฺฐ วิสเชฺชติฯ สเจ โส อิทฺธิมา เตน พฺรหฺมุนา สทฺธิํ สนฺติฎฺฐติ สลฺลปติ สากจฺฉํ สมาปชฺชติ, นิมฺมิโตปิ ตตฺถ เตน พฺรหฺมุนา สทฺธิํ สนฺติฎฺฐติ สลฺลปติ สากจฺฉํ สมาปชฺชติฯ ยญฺญเทว โส อิทฺธิมา กโรติ, ตํ ตเทว หิ โส นิมฺมิโต กโรตีติ – อยํ อธิฎฺฐานา อิทฺธิฯ
Yāva brahmalokāpi kāyena vasaṃ vattetīti sace so iddhimā cetovasippatto brahmalokaṃ gantukāmo hoti, dūrepi santike adhiṭṭhāti – ‘‘santike hotū’’ti. Santike hoti. Santikepi dūre adhiṭṭhāti – ‘‘dūre hotū’’ti. Dūre hoti. Bahukampi thokaṃ adhiṭṭhāti – ‘‘thokaṃ hotū’’ti. Thokaṃ hoti. Thokampi bahukaṃ adhiṭṭhāti – ‘‘bahukaṃ hotū’’ti. Bahukaṃ hoti. Dibbena cakkhunā tassa brahmuno rūpaṃ passati. Dibbāya sotadhātuyā tassa brahmuno saddaṃ suṇāti. Cetopariyañāṇena tassa brahmuno cittaṃ pajānāti. Sace so iddhimā cetovasippatto dissamānena kāyena brahmalokaṃ gantukāmo hoti, kāyavasena cittaṃ pariṇāmeti, kāyavasena cittaṃ adhiṭṭhāti. Kāyavasena cittaṃ pariṇāmetvā, kāyavasena cittaṃ adhiṭṭhahitvā, sukhasaññañca lahusaññañca okkamitvā dissamānena kāyena brahmalokaṃ gacchati. Sace so iddhimā cetovasippatto adissamānena kāyena brahmalokaṃ gantukāmo hoti, cittavasena kāyaṃ pariṇāmeti, cittavasena kāyaṃ adhiṭṭhāti. Cittavasena kāyaṃ pariṇāmetvā, cittavasena kāyaṃ adhiṭṭhahitvā sukhasaññañca lahusaññañca okkamitvā adissamānena kāyena brahmalokaṃ gacchati. So tassa brahmuno purato rūpiṃ 19 abhinimmināti manomayaṃ sabbaṅgapaccaṅgiṃ 20 ahīnindriyaṃ. Sace so iddhimā caṅkamati, nimmitopi tattha caṅkamati. Sace so iddhimā tiṭṭhati, nimmitopi tattha tiṭṭhati. Sace so iddhimā nisīdati, nimmitopi tattha nisīdati. Sace so iddhimā seyyaṃ kappeti, nimmitopi tattha seyyaṃ kappeti. Sace so iddhimā dhūmāyati, nimmitopi tattha dhūmāyati. Sace so iddhimā pajjalati, nimmitopi tattha pajjalati. Sace so iddhimā dhammaṃ bhāsati, nimmitopi tattha dhammaṃ bhāsati. Sace so iddhimā pañhaṃ pucchati, nimmitopi tattha pañhaṃ pucchati. Sace so iddhimā pañhaṃ puṭṭho visajjeti, nimmitopi tattha pañhaṃ puṭṭho visajjeti. Sace so iddhimā tena brahmunā saddhiṃ santiṭṭhati sallapati sākacchaṃ samāpajjati, nimmitopi tattha tena brahmunā saddhiṃ santiṭṭhati sallapati sākacchaṃ samāpajjati. Yaññadeva so iddhimā karoti, taṃ tadeva hi so nimmito karotīti – ayaṃ adhiṭṭhānā iddhi.
