Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๘. ชมฺพาลีสุตฺตวณฺณนา

    8. Jambālīsuttavaṇṇanā

    ๑๗๘. อฎฺฐเม สนฺตํ เจโตวิมุตฺตินฺติ อฎฺฐนฺนํ สมาปตฺตีนํ อญฺญตรํ สมาปตฺติํฯ สกฺกายนิโรธนฺติ เตภูมกวฎฺฎสงฺขาตสฺส สกฺกายสฺส นิโรธํ, นิพฺพานนฺติ อโตฺถฯ น ปกฺขนฺทตีติ อารมฺมณวเสน น ปกฺขนฺทติฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ น ปาฎิกโงฺขติ น ปาฎิกงฺขิตโพฺพฯ เลปคเตนาติ เลปมกฺขิเตนฯ

    178. Aṭṭhame santaṃ cetovimuttinti aṭṭhannaṃ samāpattīnaṃ aññataraṃ samāpattiṃ. Sakkāyanirodhanti tebhūmakavaṭṭasaṅkhātassa sakkāyassa nirodhaṃ, nibbānanti attho. Na pakkhandatīti ārammaṇavasena na pakkhandati. Sesapadesupi eseva nayo. Na pāṭikaṅkhoti na pāṭikaṅkhitabbo. Lepagatenāti lepamakkhitena.

    อิมสฺมิญฺจ ปนเตฺถ นทีปารํ คนฺตุกามปุริโสปมฺมํ อาหริตพฺพํ – เอโก กิร ปุริโส จณฺฑโสตาย วาฬมจฺฉากุลาย นทิยา ปารํ คนฺตุกาโม ‘‘โอริมํ ตีรํ สาสงฺกํ สปฺปฎิภยํ, ปาริมํ ตีรํ เขมํ อปฺปฎิภยํ, กิํ นุ โข กตฺวา ปารํ คมิสฺสามี’’ติ ปฎิปาฎิยา ฐิเต อฎฺฐ กกุธรุเกฺข ทิสฺวา ‘‘สกฺกา อิมาย รุกฺขปฎิปาฎิยา คนฺตุ’’นฺติ มนสิกตฺวา ‘‘กกุธรุกฺขา นาม มฎฺฐสาขา โหนฺติ, สาขาย หตฺถา น สณฺฐเหยฺยุ’’นฺติ นิโคฺรธปิลกฺขรุกฺขาทีนํ อญฺญตรสฺส ลาขาย หตฺถปาเท มเกฺขตฺวา ทกฺขิณหเตฺถน เอกํ สาขํ คณฺหิฯ หโตฺถ ตเตฺถว ลคิฯ ปุน วามหเตฺถน ทกฺขิณปาเทน วามปาเทนาติ จตฺตาโรปิ หตฺถปาทา ตเตฺถว ลคิํสุฯ โส อโธสิโร ลมฺพมาโน อุปรินทิยํ เทเว วุเฎฺฐ ปุณฺณาย นทิยา โสเต นิมุโคฺค กุมฺภีลาทีนํ ภโกฺข อโหสิฯ

    Imasmiñca panatthe nadīpāraṃ gantukāmapurisopammaṃ āharitabbaṃ – eko kira puriso caṇḍasotāya vāḷamacchākulāya nadiyā pāraṃ gantukāmo ‘‘orimaṃ tīraṃ sāsaṅkaṃ sappaṭibhayaṃ, pārimaṃ tīraṃ khemaṃ appaṭibhayaṃ, kiṃ nu kho katvā pāraṃ gamissāmī’’ti paṭipāṭiyā ṭhite aṭṭha kakudharukkhe disvā ‘‘sakkā imāya rukkhapaṭipāṭiyā gantu’’nti manasikatvā ‘‘kakudharukkhā nāma maṭṭhasākhā honti, sākhāya hatthā na saṇṭhaheyyu’’nti nigrodhapilakkharukkhādīnaṃ aññatarassa lākhāya hatthapāde makkhetvā dakkhiṇahatthena ekaṃ sākhaṃ gaṇhi. Hattho tattheva lagi. Puna vāmahatthena dakkhiṇapādena vāmapādenāti cattāropi hatthapādā tattheva lagiṃsu. So adhosiro lambamāno uparinadiyaṃ deve vuṭṭhe puṇṇāya nadiyā sote nimuggo kumbhīlādīnaṃ bhakkho ahosi.

    ตตฺถ นทีโสตํ วิย สํสารโสตํ ทฎฺฐพฺพํ, โสตสฺส ปารํ คนฺตุกามปุริโส วิย โยคาวจโร, โอริมตีรํ วิย สกฺกาโย, ปาริมตีรํ วิย นิพฺพานํ, ปฎิปาฎิยา ฐิตา อฎฺฐ กกุธรุกฺขา วิย อฎฺฐ สมาปตฺติโย, เลปมกฺขิเตน หเตฺถน สาขาคหณํ วิย ฌานวิปสฺสนานํ ปาริปนฺถิเก อโสเธตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชนํ, จตูหิ หตฺถปาเทหิ สาขาย พทฺธสฺส โอลมฺพนํ วิย ปฐมชฺฌาเน นิกนฺติยา ลคฺคกาโล, อุปริโสเต วุฎฺฐิ วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ กิเลสานํ อุปฺปนฺนกาโล, นทิยา ปุณฺณาย โสเต นิมุคฺคสฺส กุมฺภีลาทีนํ ภกฺขภูตกาโล วิย สํสารโสเต นิมุคฺคสฺส จตูสุ อปาเยสุ ทุกฺขานุภวนกาโล เวทิตโพฺพฯ

    Tattha nadīsotaṃ viya saṃsārasotaṃ daṭṭhabbaṃ, sotassa pāraṃ gantukāmapuriso viya yogāvacaro, orimatīraṃ viya sakkāyo, pārimatīraṃ viya nibbānaṃ, paṭipāṭiyā ṭhitā aṭṭha kakudharukkhā viya aṭṭha samāpattiyo, lepamakkhitena hatthena sākhāgahaṇaṃ viya jhānavipassanānaṃ pāripanthike asodhetvā samāpattisamāpajjanaṃ, catūhi hatthapādehi sākhāya baddhassa olambanaṃ viya paṭhamajjhāne nikantiyā laggakālo, uparisote vuṭṭhi viya chasu dvāresu kilesānaṃ uppannakālo, nadiyā puṇṇāya sote nimuggassa kumbhīlādīnaṃ bhakkhabhūtakālo viya saṃsārasote nimuggassa catūsu apāyesu dukkhānubhavanakālo veditabbo.

    สุเทฺธน หเตฺถนาติ สุโธเตน ปริสุทฺธหเตฺถนฯ อิมสฺมิมฺปิ อเตฺถ ตาทิสเมว โอปมฺมํ กาตพฺพํ – ตเถว หิ ปารํ คนฺตุกาโม ปุริโส ‘‘กกุธรุกฺขา นาม มฎฺฐสาขา, กิลิฎฺฐหเตฺถน คณฺหนฺตสฺส หโตฺถ ปริคเลยฺยา’’ติ หตฺถปาเท สุโธเต กตฺวา เอกํ สาขํ คณฺหิตฺวา ปฐมํ รุกฺขํ อารุโฬฺหฯ ตโต โอตริตฺวา ทุติยํ…เป.… ตโต โอตริตฺวา อฎฺฐมํ, อฎฺฐมรุกฺขโต โอตริตฺวา ปาริมตีเร เขมนฺตภูมิํ คโตฯ

    Suddhena hatthenāti sudhotena parisuddhahatthena. Imasmimpi atthe tādisameva opammaṃ kātabbaṃ – tatheva hi pāraṃ gantukāmo puriso ‘‘kakudharukkhā nāma maṭṭhasākhā, kiliṭṭhahatthena gaṇhantassa hattho parigaleyyā’’ti hatthapāde sudhote katvā ekaṃ sākhaṃ gaṇhitvā paṭhamaṃ rukkhaṃ āruḷho. Tato otaritvā dutiyaṃ…pe… tato otaritvā aṭṭhamaṃ, aṭṭhamarukkhato otaritvā pārimatīre khemantabhūmiṃ gato.

    ตตฺถ ‘‘อิเมหิ รุเกฺขหิ ปาริมตีรํ คมิสฺสามี’’ติ ตสฺส ปุริสสฺส จินฺติตกาโล วิย โยคิโน ‘‘อฎฺฐ สมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา สมาปตฺติโต วุฎฺฐาย อรหตฺตํ คมิสฺสามี’’ติ จินฺติตกาโล, สุเทฺธน หเตฺถน สาขาคหณํ วิย ฌานวิปสฺสนานํ ปาริปนฺถิกธเมฺม โสเธตฺวา สมาปตฺติสมาปชฺชนํฯ ตตฺถ ปฐมรุกฺขาโรหณกาโล วิย ปฐมชฺฌานสมาปตฺติกาโล, ปฐมรุกฺขโต โอรุยฺห ทุติยํ อารุฬฺหกาโล วิย ปฐมชฺฌาเน นิกนฺติยา อพทฺธสฺส ตโต วุฎฺฐาย ทุติยชฺฌานสมาปนฺนกาโล…เป.… สตฺตมรุกฺขโต โอรุยฺห อฎฺฐมํ อารุฬฺหกาโล วิย อากิญฺจญฺญายตนสมาปตฺติยํ นิกนฺติยา อพทฺธสฺส ตโต วุฎฺฐาย เนวสญฺญานาสญฺญายตนสมาปนฺนกาโลฯ อฎฺฐมรุกฺขโต โอรุยฺห ปาริมตีรํ เขมนฺตภูมิํ คตกาโล วิย เนวสญฺญานาสญฺญายตเน นิกนฺติยา อพทฺธสฺส สมาปตฺติโต วุฎฺฐาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตกาโล เวทิตโพฺพฯ

    Tattha ‘‘imehi rukkhehi pārimatīraṃ gamissāmī’’ti tassa purisassa cintitakālo viya yogino ‘‘aṭṭha samāpattiyo samāpajjitvā samāpattito vuṭṭhāya arahattaṃ gamissāmī’’ti cintitakālo, suddhena hatthena sākhāgahaṇaṃ viya jhānavipassanānaṃ pāripanthikadhamme sodhetvā samāpattisamāpajjanaṃ. Tattha paṭhamarukkhārohaṇakālo viya paṭhamajjhānasamāpattikālo, paṭhamarukkhato oruyha dutiyaṃ āruḷhakālo viya paṭhamajjhāne nikantiyā abaddhassa tato vuṭṭhāya dutiyajjhānasamāpannakālo…pe… sattamarukkhato oruyha aṭṭhamaṃ āruḷhakālo viya ākiñcaññāyatanasamāpattiyaṃ nikantiyā abaddhassa tato vuṭṭhāya nevasaññānāsaññāyatanasamāpannakālo. Aṭṭhamarukkhato oruyha pārimatīraṃ khemantabhūmiṃ gatakālo viya nevasaññānāsaññāyatane nikantiyā abaddhassa samāpattito vuṭṭhāya saṅkhāre sammasitvā arahattappattakālo veditabbo.

    อวิชฺชาปฺปเภทํ มนสิ กโรตีติ อฎฺฐสุ ฐาเนสุ อญฺญาณภูตาย คณพหลมหาอวิชฺชาย ปเภทสงฺขาตํ อรหตฺตํ มนสิ กโรติฯ น ปกฺขนฺทตีติ อารมฺมณวเสเนว น ปกฺขนฺทติฯ ชมฺพาลีติ คามโต นิกฺขนฺตสฺส มหาอุทกสฺส ปติฎฺฐานภูโต มหาอาวาโฎฯ อเนกวสฺสคณิกาติ คามสฺส วา นครสฺส วา อุปฺปนฺนกาเลเยว อุปฺปนฺนตฺตา อเนกานิ วสฺสคณานิ อุปฺปนฺนาย เอติสฺสาติ อเนกวสฺสคณิกาฯ อายมุขานีติ จตโสฺส ปวิสนกนฺทราฯ อปายมุขานีติ อปวาหนจฺฉิทฺทานิฯ น อาฬิปฺปเภโท ปาฎิกโงฺขติ น ปาฬิปฺปเภโท ปาฎิกงฺขิตโพฺพฯ น หิ ตโต อุทกํ อุฎฺฐาย ปาฬิํ ภินฺทิตฺวา กจวรํ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ ปาปุณาติฯ

    Avijjāppabhedaṃ manasi karotīti aṭṭhasu ṭhānesu aññāṇabhūtāya gaṇabahalamahāavijjāya pabhedasaṅkhātaṃ arahattaṃ manasi karoti. Na pakkhandatīti ārammaṇavaseneva na pakkhandati. Jambālīti gāmato nikkhantassa mahāudakassa patiṭṭhānabhūto mahāāvāṭo. Anekavassagaṇikāti gāmassa vā nagarassa vā uppannakāleyeva uppannattā anekāni vassagaṇāni uppannāya etissāti anekavassagaṇikā. Āyamukhānīti catasso pavisanakandarā. Apāyamukhānīti apavāhanacchiddāni. Na āḷippabhedo pāṭikaṅkhoti na pāḷippabhedo pāṭikaṅkhitabbo. Na hi tato udakaṃ uṭṭhāya pāḷiṃ bhinditvā kacavaraṃ gahetvā mahāsamuddaṃ pāpuṇāti.

    อิมสฺส ปนตฺถสฺส วิภาวนตฺถํ อุยฺยานคเวสกโอปมฺมํ อาหริตพฺพํฯ เอโก กิร นครวาสิโก กุลปุโตฺต อุยฺยานํ คเวสโนฺต นครโต นาติทูเร นจฺจาสเนฺน มหนฺตํ ชมฺพาลิํ อทฺทสฯ โส ‘‘อิมสฺมิํ ฐาเน รมณียํ อุยฺยานํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลเกฺขตฺวา กุทฺทาลํ อาทาย จตฺตาริปิ กนฺทรานิ ปิธาย อปวาหนจฺฉิทฺทานิ วิวริตฺวา อฎฺฐาสิฯ เทโว น สมฺมา วสฺสิ, อวเสสอุทกํ อปวาหนจฺฉิเทฺทน ปริสฺสวิตฺวา คตํฯ จมฺมขณฺฑปิโลติกาทีนิ ตเตฺถว ปูติกานิ ชาตานิ, ปาณกา สณฺฐิตา, สมนฺตา อนุปคมนียา ชาตาฯ อุปคตานมฺปิ นาสาปุเฎ ปิธาย ปกฺกมิตพฺพํ โหติ ฯ โส กติปาเหน อาคนฺตฺวา ปฎิกฺกมฺม ฐิโต โอโลเกตฺวา ‘‘น สกฺกา อุปคนฺตุ’’นฺติ ปกฺกามิฯ

    Imassa panatthassa vibhāvanatthaṃ uyyānagavesakaopammaṃ āharitabbaṃ. Eko kira nagaravāsiko kulaputto uyyānaṃ gavesanto nagarato nātidūre naccāsanne mahantaṃ jambāliṃ addasa. So ‘‘imasmiṃ ṭhāne ramaṇīyaṃ uyyānaṃ bhavissatī’’ti sallakkhetvā kuddālaṃ ādāya cattāripi kandarāni pidhāya apavāhanacchiddāni vivaritvā aṭṭhāsi. Devo na sammā vassi, avasesaudakaṃ apavāhanacchiddena parissavitvā gataṃ. Cammakhaṇḍapilotikādīni tattheva pūtikāni jātāni, pāṇakā saṇṭhitā, samantā anupagamanīyā jātā. Upagatānampi nāsāpuṭe pidhāya pakkamitabbaṃ hoti . So katipāhena āgantvā paṭikkamma ṭhito oloketvā ‘‘na sakkā upagantu’’nti pakkāmi.

    ตตฺถ นครวาสี กุลปุโตฺต วิย โยคาวจโร ทฎฺฐโพฺพ, อุยฺยานํ คเวสเนฺตน คามทฺวาเร ชมฺพาลิยา ทิฎฺฐกาโล วิย จาตุมหาภูติกกาโย, อายมุขานํ ปิหิตกาโล วิย ธมฺมสฺสวโนทกสฺส อลทฺธกาโล, อปายมุขานํ วิวฎกาโล วิย ฉทฺวาริกสํวรสฺส วิสฺสฎฺฐกาโล, เทวสฺส สมฺมา อวุฎฺฐกาโล วิย สปฺปายกมฺมฎฺฐานสฺส อลทฺธกาโล, อวเสสอุทกสฺส อปายมุเขหิ ปริสฺสวิตฺวา คตกาโล วิย อพฺภนฺตเร คุณานํ ปริหีนกาโล, อุทกสฺส อุฎฺฐาย ปาฬิํ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปาปุณิตุํ อสมตฺถกาโล วิย อรหตฺตมเคฺคน อวิชฺชาปาฬิํ ภินฺทิตฺวา กิเลสราสิํ วิธมิตฺวา นิพฺพานํ สจฺฉิกาตุํ อสมตฺถกาโล, จมฺมขณฺฑปิโลติกาทีนํ ตเตฺถว ปูติภาโว วิย อพฺภนฺตเร ราคาทิกิเลเสหิ ปริปูริตกาโล, ตสฺส อาคนฺตฺวา ทิสฺวา วิปฺปฎิสาริโน คตกาโล วิย วฎฺฎสมงฺคิปุคฺคลสฺส วเฎฺฎ อภิรตกาโล เวทิตโพฺพฯ

