Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๑๐. อิสิทตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา

    10. Isidattattheragāthāvaṇṇanā

    ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตาติ อายสฺมโต อิสิทตฺตเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ ปุญฺญํ อุปจินโนฺต วิปสฺสิสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ ภควนฺตํ รถิยํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส มธุรํ อาโมทผลํ อทาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อปราปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท อวนฺติรเฎฺฐ วฑฺฒคาเม อญฺญตรสฺส สตฺถวาหสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อิสิทโตฺตติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปโตฺต มจฺฉิกาสเณฺฑ จิตฺตสฺส คหปติโน อทิฎฺฐสหาโย หุตฺวา เตน พุทฺธคุเณ ลิขิตฺวา เปสิตสาสนํ ปฎิลภิตฺวา สาสเน สญฺชาตปฺปสาโท เถรสฺส มหากจฺจานสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา นจิรเสฺสว ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๑.๘๐-๘๔) –

    Pañcakkhandhāpariññātāti āyasmato isidattattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ puññaṃ upacinanto vipassissa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ bhagavantaṃ rathiyaṃ gacchantaṃ disvā pasannamānaso madhuraṃ āmodaphalaṃ adāsi. So tena puññakammena devaloke nibbattitvā aparāparaṃ puññāni katvā devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde avantiraṭṭhe vaḍḍhagāme aññatarassa satthavāhassa putto hutvā nibbatti, isidattotissa nāmaṃ ahosi. So vayappatto macchikāsaṇḍe cittassa gahapatino adiṭṭhasahāyo hutvā tena buddhaguṇe likhitvā pesitasāsanaṃ paṭilabhitvā sāsane sañjātappasādo therassa mahākaccānassa santike pabbajitvā vipassanaṃ ārabhitvā nacirasseva chaḷabhiñño ahosi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.51.80-84) –

    ‘‘สุวณฺณวณฺณํ สมฺพุทฺธํ, อาหุตีนํ ปฎิคฺคหํ;

    ‘‘Suvaṇṇavaṇṇaṃ sambuddhaṃ, āhutīnaṃ paṭiggahaṃ;

    รถิยํ ปฎิปชฺชนฺตํ, อาโมทมททิํ ผลํฯ

    Rathiyaṃ paṭipajjantaṃ, āmodamadadiṃ phalaṃ.

    ‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ ผลํ อททิํ ตทา;

    ‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ phalaṃ adadiṃ tadā;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, ผลทานสฺสิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, phaladānassidaṃ phalaṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    ฉฬภิโญฺญ ปน หุตฺวา ‘‘พุทฺธุปฎฺฐานํ คมิสฺสามี’’ติ เถรํ อาปุจฺฉิตฺวา อนุกฺกเมน มชฺฌิมเทสํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสิโนฺน , ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุ, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนีย’’นฺติอาทินา สตฺถารา กตปฎิสนฺถาโร ปฎิวจนมุเขน, ‘‘ภควา ตุมฺหากํ สาสนํ อุปคตกาลโต ปฎฺฐาย มยฺหํ สพฺพทุกฺขํ อปคตํ, สโพฺพ ปริสฺสโย วูปสโนฺต’’ติ ปเวทนวเสน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –

    Chaḷabhiñño pana hutvā ‘‘buddhupaṭṭhānaṃ gamissāmī’’ti theraṃ āpucchitvā anukkamena majjhimadesaṃ gantvā satthāraṃ upasaṅkamitvā vanditvā ekamantaṃ nisinno , ‘‘kacci, bhikkhu, khamanīyaṃ, kacci yāpanīya’’ntiādinā satthārā katapaṭisanthāro paṭivacanamukhena, ‘‘bhagavā tumhākaṃ sāsanaṃ upagatakālato paṭṭhāya mayhaṃ sabbadukkhaṃ apagataṃ, sabbo parissayo vūpasanto’’ti pavedanavasena aññaṃ byākaronto –

    ๑๒๐.

    120.

    ‘‘ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตา, ติฎฺฐนฺติ ฉินฺนมูลกา;

    ‘‘Pañcakkhandhā pariññātā, tiṭṭhanti chinnamūlakā;

    ทุกฺขกฺขโย อนุปฺปโตฺต, ปโตฺต เม อาสวกฺขโย’’ติฯ – คาถํ อภาสิ;

    Dukkhakkhayo anuppatto, patto me āsavakkhayo’’ti. – gāthaṃ abhāsi;

    ตตฺถ ปญฺจกฺขนฺธา ปริญฺญาตาติ ปญฺจปิ เม อุปาทานกฺขนฺธา วิปสฺสนาปญฺญาสหิตาย มคฺคปญฺญาย ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, เอตฺตกํ ทุกฺขํ, น อิโต ภิโยฺย’’ติ สพฺพโส ปริจฺฉิชฺช ญาตา, น เตสุ กิญฺจิปิ ปริญฺญาตพฺพํ อตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ ติฎฺฐนฺติ ฉินฺนมูลกาติ สพฺพโส ปริญฺญาตตฺตา เอว เตสํ อวิชฺชาตณฺหาทิกสฺส มูลสฺส สมุจฺฉินฺนตฺตา อริยมเคฺคน ปหีนตฺตา ยาวจริมจิตฺตนิโรธา เต ติฎฺฐนฺติฯ ทุกฺขกฺขโย อนุปฺปโตฺตติ ฉินฺนมูลกตฺตาเยว จ เนสํ วฎฺฎทุกฺขสฺส ขโย ปริกฺขโย อนุปฺปโตฺต, นิพฺพานํ อธิคตํฯ ปโตฺต เม อาสวกฺขโยติ กามาสวาทีนํ สเพฺพสํ อาสวานํ ขยเนฺต อภิคนฺตพฺพตาย ‘‘อาสวกฺขโย’’ติ ลทฺธนามํ อรหตฺตํ ปตฺตํ ปฎิลทฺธนฺติ อโตฺถฯ เกจิ ปน อนฺติมายํ สมุสฺสโย’’ติ ปฐนฺติฯ นิพฺพานสฺส อธิคตตฺตาเยว อยํ มม สมุสฺสโย อตฺตภาโว อนฺติโม สพฺพปจฺฉิมโก, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวติ อโตฺถฯ ยํ ปน ตตฺถ ตตฺถ อวุตฺตํ, ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานํเยวาติฯ

    Tattha pañcakkhandhā pariññātāti pañcapi me upādānakkhandhā vipassanāpaññāsahitāya maggapaññāya ‘‘idaṃ dukkhaṃ, ettakaṃ dukkhaṃ, na ito bhiyyo’’ti sabbaso paricchijja ñātā, na tesu kiñcipi pariññātabbaṃ atthīti adhippāyo. Tiṭṭhanti chinnamūlakāti sabbaso pariññātattā eva tesaṃ avijjātaṇhādikassa mūlassa samucchinnattā ariyamaggena pahīnattā yāvacarimacittanirodhā te tiṭṭhanti. Dukkhakkhayo anuppattoti chinnamūlakattāyeva ca nesaṃ vaṭṭadukkhassa khayo parikkhayo anuppatto, nibbānaṃ adhigataṃ. Patto me āsavakkhayoti kāmāsavādīnaṃ sabbesaṃ āsavānaṃ khayante abhigantabbatāya ‘‘āsavakkhayo’’ti laddhanāmaṃ arahattaṃ pattaṃ paṭiladdhanti attho. Keci pana antimāyaṃ samussayo’’ti paṭhanti. Nibbānassa adhigatattāyeva ayaṃ mama samussayo attabhāvo antimo sabbapacchimako, natthi dāni punabbhavoti attho. Yaṃ pana tattha tattha avuttaṃ, taṃ heṭṭhā vuttanayattā uttānaṃyevāti.

    อิสิทตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Isidattattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.

    ทฺวาทสมวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dvādasamavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.

    นิฎฺฐิตา จ ปรมตฺถทีปนิยํ เถรคาถาวณฺณนายํ

    Niṭṭhitā ca paramatthadīpaniyaṃ theragāthāvaṇṇanāyaṃ

    วีสาธิกสตเตฺถรคาถาปฎิมณฺฑิตสฺส เอกกนิปาตสฺส

    Vīsādhikasatattheragāthāpaṭimaṇḍitassa ekakanipātassa

    อตฺถวณฺณนาฯ

    Atthavaṇṇanā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑๐. อิสิทตฺตเตฺถรคาถา • 10. Isidattattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact