Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) |
๖. อิสิคิลิสุตฺตวณฺณนา
6. Isigilisuttavaṇṇanā
๑๓๓. เอวํ เม สุตนฺติ อิสิคิลิสุตฺตํฯ ตตฺถ อญฺญาว สมญฺญา อโหสีติ อิสิคิลิสฺส อิสิคิลีติ สมญฺญาย อุปฺปนฺนกาเล เวภาโร น เวภาโรติ ปญฺญายิตฺถ, อญฺญาเยวสฺส สมญฺญา อโหสิฯ อญฺญา ปญฺญตฺตีติ อิทํ ปุริมปทเสฺสว เววจนํฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ
133.Evaṃme sutanti isigilisuttaṃ. Tattha aññāva samaññā ahosīti isigilissa isigilīti samaññāya uppannakāle vebhāro na vebhāroti paññāyittha, aññāyevassa samaññā ahosi. Aññā paññattīti idaṃ purimapadasseva vevacanaṃ. Sesesupi eseva nayo.
ตทา กิร ภควา สายนฺหสมเย สมาปตฺติโต วุฎฺฐาย คนฺธกุฎิโต นิกฺขมิตฺวา ยสฺมิํ ฐาเน นิสินฺนานํ ปญฺจ ปพฺพตา ปญฺญายนฺติ, ตตฺถ ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นิสีทิตฺวา อิเม ปญฺจ ปพฺพเต ปฎิปาฎิยา อาจิกฺขิฯ ตตฺถ น ภควโต ปพฺพเตหิ อโตฺถ อตฺถิ, อิติ อิเมสุ ปน ปพฺพเตสุ ปฎิปาฎิยา กถิยมาเนสุ อิสิคิลิสฺส อิสิคิลิภาโว กเถตโพฺพ โหติฯ ตสฺมิํ กถิยมาเน ปทุมวติยา ปุตฺตานํ ปญฺจสตานํ ปเจฺจกพุทฺธานํ นามานิ เจว ปทุมวติยา จ ปตฺถนา กเถตพฺพา ภวิสฺสตีติ ภควา อิมํ ปญฺจ ปพฺพตปฎิปาฎิํ อาจิกฺขิฯ
Tadā kira bhagavā sāyanhasamaye samāpattito vuṭṭhāya gandhakuṭito nikkhamitvā yasmiṃ ṭhāne nisinnānaṃ pañca pabbatā paññāyanti, tattha bhikkhusaṅghaparivuto nisīditvā ime pañca pabbate paṭipāṭiyā ācikkhi. Tattha na bhagavato pabbatehi attho atthi, iti imesu pana pabbatesu paṭipāṭiyā kathiyamānesu isigilissa isigilibhāvo kathetabbo hoti. Tasmiṃ kathiyamāne padumavatiyā puttānaṃ pañcasatānaṃ paccekabuddhānaṃ nāmāni ceva padumavatiyā ca patthanā kathetabbā bhavissatīti bhagavā imaṃ pañca pabbatapaṭipāṭiṃ ācikkhi.
ปวิสนฺตา ทิสฺสนฺติ ปวิฎฺฐา น ทิสฺสนฺตีติ ยถาผาสุกฎฺฐาเน ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺจา อาคนฺตฺวา เจติยคเพฺภ ยมกมหาทฺวารํ วิวรนฺตา วิย ตํ ปพฺพตํ เทฺวธา กตฺวา อโนฺต ปวิสิตฺวา รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐานานิ มาเปตฺวา ตตฺถ วสิํสุ, ตสฺมา เอวมาหฯ อิเม อิสีติ อิเม ปเจฺจกพุทฺธอิสีฯ
Pavisantādissanti paviṭṭhā na dissantīti yathāphāsukaṭṭhāne piṇḍāya caritvā katabhattakiccā āgantvā cetiyagabbhe yamakamahādvāraṃ vivarantā viya taṃ pabbataṃ dvedhā katvā anto pavisitvā rattiṭṭhānadivāṭṭhānāni māpetvā tattha vasiṃsu, tasmā evamāha. Ime isīti ime paccekabuddhaisī.