    Tattha nagaravāsī kulaputto viya yogāvacaro daṭṭhabbo, uyyānaṃ gavesantena gāmadvāre jambāliyā diṭṭhakālo viya cātumahābhūtikakāyo, āyamukhānaṃ pihitakālo viya dhammassavanodakassa aladdhakālo, apāyamukhānaṃ vivaṭakālo viya chadvārikasaṃvarassa vissaṭṭhakālo, devassa sammā avuṭṭhakālo viya sappāyakammaṭṭhānassa aladdhakālo, avasesaudakassa apāyamukhehi parissavitvā gatakālo viya abbhantare guṇānaṃ parihīnakālo, udakassa uṭṭhāya pāḷiṃ bhinditvā kacavaraṃ ādāya mahāsamuddaṃ pāpuṇituṃ asamatthakālo viya arahattamaggena avijjāpāḷiṃ bhinditvā kilesarāsiṃ vidhamitvā nibbānaṃ sacchikātuṃ asamatthakālo, cammakhaṇḍapilotikādīnaṃ tattheva pūtibhāvo viya abbhantare rāgādikilesehi paripūritakālo, tassa āgantvā disvā vippaṭisārino gatakālo viya vaṭṭasamaṅgipuggalassa vaṭṭe abhiratakālo veditabbo.

    อาฬิปฺปเภโท ปาฎิกโงฺขติ ปาฬิปฺปเภโท ปาฎิกงฺขิตโพฺพฯ ตโต หิ อุทกํ อุฎฺฐาย ปาฬิํ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปาปุณิตุํ สกฺขิสฺสตีติ อโตฺถฯ

    Āḷippabhedo pāṭikaṅkhoti pāḷippabhedo pāṭikaṅkhitabbo. Tato hi udakaṃ uṭṭhāya pāḷiṃ bhinditvā kacavaraṃ ādāya mahāsamuddaṃ pāpuṇituṃ sakkhissatīti attho.

    อิธาปิ ตเทว โอปมฺมํ อาหริตพฺพํฯ ตตฺถ อายมุขานํ วิวฎกาโล วิย สปฺปายธมฺมสฺสวนสฺส ลทฺธกาโล, อปายมุขานํ ปิหิตกาโล วิย ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรสฺส ปจฺจุปฎฺฐิตกาโล, เทวสฺส สมฺมา วุฎฺฐกาโล วิย สปฺปายกมฺมฎฺฐานสฺส ลทฺธกาโล, อุทกสฺส อุฎฺฐาย ปาฬิํ ภินฺทิตฺวา กจวรํ อาทาย มหาสมุทฺทํ ปตฺตกาโล วิย อรหตฺตมเคฺคน อวิชฺชํ ภินฺทิตฺวา อกุสลราสิํ วิธมิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกตกาโล, อายมุเขหิ ปวิเฎฺฐน อุทเกน สรสฺส ปริปุณฺณกาโล วิย อพฺภนฺตเร โลกุตฺตรธเมฺมหิ ปริปุณฺณกาโล, สมนฺตโต วติํ กตฺวา รุเกฺข โรเปตฺวา อุยฺยานมเชฺฌ ปาสาทํ มาเปตฺวา นาฎกานิ ปจฺจุปฎฺฐเปตฺวา สุโภชนํ ภุญฺชนฺตสฺส นิสินฺนกาโล วิย ธมฺมปาสาทํ อารุยฺห นิพฺพานารมฺมณํ ผลสมาปตฺติํ อเปฺปตฺวา นิสินฺนกาโล เวทิตโพฺพฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวฯ เทสนา ปน โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสิกา กถิตาติฯ

    Idhāpi tadeva opammaṃ āharitabbaṃ. Tattha āyamukhānaṃ vivaṭakālo viya sappāyadhammassavanassa laddhakālo, apāyamukhānaṃ pihitakālo viya chasu dvāresu saṃvarassa paccupaṭṭhitakālo, devassa sammā vuṭṭhakālo viya sappāyakammaṭṭhānassa laddhakālo, udakassa uṭṭhāya pāḷiṃ bhinditvā kacavaraṃ ādāya mahāsamuddaṃ pattakālo viya arahattamaggena avijjaṃ bhinditvā akusalarāsiṃ vidhamitvā arahattaṃ sacchikatakālo, āyamukhehi paviṭṭhena udakena sarassa paripuṇṇakālo viya abbhantare lokuttaradhammehi paripuṇṇakālo, samantato vatiṃ katvā rukkhe ropetvā uyyānamajjhe pāsādaṃ māpetvā nāṭakāni paccupaṭṭhapetvā subhojanaṃ bhuñjantassa nisinnakālo viya dhammapāsādaṃ āruyha nibbānārammaṇaṃ phalasamāpattiṃ appetvā nisinnakālo veditabbo. Sesamettha uttānatthameva. Desanā pana lokiyalokuttaramissikā kathitāti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๘. ชมฺพาลีสุตฺตํ • 8. Jambālīsuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๘. ชมฺพาลีสุตฺตวณฺณนา • 8. Jambālīsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact