Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๘. ชมฺพุคามิยปุตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา
8. Jambugāmiyaputtattheragāthāvaṇṇanā
กจฺจิ โน วตฺถปสุโตติ อายสฺมโต ชมฺพุคามิยปุตฺตเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร หุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อาจินโนฺต อิโต เอกติํเส กเปฺป เวสฺสภุสฺส ภควโต กาเล เอกทิวสํ กิํสุกานิ ปุปฺผานิ ทิสฺวา ตานิ ปุปฺผานิ คเหตฺวา พุทฺธคุเณ อนุสฺสรโนฺต ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส อากาเส ขิปโนฺต ปูเชสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน ตาวติํเสสุ นิพฺพโตฺตฯ ตโต ปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา อปราปรํ เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท จมฺปายํ ชมฺพุคามิยสฺส นาม อุปาสกสฺส ปุโตฺต หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ เตน ปุญฺญกเมฺมน ตาวติํเสสุ นิพฺพโตฺตฯ ตโต ปรํ ปุญฺญานิ กตฺวา อปราปรํ เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท จมฺปายํ ชมฺพุคามิยสฺส นาม อุปาสกสฺส ปุตฺวา นิพฺพตฺติฯ เตนสฺส ชมฺพุคามิยปุโตฺตเตฺวว สมญฺญา อโหสิฯ โส วยปฺปโตฺต ภควโต สนฺติเก ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสํเวโค ปพฺพชิตฺวา กตปุพฺพกิโจฺจ กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา สาเกเต อญฺชนวเน วสติฯ อถสฺส ปิตา ‘‘กิํ นุ โข มม ปุโตฺต สาสเน อภิรโต วิหรติ, อุทาหุ โน’’ติ วีมํสนตฺถํ ‘‘กจฺจิ โน วตฺถปสุโต’’ติ คาถํ ลิขิตฺวา เปเสสิฯ โส ตํ วาเจตฺวา, ‘‘ปิตา เม ปมาทวิหารํ อาสงฺกติ, อหญฺจ อชฺชาปิ ปุถุชฺชนภูมิํ นาติวโตฺต’’ติ สํเวคชาโต ฆเฎโนฺต วายมโนฺต นจิรเสฺสว ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๐.๒๕-๓๐) –
Kaccino vatthapasutoti āyasmato jambugāmiyaputtattherassa gāthā. Kā uppatti? So kira purimabuddhesu katādhikāro hutvā tattha tattha vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ ācinanto ito ekatiṃse kappe vessabhussa bhagavato kāle ekadivasaṃ kiṃsukāni pupphāni disvā tāni pupphāni gahetvā buddhaguṇe anussaranto bhagavantaṃ uddissa ākāse khipanto pūjesi. So tena puññakammena tāvatiṃsesu nibbatto. Tato paraṃ puññāni katvā aparāparaṃ devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde campāyaṃ jambugāmiyassa nāma upāsakassa putto hutvā nibbatti. Tena puññakammena tāvatiṃsesu nibbatto. Tato paraṃ puññāni katvā aparāparaṃ devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde campāyaṃ jambugāmiyassa nāma upāsakassa putvā nibbatti. Tenassa jambugāmiyaputtotveva samaññā ahosi. So vayappatto bhagavato santike dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaṃvego pabbajitvā katapubbakicco kammaṭṭhānaṃ gahetvā sākete añjanavane vasati. Athassa pitā ‘‘kiṃ nu kho mama putto sāsane abhirato viharati, udāhu no’’ti vīmaṃsanatthaṃ ‘‘kacci no vatthapasuto’’ti gāthaṃ likhitvā pesesi. So taṃ vācetvā, ‘‘pitā me pamādavihāraṃ āsaṅkati, ahañca ajjāpi puthujjanabhūmiṃ nātivatto’’ti saṃvegajāto ghaṭento vāyamanto nacirasseva chaḷabhiñño ahosi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.50.25-30) –
‘‘กิํสุกํ ปุปฺผิตํ ทิสฺวา, ปคฺคเหตฺวาน อญฺชลิํ;
‘‘Kiṃsukaṃ pupphitaṃ disvā, paggahetvāna añjaliṃ;
พุทฺธเสฎฺฐํ สริตฺวาน, อากาเส อภิปูชยิํฯ
Buddhaseṭṭhaṃ saritvāna, ākāse abhipūjayiṃ.
‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;
‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;
ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ
Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.
‘‘เอกติํเส อิโต กเปฺป, ยํ กมฺมมกริํ ตทา;
‘‘Ekatiṃse ito kappe, yaṃ kammamakariṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา ญาตีนํ วสนนครํ คนฺตฺวา สาสนสฺส นิยฺยานิกภาวํ ปกาเสโนฺต อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสสิฯ ตํ ทิสฺวา ญาตกา ปสนฺนมานสา พหู สงฺฆาราเม กาเรสุํฯ เถโรปิ สกปิตรา เปสิตํ คาถํ องฺกุสํ กตฺวา ฆเฎโนฺต วายมโนฺต อรหตฺตํ สจฺฉากาสิฯ อญฺญํ พฺยากโรโนฺตปิ ปิตุปูชนตฺถํ ‘‘กจฺจิ โน วตฺถปสุโต’’ติ ตเมว คาถํ อภาสิฯ
Arahattaṃ pana patvā ñātīnaṃ vasananagaraṃ gantvā sāsanassa niyyānikabhāvaṃ pakāsento iddhipāṭihāriyaṃ dassesi. Taṃ disvā ñātakā pasannamānasā bahū saṅghārāme kāresuṃ. Theropi sakapitarā pesitaṃ gāthaṃ aṅkusaṃ katvā ghaṭento vāyamanto arahattaṃ sacchākāsi. Aññaṃ byākarontopi pitupūjanatthaṃ ‘‘kacci no vatthapasuto’’ti tameva gāthaṃ abhāsi.
๒๘. ตตฺถ กจฺจีติ ปุจฺฉายํ นิปาโตฯ โนติ ปฎิเสเธฯ วตฺถปสุโตติ วเตฺถ ปสุโต วตฺถปสุโต, จีวรมณฺฑนาภิรโตฯ นิทสฺสนมตฺตเญฺจตํ ปตฺตมณฺฑนาทิจาปลฺลปฎิเกฺขปสฺสาปิ อธิเปฺปตตฺตาฯ ‘‘กจฺจิ น วตฺถปสุโต’’ติปิ ปาโฐ, โส เอวโตฺถฯ ภูสนารโตติ อตฺตภาววิภูสนาย รโต อภิรโต, ยเถกเจฺจ ปพฺพชิตฺวาปิ จปลา กายทฬฺหิพหุลา จีวราทิปริกฺขารสฺส อตฺตโน สรีรสฺส จ มณฺฑนวิภูสนฎฺฐานาย ยุตฺตา โหนฺติฯ กิเมว ปริกฺขารปสุโต ภูสนารโต จ นาโหสีติ อยเมตฺถ ปททฺวยสฺสาปิ อโตฺถฯ สีลมยํ คนฺธนฺติ อขณฺฑาทิภาวาปาทเนน สุปริสุทฺธสฺส จตุพฺพิธสฺสปิ สีลสฺส วเสน ยฺวายํ ‘‘โย จ สีลวตํ ปชาติ น อิตรา ทุสฺสีลปชา, ทุสฺสีลตฺตาเยว ทุสฺสิลฺยมยํ ทุคฺคนฺธํ วายติ, เอวํ ตฺวํ ทุคฺคนฺธํ อวายิตฺวา กจฺจิ สีลมยํ คนฺธํ วายสีติ อโตฺถฯ อถ วา เนตรา ปชาติ น อิตรา ทุสฺสีลปชา, ตํ กจฺจิ น โหติ, ยโต สีลมยํ คนฺธํ วายสีติ พฺยติเรเกน สีลคนฺธวายนเมว วิภาเวติฯ
28. Tattha kaccīti pucchāyaṃ nipāto. Noti paṭisedhe. Vatthapasutoti vatthe pasuto vatthapasuto, cīvaramaṇḍanābhirato. Nidassanamattañcetaṃ pattamaṇḍanādicāpallapaṭikkhepassāpi adhippetattā. ‘‘Kacci na vatthapasuto’’tipi pāṭho, so evattho. Bhūsanāratoti attabhāvavibhūsanāya rato abhirato, yathekacce pabbajitvāpi capalā kāyadaḷhibahulā cīvarādiparikkhārassa attano sarīrassa ca maṇḍanavibhūsanaṭṭhānāya yuttā honti. Kimeva parikkhārapasuto bhūsanārato ca nāhosīti ayamettha padadvayassāpi attho. Sīlamayaṃ gandhanti akhaṇḍādibhāvāpādanena suparisuddhassa catubbidhassapi sīlassa vasena yvāyaṃ ‘‘yo ca sīlavataṃ pajāti na itarā dussīlapajā, dussīlattāyeva dussilyamayaṃ duggandhaṃ vāyati, evaṃ tvaṃ duggandhaṃ avāyitvā kacci sīlamayaṃ gandhaṃ vāyasīti attho. Atha vā netarā pajāti na itarā dussīlapajā, taṃ kacci na hoti, yato sīlamayaṃ gandhaṃ vāyasīti byatirekena sīlagandhavāyanameva vibhāveti.
ชมฺพุคามิยปุตฺตเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Jambugāmiyaputtattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๘. ชมฺพุคามิกปุตฺตเตฺถรคาถา • 8. Jambugāmikaputtattheragāthā