Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๑๐. ยกฺขสํยุตฺตํ
10. Yakkhasaṃyuttaṃ
๑. อินฺทกสุตฺตวณฺณนา
1. Indakasuttavaṇṇanā
๒๓๕. ยกฺขสํยุตฺตสฺส ปฐเม อินฺทกสฺสาติ อินฺทกูฎนิวาสิโน ยกฺขสฺสฯ ยกฺขโต หิ กูเฎน, กูฎโต จ ยเกฺขน นามํ ลทฺธํฯ รูปํ น ชีวนฺติ วทนฺตีติ ยทิ พุทฺธา รูปํ ชีวนฺติ น วทนฺติ, ยทิ รูปํ สโตฺต ปุคฺคโลติ เอวํ น วทนฺตีติ อโตฺถฯ กถํ นฺวยนฺติ กถํ นุ อยํ? กุตสฺส อฎฺฐียกปิณฺฑเมตีติ อสฺส สตฺตสฺส อฎฺฐิยกปิณฺฑญฺจ กุโต อาคจฺฉติ? เอตฺถ จ อฎฺฐิคฺคหเณน ตีณิ อฎฺฐิสตานิ, ยกปิณฺฑคฺคหเณน นว มํสเปสิสตานิ คหิตานิฯ ยทิ รูปํ น ชีโว, อถสฺส อิมานิ จ อฎฺฐีนิ อิมา จ มํสเปสิโย กุโต อาคจฺฉนฺตีติ ปุจฺฉติฯ กถํ นฺวยํ สชฺชติ คพฺภรสฺมินฺติ เกน นุ การเณน อยํ สโตฺต มาตุกุจฺฉิสฺมิํ สชฺชติ ลคฺคติ, ติฎฺฐตีติ? ปุคฺคลวาที กิเรส ยโกฺข, ‘‘เอกปฺปหาเรเนว สโตฺต มาตุกุจฺฉิสฺมิํ นิพฺพตฺตตี’’ติ คเหตฺวา คพฺภเสยฺยกสตฺตสฺส มาตา มจฺฉมํสาทีนิ ขาทติ, สพฺพานิ เอกรตฺติวาเสน ปจิตฺวา เผณํ วิย วิลียนฺติฯ ยทิ รูปํ สโตฺต น ภเวยฺย, เอวเมว วิลีเยยฺยาติ ลทฺธิยา เอวมาหฯ อถสฺส ภควา – ‘‘น มาตุกุจฺฉิสฺมิํ เอกปฺปหาเรเนว นิพฺพตฺตติ, อนุปุเพฺพน ปน วฑฺฒตี’’ติ ทเสฺสโนฺต ปฐมํ กลลํ โหตีติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปฐมนฺติ ปฐเมน ปฎิสนฺธิวิญฺญาเณน สทฺธิํ ติโสฺสติ วา ผุโสฺสติ วา นามํ นตฺถิ, อถ โข ตีหิ ชาติอุณฺณํสูหิ กตสุตฺตเคฺค สณฺฐิตเตลพินฺทุปฺปมาณํ กลลํ โหติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
235. Yakkhasaṃyuttassa paṭhame indakassāti indakūṭanivāsino yakkhassa. Yakkhato hi kūṭena, kūṭato ca yakkhena nāmaṃ laddhaṃ. Rūpaṃ na jīvanti vadantīti yadi buddhā rūpaṃ jīvanti na vadanti, yadi rūpaṃ satto puggaloti evaṃ na vadantīti attho. Kathaṃ nvayanti kathaṃ nu ayaṃ? Kutassa aṭṭhīyakapiṇḍametīti assa sattassa aṭṭhiyakapiṇḍañca kuto āgacchati? Ettha ca aṭṭhiggahaṇena tīṇi aṭṭhisatāni, yakapiṇḍaggahaṇena nava maṃsapesisatāni gahitāni. Yadi rūpaṃ na jīvo, athassa imāni ca aṭṭhīni imā ca maṃsapesiyo kuto āgacchantīti pucchati. Kathaṃ nvayaṃ sajjati gabbharasminti kena nu kāraṇena ayaṃ satto mātukucchismiṃ sajjati laggati, tiṭṭhatīti? Puggalavādī kiresa yakkho, ‘‘ekappahāreneva satto mātukucchismiṃ nibbattatī’’ti gahetvā gabbhaseyyakasattassa mātā macchamaṃsādīni khādati, sabbāni ekarattivāsena pacitvā pheṇaṃ viya vilīyanti. Yadi rūpaṃ satto na bhaveyya, evameva vilīyeyyāti laddhiyā evamāha. Athassa bhagavā – ‘‘na mātukucchismiṃ ekappahāreneva nibbattati, anupubbena pana vaḍḍhatī’’ti dassento paṭhamaṃ kalalaṃ hotītiādimāha. Tattha paṭhamanti paṭhamena paṭisandhiviññāṇena saddhiṃ tissoti vā phussoti vā nāmaṃ natthi, atha kho tīhi jātiuṇṇaṃsūhi katasuttagge saṇṭhitatelabinduppamāṇaṃ kalalaṃ hoti, yaṃ sandhāya vuttaṃ –
‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมโณฺฑ อนาวิโล;
‘‘Tilatelassa yathā bindu, sappimaṇḍo anāvilo;
เอวํ วณฺณปฺปฎิภาคํ, กลลํ สมฺปวุจฺจตี’’ติฯ
Evaṃ vaṇṇappaṭibhāgaṃ, kalalaṃ sampavuccatī’’ti.
