Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๔. อิสฺสตฺตสุตฺตวณฺณนา

    4. Issattasuttavaṇṇanā

    ๑๓๕. อฎฺฐุปฺปตฺติโกติ เอตฺถ กา อสฺส อฎฺฐุปฺปตฺติ? ติตฺถิยานํ ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อลาภาย อยสาย ปริสกฺกนํฯ ตํ วิตฺถารโต ทเสฺสตุํ ‘‘ภควโต กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ยถา ตํ สพฺพทิสาสุ ยมกมหาเมโฆ อุฎฺฐหิตฺวา มหาโอฆํ วิย สพฺพา ปารมิโย ‘‘อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเว วิปากํ ทสฺสามา’’ติ สมฺปิณฺฑิตา วิย ลาภสกฺการมโหฆํ นิพฺพตฺตยิํสุฯ ตโต ตโต อนฺนปานยานวตฺถมาลาคนฺธวิเลปนาทิหตฺถา ขตฺติยพฺราหฺมณาทโย อาคนฺตฺวา – ‘‘กหํ ภควา, กหํ เทวเทโว นราสโภ โลกนาโถ’’ติ ภควนฺตํ ปริเยสนฺติ, สกฎสเตหิปิ ปจฺจเย อาหริตฺวา โอกาสํ อลภมานา สมนฺตา คาวุตปฺปมาณมฺปิ สกฎธุเรน สกฎธุรํ อาหจฺจ ติฎฺฐนฺติ เจว อนุวตฺตนฺติ จ อนฺธกวินฺทพฺราหฺมณาทโย วิยฯ สพฺพํ ขนฺธเก (มหาว. ๒๘๒) เตสุ เตสุ สุเตฺตสุ จ อาคตนเยน เวทิตพฺพํฯ ยถา จ ภควโต, เอวํ ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิฯ วุตฺตมฺปิ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา สกฺกโต โหติ ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต ลาภี จีวร…เป.… ปริกฺขารานํ, ภิกฺขุสโงฺฆปิ โข’’ติอาทิ (อุทา. ๓๘), ตถา ‘‘ยาวตา โข, จุนฺท, เอตรหิ สโงฺฆ วา คโณ วา โลเก อุปฺปโนฺน, นาหํ, จุนฺท, อญฺญํ เอกํ สงฺฆมฺปิ เอกํ คณมฺปิ สมนุปสฺสามิ เอวํ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ, ยถริวายํ, จุนฺท, ภิกฺขุสโงฺฆ’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๗๖)ฯ เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรนฯ นิชฺฌตฺตินฺติ สญฺญตฺติํฯ นฺติ กถํฯ

    135.Aṭṭhuppattikoti ettha kā assa aṭṭhuppatti? Titthiyānaṃ bhagavato bhikkhusaṅghassa ca alābhāya ayasāya parisakkanaṃ. Taṃ vitthārato dassetuṃ ‘‘bhagavato kirā’’tiādi vuttaṃ. Yathā taṃ sabbadisāsu yamakamahāmegho uṭṭhahitvā mahāoghaṃ viya sabbā pāramiyo ‘‘imasmiṃyeva attabhāve vipākaṃ dassāmā’’ti sampiṇḍitā viya lābhasakkāramahoghaṃ nibbattayiṃsu. Tato tato annapānayānavatthamālāgandhavilepanādihatthā khattiyabrāhmaṇādayo āgantvā – ‘‘kahaṃ bhagavā, kahaṃ devadevo narāsabho lokanātho’’ti bhagavantaṃ pariyesanti, sakaṭasatehipi paccaye āharitvā okāsaṃ alabhamānā samantā gāvutappamāṇampi sakaṭadhurena sakaṭadhuraṃ āhacca tiṭṭhanti ceva anuvattanti ca andhakavindabrāhmaṇādayo viya. Sabbaṃ khandhake (mahāva. 282) tesu tesu suttesu ca āgatanayena veditabbaṃ. Yathā ca bhagavato, evaṃ bhikkhusaṅghassapi. Vuttampi – ‘‘tena kho pana samayena bhagavā sakkato hoti garukato mānito pūjito apacito lābhī cīvara…pe… parikkhārānaṃ, bhikkhusaṅghopi kho’’tiādi (udā. 38), tathā ‘‘yāvatā kho, cunda, etarahi saṅgho vā gaṇo vā loke uppanno, nāhaṃ, cunda, aññaṃ ekaṃ saṅghampi ekaṃ gaṇampi samanupassāmi evaṃ lābhaggayasaggappattaṃ, yatharivāyaṃ, cunda, bhikkhusaṅgho’’ti (dī. ni. 3.176). Evanti idāni vuccamānākārena. Nijjhattinti saññattiṃ. Nanti kathaṃ.

    เอวํ ปุจฺฉิตุํ อยุตฺตํ ติตฺถิยานํ กถา มหาชนสนฺนิปาเต นิยฺยาติตา โหตีติฯ ตสฺมิํ ทาตพฺพํ, จิตฺตปฺปสาทมเตฺตน เทเนฺตปิ หิ ปุญฺญํ ปวฑฺฒติฯ อาโรจิตํ อตฺตโนติ อธิปฺปาโยฯ ภควาติ สตฺถุ อามนฺตนํฯ จิตฺตํ นาม ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานํ นิคณฺฐา…เป.… ปสีทติ ปสนฺนสฺสาติ อธิปฺปาโยฯ ปุเพฺพ อวิเสสโต เทยฺยธมฺมสฺส ทาตพฺพฎฺฐานํ นาม ปุจฺฉิตํ, อิทานิ ตสฺส มหปฺผลภาวกโร ทกฺขิเณยฺยวิเสโสติ อาห ‘‘อญฺญํ ตยา ปฐมํ ปุจฺฉิตํ, อญฺญํ ปจฺฉา’’ติฯ สลฺลเกฺขหิ เอตํฯ ปจฺฉิมํ ปุริเมน สทฺธิํ อาเนหีติ อธิปฺปาโยฯ ปุจฺฉิตสฺส นาม ปญฺหสฺส กถนํ มยฺหเมว ภาโรฯ สมุปพฺยูโฬฺหติ เอกโต เสนาย ราสิวเสน สมฺปิณฺฑิโตติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ราสิภูโต’’ติฯ อสิกฺขิโตติ สตฺตฎฺฐสํวจฺฉรานิ ธนุสิเปฺปน สิกฺขิโตฯ ธนุสิปฺปํ สิกฺขิตฺวาปิ โกจิ กตหโตฺถ น โหติ, อยํ ปน อสิกฺขิโต น กตหโตฺถ, โปงฺขานุโปงฺขภาโวเยว พฺยามมุฎฺฐิพโนฺธฯ ติณปุญฺชมตฺติกาปุญฺชาทีสูติ อาทิ-สเทฺทน ปํสุปุญฺชวาลุกปุญฺชสารผลกอโยฆนาทิเก สงฺคณฺหาติฯ อกตปริจโยติ เตสํ สนฺติกา วิชฺฌนเฎฺฐน อกตปริจโยฯ ราชราชมหามตฺตาทิเก อุเปจฺจ อสนํ อุปาสนํ, น กตํ อุปาสนํ เอเตนาติ อกตูปาสโนฯ อสิกฺขิตตาทินา ภีรุภาเวน วา กายสฺส ฉมฺภนํ สงฺกมฺปนํ อุตฺตาโส เอตสฺส อตฺถีติ ฉมฺภีติ อาห ‘‘ปเวธิตกาโย’’ติฯ

    Evaṃ pucchituṃ ayuttaṃ titthiyānaṃ kathā mahājanasannipāte niyyātitā hotīti. Tasmiṃ dātabbaṃ, cittappasādamattena dentepi hi puññaṃ pavaḍḍhati. Ārocitaṃ attanoti adhippāyo. Bhagavāti satthu āmantanaṃ. Cittaṃ nāma yathāpaccayaṃ pavattamānaṃ nigaṇṭhā…pe… pasīdati pasannassāti adhippāyo. Pubbe avisesato deyyadhammassa dātabbaṭṭhānaṃ nāma pucchitaṃ, idāni tassa mahapphalabhāvakaro dakkhiṇeyyavisesoti āha ‘‘aññaṃ tayā paṭhamaṃ pucchitaṃ, aññaṃ pacchā’’ti. Sallakkhehi etaṃ. Pacchimaṃ purimena saddhiṃ ānehīti adhippāyo. Pucchitassa nāma pañhassa kathanaṃ mayhameva bhāro. Samupabyūḷhoti ekato senāya rāsivasena sampiṇḍitoti attho. Tenāha ‘‘rāsibhūto’’ti. Asikkhitoti sattaṭṭhasaṃvaccharāni dhanusippena sikkhito. Dhanusippaṃ sikkhitvāpi koci katahattho na hoti, ayaṃ pana asikkhito na katahattho, poṅkhānupoṅkhabhāvoyeva byāmamuṭṭhibandho. Tiṇapuñjamattikāpuñjādīsūti ādi-saddena paṃsupuñjavālukapuñjasāraphalakaayoghanādike saṅgaṇhāti. Akataparicayoti tesaṃ santikā vijjhanaṭṭhena akataparicayo. Rājarājamahāmattādike upecca asanaṃ upāsanaṃ, na kataṃ upāsanaṃ etenāti akatūpāsano. Asikkhitatādinā bhīrubhāvena vā kāyassa chambhanaṃ saṅkampanaṃ uttāso etassa atthīti chambhīti āha ‘‘pavedhitakāyo’’ti.

    ทกฺขิเณยฺยตาย อธิเปฺปตตฺตา ‘‘อรหตฺตมเคฺคน กามจฺฉโนฺท ปหีโน โหตี’’ติ อาหฯ อจฺจนฺตปฺปหานสฺส อิจฺฉิตตฺตา ตติเยเนว กุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ ปฎิฆสมฺปโยคํฯ อเสกฺขสฺส อยนฺติ อเสกฺขํ, สีลกฺขโนฺธฯ ตยิทํ น อคฺคผลํ สีลเมว อธิเปฺปตํ, อถ โข ยํ กิญฺจิ อเสกฺขสนฺตาเน ปวตฺตํ สีลํ, โลกุตฺตโร เอว น อธิเปฺปโต สิกฺขาย ชาตตฺตา, เอวํ วิมุตฺติกฺขโนฺธปีติ ฯ เสกฺขสฺส เอโสติ วา, อปริโยสิตสิกฺขตฺตา สยเมว สิกฺขตีติ วา เสโกฺข, จตูสุ มเคฺคสุ เหฎฺฐิเมสุ จ ตีสุ ผเลสุ สีลกฺขโนฺธฯ อุปริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต อเสโกฺขฯ วุฑฺฒิปฺปโตฺต เสโกฺขติ อเสโกฺขฯ อคฺคผลภูโต สีลกฺขโนฺธ วุเจฺจยฺย, อฎฺฐกถายํ ปน วิปสฺสกสฺส สีลสฺส อธิเปฺปตตฺตา ตถา อโตฺถ วุโตฺตฯ สพฺพตฺถาติ ‘‘อเสเกฺขนา’’ติอาทีสุฯ เอตฺถ จ ยถา สีลสมาธิปญฺญากฺขนฺธา มิสฺสกา อธิเปฺปตา, เอวํ วิมุตฺติกฺขนฺธาปีติ ตทงฺควิมุตฺติอาทโยปิ เวทิตพฺพา, น ปฎิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติ เอวฯ

    Dakkhiṇeyyatāya adhippetattā ‘‘arahattamaggena kāmacchando pahīno hotī’’ti āha. Accantappahānassa icchitattā tatiyeneva kukkuccaṃ pahīnaṃ hoti paṭighasampayogaṃ. Asekkhassa ayanti asekkhaṃ, sīlakkhandho. Tayidaṃ na aggaphalaṃ sīlameva adhippetaṃ, atha kho yaṃ kiñci asekkhasantāne pavattaṃ sīlaṃ, lokuttaro eva na adhippeto sikkhāya jātattā, evaṃ vimuttikkhandhopīti . Sekkhassa esoti vā, apariyositasikkhattā sayameva sikkhatīti vā sekkho, catūsu maggesu heṭṭhimesu ca tīsu phalesu sīlakkhandho. Upari sikkhitabbābhāvato asekkho. Vuḍḍhippatto sekkhoti asekkho. Aggaphalabhūto sīlakkhandho vucceyya, aṭṭhakathāyaṃ pana vipassakassa sīlassa adhippetattā tathā attho vutto. Sabbatthāti ‘‘asekkhenā’’tiādīsu. Ettha ca yathā sīlasamādhipaññākkhandhā missakā adhippetā, evaṃ vimuttikkhandhāpīti tadaṅgavimuttiādayopi veditabbā, na paṭippassaddhivimutti eva.

    เยน สิเปฺปน อิสฺสาโส โหติ, ตํ อิสฺสตฺตนฺติ อาห ‘‘อุสุสิปฺป’’นฺติฯ ยสฺสา วาโยธาตุยา วเสน สรีรํ สญฺชาตถามํ โหติ, ตํ พลปจฺจยํ สนฺธายาห ‘‘พลํ นาม วาโยธาตู’’ติฯ สมปฺปวตฺติโต หิ วิสมปฺปวตฺตินิวารกธาตุ พลํ นาม, เตน ตโต อญฺญํ พลรูปํ นาม นตฺถิฯ

    Yena sippena issāso hoti, taṃ issattanti āha ‘‘ususippa’’nti. Yassā vāyodhātuyā vasena sarīraṃ sañjātathāmaṃ hoti, taṃ balapaccayaṃ sandhāyāha ‘‘balaṃ nāma vāyodhātū’’ti. Samappavattito hi visamappavattinivārakadhātu balaṃ nāma, tena tato aññaṃ balarūpaṃ nāma natthi.

    ยสฺมา อรหา เอว เอกนฺตโต โสรโต, ตสฺส ภาโว โสรจฺจนฺติ อาห ‘‘โสรจฺจนฺติ อรหตฺต’’นฺติฯ เอเต เทฺวติ ขนฺติ โสรจฺจนฺติ เอเต เทฺว ธมฺมาฯ ปานียํ ปิวนฺติ เอตฺถาติ ปปา, โย โกจิ ชลาสโย ยํ กิญฺจิ ปานียฎฺฐานนฺติ อาห ‘‘จตุรสฺสโปกฺขรณีอาทีนี’’ติฯ อุทกวิกูลาทีสุ กมนฺติ อติกฺกมนฺติ เอเตหีติ สงฺกมนานิ, เสตุอาทีนิฯ เสตุกรณยุตฺตฎฺฐาเน เสตุํ, จงฺกมนกรณยุตฺตฎฺฐาเน จงฺกมนํ, มคฺคกรณยุตฺตฎฺฐาเน มคฺคํ กเรยฺยาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ เตนาห ‘‘ปณฺณาสา’’ติอาทิฯ

    Yasmā arahā eva ekantato sorato, tassa bhāvo soraccanti āha ‘‘soraccanti arahatta’’nti. Ete dveti khanti soraccanti ete dve dhammā. Pānīyaṃ pivanti etthāti papā, yo koci jalāsayo yaṃ kiñci pānīyaṭṭhānanti āha ‘‘caturassapokkharaṇīādīnī’’ti. Udakavikūlādīsu kamanti atikkamanti etehīti saṅkamanāni, setuādīni. Setukaraṇayuttaṭṭhāne setuṃ, caṅkamanakaraṇayuttaṭṭhāne caṅkamanaṃ, maggakaraṇayuttaṭṭhāne maggaṃ kareyyāti ayamettha adhippāyo. Tenāha ‘‘paṇṇāsā’’tiādi.

    ภิกฺขาจารวตฺตนฺติ อริยานํ หิตํ วตฺตปฎิปตฺติํฯ เทโนฺตปีติ ปิ-สเทฺทน อขีณาสวสฺส เทโนฺตปีติ อิมมตฺถํ ทเสฺสติ ยสฺส กสฺสจิปิ เทเนฺตนปิ กมฺมผลํ สทฺทหิตฺวา วิปฺปสนฺนจิเตฺตเนว ทาตพฺพตฺตาฯ ถนยนฺติ อิทํ ตสฺส มหาเมฆภาวทสฺสนํ, โย หิ มหาวสฺสํ วสฺสติ, โส คชฺชโนฺต วิชฺชุมฺมาลํ วิสฺสเชฺชโนฺต ปวสฺสติฯ อภิสงฺขริตฺวา สโมธาเนตฺวาติ ขาทนียสฺส วิวิธชาติยานิ สมฺปิเณฺฑตฺวาฯ เตนาห ‘‘ราสิํ กตฺวา’’ติฯ

