Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิภงฺค-มูลฎีกา • Vibhaṅga-mūlaṭīkā

    ๙. อิทฺธิปาทวิภโงฺค

    9. Iddhipādavibhaṅgo

    ๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา

    1. Suttantabhājanīyavaṇṇanā

    ๔๓๑. อิทฺธิ-สทฺทสฺส ปฐโม กตฺตุอโตฺถ, ทุติโย กรณโตฺถ วุโตฺต, ปาท-สทฺทสฺส เอโก กรณเมวโตฺถ วุโตฺตฯ ปชฺชิตพฺพาว อิทฺธิ วุตฺตา, น จ อิชฺฌนฺตี ปชฺชิตพฺพา จ อิทฺธิ ปชฺชนกรเณน ปาเทน สมานาธิกรณา โหตีติ ‘‘ปฐเมนเตฺถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตถา อิทฺธิกิริยากรเณน สาเธตพฺพา จ วุทฺธิสงฺขาตา อิทฺธิ ปชฺชนกิริยากรเณน ปชฺชิตพฺพาติ ทฺวินฺนํ กรณานํ น อสมานาธิกรณตา สมฺภวตีติ ‘‘ทุติเยนเตฺถน อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ จ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ปฐเมนเตฺถน อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท, ทุติเยนเตฺถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโทติ เอวํ โยชนา ยุชฺชติฯ

    431. Iddhi-saddassa paṭhamo kattuattho, dutiyo karaṇattho vutto, pāda-saddassa eko karaṇamevattho vutto. Pajjitabbāva iddhi vuttā, na ca ijjhantī pajjitabbā ca iddhi pajjanakaraṇena pādena samānādhikaraṇā hotīti ‘‘paṭhamenatthena iddhi eva pādo iddhipādo’’ti na sakkā vattuṃ, tathā iddhikiriyākaraṇena sādhetabbā ca vuddhisaṅkhātā iddhi pajjanakiriyākaraṇena pajjitabbāti dvinnaṃ karaṇānaṃ na asamānādhikaraṇatā sambhavatīti ‘‘dutiyenatthena iddhiyā pādo iddhipādo’’ti ca na sakkā vattuṃ, tasmā paṭhamenatthena iddhiyā pādo iddhipādo, dutiyenatthena iddhi eva pādo iddhipādoti evaṃ yojanā yujjati.

    ‘‘ฉนฺทํ เจ…เป.… อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธี’’ติ อิมาย ปาฬิยา ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ อธิปติ-สทฺทโลปํ กตฺวา สมาโส วุโตฺตติ วิญฺญายติ, อธิปติ-สทฺทตฺถทสฺสนวเสน ปน ‘‘ฉนฺทเหตุโก ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธี’’ติ อฎฺฐกถายํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ปธานภูตาติ วีริยภูตาติ เกจิ วทนฺติฯ สงฺขตสงฺขาราทินิวตฺตนตฺถญฺหิ ปธานคฺคหณนฺติฯ อถ วา ตํ ตํ วิเสสํ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, สพฺพํ วีริยํฯ ตตฺถ จตุกิจฺจสาธกโต อญฺญสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณนฺติ ปธานภูตา เสฎฺฐภูตาติ อโตฺถฯ จตุพฺพิธสฺส ปน วีริยสฺส อธิเปฺปตตฺตา พหุวจนนิเทฺทโส กโตฯ อธิฎฺฐานเฎฺฐนาติ ทุวิธตฺถายปิ อิทฺธิยา อธิฎฺฐานเตฺถนฯ ปาทภูตนฺติ อิมินา วิสุํ สมาสโยชนาวเสน ปน โย ปุเพฺพ อิทฺธิปาทโตฺถ ปาท-สทฺทสฺส อุปายตฺถตํ คเหตฺวา ยถายุโตฺต วุโตฺต, โส วกฺขมานานํ ปฎิลาภปุพฺพภาคานํ กตฺตุกรณิทฺธิภาวํ, อุตฺตรจูฬภาชนีเย วา วุเตฺตหิ ฉนฺทาทีหิ อิทฺธิปาเทหิ สาเธตพฺพาย อิทฺธิยา กตฺติทฺธิภาวํ, ฉนฺทาทีนญฺจ กรณิทฺธิภาวํ สนฺธาย วุโตฺตติ เวทิตโพฺพฯ