กลลา โหติ อพฺพุทนฺติ ตสฺมา กลลา สตฺตาหจฺจเยน มํสโธวนอุทกวณฺณํ อพฺพุทํ นาม โหติ, กลลนฺติ นามํ อนฺตรธายติฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –
Kalalāhoti abbudanti tasmā kalalā sattāhaccayena maṃsadhovanaudakavaṇṇaṃ abbudaṃ nāma hoti, kalalanti nāmaṃ antaradhāyati. Vuttampi cetaṃ –
‘‘สตฺตาหํ กลลํ โหติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;
‘‘Sattāhaṃ kalalaṃ hoti, paripakkaṃ samūhataṃ;
วิวฎฺฎมานํ ตพฺภาวํ, อพฺพุทํ นาม ชายตี’’ติฯ
Vivaṭṭamānaṃ tabbhāvaṃ, abbudaṃ nāma jāyatī’’ti.
อพฺพุทา ชายเต เปสีติ ตสฺมาปิ อพฺพุทา สตฺตาหจฺจเยน วิลีนติปุสทิสา เปสิ นาม สญฺชายติฯ สา มริจผาณิเตน ทีเปตพฺพาฯ คามทาริกา หิ สุปกฺกานิ มริจานิ คเหตฺวา สาฎกเนฺต ภณฺฑิกํ กตฺวา ปีเฬตฺวา มณฺฑํ อาทาย กปาเล ปกฺขิปิตฺวา อาตเป ฐเปนฺติ, ตํ สุกฺขมานํ สพฺพภาเคหิ มุจฺจติฯ เอวรูปา เปสิ โหติ, อพฺพุทนฺติ นามํ อนฺตรธายติฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –
Abbudājāyate pesīti tasmāpi abbudā sattāhaccayena vilīnatipusadisā pesi nāma sañjāyati. Sā maricaphāṇitena dīpetabbā. Gāmadārikā hi supakkāni maricāni gahetvā sāṭakante bhaṇḍikaṃ katvā pīḷetvā maṇḍaṃ ādāya kapāle pakkhipitvā ātape ṭhapenti, taṃ sukkhamānaṃ sabbabhāgehi muccati. Evarūpā pesi hoti, abbudanti nāmaṃ antaradhāyati. Vuttampi cetaṃ –
‘‘สตฺตาหํ อพฺพุทํ โหติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;
‘‘Sattāhaṃ abbudaṃ hoti, paripakkaṃ samūhataṃ;
วิวฎฺฎมานํ ตพฺภาวํ, เปสิ นาม ปชายตี’’ติฯ
Vivaṭṭamānaṃ tabbhāvaṃ, pesi nāma pajāyatī’’ti.
เปสิ นิพฺพตฺตตี ฆโนติ ตโต เปสิโต สตฺตาหจฺจเยน กุกฺกุฎณฺฑสณฺฐาโน ฆโน นาม มํสปิโณฺฑ นิพฺพตฺตติ, เปสีติ นามํ อนฺตรธายติฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ –
Pesi nibbattatī ghanoti tato pesito sattāhaccayena kukkuṭaṇḍasaṇṭhāno ghano nāma maṃsapiṇḍo nibbattati, pesīti nāmaṃ antaradhāyati. Vuttampi cetaṃ –
‘‘สตฺตาหํ เปสิ ภวติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;
‘‘Sattāhaṃ pesi bhavati, paripakkaṃ samūhataṃ;
วิวฎฺฎมานํ ตพฺภาวํ, ฆโนติ นาม ชายติฯ
Vivaṭṭamānaṃ tabbhāvaṃ, ghanoti nāma jāyati.
‘‘ยถา กุกฺกุฎิยา อณฺฑํ, สมนฺตา ปริมณฺฑลํ;
‘‘Yathā kukkuṭiyā aṇḍaṃ, samantā parimaṇḍalaṃ;
เอวํ ฆนสฺส สณฺฐานํ, นิพฺพตฺตํ กมฺมปจฺจยา’’ติฯ
Evaṃ ghanassa saṇṭhānaṃ, nibbattaṃ kammapaccayā’’ti.
ฆนา ปสาขา ชายนฺตีติ ปญฺจเม สตฺตาเห ทฺวินฺนํ หตฺถปาทานํ สีสสฺส จตฺถาย ปญฺจ ปีฬกา ชายนฺติ, ยํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘ปญฺจเม, ภิกฺขเว, สตฺตาเห ปญฺจ ปีฬกา สณฺฐหนฺติ กมฺมโต’’ติฯ
Ghanā pasākhā jāyantīti pañcame sattāhe dvinnaṃ hatthapādānaṃ sīsassa catthāya pañca pīḷakā jāyanti, yaṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ ‘‘pañcame, bhikkhave, sattāhe pañca pīḷakā saṇṭhahanti kammato’’ti.
อิโต ปรํ ฉฎฺฐสตฺตมาทีนิ สตฺตาหานิ อติกฺกมฺม เทสนํ สงฺขิปิตฺวา ทฺวาจตฺตาลีเส สตฺตาเห ปริณตกาลํ คเหตฺวา ทเสฺสโนฺต เกสาติอาทิมาหฯ ตตฺถ เกสา โลมา นขาปิ จาติ ทฺวาจตฺตาลีเส สตฺตาเห เอตานิ ชายนฺติฯ
Ito paraṃ chaṭṭhasattamādīni sattāhāni atikkamma desanaṃ saṅkhipitvā dvācattālīse sattāhe pariṇatakālaṃ gahetvā dassento kesātiādimāha. Tattha kesā lomā nakhāpi cāti dvācattālīse sattāhe etāni jāyanti.
เตน โส ตตฺถ ยาเปตีติ ตสฺส หิ นาภิโต อุฎฺฐิโต นาโฬ มาตุ อุทรปฎเลน เอกาพโทฺธ โหติ, โส อุปฺปลทณฺฑโก วิย ฉิโทฺท, เตน อาหารรโส สํสริตฺวา อาหารสมุฎฺฐานรูปํ สมุฎฺฐาเปติฯ เอวํ โส ทส มาเส ยาเปติฯ มาตุกุจฺฉิคโต นโรติ มาตุยา ติโรกุจฺฉิคโต, กุจฺฉิยา อพฺภนฺตรคโตติ อโตฺถฯ อิติ ภควา ‘‘เอวํ โข, ยกฺข, อยํ สโตฺต อนุปุเพฺพน มาตุกุจฺฉิยํ วฑฺฒติ, น เอกปฺปหาเรเนว นิพฺพตฺตตี’’ติ ทเสฺสติฯ ปฐมํฯ
Tena so tattha yāpetīti tassa hi nābhito uṭṭhito nāḷo mātu udarapaṭalena ekābaddho hoti, so uppaladaṇḍako viya chiddo, tena āhāraraso saṃsaritvā āhārasamuṭṭhānarūpaṃ samuṭṭhāpeti. Evaṃ so dasa māse yāpeti. Mātukucchigato naroti mātuyā tirokucchigato, kucchiyā abbhantaragatoti attho. Iti bhagavā ‘‘evaṃ kho, yakkha, ayaṃ satto anupubbena mātukucchiyaṃ vaḍḍhati, na ekappahāreneva nibbattatī’’ti dasseti. Paṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. อินฺทกสุตฺตํ • 1. Indakasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑. อินฺทกสุตฺตวณฺณนา • 1. Indakasuttavaṇṇanā