๑๓. กตมา วิกุพฺพนา อิทฺธิ? สิขิสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อภิภู นาม สาวโก พฺรหฺมโลเก ฐิโต สหสฺสิโลกธาตุํ 21 สเรน วิญฺญาเปสิฯ โส ทิสฺสมาเนนปิ กาเยน ธมฺมํ เทเสสิ; อทิสฺสมาเนนปิ กาเยน ธมฺมํ เทเสสิ; ทิสฺสมาเนนปิ เหฎฺฐิเมน อุปฑฺฒกาเยน อทิสฺสมาเนนปิ อุปริเมน อุปฑฺฒกาเยน ธมฺมํ เทเสสิฯ ทิสฺสมาเนนปิ อุปริเมน อุปฑฺฒกาเยน, อทิสฺสมาเนนปิ เหฎฺฐิเมน อุปฑฺฒกาเยน ธมฺมํ เทเสสิฯ โส ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา กุมารกวณฺณํ วา ทเสฺสติ, นาควณฺณํ วา ทเสฺสติ, สุปณฺณวณฺณํ วา ทเสฺสติ, ยกฺขวณฺณํ วา ทเสฺสติ, อินฺทวณฺณํ วา 22 ทเสฺสติ, เทววณฺณํ วา ทเสฺสติ , พฺรหฺมวณฺณํ วา ทเสฺสติ, สมุทฺทวณฺณํ วา ทเสฺสติ, ปพฺพตวณฺณํ วา ทเสฺสติ, วนวณฺณํ วา ทเสฺสติ, สีหวณฺณํ วา ทเสฺสติ, พฺยคฺฆวณฺณํ วา ทเสฺสติ, ทีปิวณฺณํ วา ทเสฺสติ, หตฺถิมฺปิ ทเสฺสติ, อสฺสมฺปิ ทเสฺสติ, รถมฺปิ ทเสฺสติ, ปตฺติมฺปิ ทเสฺสติ, วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทเสฺสตีติ – อยํ วิกุพฺพนา อิทฺธิฯ
13. Katamā vikubbanā iddhi? Sikhissa bhagavato arahato sammāsambuddhassa abhibhū nāma sāvako brahmaloke ṭhito sahassilokadhātuṃ 23 sarena viññāpesi. So dissamānenapi kāyena dhammaṃ desesi; adissamānenapi kāyena dhammaṃ desesi; dissamānenapi heṭṭhimena upaḍḍhakāyena adissamānenapi uparimena upaḍḍhakāyena dhammaṃ desesi. Dissamānenapi uparimena upaḍḍhakāyena, adissamānenapi heṭṭhimena upaḍḍhakāyena dhammaṃ desesi. So pakativaṇṇaṃ vijahitvā kumārakavaṇṇaṃ vā dasseti, nāgavaṇṇaṃ vā dasseti, supaṇṇavaṇṇaṃ vā dasseti, yakkhavaṇṇaṃ vā dasseti, indavaṇṇaṃ vā 24 dasseti, devavaṇṇaṃ vā dasseti , brahmavaṇṇaṃ vā dasseti, samuddavaṇṇaṃ vā dasseti, pabbatavaṇṇaṃ vā dasseti, vanavaṇṇaṃ vā dasseti, sīhavaṇṇaṃ vā dasseti, byagghavaṇṇaṃ vā dasseti, dīpivaṇṇaṃ vā dasseti, hatthimpi dasseti, assampi dasseti, rathampi dasseti, pattimpi dasseti, vividhampi senābyūhaṃ dassetīti – ayaṃ vikubbanā iddhi.
๑๔. กตมา มโนมยา อิทฺธิ? อิธ ภิกฺขุ อิมมฺหา กายา อญฺญํ กายํ อภินิมฺมินาติ รูปิํ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคิํ อหีนินฺทฺริยํฯ เสยฺยถาปิ ปุริโส มุญฺชมฺหา อีสิกํ ปวาเหยฺยฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘‘อยํ มุโญฺช, อยํ อีสิกาฯ อโญฺญ มุโญฺช, อญฺญา อีสิกาฯ มุญฺชมฺหา เตฺวว อีสิกา ปวาฬฺหา’’ติฯ เสยฺยถา วา ปน ปุริโส อสิํ โกสิยา ปวาเหยฺยฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘‘อยํ อสิ, อยํ โกสิฯ อโญฺญ อสิ, อญฺญา โกสิฯ โกสิยา เตฺวว อสิ ปวาโฬฺห’’ติฯ เสยฺยถา วา ปน ปุริโส อหิํ กรณฺฑา อุทฺธเรยฺยฯ ตสฺส เอวมสฺส – ‘‘อยํ อหิ, อยํ กรโณฺฑฯ อโญฺญ อหิ, อโญฺญ กรโณฺฑฯ กรณฺฑา เตฺวว อหิ อุพฺภโต’’ติฯ เอวเมวํ ภิกฺขุ อิมมฺหา กายา อญฺญํ กายํ อภินิมฺมินาติ รูปิํ มโนมยํ สพฺพงฺคปจฺจงฺคิํ อหีนินฺทฺริยํฯ อยํ มโนมยา อิทฺธิฯ
14. Katamā manomayā iddhi? Idha bhikkhu imamhā kāyā aññaṃ kāyaṃ abhinimmināti rūpiṃ manomayaṃ sabbaṅgapaccaṅgiṃ ahīnindriyaṃ. Seyyathāpi puriso muñjamhā īsikaṃ pavāheyya. Tassa evamassa – ‘‘ayaṃ muñjo, ayaṃ īsikā. Añño muñjo, aññā īsikā. Muñjamhā tveva īsikā pavāḷhā’’ti. Seyyathā vā pana puriso asiṃ kosiyā pavāheyya. Tassa evamassa – ‘‘ayaṃ asi, ayaṃ kosi. Añño asi, aññā kosi. Kosiyā tveva asi pavāḷho’’ti. Seyyathā vā pana puriso ahiṃ karaṇḍā uddhareyya. Tassa evamassa – ‘‘ayaṃ ahi, ayaṃ karaṇḍo. Añño ahi, añño karaṇḍo. Karaṇḍā tveva ahi ubbhato’’ti. Evamevaṃ bhikkhu imamhā kāyā aññaṃ kāyaṃ abhinimmināti rūpiṃ manomayaṃ sabbaṅgapaccaṅgiṃ ahīnindriyaṃ. Ayaṃ manomayā iddhi.
๑๕. กตมา ญาณวิปฺผารา อิทฺธิ? อนิจฺจานุปสฺสนา นิจฺจสญฺญาย ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – ญาณวิปฺผารา อิทฺธิฯ ทุกฺขานุปสฺสนา สุขสญฺญาย… อนตฺตานุปสฺสนา อตฺตสญฺญาย… นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิยา… วิราคานุปสฺสนาย ราคสฺส… นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยสฺส… ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานสฺส ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – ญาณวิปฺผารา อิทฺธิฯ อายสฺมโต พากุลสฺส ญาณวิปฺผารา อิทฺธิ, อายสฺมโต สํกิจฺจสฺส ญาณวิปฺผารา อิทฺธิ, อายสฺมโต ภูตปาลสฺส ญาณวิปฺผารา อิทฺธิฯ อยํ ญาณวิปฺผารา อิทฺธิฯ
15. Katamā ñāṇavipphārā iddhi? Aniccānupassanā niccasaññāya pahānaṭṭho ijjhatīti – ñāṇavipphārā iddhi. Dukkhānupassanā sukhasaññāya… anattānupassanā attasaññāya… nibbidānupassanāya nandiyā… virāgānupassanāya rāgassa… nirodhānupassanāya samudayassa… paṭinissaggānupassanāya ādānassa pahānaṭṭho ijjhatīti – ñāṇavipphārā iddhi. Āyasmato bākulassa ñāṇavipphārā iddhi, āyasmato saṃkiccassa ñāṇavipphārā iddhi, āyasmato bhūtapālassa ñāṇavipphārā iddhi. Ayaṃ ñāṇavipphārā iddhi.