กทา ปน เต ตตฺถ วสิํสุ? อตีเต กิร อนุปฺปเนฺน ตถาคเต พาราณสิํ อุปนิสฺสาย เอกสฺมิํ คามเก เอกา กุลธีตา เขตฺตํ รกฺขมานา เอกสฺส ปเจฺจกพุทฺธสฺส ปญฺจหิ ลาชาสเตหิ สทฺธิํ เอกํ ปทุมปุปฺผํ ทตฺวา ปญฺจ ปุตฺตสตานิ ปเตฺถสิฯ ตสฺมิํเยว จ ขเณ ปญฺจสตา มิคลุทฺทกา มธุรมํสํ ทตฺวา ‘‘เอติสฺสา ปุตฺตา ภเวยฺยามา’’ติ ปตฺถยิํสุฯ สา ยาวตายุกํ ฐตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตา, ตโต จุตา ชาตสฺสเร ปทุมคเพฺภ นิพฺพตฺติฯ ตเมโก ตาปโส ทิสฺวา ปฎิชคฺคิ, ตสฺสา วิจรนฺติยาว ปาทุทฺธาเร ปาทุทฺธาเร ภูมิโต ปทุมานิ อุฎฺฐหนฺติฯ เอโก วนจรโก ทิสฺวา พาราณสิรโญฺญ อาโรเจสิฯ ราชา นํ อาหราเปตฺวา อคฺคมเหสิํ อกาสิ, ตสฺสา คโพฺภ สณฺฐาสิฯ มหาปทุมกุมาโร มาตุกุจฺฉิยํ วสิ, เสสา คพฺภมลํ นิสฺสา นิพฺพตฺตาฯ วยปฺปตฺตา อุยฺยาเน ปทุมสฺสเร กีฬนฺตา เอเกกสฺมิํ ปทุเม นิสีทิตฺวา ขยวยํ ปฎฺฐเปตฺวา ปเจฺจกโพธิญาณํ นิพฺพตฺตยิํสุฯ อยํ เตสํ พฺยากรณคาถา อโหสิ –
Kadā pana te tattha vasiṃsu? Atīte kira anuppanne tathāgate bārāṇasiṃ upanissāya ekasmiṃ gāmake ekā kuladhītā khettaṃ rakkhamānā ekassa paccekabuddhassa pañcahi lājāsatehi saddhiṃ ekaṃ padumapupphaṃ datvā pañca puttasatāni patthesi. Tasmiṃyeva ca khaṇe pañcasatā migaluddakā madhuramaṃsaṃ datvā ‘‘etissā puttā bhaveyyāmā’’ti patthayiṃsu. Sā yāvatāyukaṃ ṭhatvā devaloke nibbattā, tato cutā jātassare padumagabbhe nibbatti. Tameko tāpaso disvā paṭijaggi, tassā vicarantiyāva pāduddhāre pāduddhāre bhūmito padumāni uṭṭhahanti. Eko vanacarako disvā bārāṇasirañño ārocesi. Rājā naṃ āharāpetvā aggamahesiṃ akāsi, tassā gabbho saṇṭhāsi. Mahāpadumakumāro mātukucchiyaṃ vasi, sesā gabbhamalaṃ nissā nibbattā. Vayappattā uyyāne padumassare kīḷantā ekekasmiṃ padume nisīditvā khayavayaṃ paṭṭhapetvā paccekabodhiñāṇaṃ nibbattayiṃsu. Ayaṃ tesaṃ byākaraṇagāthā ahosi –
‘‘สโรรุหํ ปทุมปลาสปตฺตชํ, สุปุปฺผิตํ ภมรคณานุจิณฺณํ;
‘‘Saroruhaṃ padumapalāsapattajaṃ, supupphitaṃ bhamaragaṇānuciṇṇaṃ;
อนิจฺจตายุปคตํ วิทิตฺวา, เอโก จเร ขคฺควิสาณกโปฺป’’ติฯ
Aniccatāyupagataṃ viditvā, eko care khaggavisāṇakappo’’ti.
