Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ทีฆนิกาย (ฎีกา) • Dīghanikāya (ṭīkā) |
๗. ชาลิยสุตฺตวณฺณนา
7. Jāliyasuttavaṇṇanā
เทฺวปพฺพชิตวตฺถุวณฺณนา
Dvepabbajitavatthuvaṇṇanā
๓๗๘. ‘‘โฆสิเตน เสฎฺฐินา กเต อาราเม’’ติ วตฺวา ตตฺถ โกยํ โฆสิตเสฎฺฐิ นาม, กถญฺจาเนน อาราโม การิโต, กถํ วา ตตฺถ ภควา วิหาสีติ ตํ สพฺพํ สมุทาคมโต ปฎฺฐาย สเงฺขปโตว ทเสฺสตุํ ‘‘ปุเพฺพ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตโตติ อลฺลกปฺปรฎฺฐโตฯ ตทาติ เตสํ ตํ คามํ ปวิฎฺฐทิวเสฯ พลวปายาสนฺติ ครุตรํ พหุปายาสํฯ อสนฺนิหิเตติ เคหโต พหิ คเตฯ ภุสฺสตีติ รวติฯ โฆสกเทวปุโตฺตเตฺวว นามํ อโหสิ สรโฆสสมฺปตฺติยาฯ เวยฺยตฺติเยนาติ ปญฺญาเวยฺยตฺติเยนฯ โฆสิตเสฎฺฐิ นาม ชาโต ตาย เอว จสฺส สรสมฺปตฺติยา โฆสิตนามตาฯ
378. ‘‘Ghositena seṭṭhinā kate ārāme’’ti vatvā tattha koyaṃ ghositaseṭṭhi nāma, kathañcānena ārāmo kārito, kathaṃ vā tattha bhagavā vihāsīti taṃ sabbaṃ samudāgamato paṭṭhāya saṅkhepatova dassetuṃ ‘‘pubbe kirā’’tiādi vuttaṃ. Tatoti allakapparaṭṭhato. Tadāti tesaṃ taṃ gāmaṃ paviṭṭhadivase. Balavapāyāsanti garutaraṃ bahupāyāsaṃ. Asannihiteti gehato bahi gate. Bhussatīti ravati. Ghosakadevaputtotveva nāmaṃ ahosi saraghosasampattiyā. Veyyattiyenāti paññāveyyattiyena. Ghositaseṭṭhi nāma jāto tāya eva cassa sarasampattiyā ghositanāmatā.
สรีรสนฺตปฺปนตฺถนฺติ หิมวเนฺต ผลมูลาหารตาย กิลนฺตสรีรา โลณมฺพิลเสวเนน ตสฺส สนฺตปฺปนตฺถํ ปีนนตฺถํฯ ตสิตาติ ปิปาสิตาฯ กิลนฺตาติ ปริสฺสนฺตกายาฯ เต กิร ตํ วฎรุกฺขํ ปตฺวา ตสฺส โสภาสมฺปตฺติํ ทิสฺวา มหานุภาวา มเญฺญ เอตฺถ อธิวตฺถา เทวตา, ‘‘สาธุ วตายํ เทวตา อมฺหากํ อทฺธานปริสฺสมํ วิโนเทยฺยา’’ติ จิเนฺตสุํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ อธิวตฺถา…เป.… นิสีทิํสู’’ติฯ โสติ อนาถปิณฺฑิโก คหปติฯ ภตกานนฺติ ภติยา เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺตานํ ทาสเปสกมฺมกรานํฯ ปกติภตฺตเวตนนฺติ ปกติยา ทาตพฺพภตฺตเวตนํ, ตทา อุโปสถิกตฺตา กมฺมํ อกโรนฺตานมฺปิ กมฺมกรณทิวเสน ทาตพฺพภตฺตเวตนเมวาติ อโตฺถฯ กญฺจีติ กญฺจิปิ ภตกํฯ
Sarīrasantappanatthanti himavante phalamūlāhāratāya kilantasarīrā loṇambilasevanena tassa santappanatthaṃ pīnanatthaṃ. Tasitāti pipāsitā. Kilantāti parissantakāyā. Te kira taṃ vaṭarukkhaṃ patvā tassa sobhāsampattiṃ disvā mahānubhāvā maññe ettha adhivatthā devatā, ‘‘sādhu vatāyaṃ devatā amhākaṃ addhānaparissamaṃ vinodeyyā’’ti cintesuṃ, tena vuttaṃ ‘‘tattha adhivatthā…pe… nisīdiṃsū’’ti. Soti anāthapiṇḍiko gahapati. Bhatakānanti bhatiyā veyyāvaccaṃ karontānaṃ dāsapesakammakarānaṃ. Pakatibhattavetananti pakatiyā dātabbabhattavetanaṃ, tadā uposathikattā kammaṃ akarontānampi kammakaraṇadivasena dātabbabhattavetanamevāti attho. Kañcīti kañcipi bhatakaṃ.
อุเปจฺจ ปรสฺส วาจาย อารมฺภนํ พาธนํ อุปารโมฺภ, โทสทสฺสนวเสน ฆฎฺฎนนฺติ อโตฺถ, เตนาห ‘‘อุปารมฺภาธิปฺปาเยน วาทํ อาโรเปตุกามา หุตฺวา’’ติฯ วทนฺติ นินฺทนวเสน กเถนฺติ เอเตนาติ หิ วาโท, โทโสฯ ตํ อาโรเปตุกามา, ปติฎฺฐาเปตุกามา หุตฺวาติ อโตฺถฯ ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ, อิธ ยํ วตฺถุํ ชีวสญฺญิตํ, ตเทว สรีรสญฺญิตนฺติ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ วาทํ คเหตฺวา วทนฺติฯ รูปญฺจ อตฺตานญฺจ อทฺวยํ กตฺวา สมนุปสฺสนวเสน ‘‘สโตฺต’’ติ วา พาหิรกปริกปฺปิตํ อตฺตานํ สนฺธาย วทนฺติฯ ภิชฺชตีติ นิรุทยวินาสวเสน วินสฺสติฯ เตน ชีวสรีรานํ อนญฺญตฺตานุชานนโต, สรีรสฺส จ เภททสฺสนโตฯ น เหตฺถ ยถา เภทวตา สรีรโต อนญฺญตฺตา อทิโฎฺฐปิ ชีวสฺส เภโท วุโตฺต, เอวํ อทิฎฺฐเภทโต อนญฺญตฺตา สรีรสฺสาปิ อเภโทติ สกฺกา วิญฺญาตุํ ตสฺส เภทสฺส ปจฺจกฺขสิทฺธตฺตา, ภูตุปาทายรูปวินิมุตฺตสฺส จ สรีรสฺส อภาวโตติ อาห ‘‘อุเจฺฉทวาโท โหตี’’ติฯ
Upecca parassa vācāya ārambhanaṃ bādhanaṃ upārambho, dosadassanavasena ghaṭṭananti attho, tenāha ‘‘upārambhādhippāyena vādaṃ āropetukāmā hutvā’’ti. Vadanti nindanavasena kathenti etenāti hi vādo, doso. Taṃ āropetukāmā, patiṭṭhāpetukāmā hutvāti attho. ‘‘Taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’’nti, idha yaṃ vatthuṃ jīvasaññitaṃ, tadeva sarīrasaññitanti ‘‘rūpaṃ attato samanupassatī’’ti vādaṃ gahetvā vadanti. Rūpañca attānañca advayaṃ katvā samanupassanavasena ‘‘satto’’ti vā bāhirakaparikappitaṃ attānaṃ sandhāya vadanti. Bhijjatīti nirudayavināsavasena vinassati. Tena jīvasarīrānaṃ anaññattānujānanato, sarīrassa ca bhedadassanato. Na hettha yathā bhedavatā sarīrato anaññattā adiṭṭhopi jīvassa bhedo vutto, evaṃ adiṭṭhabhedato anaññattā sarīrassāpi abhedoti sakkā viññātuṃ tassa bhedassa paccakkhasiddhattā, bhūtupādāyarūpavinimuttassa ca sarīrassa abhāvatoti āha ‘‘ucchedavādo hotī’’ti.