    ‘‘Chandaṃ ce…pe… ayaṃ vuccati chandasamādhī’’ti imāya pāḷiyā chandādhipati samādhi chandasamādhīti adhipati-saddalopaṃ katvā samāso vuttoti viññāyati, adhipati-saddatthadassanavasena pana ‘‘chandahetuko chandādhiko vā samādhi chandasamādhī’’ti aṭṭhakathāyaṃ vuttanti veditabbaṃ. Padhānabhūtāti vīriyabhūtāti keci vadanti. Saṅkhatasaṅkhārādinivattanatthañhi padhānaggahaṇanti. Atha vā taṃ taṃ visesaṃ saṅkharotīti saṅkhāro, sabbaṃ vīriyaṃ. Tattha catukiccasādhakato aññassa nivattanatthaṃ padhānaggahaṇanti padhānabhūtā seṭṭhabhūtāti attho. Catubbidhassa pana vīriyassa adhippetattā bahuvacananiddeso kato. Adhiṭṭhānaṭṭhenāti duvidhatthāyapi iddhiyā adhiṭṭhānatthena. Pādabhūtanti iminā visuṃ samāsayojanāvasena pana yo pubbe iddhipādattho pāda-saddassa upāyatthataṃ gahetvā yathāyutto vutto, so vakkhamānānaṃ paṭilābhapubbabhāgānaṃ kattukaraṇiddhibhāvaṃ, uttaracūḷabhājanīye vā vuttehi chandādīhi iddhipādehi sādhetabbāya iddhiyā kattiddhibhāvaṃ, chandādīnañca karaṇiddhibhāvaṃ sandhāya vuttoti veditabbo.

    วีริยิทฺธิปาทนิเทฺทเส ‘‘วีริยสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคต’’นฺติ ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตํฯ ตตฺถ ปุริมํ สมาธิวิเสสนํ ‘‘วีริยาธิปติ สมาธิ วีริยสมาธี’’ติ, ทุติยํ สมนฺนาคมงฺคทสฺสนํฯ เทฺวเยว หิ สพฺพตฺถ สมนฺนาคมงฺคานิ สมาธิ ปธานสงฺขาโร จ, ฉนฺทาทโย สมาธิวิเสสนานิ, ปธานสงฺขาโร ปน ปธานวจเนเนว วิเสสิโต, น ฉนฺทาทีหีติ น อิธ วีริยาธิปติตา ปธานสงฺขารสฺส วุตฺตา โหติฯ วีริยญฺจ สมาธิํ วิเสเสตฺวา ฐิตเมว สมนฺนาคมงฺควเสน ปธานสงฺขารวจเนน วุตฺตนฺติ นาปิ ทฺวีหิ วีริเยหิ สมนฺนาคโม วุโตฺต โหตีติฯ ยสฺมา ปน ฉนฺทาทีหิ วิสิโฎฺฐ สมาธิ, ตถา วิสิเฎฺฐเนว จ เตน สมฺปยุโตฺต ปธานสงฺขาโร เสสธมฺมา จ, ตสฺมา สมาธิวิเสสนานํ วเสน จตฺตาโร อิทฺธิปาทา วุตฺตาฯ วิเสสนภาโว จ ฉนฺทาทีนํ ตํตํอวสฺสยนวเสน โหตีติ ‘‘ฉนฺทสมาธิ…เป.… อิทฺธิปาท’’นฺติ เอตฺถ นิสฺสยเตฺถปิ ปาท-สเทฺท อุปายเตฺถน ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตา วุตฺตา โหติฯ เตเนว อุตฺตรจูฬภาชนีเย ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา ฉนฺทาทีนเมว อิทฺธิปาทตา วุตฺตาฯ ปญฺหปุจฺฉเก จ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธี’’ติอาทินาว (วิภ. ๔๖๒) อุเทฺทสํ กตฺวาปิ ปุน ฉนฺทาทีนํเยว กุสลาทิภาโว วิภโตฺตติฯ อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมว หิ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ, อญฺญถา จตุพฺพิธตา น โหตีติ อยเมตฺถ ปาฬิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตโพฺพฯ

    Vīriyiddhipādaniddese ‘‘vīriyasamādhipadhānasaṅkhārasamannāgata’’nti dvikkhattuṃ vīriyaṃ āgataṃ. Tattha purimaṃ samādhivisesanaṃ ‘‘vīriyādhipati samādhi vīriyasamādhī’’ti, dutiyaṃ samannāgamaṅgadassanaṃ. Dveyeva hi sabbattha samannāgamaṅgāni samādhi padhānasaṅkhāro ca, chandādayo samādhivisesanāni, padhānasaṅkhāro pana padhānavacaneneva visesito, na chandādīhīti na idha vīriyādhipatitā padhānasaṅkhārassa vuttā hoti. Vīriyañca samādhiṃ visesetvā ṭhitameva samannāgamaṅgavasena padhānasaṅkhāravacanena vuttanti nāpi dvīhi vīriyehi samannāgamo vutto hotīti. Yasmā pana chandādīhi visiṭṭho samādhi, tathā visiṭṭheneva ca tena sampayutto padhānasaṅkhāro sesadhammā ca, tasmā samādhivisesanānaṃ vasena cattāro iddhipādā vuttā. Visesanabhāvo ca chandādīnaṃ taṃtaṃavassayanavasena hotīti ‘‘chandasamādhi…pe… iddhipāda’’nti ettha nissayatthepi pāda-sadde upāyatthena chandādīnaṃ iddhipādatā vuttā hoti. Teneva uttaracūḷabhājanīye ‘‘cattāro iddhipādā chandiddhipādo’’tiādinā chandādīnameva iddhipādatā vuttā. Pañhapucchake ca ‘‘cattāro iddhipādā idha bhikkhu chandasamādhī’’tiādināva (vibha. 462) uddesaṃ katvāpi puna chandādīnaṃyeva kusalādibhāvo vibhattoti. Upāyiddhipādadassanatthameva hi nissayiddhipādadassanaṃ kataṃ, aññathā catubbidhatā na hotīti ayamettha pāḷivasena atthavinicchayo veditabbo.

    ๔๓๓. รถธุเรติ รถสฺส ปุรโตฯ หีนชาติโก จณฺฑาโล อุปฎฺฐานาทิคุณโยเคปิ เสนาปติฎฺฐานาทีนิ น ลภตีติ อาห ‘‘ชาติํ โสเธตฺวา…เป.… ชาติํ อวสฺสยตี’’ติฯ อมนฺตนีโยติ หิตาหิตมนฺตเน น อรโหฯ

    433. Rathadhureti rathassa purato. Hīnajātiko caṇḍālo upaṭṭhānādiguṇayogepi senāpatiṭṭhānādīni na labhatīti āha ‘‘jātiṃ sodhetvā…pe… jātiṃ avassayatī’’ti. Amantanīyoti hitāhitamantane na araho.

    รฎฺฐปาลเตฺถโร ฉเนฺท สติ กถํ นานุชานิสฺสนฺตีติ สตฺตปิ ภตฺตานิ อภุญฺชิตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ฉนฺทเมว อวสฺสาย โลกุตฺตรธมฺมํ นิพฺพเตฺตสีติ อาห ‘‘รฎฺฐปาลเตฺถโร วิยา’’ติฯ

    Raṭṭhapālatthero chande sati kathaṃ nānujānissantīti sattapi bhattāni abhuñjitvā mātāpitaro anujānāpetvā pabbajitvā chandameva avassāya lokuttaradhammaṃ nibbattesīti āha ‘‘raṭṭhapālatthero viyā’’ti.

    โมฆราชเตฺถโร วีมํสํ อวสฺสยีติ ตสฺส ภควา ‘‘สุญฺญโต โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติ (สุ. นิ. ๑๑๒๕) สุญฺญตากถํ กเถสิ, ปญฺญานิสฺสิตมานนิคฺคหตฺถญฺจ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปุจฺฉิโต ปญฺหํ น กเถสิฯ ตตฺถ ปุนปฺปุนํ ฉนฺทุปฺปาทนํ โตสนํ วิย โหตีติ ฉนฺทสฺส อุปฎฺฐานสทิสตา วุตฺตา, ถามภาวโต วีริยสฺส สูรตฺตสทิสตา, ‘‘ฉทฺวาราธิปติ ราชา’’ติ (ธ. ป. อฎฺฐ. ๒.๑๘๑ เอรกปตฺตนาคราชวตฺถุ) วจนโต ปุพฺพงฺคมตฺตา จิตฺตสฺส วิสิฎฺฐชาติสทิสตาฯ

    Mogharājatthero vīmaṃsaṃ avassayīti tassa bhagavā ‘‘suññato lokaṃ avekkhassū’’ti (su. ni. 1125) suññatākathaṃ kathesi, paññānissitamānaniggahatthañca dvikkhattuṃ pucchito pañhaṃ na kathesi. Tattha punappunaṃ chanduppādanaṃ tosanaṃ viya hotīti chandassa upaṭṭhānasadisatā vuttā, thāmabhāvato vīriyassa sūrattasadisatā, ‘‘chadvārādhipati rājā’’ti (dha. pa. aṭṭha. 2.181 erakapattanāgarājavatthu) vacanato pubbaṅgamattā cittassa visiṭṭhajātisadisatā.

    อเภทโตติ ฉนฺทาทิเก ตโย ตโย ธเมฺม สมฺปิเณฺฑตฺวา, อิทฺธิอิทฺธิปาเท อมิเสฺสตฺวา วา กถนนฺติ อโตฺถฯ ตตฺถ ฉนฺทวีริยาทโย วิเสเสน อิชฺฌนฺติ เอตายาติ อิทฺธีติ วุจฺจนฺติ, อิชฺฌตีติ อิทฺธีติ อวิเสเสน สมาธิปธานสงฺขาราปีติฯ

    Abhedatoti chandādike tayo tayo dhamme sampiṇḍetvā, iddhiiddhipāde amissetvā vā kathananti attho. Tattha chandavīriyādayo visesena ijjhanti etāyāti iddhīti vuccanti, ijjhatīti iddhīti avisesena samādhipadhānasaṅkhārāpīti.

    ฉนฺทิทฺธิปาทสมาธิทฺธิปาทาทโย วิสิฎฺฐา, ปาโท สพฺพิทฺธีนํ สาธารณตฺตา อวิสิโฎฺฐ, ตสฺมา วิสิเฎฺฐเสฺวว ปเวสํ อวตฺวา อวิสิเฎฺฐ จ ปเวสํ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ ทเสฺสตุํ สพฺพตฺถ ‘‘ปาเท ปติฎฺฐาติปิ วตฺตุํ วฎฺฎตี’’ติ อาหฯ ตเตฺถวาติ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารอิทฺธิปาเทสุ, จตูสุ ฉนฺทาทิเกเสฺววาติ อโตฺถฯ ‘‘ฉนฺทวโต โก สมาธิ น อิชฺฌิสฺสตี’’ติ สมาธิภาวนามุเขน ภาวิตา สมาธิภาวิตาฯ

    Chandiddhipādasamādhiddhipādādayo visiṭṭhā, pādo sabbiddhīnaṃ sādhāraṇattā avisiṭṭho, tasmā visiṭṭhesveva pavesaṃ avatvā avisiṭṭhe ca pavesaṃ vattuṃ yuttanti dassetuṃ sabbattha ‘‘pāde patiṭṭhātipi vattuṃ vaṭṭatī’’ti āha. Tatthevāti chandasamādhipadhānasaṅkhāraiddhipādesu, catūsu chandādikesvevāti attho. ‘‘Chandavato ko samādhi na ijjhissatī’’ti samādhibhāvanāmukhena bhāvitā samādhibhāvitā.

    เอตฺถ ปนาติ เภทกถายํ อเภทกถนโต อภินวํ นตฺถีติ อโตฺถฯ เย หิ ตโย ธมฺมา อเภทกถายํ อิทฺธิอิทฺธิปาโทเตฺวว วุตฺตา, เต เอว เภทกถายํ อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ, เสสา อิทฺธิปาทา เอวาติ เอวํ อภินวาภาวํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ฉโนฺท สมาธี’’ติอาทิมาหฯ อิเม หิ ตโย…เป.… น วินา, ตสฺมา เสสา สมฺปยุตฺตกา จตฺตาโร ขนฺธา เตสํ ติณฺณํ อิชฺฌเนน อิทฺธิ นาม ภเวยฺยุํ, น อตฺตโน สภาเวนาติ เต อิทฺธิปาทา เอว โหนฺติ, น อิทฺธีติ เอวมิทํ ปุริมสฺส การณภาเวน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ อถ วา ติณฺณํ อิทฺธิตา อิทฺธิปาทตา จ วุตฺตา, เสสานญฺจ อิทฺธิปาทตาว, ตํ สพฺพํ สาเธตุํ ‘‘อิเม หิ ตโย…เป.… น วินา’’ติ อาหฯ เตน ยสฺมา อิชฺฌนฺติ, ตสฺมา อิทฺธิฯ อิชฺฌมานา จ ยสฺมา สมฺปยุตฺตเกหิ สเหว อิชฺฌนฺติ, น วินา, ตสฺมา สมฺปยุตฺตกา อิทฺธิปาทา, ตทโนฺตคธตฺตา ปน เต ตโย ธมฺมา อิทฺธิปาทาปิ โหนฺตีติ ทเสฺสติฯ สมฺปยุตฺตกานมฺปิ ปน ขนฺธานํ อิทฺธิภาวปริยาโย อตฺถีติ ทเสฺสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺตกา ปนา’’ติอาทิมาหฯ จตูสุ ขเนฺธสุ เอกเทสสฺส อิทฺธิตา, จตุนฺนมฺปิ ‘‘อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ อิมินา อเตฺถน อิทฺธิปาทตา, ปุนปิ จตุนฺนํ ขนฺธานํ ‘‘อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ อิมินา อเตฺถน อิทฺธิปาทตา จ ทสฺสิตา, น อญฺญสฺสาติ กตฺวา อาห ‘‘น อญฺญสฺส กสฺสจิ อธิวจน’’นฺติฯ อิมินา ‘‘อิทฺธิ นาม อนิปฺผนฺนา’’ติ อิทํ วาทํ ปฎิเสเธติฯ

    Ettha panāti bhedakathāyaṃ abhedakathanato abhinavaṃ natthīti attho. Ye hi tayo dhammā abhedakathāyaṃ iddhiiddhipādotveva vuttā, te eva bhedakathāyaṃ iddhīpi honti iddhipādāpi, sesā iddhipādā evāti evaṃ abhinavābhāvaṃ dassento ‘‘chando samādhī’’tiādimāha. Ime hi tayo…pe… na vinā, tasmā sesā sampayuttakā cattāro khandhā tesaṃ tiṇṇaṃ ijjhanena iddhi nāma bhaveyyuṃ, na attano sabhāvenāti te iddhipādā eva honti, na iddhīti evamidaṃ purimassa kāraṇabhāvena vuttanti veditabbaṃ. Atha vā tiṇṇaṃ iddhitā iddhipādatā ca vuttā, sesānañca iddhipādatāva, taṃ sabbaṃ sādhetuṃ ‘‘ime hi tayo…pe… na vinā’’ti āha. Tena yasmā ijjhanti, tasmā iddhi. Ijjhamānā ca yasmā sampayuttakehi saheva ijjhanti, na vinā, tasmā sampayuttakā iddhipādā, tadantogadhattā pana te tayo dhammā iddhipādāpi hontīti dasseti. Sampayuttakānampi pana khandhānaṃ iddhibhāvapariyāyo atthīti dassetuṃ ‘‘sampayuttakā panā’’tiādimāha. Catūsu khandhesu ekadesassa iddhitā, catunnampi ‘‘iddhiyā pādo iddhipādo’’ti iminā atthena iddhipādatā, punapi catunnaṃ khandhānaṃ ‘‘iddhi eva pādo iddhipādo’’ti iminā atthena iddhipādatā ca dassitā, na aññassāti katvā āha ‘‘na aññassakassaci adhivacana’’nti. Iminā ‘‘iddhi nāma anipphannā’’ti idaṃ vādaṃ paṭisedheti.

    ปฎิลาภปุพฺพภาคานํ ปฎิลาภเสฺสว จ อิทฺธิอิทฺธิปาทตาวจนํ อปุพฺพนฺติ กตฺวา ปุจฺฉติ ‘‘เกนเฎฺฐน อิทฺธิ, เกนเฎฺฐน ปาโท’’ติฯ ปฎิลาโภ ปุพฺพภาโค จาติ วจนเสโสฯ อุปาโย จ อุปายภาเวเนว อตฺตโน ผลสฺส ปติฎฺฐา โหตีติ อาห ‘‘ปติฎฺฐานเฎฺฐเนว ปาโท’’ติฯ ฉโนฺทเยว…เป.… วีมํสาว วีมํสิทฺธิปาโทติ กถิตํ, ตสฺมา น จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิยา สมานกาลิกา นานากฺขณิกา วา อิทฺธิปาทา, เชฎฺฐกภูตา ปน ฉนฺทาทโย เอว สพฺพตฺถ อิทฺธิปาทาติ อยเมว เตสํ อฎฺฐกถาจริยานํ อธิปฺปาโยฯ สุตฺตนฺตภาชนีเย หิ อภิธมฺมภาชนีเย จ สมาธิวิเสสนวเสน ทสฺสิตานํ อุปายภูตานํ อิทฺธิปาทานํ ปากฎกรณตฺถํ อุตฺตรจูฬภาชนียํ วุตฺตนฺติฯ เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิเถรา กิรฯ

    Paṭilābhapubbabhāgānaṃ paṭilābhasseva ca iddhiiddhipādatāvacanaṃ apubbanti katvā pucchati ‘‘kenaṭṭhena iddhi, kenaṭṭhena pādo’’ti. Paṭilābho pubbabhāgo cāti vacanaseso. Upāyo ca upāyabhāveneva attano phalassa patiṭṭhā hotīti āha ‘‘patiṭṭhānaṭṭheneva pādo’’ti. Chandoyeva…pe… vīmaṃsāva vīmaṃsiddhipādoti kathitaṃ, tasmā na cattāro khandhā iddhiyā samānakālikā nānākkhaṇikā vā iddhipādā, jeṭṭhakabhūtā pana chandādayo eva sabbattha iddhipādāti ayameva tesaṃ aṭṭhakathācariyānaṃ adhippāyo. Suttantabhājanīye hi abhidhammabhājanīye ca samādhivisesanavasena dassitānaṃ upāyabhūtānaṃ iddhipādānaṃ pākaṭakaraṇatthaṃ uttaracūḷabhājanīyaṃ vuttanti. Kecīti uttaravihāravāsitherā kira.

    สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Suttantabhājanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา

    2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā

    ๔๔๔. อภิธมฺมภาชนีเย ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส ผโสฺส…เป.… ปคฺคาโห อวิเกฺขโป’’ติ (วิภ. ๔๔๗) อิทฺธิอิทฺธิปาทตฺถทสฺสนตฺถํ ปคฺคาหาวิเกฺขปา วุตฺตา, จิตฺตปญฺญา จ สงฺขิปิตฺวาติฯ จตฺตาริ นยสหสฺสานิ วิภตฺตานีติ อิทํ สาธิปติวารานํ ปริปุณฺณานํ อภาวา วิจาเรตพฺพํฯ น หิ อธิปตีนํ อธิปตโย วิชฺชนฺติ, เอเกกสฺมิํ ปน อิทฺธิปาทนิเทฺทเส เอเกโก อธิปติวาโร ลพฺภตีติ โสฬส โสฬส นยสตานิ ลพฺภนฺติฯ

    444. Abhidhammabhājanīye ‘‘iddhipādoti tathābhūtassa phasso…pe… paggāho avikkhepo’’ti (vibha. 447) iddhiiddhipādatthadassanatthaṃ paggāhāvikkhepā vuttā, cittapaññā ca saṅkhipitvāti. Cattāri nayasahassāni vibhattānīti idaṃ sādhipativārānaṃ paripuṇṇānaṃ abhāvā vicāretabbaṃ. Na hi adhipatīnaṃ adhipatayo vijjanti, ekekasmiṃ pana iddhipādaniddese ekeko adhipativāro labbhatīti soḷasa soḷasa nayasatāni labbhanti.

    อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ๓. ปญฺหปุจฺฉกวณฺณนา

    3. Pañhapucchakavaṇṇanā

    นนุ จ จตฺตาโรปิ อธิปตโย เอกกฺขเณ ลพฺภนฺติ, อญฺญมญฺญสฺส ปน อธิปตโย น ภวนฺติ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา น มคฺคาธิปติโน’’ติ วุตฺตตฺตาฯ ราชปุโตฺตปมาปิ หิ เอตมตฺถํ ทีเปตีติ? น, เอกกฺขเณ ทุติยสฺส อธิปติโน อภาวโต เอว, ‘‘น มคฺคาธิปติโน’’ติ วุตฺตตฺตา ราชปุโตฺตปมา อธิปติํ น กโรนฺตีติ อิมเมวตฺถํ ทีเปติ, น อธิปตีนํ สหภาวํฯ ตํ กถํ ชานิตพฺพนฺติ? ปฎิกฺขิตฺตตฺตาฯ อธิปติปจฺจยนิเทฺทเส หิ อฎฺฐกถายํ (ปฎฺฐา. อฎฺฐ. ๑.๓) วุตฺตา ‘‘กสฺมา ปน ยถา เหตุปจฺจยนิเทฺทเส ‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกาน’นฺติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘อธิปตี อธิปติสมฺปยุตฺตกาน’นฺติ อวตฺวา ‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’นฺติอาทินา นเยน เทสนา กตาติ? เอกกฺขเณ อภาวโต’’ติฯ สติ จ จตุนฺนํ อธิปตีนํ สหภาเว ‘‘อริยมคฺคสมงฺคิสฺส วีมํสาธิปเตยฺยํ มคฺคํ ภาเวนฺตสฺสา’’ติ วิเสสนํ น กตฺตพฺพํ สิยา อวีมํสาธิปติกสฺส มคฺคสฺส อภาวาฯ ฉนฺทาทีนํ อญฺญมญฺญาธิปติกรณภาเว จ ‘‘วีมํสํ ฐเปตฺวา ตํสมฺปยุโตฺต’’ติอาทินา ฉนฺทาทีนํ วีมํสาธิปติกตฺตวจนํ น วตฺตพฺพํ สิยาฯ ตถา ‘‘จตฺตาโร อริยมคฺคา สิยา มคฺคาธิปติโน, สิยา น วตฺตพฺพา มคฺคาธิปติโน’’ติ (ธ. ส. ๑๔๒๙) เอวมาทีหิปิ อธิปตีนํ สหภาโว ปฎิกฺขิโตฺต เอวาติฯ

    Nanu ca cattāropi adhipatayo ekakkhaṇe labbhanti, aññamaññassa pana adhipatayo na bhavanti ‘‘cattāro iddhipādā na maggādhipatino’’ti vuttattā. Rājaputtopamāpi hi etamatthaṃ dīpetīti? Na, ekakkhaṇe dutiyassa adhipatino abhāvato eva, ‘‘na maggādhipatino’’ti vuttattā rājaputtopamā adhipatiṃ na karontīti imamevatthaṃ dīpeti, na adhipatīnaṃ sahabhāvaṃ. Taṃ kathaṃ jānitabbanti? Paṭikkhittattā. Adhipatipaccayaniddese hi aṭṭhakathāyaṃ (paṭṭhā. aṭṭha. 1.3) vuttā ‘‘kasmā pana yathā hetupaccayaniddese ‘hetū hetusampayuttakāna’nti vuttaṃ, evamidha ‘adhipatī adhipatisampayuttakāna’nti avatvā ‘chandādhipati chandasampayuttakāna’ntiādinā nayena desanā katāti? Ekakkhaṇe abhāvato’’ti. Sati ca catunnaṃ adhipatīnaṃ sahabhāve ‘‘ariyamaggasamaṅgissa vīmaṃsādhipateyyaṃ maggaṃ bhāventassā’’ti visesanaṃ na kattabbaṃ siyā avīmaṃsādhipatikassa maggassa abhāvā. Chandādīnaṃ aññamaññādhipatikaraṇabhāve ca ‘‘vīmaṃsaṃ ṭhapetvā taṃsampayutto’’tiādinā chandādīnaṃ vīmaṃsādhipatikattavacanaṃ na vattabbaṃ siyā. Tathā ‘‘cattāro ariyamaggā siyā maggādhipatino, siyā na vattabbā maggādhipatino’’ti (dha. sa. 1429) evamādīhipi adhipatīnaṃ sahabhāvo paṭikkhitto evāti.

    ปญฺหปุจฺฉกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Pañhapucchakavaṇṇanā niṭṭhitā.

    อิทฺธิปาทวิภงฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Iddhipādavibhaṅgavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / วิภงฺคปาฬิ • Vibhaṅgapāḷi / ๙. อิทฺธิปาทวิภโงฺค • 9. Iddhipādavibhaṅgo

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / อภิธมฺมปิฎก (อฎฺฐกถา) • Abhidhammapiṭaka (aṭṭhakathā) / สโมฺมหวิโนทนี-อฎฺฐกถา • Sammohavinodanī-aṭṭhakathā
    ๑. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา • 1. Suttantabhājanīyavaṇṇanā
    ๒. อภิธมฺมภาชนียวณฺณนา • 2. Abhidhammabhājanīyavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / วิภงฺค-อนุฎีกา • Vibhaṅga-anuṭīkā / ๙. อิทฺธิปาทวิภโงฺค • 9. Iddhipādavibhaṅgo


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact