Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๕. ชนฺตุสุตฺตวณฺณนา
5. Jantusuttavaṇṇanā
๑๐๖. ปญฺจเม โกสเลสุ วิหรนฺตีติ ภควโต สนฺติเก กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วิหรนฺติฯ อุทฺธตาติ อกปฺปิเย กปฺปิยสญฺญิตาย จ กปฺปิเย อกปฺปิยสญฺญิตาย จ อนวเชฺช สาวชฺชสญฺญิตาย จ สาวเชฺช อนวชฺชสญฺญิตาย จ อุทฺธจฺจปกติกา หุตฺวาฯ อุนฺนฬาติ อุคฺคตนฬา, อุฎฺฐิตตุจฺฉมานาติ วุตฺตํ โหติฯ จปลาติ ปตฺตจีวรมณฺฑนาทินา จาปเลฺลน ยุตฺตาฯ มุขราติ มุขขรา, ขรวจนาติ วุตฺตํ โหติฯ วิกิณฺณวาจาติ อสํยตวจนา, ทิวสมฺปิ นิรตฺถกวจนปลาปิโนฯ มุฎฺฐสฺสติโนติ นฎฺฐสฺสติโน สติวิรหิตา, อิธ กตํ เอตฺถ ปมุสฺสนฺติฯ อสมฺปชานาติ นิปฺปญฺญาฯ อสมาหิตาติ อปฺปนาอุปจารสมาธิรหิตา, จณฺฑโสเต พทฺธนาวาสทิสาฯ วิพฺภนฺตจิตฺตาติ อนวฎฺฐิตจิตฺตา, ปนฺถารุฬฺหพาลมิคสทิสาฯ ปากตินฺทฺริยาติ สํวราภาเวน คิหิกาเล วิย วิวฎอินฺทฺริยาฯ
106. Pañcame kosalesu viharantīti bhagavato santike kammaṭṭhānaṃ gahetvā tattha gantvā viharanti. Uddhatāti akappiye kappiyasaññitāya ca kappiye akappiyasaññitāya ca anavajje sāvajjasaññitāya ca sāvajje anavajjasaññitāya ca uddhaccapakatikā hutvā. Unnaḷāti uggatanaḷā, uṭṭhitatucchamānāti vuttaṃ hoti. Capalāti pattacīvaramaṇḍanādinā cāpallena yuttā. Mukharāti mukhakharā, kharavacanāti vuttaṃ hoti. Vikiṇṇavācāti asaṃyatavacanā, divasampi niratthakavacanapalāpino. Muṭṭhassatinoti naṭṭhassatino sativirahitā, idha kataṃ ettha pamussanti. Asampajānāti nippaññā. Asamāhitāti appanāupacārasamādhirahitā, caṇḍasote baddhanāvāsadisā. Vibbhantacittāti anavaṭṭhitacittā, panthāruḷhabālamigasadisā. Pākatindriyāti saṃvarābhāvena gihikāle viya vivaṭaindriyā.
ชนฺตูติ เอวํนามโก เทวปุโตฺตฯ ตทหุโปสเถติ ตสฺมิํ อหุ อุโปสเถ, อุโปสถทิวเสติ อโตฺถฯ ปนฺนรเสติ จาตุทฺทสิกาทิปฎิเกฺขโปฯ อุปสงฺกมีติ โจทนตฺถาย อุปคโตฯ โส กิร จิเนฺตสิ – ‘‘อิเม ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา นิกฺขนฺตา, อิทานิ ปมตฺตา วิหรนฺติ, น โข ปเนเต ปาฎิเยกฺกํ นิสินฺนฎฺฐาเน โจทิยมานา กถํ คณฺหิสฺสนฺติ, สมาคมนกาเล โจทิสฺสามี’’ติ อุโปสถทิวเส เตสํ สนฺนิปติตภาวํ ญตฺวา อุปสงฺกมิฯ คาถาหิ อชฺฌภาสีติ สเพฺพสํ มเชฺฌ ฐตฺวา คาถา อภาสิฯ
Jantūti evaṃnāmako devaputto. Tadahuposatheti tasmiṃ ahu uposathe, uposathadivaseti attho. Pannaraseti cātuddasikādipaṭikkhepo. Upasaṅkamīti codanatthāya upagato. So kira cintesi – ‘‘ime bhikkhū satthu santike kammaṭṭhānaṃ gahetvā nikkhantā, idāni pamattā viharanti, na kho panete pāṭiyekkaṃ nisinnaṭṭhāne codiyamānā kathaṃ gaṇhissanti, samāgamanakāle codissāmī’’ti uposathadivase tesaṃ sannipatitabhāvaṃ ñatvā upasaṅkami. Gāthāhi ajjhabhāsīti sabbesaṃ majjhe ṭhatvā gāthā abhāsi.
ตตฺถ ยสฺมา คุณกถาย สทฺธิํ นิคฺคุณสฺส อคุโณ ปากโฎ โหติ, ตสฺมา คุณํ ตาว กเถโนฺต สุขชีวิโน ปุเร อาสุนฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ สุขชีวิโน ปุเร อาสุนฺติ ปุเพฺพ ภิกฺขู สุโปฺปสา สุภรา อเหสุํ, อุจฺจนีจกุเลสุ สปทานํ จริตฺวา ลเทฺธน มิสฺสกปิเณฺฑน ยาเปสุนฺติ อธิปฺปาเยน เอวมาหฯ อนิจฺฉาติ นิตฺตณฺหา หุตฺวาฯ
Tattha yasmā guṇakathāya saddhiṃ nigguṇassa aguṇo pākaṭo hoti, tasmā guṇaṃ tāva kathento sukhajīvino pure āsuntiādimāha. Tattha sukhajīvino pure āsunti pubbe bhikkhū supposā subharā ahesuṃ, uccanīcakulesu sapadānaṃ caritvā laddhena missakapiṇḍena yāpesunti adhippāyena evamāha. Anicchāti nittaṇhā hutvā.
เอวํ โปราณกภิกฺขูนํ วณฺณํ กเถตฺวา อิทานิ เตสํ อวณฺณํ กเถโนฺต ทุโปฺปสนฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ คาเม คามณิกา วิยาติ ยถา คาเม คามกุฎา นานปฺปกาเรน ชนํ ปีเฬตฺวา ขีรทธิตณฺฑุลาทีนิ อาหราเปตฺวา ภุญฺชนฺติ, เอวํ ตุเมฺหปิ อเนสนาย ฐิตา ตุมฺหากํ ชีวิกํ กเปฺปถาติ อธิปฺปาเยน วทติฯ นิปชฺชนฺตีติ อุเทฺทสปริปุจฺฉามนสิกาเรหิ อนตฺถิกา หุตฺวา สยนมฺหิ หตฺถปาเท วิสฺสเชฺชตฺวา นิปชฺชนฺติฯ ปราคาเรสูติ ปรเคเหสุ, กุลสุณฺหาทีสูติ อโตฺถฯ มุจฺฉิตาติ กิเลสมุจฺฉาย มุจฺฉิตาฯ
Evaṃ porāṇakabhikkhūnaṃ vaṇṇaṃ kathetvā idāni tesaṃ avaṇṇaṃ kathento dupposantiādimāha. Tattha gāme gāmaṇikā viyāti yathā gāme gāmakuṭā nānappakārena janaṃ pīḷetvā khīradadhitaṇḍulādīni āharāpetvā bhuñjanti, evaṃ tumhepi anesanāya ṭhitā tumhākaṃ jīvikaṃ kappethāti adhippāyena vadati. Nipajjantīti uddesaparipucchāmanasikārehi anatthikā hutvā sayanamhi hatthapāde vissajjetvā nipajjanti. Parāgāresūti paragehesu, kulasuṇhādīsūti attho. Mucchitāti kilesamucchāya mucchitā.
เอกเจฺจติ วตฺตพฺพยุตฺตเกเยวฯ อปวิทฺธาติ ฉฑฺฑิตกาฯ อนาถาติ อปติฎฺฐาฯ เปตาติ สุสาเน ฉฑฺฑิตา กาลงฺกตมนุสฺสาฯ ยถา หิ สุสาเน ฉฑฺฑิตา นานาสกุณาทีหิ ขชฺชนฺติ, ญาตกาปิ เนสํ นาถกิจฺจํ น กโรนฺติ, น รกฺขนฺติ, น โคปยนฺติ, เอวเมวํ เอวรูปาปิ อาจริยุปชฺฌายาทีนํ สนฺติกา โอวาทานุสาสนิํ น ลภนฺตีติ อปวิทฺธา อนาถา, ยถา เปตา, ตเถว โหนฺติฯ ปญฺจมํฯ
Ekacceti vattabbayuttakeyeva. Apaviddhāti chaḍḍitakā. Anāthāti apatiṭṭhā. Petāti susāne chaḍḍitā kālaṅkatamanussā. Yathā hi susāne chaḍḍitā nānāsakuṇādīhi khajjanti, ñātakāpi nesaṃ nāthakiccaṃ na karonti, na rakkhanti, na gopayanti, evamevaṃ evarūpāpi ācariyupajjhāyādīnaṃ santikā ovādānusāsaniṃ na labhantīti apaviddhā anāthā, yathā petā, tatheva honti. Pañcamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. ชนฺตุสุตฺตํ • 5. Jantusuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. ชนฺตุสุตฺตวณฺณนา • 5. Jantusuttavaṇṇanā