‘‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’’นฺติ อญฺญเทว วตฺถุํ ชีวสญฺญิตํ, อญฺญํ วตฺถุํ สรีรสญฺญิตนฺติ ‘‘รูปวนฺตํ อตฺตานํ สมนุปสฺสตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ วาทํ คเหตฺวา วทนฺติฯ รูเป เภทสฺส ทิฎฺฐตฺตา, อตฺตนิ จ ตทภาวโต อตฺตา นิโจฺจติ อาปนฺนเมวาติ อาห ‘‘ตุมฺหากํ…เป.… อาปชฺชตี’’ติฯ
‘‘Aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīra’’nti aññadeva vatthuṃ jīvasaññitaṃ, aññaṃ vatthuṃ sarīrasaññitanti ‘‘rūpavantaṃ attānaṃ samanupassatī’’tiādinayappavattaṃ vādaṃ gahetvā vadanti. Rūpe bhedassa diṭṭhattā, attani ca tadabhāvato attā niccoti āpannamevāti āha ‘‘tumhākaṃ…pe… āpajjatī’’ti.
๓๗๙-๓๘๐. ตยิทํ เนสํ วญฺฌาสุตสฺส ทีฆรสฺสตาปริกปฺปนสทิสนฺติ กตฺวา ฐปนีโยยํ ปโญฺหติ ตตฺถ ราชนิมีลนํ กตฺวา สตฺถา อุปริ เนสํ ‘‘เตน หาวุโส สุณาถา’’ติอาทินา ธมฺมเทสนํ อารภีติ อาห ‘‘อถ ภควา’’ติอาทิฯ ตสฺสา เยวาติ มชฺฌิมาย ปฎิปทายฯ
379-380. Tayidaṃ nesaṃ vañjhāsutassa dīgharassatāparikappanasadisanti katvā ṭhapanīyoyaṃ pañhoti tattha rājanimīlanaṃ katvā satthā upari nesaṃ ‘‘tena hāvuso suṇāthā’’tiādinā dhammadesanaṃ ārabhīti āha ‘‘atha bhagavā’’tiādi. Tassā yevāti majjhimāya paṭipadāya.
สทฺธาปพฺพชิตสฺสาติ สทฺธาย ปพฺพชิตสฺส ‘‘เอวมหํ อิโต วฎฺฎทุกฺขโต นิสฺสริสฺสามี’’ติ เอวํ ปพฺพชฺชํ อุปคตสฺส ตทนุรูปญฺจ สีลํ ปูเรตฺวา ปฐมชฺฌาเนน สมาหิตจิตฺตสฺสฯ เอตํ วตฺตุนฺติ เอตํ กิเลสวฎฺฎปริพุทฺธิทีปนํ ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติอาทิกํ ทิฎฺฐิสํกิเลสนิสฺสิตํ วจนํ วตฺตุนฺติ อโตฺถฯ นิพฺพิจิกิโจฺฉ น โหตีติ ธเมฺมสุ ติณฺณวิจิกิโจฺฉ น โหติ, ตตฺถ ตตฺถ อาสปฺปนปริสปฺปนวเสน ปวตฺตตีติ อโตฺถฯ
Saddhāpabbajitassāti saddhāya pabbajitassa ‘‘evamahaṃ ito vaṭṭadukkhato nissarissāmī’’ti evaṃ pabbajjaṃ upagatassa tadanurūpañca sīlaṃ pūretvā paṭhamajjhānena samāhitacittassa. Etaṃ vattunti etaṃ kilesavaṭṭaparibuddhidīpanaṃ ‘‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’’ntiādikaṃ diṭṭhisaṃkilesanissitaṃ vacanaṃ vattunti attho. Nibbicikiccho na hotīti dhammesu tiṇṇavicikiccho na hoti, tattha tattha āsappanaparisappanavasena pavattatīti attho.
เอตเมวํ ชานามีติ เยน โส ภิกฺขุ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ จิตฺตนฺติ เอวํ ชานามิฯ โน จ เอวํ วทามีติ ยถา ทิฎฺฐิคติกา ตํ ธมฺมชาตํ สนิสฺสยํ อเภทโต คณฺหนฺตา ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ วา ตทุภยํ เภทโต คณฺหนฺตา ‘‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’’นฺติ วา อตฺตโน มิจฺฉาคาหํ ปเวเทนฺติ, อหํ ปน น เอวํ วทามิ ตสฺส ธมฺมสฺส สุปริญฺญาตตฺตา, เตนาห ‘‘อถ โข’’ติอาทิ ฯ พาหิรกา เยภุเยฺยน กสิณชฺฌานานิ เอว นิพฺพเตฺตนฺตีติ อาห ‘‘กสิณปริกมฺมํ ภาวเนฺตสฺสา’’ติฯ ยสฺมา ภาวนานุภาเวน ฌานาธิคโม, ภาวนา จ ปถวีกสิณาทิสญฺชานนมุเขน โหตีติ สญฺญาสีเสน นิทฺทิสียติ, ตสฺมา อาห ‘‘สญฺญาพเลน อุปฺปนฺน’’นฺติฯ เตนาห – ‘‘ปถวีกสิณเมโก สญฺชานาตี’’ติอาทิฯ ‘‘น กลฺลํ ตเสฺสต’’นฺติ อิทํ ยสฺมา ภควตา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อถ จ ปนาหํ น วทามี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา น วตฺตพฺพํ กิเรตํ เกวลินา อุตฺตมปุริเสนาติ อธิปฺปาเยนาห, เตน วุตฺตํ ‘‘มญฺญมานา วทนฺตี’’ติฯ เสสํ สพฺพตฺถ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Etamevaṃ jānāmīti yena so bhikkhu paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati, etaṃ sasampayuttadhammaṃ cittanti evaṃ jānāmi. No ca evaṃ vadāmīti yathā diṭṭhigatikā taṃ dhammajātaṃ sanissayaṃ abhedato gaṇhantā ‘‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’’nti vā tadubhayaṃ bhedato gaṇhantā ‘‘aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīra’’nti vā attano micchāgāhaṃ pavedenti, ahaṃ pana na evaṃ vadāmi tassa dhammassa supariññātattā, tenāha ‘‘atha kho’’tiādi . Bāhirakā yebhuyyena kasiṇajjhānāni eva nibbattentīti āha ‘‘kasiṇaparikammaṃ bhāvantessā’’ti. Yasmā bhāvanānubhāvena jhānādhigamo, bhāvanā ca pathavīkasiṇādisañjānanamukhena hotīti saññāsīsena niddisīyati, tasmā āha ‘‘saññābalena uppanna’’nti. Tenāha – ‘‘pathavīkasiṇameko sañjānātī’’tiādi. ‘‘Na kallaṃ tasseta’’nti idaṃ yasmā bhagavatā tattha tattha ‘‘atha ca panāhaṃ na vadāmī’’ti vuttaṃ, tasmā na vattabbaṃ kiretaṃ kevalinā uttamapurisenāti adhippāyenāha, tena vuttaṃ ‘‘maññamānā vadantī’’ti. Sesaṃ sabbattha suviññeyyameva.
ชาลิยสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนาฯ
Jāliyasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ทีฆนิกาย • Dīghanikāya / ๗. ชาลิยสุตฺตํ • 7. Jāliyasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ทีฆ นิกาย (อฎฺฐกถา) • Dīgha nikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ชาลิยสุตฺตวณฺณนา • 7. Jāliyasuttavaṇṇanā