Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā |
๑๖. อินฺทฺริยปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา
16. Indriyapaccayaniddesavaṇṇanā
๑๖. ‘‘มิสฺสกตฺตา’’ติ อิทํ อินฺทฺริยตาย รูปารูปชีวิตินฺทฺริยานํ เอกชฺฌํ กตฺวา เทสิตตํ สนฺธาย วุตฺตํ, ตสฺมา มิสฺสกตฺตาติ รูปชีวิตินฺทฺริยมิสฺสกตฺตาติ อโตฺถฯ ชีวิตินฺทฺริยนฺติ อรูปชีวิตินฺทฺริยํฯ น สเพฺพน สพฺพํ วชฺชิตพฺพนฺติ ยถา ปญฺหาปุจฺฉเก อรูปชีวิตินฺทฺริยํ มิสฺสกตฺตา น คหิตํ, น เอวมิธ อรูปชีวิตินฺทฺริยํ อคฺคหิตนฺติ อโตฺถฯ
16. ‘‘Missakattā’’ti idaṃ indriyatāya rūpārūpajīvitindriyānaṃ ekajjhaṃ katvā desitataṃ sandhāya vuttaṃ, tasmā missakattāti rūpajīvitindriyamissakattāti attho. Jīvitindriyanti arūpajīvitindriyaṃ. Na sabbena sabbaṃ vajjitabbanti yathā pañhāpucchake arūpajīvitindriyaṃ missakattā na gahitaṃ, na evamidha arūpajīvitindriyaṃ aggahitanti attho.
อรูปานํ จกฺขุวิญฺญาณาทีนํ ปจฺจยนฺตราเปกฺขานิ อาวชฺชนารมฺมณาทิอญฺญปจฺจยสาเปกฺขานิ อินฺทฺริยปจฺจยา สิยุํ จกฺขาทีนํ รูปารูปานํ อญฺญมญฺญํ กทาจิปิ อวินิพฺภุตฺตภาวสฺส อภาวโต, ปจฺจยนฺตรสโมธานาเปกฺขตาย จฯ โย ปน นิรเปโกฺขติ ยถา จกฺขาทีนิ ปจฺจยนฺตเรสุ สาเปกฺขานิ, เอวํ สาเปโกฺข อหุตฺวา โย ตตฺถ นิรเปโกฺข อินฺทฺริยปจฺจโย โหติ อวินิพฺภุตฺตธมฺมานํ ยถา ทุวิธมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยํ, โส อตฺตโน…เป.… นตฺถีติ โยชนาฯ อวินิพฺภุตฺตานํ เตสมฺปิ ลิงฺคาทีนํ สิยุํ วินิพฺภุตฺตานํ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ อินฺทฺริยปจฺจยตาภาวสฺส อทิฎฺฐตฺตาฯ นนุ จกฺขาทีนํ วินิพฺภุตฺตานํ อินฺทฺริยปจฺจยภาโว ทิโฎฺฐติ? สจฺจํ ทิโฎฺฐ, น ปน โส สมานชาติยาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘น หี’’ติอาทิมาหฯ สติ เจวนฺติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเร สมานชาติยํเยว อวินิพฺภุตฺตสฺส อินฺทฺริยปจฺจยภาเว สติ อิตฺถิปุริสินฺทฺริเยหิ สทฺธิํฯ สหโยเค หิ อิทํ กรณวจนํฯ ยทิปิ อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานิ ลิงฺคาทีนํ กลลาทิกาเล อินฺทฺริยปจฺจยตํ น ผเรยฺยุํ เตสํ ตทา อภาวโตฯ เย ปน รูปธมฺมา ตทา สนฺติ, เตหิ อวินิพฺภุตฺตาว, เตสํ กสฺมา น ผรนฺตีติ อาห ‘‘อเญฺญสํ ปนา’’ติอาทิฯ อพีชภาวโต อนิมิตฺตภาวโตฯ ตทนุรูปานนฺติ กลลาทิอวตฺถานุรูปานํ อตฺถิตํ อิจฺฉนฺติ, ยโต ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ ปกติวิภาโค วิญฺญายตีติ เตสํ อธิปฺปาโยฯ
Arūpānaṃ cakkhuviññāṇādīnaṃ paccayantarāpekkhāni āvajjanārammaṇādiaññapaccayasāpekkhāni indriyapaccayā siyuṃ cakkhādīnaṃ rūpārūpānaṃ aññamaññaṃ kadācipi avinibbhuttabhāvassa abhāvato, paccayantarasamodhānāpekkhatāya ca. Yo pana nirapekkhoti yathā cakkhādīni paccayantaresu sāpekkhāni, evaṃ sāpekkho ahutvā yo tattha nirapekkho indriyapaccayo hoti avinibbhuttadhammānaṃ yathā duvidhampi jīvitindriyaṃ, so attano…pe… natthīti yojanā. Avinibbhuttānaṃ tesampi liṅgādīnaṃ siyuṃ vinibbhuttānaṃ paccayuppannānaṃ indriyapaccayatābhāvassa adiṭṭhattā. Nanu cakkhādīnaṃ vinibbhuttānaṃ indriyapaccayabhāvo diṭṭhoti? Saccaṃ diṭṭho, na pana so samānajātiyāti dassento ‘‘na hī’’tiādimāha. Sati cevanti evaṃ vuttappakāre samānajātiyaṃyeva avinibbhuttassa indriyapaccayabhāve sati itthipurisindriyehi saddhiṃ. Sahayoge hi idaṃ karaṇavacanaṃ. Yadipi itthipurisindriyāni liṅgādīnaṃ kalalādikāle indriyapaccayataṃ na phareyyuṃ tesaṃ tadā abhāvato. Ye pana rūpadhammā tadā santi, tehi avinibbhuttāva, tesaṃ kasmā na pharantīti āha ‘‘aññesaṃ panā’’tiādi. Abījabhāvato animittabhāvato. Tadanurūpānanti kalalādiavatthānurūpānaṃ atthitaṃ icchanti, yato ‘‘itthī, puriso’’ti pakativibhāgo viññāyatīti tesaṃ adhippāyo.
กุสลชาติยนฺติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํฯ เย ปน ‘‘กุสลชาติก’’นฺติ ปฐนฺติ, เตสํ ปจฺจเตฺตกวจนํฯ วิสุํ เอกชาติ วา ภูมิ วา น โหติ ตเทกเทสภาวโตฯ เหตุอาทีสุปีติ อาทิ-สเทฺทน ‘‘อกุสลาหาเรสุปิ เอเสว นโย’’ติ เอวมาทิกํ สงฺคณฺหาติฯ เอส นโยติ ยฺวายํ ‘‘ภูมิวเสน วุเตฺตสู’’ติอาทินา อรูเป อลพฺภมานสฺส อินฺทฺริยปจฺจยสฺส อฎฺฐปเน อตฺถนโย วุโตฺต, เอส นโย โยเชตโพฺพติฯ ตถา อปริยาปนฺนกุสลเหตุ, ตถา อกุสลเหตูติ เอตฺถาปิ ปฐมาปริยาปนฺนกุสลเหตุ โทมนสฺสสหคตากุสลเหตุ จ วิสุํ เอกชาติ ภูมิ วา น โหนฺตีติ อารุเปฺป อลพฺภมานาปิ วิสุํ น ฐปิตาติ โยเชตโพฺพฯ เอส นโย ‘‘อกุสลาหาเรสุปิ เอเสว นโย’’ติ เอวมาทีสุฯ
Kusalajātiyanti niddhāraṇe bhummaṃ. Ye pana ‘‘kusalajātika’’nti paṭhanti, tesaṃ paccattekavacanaṃ. Visuṃ ekajāti vā bhūmi vā na hoti tadekadesabhāvato. Hetuādīsupīti ādi-saddena ‘‘akusalāhāresupi eseva nayo’’ti evamādikaṃ saṅgaṇhāti. Esa nayoti yvāyaṃ ‘‘bhūmivasena vuttesū’’tiādinā arūpe alabbhamānassa indriyapaccayassa aṭṭhapane atthanayo vutto, esa nayo yojetabboti. Tathā apariyāpannakusalahetu, tathā akusalahetūti etthāpi paṭhamāpariyāpannakusalahetu domanassasahagatākusalahetu ca visuṃ ekajāti bhūmi vā na hontīti āruppe alabbhamānāpi visuṃ na ṭhapitāti yojetabbo. Esa nayo ‘‘akusalāhāresupi eseva nayo’’ti evamādīsu.
สติ สหชาตปจฺจยเตฺต อุปฺปาทกฺขเณปิ อินฺทฺริยปจฺจยตา สิยาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สหชาตปจฺจยตฺตาภาวํ สนฺธายา’’ติฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘อุปฺปชฺชมาโน สห อุปฺปชฺชมานภาเวน อุปการโก ธโมฺม สหชาตปจฺจโย’’ติ (ปฎฺฐา. อฎฺฐ. ปจฺจยุเทฺทสวณฺณนา)ฯ ตสฺส ปน สหชาตปจฺจยตฺตาภาโว ยทิปิ อฎฺฐกถายํ ‘‘สหชาตปจฺจยตา ปน ตสฺส นตฺถี’’ติ สรูเปเนว ทสฺสิโต, ตถาปิ ตํ อนนุชานโนฺต ‘‘อุปฺปาท…เป.… นิวาเรตุ’’นฺติ วตฺวา ‘‘วกฺขตี’’ติอาทินา ตมตฺถํ สมเตฺถติฯ กมฺมปจฺจยสทิสนฺติ หิ เอเตน ตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ปจฺจยภาโว ปกาสิโตฯ ปวเตฺตจาติ จ-สเทฺทน ปฎิสนฺธิยญฺจ กฎตฺตารูปสฺส รูปชีวิตินฺทฺริยโต อโญฺญ อินฺทฺริยปจฺจโย น หิ อตฺถีติ โยชนาฯ ปฎิจฺจวาราทโย สมฺปยุตฺตวารปริโยสานา ฉ วารา อุปฺปาทกฺขณเมว คเหตฺวา ปวตฺตา ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฎิจฺจ กุสโล ธโมฺม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา’’ติอาทินา, น ฐิติกฺขณนฺติ อธิปฺปาโยฯ เอวญฺจ กตฺวาติ อุปฺปาทกฺขณเมว คเหตฺวา ปวตฺตตฺตาฯ เอเตสูติ ยถาวุเตฺตสุ ฉสุ วาเรสุฯ เกจิ ปน ‘‘รูปชีวิตินฺทฺริยสฺส อนุปาลนํ อุปฺปาทกฺขเณ น ปากฎํ พลวญฺจ ยถา ฐิติกฺขเณ ปจฺฉาชาตาทิปจฺจยลาภโต ถิรภาวปฺปตฺติยาสฺส ตํ ปากฎํ พลวญฺจ, ตสฺมา ‘ฐิติกฺขเณ’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ
Sati sahajātapaccayatte uppādakkhaṇepi indriyapaccayatā siyāti katvā vuttaṃ ‘‘sahajātapaccayattābhāvaṃ sandhāyā’’ti. Vuttañhi ‘‘uppajjamāno saha uppajjamānabhāvena upakārako dhammo sahajātapaccayo’’ti (paṭṭhā. aṭṭha. paccayuddesavaṇṇanā). Tassa pana sahajātapaccayattābhāvo yadipi aṭṭhakathāyaṃ ‘‘sahajātapaccayatā pana tassa natthī’’ti sarūpeneva dassito, tathāpi taṃ ananujānanto ‘‘uppāda…pe… nivāretu’’nti vatvā ‘‘vakkhatī’’tiādinā tamatthaṃ samattheti. Kammapaccayasadisanti hi etena tassa uppādakkhaṇe paccayabhāvo pakāsito. Pavattecāti ca-saddena paṭisandhiyañca kaṭattārūpassa rūpajīvitindriyato añño indriyapaccayo na hi atthīti yojanā. Paṭiccavārādayo sampayuttavārapariyosānā cha vārā uppādakkhaṇameva gahetvā pavattā ‘‘kusalaṃ dhammaṃ paṭicca kusalo dhammo uppajjati hetupaccayā’’tiādinā, na ṭhitikkhaṇanti adhippāyo. Evañca katvāti uppādakkhaṇameva gahetvā pavattattā. Etesūti yathāvuttesu chasu vāresu. Keci pana ‘‘rūpajīvitindriyassa anupālanaṃ uppādakkhaṇe na pākaṭaṃ balavañca yathā ṭhitikkhaṇe pacchājātādipaccayalābhato thirabhāvappattiyāssa taṃ pākaṭaṃ balavañca, tasmā ‘ṭhitikkhaṇe’ti vutta’’nti vadanti.
อินฺทฺริยปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Indriyapaccayaniddesavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / อภิธมฺมปิฎก • Abhidhammapiṭaka / ปฎฺฐานปาฬิ • Paṭṭhānapāḷi / (๒) ปจฺจยนิเทฺทโส • (2) Paccayaniddeso
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๑๖. อินฺทฺริยปจฺจยนิเทฺทสวณฺณนา • 16. Indriyapaccayaniddesavaṇṇanā