Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๔. ชาณุโสฺสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา
4. Jāṇussoṇibrāhmaṇasuttavaṇṇanā
๔. วฬวาภิ-สโทฺท วฬวาปริยาโยติ อาห ‘‘จตูหิ วฬวาหิ ยุตฺตรเถนา’’ติฯ โยธรโถติ โยเธหิ ยุชฺฌนตฺถํ อาโรหิตพฺพรโถฯ อลงฺการรโถ มงฺคลทิวเสสุ อลงฺกตปฎิยเตฺตหิ อาโรหิตพฺพรโถฯ ฆนทุกุเลน ปริวาริโตติ รชตปฎฺฎวเณฺณน เสตทุกุเลน ปฎิจฺฉาทิโตฯ ปฎิจฺฉาทนโตฺถ หิ อิธ ปริวารสโทฺทฯ รชตปนาฬิสุปริกฺขิตฺตา เสตภาวกรณตฺถํฯ
4.Vaḷavābhi-saddo vaḷavāpariyāyoti āha ‘‘catūhi vaḷavāhi yuttarathenā’’ti. Yodharathoti yodhehi yujjhanatthaṃ ārohitabbaratho. Alaṅkāraratho maṅgaladivasesu alaṅkatapaṭiyattehi ārohitabbaratho. Ghanadukulena parivāritoti rajatapaṭṭavaṇṇena setadukulena paṭicchādito. Paṭicchādanattho hi idha parivārasaddo. Rajatapanāḷisuparikkhittā setabhāvakaraṇatthaṃ.
ฉนฺนํ ฉนฺนํ มาสานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํฯ เอกวารํ นครํ ปทกฺขิณํ กโรตีติ อิทํ ตสฺมิํ ฐานนฺตเร ฐิเตน กาตพฺพํ จาริตฺตํฯ นครโต น ปกฺกนฺตาติ นครโต พหิ น คตาฯ มงฺคลวจเน นิยุตฺตา มงฺคลิกา, สุวตฺถิวจเน นิยุตฺตา โสวตฺถิกาฯ อาทิ-สเทฺทน ถุติมาคธวนฺทิกาจริยเก สงฺคณฺหาติฯ สุกปตฺตสทิสานิ วณฺณโตฯ
Channaṃ channaṃ māsānanti niddhāraṇe sāmivacanaṃ. Ekavāraṃ nagaraṃ padakkhiṇaṃ karotīti idaṃ tasmiṃ ṭhānantare ṭhitena kātabbaṃ cārittaṃ. Nagarato na pakkantāti nagarato bahi na gatā. Maṅgalavacane niyuttā maṅgalikā, suvatthivacane niyuttā sovatthikā. Ādi-saddena thutimāgadhavandikācariyake saṅgaṇhāti. Sukapattasadisāni vaṇṇato.
วณฺณคีตนฺติ ถุติคีตํฯ พฺรหฺมภูตํ เสฎฺฐภูตํ ยานํ, พฺรหฺมภูตานํ เสฎฺฐภูตานํ ยานนฺติ วา พฺรหฺมยานํฯ วิชิตตฺตา วิเสเสน ชินนโตฯ ราคํ วินยมานา ปริโยสาเปตีติ สพฺพมฺปิ ราคํ สมุเจฺฉทวินยวเสน วิเนติ, อตฺตโน กิจฺจํ ปริโยสาเปติฯ กิจฺจปริโยสาปเนเนว หิ สยมฺปิ ปริโยสานํ นิปฺผตฺติํ อุปคจฺฉติฯ เตนาห ‘‘ปริโยสานํ คจฺฉติ นิปฺผชฺชตี’’ติฯ
Vaṇṇagītanti thutigītaṃ. Brahmabhūtaṃ seṭṭhabhūtaṃ yānaṃ, brahmabhūtānaṃ seṭṭhabhūtānaṃ yānanti vā brahmayānaṃ. Vijitattā visesena jinanato. Rāgaṃ vinayamānā pariyosāpetīti sabbampi rāgaṃ samucchedavinayavasena vineti, attano kiccaṃ pariyosāpeti. Kiccapariyosāpaneneva hi sayampi pariyosānaṃ nipphattiṃ upagacchati. Tenāha ‘‘pariyosānaṃ gacchati nipphajjatī’’ti.