๑๖. กตมา สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ? ปฐเมน ฌาเนน นีวรณานํ ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิฯ ทุติเยน ฌาเนน วิตกฺกวิจารานํ ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิฯ ตติเยน ฌาเนน ปีติยา ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ…เป.… จตุเตฺถน ฌาเนน สุขทุกฺขานํ ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ…เป.… อากาสานญฺจายตนสมาปตฺติยา รูปสญฺญาย ปฎิฆสญฺญาย นานตฺตสญฺญาย ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ…เป.… วิญฺญาณญฺจายตนสมาปตฺติยา อากาสานญฺจายตนสญฺญาย ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ…เป.… อากิญฺจญฺญายตนสมาปตฺติยา วิญฺญาณญฺจายตนสญฺญาย ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ…เป.… เนวสญฺญานาสญฺญายตนสมาปตฺติยา อากิญฺจญฺญายตนสญฺญาย ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิฯ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ, อายสฺมโต สญฺชีวสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ , อายสฺมโต ขาณุโกณฺฑญฺญสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ, อุตฺตราย อุปาสิกาย สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ, สามาวติยา อุปาสิกาย สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิฯ อยํ สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิฯ
16. Katamā samādhivipphārā iddhi? Paṭhamena jhānena nīvaraṇānaṃ pahānaṭṭho ijjhatīti – samādhivipphārā iddhi. Dutiyena jhānena vitakkavicārānaṃ pahānaṭṭho ijjhatīti – samādhivipphārā iddhi. Tatiyena jhānena pītiyā pahānaṭṭho ijjhatīti…pe… catutthena jhānena sukhadukkhānaṃ pahānaṭṭho ijjhatīti…pe… ākāsānañcāyatanasamāpattiyā rūpasaññāya paṭighasaññāya nānattasaññāya pahānaṭṭho ijjhatīti…pe… viññāṇañcāyatanasamāpattiyā ākāsānañcāyatanasaññāya pahānaṭṭho ijjhatīti…pe… ākiñcaññāyatanasamāpattiyā viññāṇañcāyatanasaññāya pahānaṭṭho ijjhatīti…pe… nevasaññānāsaññāyatanasamāpattiyā ākiñcaññāyatanasaññāya pahānaṭṭho ijjhatīti – samādhivipphārā iddhi. Āyasmato sāriputtassa samādhivipphārā iddhi, āyasmato sañjīvassa samādhivipphārā iddhi , āyasmato khāṇukoṇḍaññassa samādhivipphārā iddhi, uttarāya upāsikāya samādhivipphārā iddhi, sāmāvatiyā upāsikāya samādhivipphārā iddhi. Ayaṃ samādhivipphārā iddhi.
๑๗. กตมา อริยา อิทฺธิ? อิธ ภิกฺขุ 25 สเจ อากงฺขติ – ‘‘ปฎิกูเล อปฺปฎิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’’นฺติ, อปฺปฎิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘‘อปฺปฎิกูเล ปฎิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’’นฺติ, ปฎิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘‘ปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’’นฺติ, อปฺปฎิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘‘อปฺปฎิกูเล จ ปฎิกูเล จ ปฎิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’’นฺติ, ปฎิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘‘ปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูเล จ ตทุภยํ อภินิวเชฺชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ
17. Katamā ariyā iddhi? Idha bhikkhu 26 sace ākaṅkhati – ‘‘paṭikūle appaṭikūlasaññī vihareyya’’nti, appaṭikūlasaññī tattha viharati. Sace ākaṅkhati – ‘‘appaṭikūle paṭikūlasaññī vihareyya’’nti, paṭikūlasaññī tattha viharati. Sace ākaṅkhati – ‘‘paṭikūle ca appaṭikūle ca appaṭikūlasaññī vihareyya’’nti, appaṭikūlasaññī tattha viharati. Sace ākaṅkhati – ‘‘appaṭikūle ca paṭikūle ca paṭikūlasaññī vihareyya’’nti, paṭikūlasaññī tattha viharati. Sace ākaṅkhati – ‘‘paṭikūle ca appaṭikūle ca tadubhayaṃ abhinivajjetvā upekkhako vihareyyaṃ sato sampajāno’’ti, upekkhako tattha viharati sato sampajāno.
กถํ ปฎิกูเล อปฺปฎิกูลสญฺญี วิหรติ? อนิฎฺฐสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรติฯ เอวํ ปฎิกูเล อปฺปฎิกูลสญฺญี วิหรติฯ
Kathaṃ paṭikūle appaṭikūlasaññī viharati? Aniṭṭhasmiṃ vatthusmiṃ mettāya vā pharati, dhātuto vā upasaṃharati. Evaṃ paṭikūle appaṭikūlasaññī viharati.
กถํ อปฺปฎิกูเล ปฎิกูลสญฺญี วิหรติ? อิฎฺฐสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรติฯ เอวํ อปฺปฎิกูเล ปฎิกูลสญฺญี วิหรติฯ
Kathaṃ appaṭikūle paṭikūlasaññī viharati? Iṭṭhasmiṃ vatthusmiṃ asubhāya vā pharati, aniccato vā upasaṃharati. Evaṃ appaṭikūle paṭikūlasaññī viharati.
กถํ ปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูลสญฺญี วิหรติ? อนิฎฺฐสฺมิญฺจ อิฎฺฐสฺมิญฺจ วตฺถุสฺมิํ เมตฺตาย วา ผรติ, ธาตุโต วา อุปสํหรติฯ เอวํ ปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูลสญฺญี วิหรติ ฯ
Kathaṃ paṭikūle ca appaṭikūle ca appaṭikūlasaññī viharati? Aniṭṭhasmiñca iṭṭhasmiñca vatthusmiṃ mettāya vā pharati, dhātuto vā upasaṃharati. Evaṃ paṭikūle ca appaṭikūle ca appaṭikūlasaññī viharati .
กถํ อปฺปฎิกูเล จ ปฎิกูเล จ ปฎิกูลสญฺญี วิหรติ? อิฎฺฐสฺมิญฺจ อนิฎฺฐสฺมิญฺจ วตฺถุสฺมิํ อสุภาย วา ผรติ, อนิจฺจโต วา อุปสํหรติฯ เอวํ อปฺปฎิกูเล จ ปฎิกูเล จ ปฎิกูลสญฺญี วิหรติฯ
Kathaṃ appaṭikūle ca paṭikūle ca paṭikūlasaññī viharati? Iṭṭhasmiñca aniṭṭhasmiñca vatthusmiṃ asubhāya vā pharati, aniccato vā upasaṃharati. Evaṃ appaṭikūle ca paṭikūle ca paṭikūlasaññī viharati.
กถํ ปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูเล จ ตทุภยํ อภินิวเชฺชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน? อิธ ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฎฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ เอวํ ปฎิกูเล จ อปฺปฎิกูเล จ ตทุภยํ อภินิวเชฺชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ อยํ อริยา อิทฺธิฯ
Kathaṃ paṭikūle ca appaṭikūle ca tadubhayaṃ abhinivajjetvāupekkhako viharati sato sampajāno? Idha bhikkhu cakkhunā rūpaṃ disvā neva sumano hoti na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno. Sotena saddaṃ sutvā…pe… ghānena gandhaṃ ghāyitvā… jivhāya rasaṃ sāyitvā… kāyena phoṭṭhabbaṃ phusitvā… manasā dhammaṃ viññāya neva sumano hoti na dummano, upekkhako viharati sato sampajāno. Evaṃ paṭikūle ca appaṭikūle ca tadubhayaṃ abhinivajjetvā upekkhako viharati sato sampajāno. Ayaṃ ariyā iddhi.
๑๘. กตมา กมฺมวิปากชา อิทฺธิ? สเพฺพสํ ปกฺขีนํ, สเพฺพสํ เทวานํ, เอกจฺจานํ มนุสฺสานํ, เอกจฺจานํ วินิปาติกานํฯ อยํ กมฺมวิปากชา อิทฺธิฯ
18. Katamā kammavipākajā iddhi? Sabbesaṃ pakkhīnaṃ, sabbesaṃ devānaṃ, ekaccānaṃ manussānaṃ, ekaccānaṃ vinipātikānaṃ. Ayaṃ kammavipākajā iddhi.
กตมา ปุญฺญวโต อิทฺธิ? ราชา จกฺกวตฺตี 27 เวหาสํ คจฺฉติ สทฺธิํ จตุรงฺคินิยา เสนาย, อนฺตมโส อสฺสพนฺธโคปุริเส 28 อุปาทายฯ โชติกสฺส คหปติสฺส ปุญฺญวโต อิทฺธิ, ชฎิลสฺส คหปติสฺส ปุญฺญวโต อิทฺธิ, เมณฺฑกสฺส คหปติสฺส ปุญฺญวโต อิทฺธิ, โฆสิตสฺส คหปติสฺส ปุญฺญวโต อิทฺธิ, ปญฺจนฺนํ มหาปุญฺญานํ ปุญฺญวโต อิทฺธิฯ อยํ ปุญฺญวโต อิทฺธิฯ
Katamā puññavato iddhi? Rājā cakkavattī 29 vehāsaṃ gacchati saddhiṃ caturaṅginiyā senāya, antamaso assabandhagopurise 30 upādāya. Jotikassa gahapatissa puññavato iddhi, jaṭilassa gahapatissa puññavato iddhi, meṇḍakassa gahapatissa puññavato iddhi, ghositassa gahapatissa puññavato iddhi, pañcannaṃ mahāpuññānaṃ puññavato iddhi. Ayaṃ puññavato iddhi.
กตมา วิชฺชามยา อิทฺธิ? วิชฺชาธรา วิชฺชํ ปริชเปฺปตฺวา เวหาสํ คจฺฉนฺติ, อากาเส อนฺตลิเกฺข หตฺถิมฺปิ ทเสฺสนฺติ, อสฺสมฺปิ ทเสฺสนฺติ, รถมฺปิ ทเสฺสนฺติ, ปตฺติมฺปิ ทเสฺสนฺติ, วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทเสฺสนฺติฯ อยํ วิชฺชามยา อิทฺธิฯ
Katamā vijjāmayā iddhi? Vijjādharā vijjaṃ parijappetvā vehāsaṃ gacchanti, ākāse antalikkhe hatthimpi dassenti, assampi dassenti, rathampi dassenti, pattimpi dassenti, vividhampi senābyūhaṃ dassenti. Ayaṃ vijjāmayā iddhi.
กถํ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมา ปโยคปจฺจยา อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิ? เนกฺขเมฺมน กามจฺฉนฺทสฺส ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – ตตฺถ ตตฺถ สมฺมา ปโยคปจฺจยา อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิฯ อพฺยาปาเทน พฺยาปาทสฺส ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – ตตฺถ ตตฺถ สมฺมา ปโยคปจฺจยา อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิ…เป.… อรหตฺตมเคฺคน สพฺพกิเลสานํ ปหานโฎฺฐ อิชฺฌตีติ – ตตฺถ ตตฺถ สมฺมา ปโยคปจฺจยา อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิฯ เอวํ ตตฺถ ตตฺถ สมฺมา ปโยคปจฺจยา อิชฺฌนเฎฺฐน อิทฺธิฯ อิมา ทส อิทฺธิโยฯ
Kathaṃ tattha tattha sammā payogapaccayā ijjhanaṭṭhena iddhi? Nekkhammena kāmacchandassa pahānaṭṭho ijjhatīti – tattha tattha sammā payogapaccayā ijjhanaṭṭhena iddhi. Abyāpādena byāpādassa pahānaṭṭho ijjhatīti – tattha tattha sammā payogapaccayā ijjhanaṭṭhena iddhi…pe… arahattamaggena sabbakilesānaṃ pahānaṭṭho ijjhatīti – tattha tattha sammā payogapaccayā ijjhanaṭṭhena iddhi. Evaṃ tattha tattha sammā payogapaccayā ijjhanaṭṭhena iddhi. Imā dasa iddhiyo.
อิทฺธิกถา นิฎฺฐิตาฯ
Iddhikathā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā / อิทฺธิกถาวณฺณนา • Iddhikathāvaṇṇanā