ตสฺมิํ กาเล เต ตตฺถ วสิํสุ, ตทา จสฺส ปพฺพตสฺส อิสิคิลีติ สมญฺญา อุทปาทิฯ
Tasmiṃ kāle te tattha vasiṃsu, tadā cassa pabbatassa isigilīti samaññā udapādi.
๑๓๕. เย สตฺตสาราติ อริโฎฺฐ อุปริโฎฺฐ ตครสิขี ยสสฺสี สุทสฺสโน ปิยทสฺสี คนฺธาโร ปิโณฺฑโล อุปาสโภ นีโต ตโถ สุตวา ภาวิตโตฺตติ เตรสนฺนํ ปเจฺจกพุทฺธานํ นามานิ วตฺวา อิทานิ เตสญฺจ อเญฺญสญฺจ คาถาพเนฺธน นามานิ อาจิกฺขโนฺต เย สตฺตสาราติอาทิมาห ฯ ตตฺถ สตฺตสาราติ สตฺตานํ สารภูตาฯ อนีฆาติ นิทฺทุกฺขาฯ นิราสาติ นิตฺตณฺหาฯ
135.Ye sattasārāti ariṭṭho upariṭṭho tagarasikhī yasassī sudassano piyadassī gandhāro piṇḍolo upāsabho nīto tatho sutavā bhāvitattoti terasannaṃ paccekabuddhānaṃ nāmāni vatvā idāni tesañca aññesañca gāthābandhena nāmāni ācikkhanto ye sattasārātiādimāha . Tattha sattasārāti sattānaṃ sārabhūtā. Anīghāti niddukkhā. Nirāsāti nittaṇhā.
เทฺว ชาลิโนติ จูฬชาลิ มหาชาลีติ เทฺว ชาลินามกาฯ สนฺตจิโตฺตติ อิทมฺปิ เอกสฺส นามเมวฯ ปสฺสิ ชหิ อุปธิทุกฺขมูลนฺติ เอตฺถ ปสฺสิ นาม โส ปเจฺจกพุโทฺธ, ทุกฺขสฺส ปน มูลํ อุปธิํ ชหีติ อยมสฺส ถุติฯ อปราชิโตติปิ เอกสฺส นามเมวฯ
Dve jālinoti cūḷajāli mahājālīti dve jālināmakā. Santacittoti idampi ekassa nāmameva. Passi jahi upadhidukkhamūlanti ettha passi nāma so paccekabuddho, dukkhassa pana mūlaṃ upadhiṃ jahīti ayamassa thuti. Aparājitotipi ekassa nāmameva.
สตฺถา ปวตฺตา สรภโงฺค โลมหํโส อุจฺจงฺคมาโยติ อิเม ปญฺจ ชนาฯ อสิโต อนาสโว มโนมโยติ อิเมปิ ตโย ชนาฯ มานจฺฉิโท จ พนฺธุมาติ พนฺธุมา นาม เอโก, มานสฺส ปน ฉินฺนตฺตา มานจฺฉิโทติ วุโตฺตฯ ตทาธิมุโตฺตติปิ นามเมวฯ
Satthā pavattā sarabhaṅgo lomahaṃso uccaṅgamāyoti ime pañca janā. Asito anāsavo manomayoti imepi tayo janā. Mānacchido ca bandhumāti bandhumā nāma eko, mānassa pana chinnattā mānacchidoti vutto. Tadādhimuttotipi nāmameva.
เกตุมฺภราโค จ มาตโงฺค อริโยติ อิเม ตโย ชนาฯ อถจฺจุโตติ อถ อจฺจุโตฯ อจฺจุตคามพฺยามโงฺกติ อิเม เทฺว ชนาฯ เขมาภิรโต จ โสรโตติ อิเม เทฺวเยวฯ
Ketumbharāgo ca mātaṅgo ariyoti ime tayo janā. Athaccutoti atha accuto. Accutagāmabyāmaṅkoti ime dve janā. Khemābhirato ca soratoti ime dveyeva.
สโยฺห อโนมนิกฺกโมติ สโยฺห นาม โส พุโทฺธ, อโนมวีริยตฺตา ปน อโนมนิกฺกโมติ วุโตฺตฯ อานโนฺท นโนฺท อุปนโนฺท ทฺวาทสาติ จตฺตาโร อานนฺทา, จตฺตาโร นนฺทา จตฺตาโร อุปนนฺทาติ เอวํ ทฺวาทสฯ ภารทฺวาโช อนฺติมเทหธารีติ ภารทฺวาโช นาม โส พุโทฺธฯ อนฺติมเทหธารีติ ถุติฯ
Sayho anomanikkamoti sayho nāma so buddho, anomavīriyattā pana anomanikkamoti vutto. Ānando nando upanando dvādasāti cattāro ānandā, cattāro nandā cattāro upanandāti evaṃ dvādasa. Bhāradvājoantimadehadhārīti bhāradvājo nāma so buddho. Antimadehadhārīti thuti.
ตณฺหจฺฉิโทติ สิขริสฺสายํ ถุติฯ วีตราโคติ มงฺคลสฺส ถุติฯ อุสภจฺฉิทา ชาลินิํ ทุกฺขมูลนฺติ อุสโภ นาม โส พุโทฺธ ทุกฺขมูลภูตํ ชาลินิํ อจฺฉิทาติ อโตฺถฯ สนฺตํ ปทํ อชฺฌคโมปนีโตติ อุปนีโต นาม โส พุโทฺธ สนฺตํ ปทํ อชฺฌคมาฯ วีตราโคติปิ เอกสฺส นามเมวฯ สุวิมุตฺตจิโตฺตติ อยํ กณฺหสฺส ถุติฯ
Taṇhacchidoti sikharissāyaṃ thuti. Vītarāgoti maṅgalassa thuti. Usabhacchidā jāliniṃ dukkhamūlanti usabho nāma so buddho dukkhamūlabhūtaṃ jāliniṃ acchidāti attho. Santaṃ padaṃ ajjhagamopanītoti upanīto nāma so buddho santaṃ padaṃ ajjhagamā. Vītarāgotipi ekassa nāmameva. Suvimuttacittoti ayaṃ kaṇhassa thuti.
เอเต จ อเญฺญ จาติ เอเต ปาฬิยํ อาคตา จ ปาฬิยํ อนาคตา อเญฺญ จ เอเตสํ เอกนามกาเยวฯ อิเมสุ หิ ปญฺจสุ ปเจฺจกพุทฺธสเตสุ เทฺวปิ ตโยปิ ทสปิ ทฺวาทสปิ อานนฺทาทโย วิย เอกนามกา อเหสุํฯ อิติ ปาฬิยํ อาคตนาเมเหว สเพฺพสํ นามานิ วุตฺตานิ โหนฺตีติ อิโต ปรํ วิสุํ วิสุํ อวตฺวา ‘‘เอเต จ อเญฺญ จา’’ติ อาหฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Ete ca aññe cāti ete pāḷiyaṃ āgatā ca pāḷiyaṃ anāgatā aññe ca etesaṃ ekanāmakāyeva. Imesu hi pañcasu paccekabuddhasatesu dvepi tayopi dasapi dvādasapi ānandādayo viya ekanāmakā ahesuṃ. Iti pāḷiyaṃ āgatanāmeheva sabbesaṃ nāmāni vuttāni hontīti ito paraṃ visuṃ visuṃ avatvā ‘‘ete ca aññe cā’’ti āha. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย
Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya
อิสิคิลิสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Isigilisuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๖. อิสิคิลิสุตฺตํ • 6. Isigilisuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๖. อิสิคิลิสุตฺตวณฺณนา • 6. Isigilisuttavaṇṇanā