ธุรนฺติ ภุมฺมเตฺถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ยุตฺตา’’ติฯ อีสาติ ยุคสนฺธาริกา ทารุยุคฬาฯ ยถา วา พาหิรํ ยุคํ ธาเรติ, ตสฺสา ฐิตาย เอว กิจฺจสิทฺธิ, เอวํ กิริยาวเสน ลทฺธพเลน ตตฺรมชฺฌตฺตตายุเค ถิรํ ธาเรติ, เตเหว อริยมคฺครถสฺส ปวตฺตนํฯ หิริคฺคหเณน เจตฺถ ตํสหจรณโต โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตํเยว โหติฯ เตนาห ‘‘อตฺตนา สทฺธิ’’นฺติอาทิฯ นาฬิยา มินมาโน ปุริโส วิย อารมฺมณํ มินาตีติ มโนฯ กตรํ ปน ตํ มโน, กถญฺจสฺส โยตฺตสทิสตาติ อาห ‘‘วิปสฺสนาจิตฺต’’นฺติอาทิฯ เตน โยตฺตํ วิยาติ โยตฺตนฺติ ทเสฺสติฯ โลกิยวิปสฺสนาจิตฺตํ อติเรกปญฺญาส กุสลธเมฺม เอกาพเทฺธ เอกสงฺคหิเต กโรตีติ สมฺพโนฺธฯ เต ปน ‘‘ผโสฺส โหติ…เป.… อวิเกฺขโป โหตี’’ติ จิตฺตงฺควเสน ธมฺมสงฺคเห (ธ. ส. ๑) อาคตนเยเนว เวทิตพฺพาฯ โลกุตฺตรวิปสฺสนาจิตฺตนฺติ มคฺคจิตฺตํ อาหฯ อติเรกสฎฺฐีติ เต เอว สมฺมากมฺมนฺตาชีเวหิ อนญฺญาตญฺญสฺสามีตินฺทฺริยาทีหิ จ สทฺธิํ อติเรกสฎฺฐิ กุสลธเมฺมฯ เอกาพเทฺธติ เอกสฺมิํ เอว อารมฺมเณ อาพเทฺธฯ เอกสงฺคเหติ ตเถว วิปสฺสนากิจฺจวเสน เอกสงฺคเห กโรติฯ ปุพฺพงฺคมภาเวน อารกฺขํ สาเรตีติ อารกฺขสารถีฯ ‘‘ยถา หิ รถสฺส…เป.… สารถี’’ติ วตฺวา ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘โยคฺคิโย’’ติ วุตฺตํฯ ธุรํ วาเหติ โยเคฺคฯ โยเชติ โยเคฺค สมคติยญฺจฯ อกฺขํ อพฺภญฺชติ สุขปฺปวตฺตนตฺถํฯ รถํ เปเสติ โยคฺคโจทเนนฯ นิพฺพิเสวเน กโรติ คมนวีถิยํ ปฎิปาทเนน สนฺนิโยเชติฯ อารกฺขปจฺจุปฎฺฐานาติ อารกฺขํ ปจฺจุปฎฺฐเปติ อสโมฺมสสภาวตฺตาฯ คติโยติ ปวตฺติโย, นิปฺผตฺติโย วาฯ สมเนฺวสตีติ คเวสติฯ
Dhuranti bhummatthe upayogavacananti āha ‘‘tatramajjhattatāyuge yuttā’’ti. Īsāti yugasandhārikā dāruyugaḷā. Yathā vā bāhiraṃ yugaṃ dhāreti, tassā ṭhitāya eva kiccasiddhi, evaṃ kiriyāvasena laddhabalena tatramajjhattatāyuge thiraṃ dhāreti, teheva ariyamaggarathassa pavattanaṃ. Hiriggahaṇena cettha taṃsahacaraṇato ottappampi gahitaṃyeva hoti. Tenāha ‘‘attanā saddhi’’ntiādi. Nāḷiyā minamāno puriso viya ārammaṇaṃ minātīti mano. Kataraṃ pana taṃ mano, kathañcassa yottasadisatāti āha ‘‘vipassanācitta’’ntiādi. Tena yottaṃ viyāti yottanti dasseti. Lokiyavipassanācittaṃ atirekapaññāsa kusaladhamme ekābaddhe ekasaṅgahite karotīti sambandho. Te pana ‘‘phasso hoti…pe… avikkhepo hotī’’ti cittaṅgavasena dhammasaṅgahe (dha. sa. 1) āgatanayeneva veditabbā. Lokuttaravipassanācittanti maggacittaṃ āha. Atirekasaṭṭhīti te eva sammākammantājīvehi anaññātaññassāmītindriyādīhi ca saddhiṃ atirekasaṭṭhi kusaladhamme. Ekābaddheti ekasmiṃ eva ārammaṇe ābaddhe. Ekasaṅgaheti tatheva vipassanākiccavasena ekasaṅgahe karoti. Pubbaṅgamabhāvena ārakkhaṃ sāretīti ārakkhasārathī. ‘‘Yathā hi rathassa…pe… sārathī’’ti vatvā taṃ dassetuṃ ‘‘yoggiyo’’ti vuttaṃ. Dhuraṃ vāheti yogge. Yojeti yogge samagatiyañca. Akkhaṃ abbhañjati sukhappavattanatthaṃ. Rathaṃ peseti yoggacodanena. Nibbisevane karoti gamanavīthiyaṃ paṭipādanena sanniyojeti. Ārakkhapaccupaṭṭhānāti ārakkhaṃ paccupaṭṭhapeti asammosasabhāvattā. Gatiyoti pavattiyo, nipphattiyo vā. Samanvesatīti gavesati.
อริยปุคฺคลสฺส นิพฺพานํ ปฎิมุขํ สมฺปาปเน รโถ วิยาติ รโถฯ ปริกโรติ วิภูสยตีติ ปริกฺขาโร, วิภูสนํ, สีลญฺจ อริยมคฺคสฺส วิภูสนฎฺฐานิยํฯ เตน วุตฺตํ ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีลาลงฺกาโร’’ติ, สีลภูสโนติ อโตฺถฯ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตานนฺติ โลกิยาย โลกุตฺตราย จ วิปสฺสนาย สมฺปยุตฺตานํฯ วิธินา อีเรตพฺพโต ปวเตฺตตพฺพโต วีริยํ, สมฺมาวายาโมฯ สมํ สมฺมา จ ธิยตีติ สมาธิ, ธุรญฺจ ตํ สมาธิ จาติ ธุรสมาธิ, อุเปกฺขา ธุรสมาธิ เอตสฺสาติ อุเปกฺขาธุรสมาธิ, อริยมโคฺค อุเปกฺขาสงฺขาตธุรสมาธีติ อโตฺถฯ อฎฺฐกถายํ ปน พฺยญฺชนํ อนาทิยิตฺวา ธุรสมาธิสทฺทานํ ภินฺนาธิกรณตา วุตฺตาฯ ปโยคมชฺฌเตฺตติ วีริยสมตายฯ อนิจฺฉาติ อิจฺฉาปฎิปกฺขาฯ เตนาห ‘‘อโลภสงฺขาตา’’ติฯ ปริวารณนฺติ ปริวาโร, ปริจฺฉโทติ อโตฺถฯ
Ariyapuggalassa nibbānaṃ paṭimukhaṃ sampāpane ratho viyāti ratho. Parikaroti vibhūsayatīti parikkhāro, vibhūsanaṃ, sīlañca ariyamaggassa vibhūsanaṭṭhāniyaṃ. Tena vuttaṃ ‘‘catupārisuddhisīlālaṅkāro’’ti, sīlabhūsanoti attho. Vipassanāsampayuttānanti lokiyāya lokuttarāya ca vipassanāya sampayuttānaṃ. Vidhinā īretabbato pavattetabbato vīriyaṃ, sammāvāyāmo. Samaṃ sammā ca dhiyatīti samādhi, dhurañca taṃ samādhi cāti dhurasamādhi, upekkhā dhurasamādhi etassāti upekkhādhurasamādhi, ariyamaggo upekkhāsaṅkhātadhurasamādhīti attho. Aṭṭhakathāyaṃ pana byañjanaṃ anādiyitvā dhurasamādhisaddānaṃ bhinnādhikaraṇatā vuttā. Payogamajjhatteti vīriyasamatāya. Anicchāti icchāpaṭipakkhā. Tenāha ‘‘alobhasaṅkhātā’’ti. Parivāraṇanti parivāro, paricchadoti attho.
เมตฺตาติ เมตฺตาเจโตวิมุตฺติฯ ตถา กรุณาฯ ปุพฺพภาโคติ อุภินฺนมฺปิ อุปจาโรฯ เทฺวปิ กายจิตฺตวิเวกา วิย ปุพฺพภาคธมฺมวเสน วุตฺตาฯ อริยมคฺครเถติ ปริสุทฺธมคฺคสงฺขาเต รเถฯ อริยมคฺครโถ จ มคฺครโถ จาติ อริยมคฺครโถ, เอวํ เอกเสสนเยน วา อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ เตนาห ‘‘อิมสฺมิํ โลกิยโลกุตฺตรมคฺครเถ ฐิโต’’ติฯ สนฺนทฺธจโมฺมติ โยคาวจรสฺส ปฎิมุกฺกจมฺมํฯ น นํ เต วิชฺฌนฺตีติ วจนปถา น นํ วิชฺฌนฺติฯ ธมฺมเภทนวเสน น ภญฺชติ, ตสฺส อริยมคฺคสฺส รถสฺส สมฺมา โยชิตสฺส อนฺตรา ภโงฺค นตฺถีติ อโตฺถฯ
Mettāti mettācetovimutti. Tathā karuṇā. Pubbabhāgoti ubhinnampi upacāro. Dvepi kāyacittavivekā viya pubbabhāgadhammavasena vuttā. Ariyamaggaratheti parisuddhamaggasaṅkhāte rathe. Ariyamaggaratho ca maggaratho cāti ariyamaggaratho, evaṃ ekasesanayena vā attho veditabbo. Tenāha ‘‘imasmiṃ lokiyalokuttaramaggarathe ṭhito’’ti. Sannaddhacammoti yogāvacarassa paṭimukkacammaṃ. Na naṃ te vijjhantīti vacanapathā na naṃ vijjhanti. Dhammabhedanavasena na bhañjati, tassa ariyamaggassa rathassa sammā yojitassa antarā bhaṅgo natthīti attho.
อตฺตโน ปุริสการํ นิสฺสาย ลทฺธตฺตา อตฺตโน สนฺตาเนติ อธิปฺปาโยฯ อนุตฺตรนฺติ อุตฺตรรหิตํฯ ตโต เอว เสฎฺฐยานํ, นสฺส เกนจิ สทิสนฺติ อสทิสํฯ ธิติสมฺปนฺนตาย ธีรา ปณฺฑิตปุริสา โลกมฺหา นิยฺยนฺติ คจฺฉนฺติฯ ‘‘ชยํ ชย’’นฺติ คาถายํ วจนวิปลฺลาเสน วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ชินนฺตา ชินนฺตา’’ติฯ
Attano purisakāraṃ nissāya laddhattā attano santāneti adhippāyo. Anuttaranti uttararahitaṃ. Tato eva seṭṭhayānaṃ, nassa kenaci sadisanti asadisaṃ. Dhitisampannatāya dhīrā paṇḍitapurisālokamhā niyyanti gacchanti. ‘‘Jayaṃ jaya’’nti gāthāyaṃ vacanavipallāsena vuttanti āha ‘‘jinantā jinantā’’ti.
ชาณุโสฺสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Jāṇussoṇibrāhmaṇasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๔. ชาณุโสฺสณิพฺราหฺมณสุตฺตํ • 4. Jāṇussoṇibrāhmaṇasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. ชาณุโสฺสณิพฺราหฺมณสุตฺตวณฺณนา • 4. Jāṇussoṇibrāhmaṇasuttavaṇṇanā