Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๑๑. ชาณุโสฺสณิสุตฺตวณฺณนา
11. Jāṇussoṇisuttavaṇṇanā
๑๗๗. เอกาทสเม อุปกปฺปตูติ ปาปุณาตุฯ ฐาเนติ โอกาเสฯ โน อฎฺฐาเนติ โน อโนกาเสฯ เนรยิกานํ อาหาโร นาม ตตฺถ นิพฺพตฺตนกมฺมเมวฯ เตเนว หิ เต ตตฺถ ยาเปนฺติฯ ติรจฺฉานโยนิกานํ ปน ติณปณฺณาทิวเสน อาหาโร เวทิตโพฺพฯ มนุสฺสานํ โอทนกุมฺมาสาทิวเสน , เทวานํ สุธาโภชนาทิวเสน, เปตฺติเวสยิกานํ เขฬสิงฺฆาณิกาทิวเสนฯ ยํ วา ปนสฺส อิโต อนุปฺปเวจฺฉนฺตีติ ยํ ตสฺส มิตฺตาทโย อิโต ททนฺตา อนุปเวเสนฺติฯ เปตฺติเวสยิกา เอว หิ ปรทตฺตูปชีวิโน โหนฺติ, น อเญฺญสํ ปเรหิ ทินฺนํ อุปกปฺปติฯ ทายโกปิ อนิปฺผโลติ ยํ สนฺธาย ตํ ทานํ ทินฺนํ, ตสฺส อุปกปฺปตุ วา มา วา, ทายเกน ปน น สกฺกา นิปฺผเลน ภวิตุํ, ทายโก ตสฺส ทานสฺส วิปากํ ลภติเยวฯ
177. Ekādasame upakappatūti pāpuṇātu. Ṭhāneti okāse. No aṭṭhāneti no anokāse. Nerayikānaṃāhāro nāma tattha nibbattanakammameva. Teneva hi te tattha yāpenti. Tiracchānayonikānaṃ pana tiṇapaṇṇādivasena āhāro veditabbo. Manussānaṃ odanakummāsādivasena , devānaṃ sudhābhojanādivasena, pettivesayikānaṃ kheḷasiṅghāṇikādivasena. Yaṃ vā panassa ito anuppavecchantīti yaṃ tassa mittādayo ito dadantā anupavesenti. Pettivesayikā eva hi paradattūpajīvino honti, na aññesaṃ parehi dinnaṃ upakappati. Dāyakopi anipphaloti yaṃ sandhāya taṃ dānaṃ dinnaṃ, tassa upakappatu vā mā vā, dāyakena pana na sakkā nipphalena bhavituṃ, dāyako tassa dānassa vipākaṃ labhatiyeva.
อฎฺฐาเนปิ ภวํ โคตโม ปริกปฺปํ วทตีติ อโนกาเส อุปฺปเนฺนปิ ตสฺมิํ ญาตเก ภวํ โคตโม ทานสฺส ผลํ ปริกเปฺปติเยว ปญฺญาเปติเยวาติ ปุจฺฉติฯ พฺราหฺมณสฺส หิ ‘‘เอวํ ทินฺนสฺส ทานสฺส ผลํ ทายโก น ลภตี’’ติ ลทฺธิฯ อถสฺส ภควา ปญฺหํ ปฎิชานิตฺวา ‘‘ทายโก นาม ยตฺถ กตฺถจิ ปุญฺญผลูปชีวิฎฺฐาเน นิพฺพโตฺต ทานสฺส ผลํ ลภติเยวา’’ติ ทเสฺสตุํ อิธ พฺราหฺมณาติอาทิมาหฯ โส ตตฺถ ลาภี โหตีติ โส ตตฺถ หตฺถิโยนิยํ นิพฺพโตฺตปิ มงฺคลหตฺถิฎฺฐานํ ปตฺวา ลาภี โหติฯ อสฺสาทีสุปิ เอเสว นโยฯ สาธุวโคฺค อุตฺตานโตฺถเยวาติฯ
Aṭṭhānepi bhavaṃ gotamo parikappaṃ vadatīti anokāse uppannepi tasmiṃ ñātake bhavaṃ gotamo dānassa phalaṃ parikappetiyeva paññāpetiyevāti pucchati. Brāhmaṇassa hi ‘‘evaṃ dinnassa dānassa phalaṃ dāyako na labhatī’’ti laddhi. Athassa bhagavā pañhaṃ paṭijānitvā ‘‘dāyako nāma yattha katthaci puññaphalūpajīviṭṭhāne nibbatto dānassa phalaṃ labhatiyevā’’ti dassetuṃ idha brāhmaṇātiādimāha. So tattha lābhī hotīti so tattha hatthiyoniyaṃ nibbattopi maṅgalahatthiṭṭhānaṃ patvā lābhī hoti. Assādīsupi eseva nayo. Sādhuvaggo uttānatthoyevāti.
ชาณุโสฺสณิวโคฺค ทุติโยฯ
Jāṇussoṇivaggo dutiyo.
จตุตฺถปณฺณาสกํ นิฎฺฐิตํฯ
Catutthapaṇṇāsakaṃ niṭṭhitaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๑. ชาณุโสฺสณิสุตฺตํ • 11. Jāṇussoṇisuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๔๔. พฺราหฺมณปโจฺจโรหณีสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-44. Brāhmaṇapaccorohaṇīsuttādivaṇṇanā