    Bhikkhācāravattanti ariyānaṃ hitaṃ vattapaṭipattiṃ. Dentopīti pi-saddena akhīṇāsavassa dentopīti imamatthaṃ dasseti yassa kassacipi dentenapi kammaphalaṃ saddahitvā vippasannacitteneva dātabbattā. Thanayanti idaṃ tassa mahāmeghabhāvadassanaṃ, yo hi mahāvassaṃ vassati, so gajjanto vijjummālaṃ vissajjento pavassati. Abhisaṅkharitvā samodhānetvāti khādanīyassa vividhajātiyāni sampiṇḍetvā. Tenāha ‘‘rāsiṃ katvā’’ti.

    ปกิรณํ นาม วิกิรณมฺปิ โหติ อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘วิกิรตี’’ติฯ ปกิรโนฺต วิย วา ทานํ เทตีติ อิมินา คุณเขตฺตเมว อปริเยสิตฺวา กรุณาเขเตฺตปิ มหาทานํ ปวเตฺตตีติ ทเสฺสติฯ เตน ‘‘ปกิเรตี’’ติ วทเนฺตน ภควตา อฎฺฐุปฺปตฺติยํ อาคตติตฺถิยวาเทน อปฺปฎิเสธิตตาปิ ทีปิตา โหติฯ ปุญฺญธาราติ ปุญฺญมยธารา ปุญฺญาภิสนฺทาฯ สิเนหยนฺตีติ ถูลธาเรนปิ สิเนเหน สินิทฺธํ กโรนฺตีฯ กิเลทยนฺตีติ อลฺลภาวํ ปาปยนฺตีฯ ยถายํ ปุญฺญธารา ทาตารํ อโนฺต สิเนเหติ ปูเรติ อภิสเนฺทติ, เอวํ ปฎิคฺคาหกานมฺปิ อโนฺต สิเนเหติ ปูเรติ อภิสเนฺทติฯ เตเนวาห ‘‘ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู’’ติอาทิ (อ. นิ. ๕.๓๔) เอวํ สเนฺตปิ ‘‘ทาตารํ อภิวสฺสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อฎฺฐกถายํ ทายกวเสเนว ‘‘สิเนเหตี’’ติ วุตฺตํ, ยสฺมา วา ปฎิคฺคาหกสฺส สิเนหุปฺปตฺติ อามิสนิสฺสิตาติ ทายกวเสเนว วุตฺตํฯ

    Pakiraṇaṃ nāma vikiraṇampi hoti anekatthattā dhātūnanti āha ‘‘vikiratī’’ti. Pakiranto viya vā dānaṃ detīti iminā guṇakhettameva apariyesitvā karuṇākhettepi mahādānaṃ pavattetīti dasseti. Tena ‘‘pakiretī’’ti vadantena bhagavatā aṭṭhuppattiyaṃ āgatatitthiyavādena appaṭisedhitatāpi dīpitā hoti. Puññadhārāti puññamayadhārā puññābhisandā. Sinehayantīti thūladhārenapi sinehena siniddhaṃ karontī. Kiledayantīti allabhāvaṃ pāpayantī. Yathāyaṃ puññadhārā dātāraṃ anto sineheti pūreti abhisandeti, evaṃ paṭiggāhakānampi anto sineheti pūreti abhisandeti. Tenevāha ‘‘dadaṃ piyo hoti bhajanti naṃ bahū’’tiādi (a. ni. 5.34) evaṃ santepi ‘‘dātāraṃ abhivassatī’’ti vuttattā aṭṭhakathāyaṃ dāyakavaseneva ‘‘sinehetī’’ti vuttaṃ, yasmā vā paṭiggāhakassa sinehuppatti āmisanissitāti dāyakavaseneva vuttaṃ.

    อิสฺสตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Issattasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. อิสฺสตฺตสุตฺตํ • 4. Issattasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. อิสฺสตฺตสุตฺตวณฺณนา • 4. Issattasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact