Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๓. ชฎาสุตฺตวณฺณนา

    3. Jaṭāsuttavaṇṇanā

    ๒๓. เยน อเตฺถน ตณฺหา ‘‘ชฎา’’ติ วุตฺตา, ตเมวตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘ชาลินิยา’’ติ วุตฺตํฯ สา หิ อฎฺฐสตตณฺหาวิจริตปเภทา อตฺตโน อวยวภูตา เอว ชาลา เอติสฺสา อตฺถีติ ชาลินีติ วุจฺจติฯ อิทานิสฺสา ชฎากาเรน ปวตฺติํ ทเสฺสตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ รูปาทีสุ อารมฺมเณสูติ ตสฺสา ปวตฺติฎฺฐานมาห รูปาทิฉฬารมฺมณวินิมุตฺตสฺส ตณฺหาวิสยสฺส อภาวโตฯ เหฎฺฐุปริยวเสนาติ กทาจิ รูปารมฺมเณ กทาจิ ยาว ธมฺมารมฺมณา, กทาจิ ธมฺมารมฺมเณ กทาจิ ยาว รูปารมฺมณาติ เอวํ เหฎฺฐา จ อุปริ จ ปวตฺติวเสนฯ เทสนากฺกเมน เจตฺถ เหฎฺฐุปริยตา เวทิตพฺพา, กามราคาทิวเสนปิ อยมโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สงฺขารานํ ขณิกภาวโต อปราปรุปฺปตฺติ เอตฺถ สํสิพฺพนนฺติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนเฎฺฐนา’’ติฯ อิทํ เยน สมฺพเนฺธน ชฎา วิยาติ ชฎาติ ชฎาตณฺหานํ อุปมูปเมยฺยตา, ตํทสฺสนํฯ อยเญฺหตฺถ อโตฺถ – ยถา ชาลินี เวฬุคุมฺพสฺส สาขา, ตาสํ สญฺจยาทโย จ อตฺตโน อวยเวหิ สํสิพฺพิตา วินทฺธา ‘‘ชฎา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ ตณฺหาปิ สํสิพฺพนสภาเวนาติฯ

    23. Yena atthena taṇhā ‘‘jaṭā’’ti vuttā, tamevatthaṃ dassetuṃ ‘‘jāliniyā’’ti vuttaṃ. Sā hi aṭṭhasatataṇhāvicaritapabhedā attano avayavabhūtā eva jālā etissā atthīti jālinīti vuccati. Idānissā jaṭākārena pavattiṃ dassetuṃ ‘‘sā hī’’tiādi vuttaṃ. Tattha rūpādīsu ārammaṇesūti tassā pavattiṭṭhānamāha rūpādichaḷārammaṇavinimuttassa taṇhāvisayassa abhāvato. Heṭṭhupariyavasenāti kadāci rūpārammaṇe kadāci yāva dhammārammaṇā, kadāci dhammārammaṇe kadāci yāva rūpārammaṇāti evaṃ heṭṭhā ca upari ca pavattivasena. Desanākkamena cettha heṭṭhupariyatā veditabbā, kāmarāgādivasenapi ayamattho veditabbo. Saṅkhārānaṃ khaṇikabhāvato aparāparuppatti ettha saṃsibbananti āha ‘‘punappunaṃ uppajjanato saṃsibbanaṭṭhenā’’ti. Idaṃ yena sambandhena jaṭā viyāti jaṭāti jaṭātaṇhānaṃ upamūpameyyatā, taṃdassanaṃ. Ayañhettha attho – yathā jālinī veḷugumbassa sākhā, tāsaṃ sañcayādayo ca attano avayavehi saṃsibbitā vinaddhā ‘‘jaṭā’’ti vuccanti, evaṃ taṇhāpi saṃsibbanasabhāvenāti.

    อิเม สตฺตา ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคหิตํ อตฺตนิพฺพิเสสํ มญฺญมานา อพฺภนฺตริมํ กโรนฺติฯ อพฺภนฺตรโฎฺฐ จ อโนฺต-สโทฺทติ สกปริกฺขาเรสุ อุปฺปชฺชนมานาปิ ตณฺหา ‘‘อโนฺตชฎา’’ติ วุตฺตาฯ ปพฺพชิตสฺส ปตฺตาทิ, คหฎฺฐสฺส หตฺถิอาทิ สกปริกฺขาโรฯ อตฺตาติ ภวติ เอตฺถ อภิมาโนติ อตฺตภาโว, อุปาทานกฺขนฺธปญฺจกํฯ สรีรนฺติ เกจิฯ ‘‘มม อตฺตภาโว สุนฺทโร, อสุกสฺส วิย มม อตฺตภาโว ภเวยฺยา’’ติอาทินา สกอตฺตภาวาทีสุ ตณฺหาย อุปฺปชฺชนากาโร เวทิตโพฺพฯ อตฺตโน จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ, อตฺตโน จ ปเรสญฺจ รูปาทีนิ พาหิรายตนานิ, ปเรสํ สพฺพานิ วาฯ สปรสนฺตติปริยาปนฺนานิ วา จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ, ตถา รูปาทีนิ พาหิรายตนานิฯ ปริตฺตมหคฺคตภเวสุ ปวตฺติยาปิ ตณฺหาย อโนฺตชฎาพหิชฎาภาโว เวทิตโพฺพฯ กามภโว หิ กสฺสจิปิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา กตฺถจิปิ อวิมุโตฺต อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส วิเสสปจฺจโยติ ‘‘อชฺฌตฺตํ อโนฺต’’ติ จ วุจฺจติ, ตพฺพิปริยายโต รูปารูปภโว ‘‘พหิทฺธา พหี’’ติ จฯ เตนาห ภควา – ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล’’ติ (อ. นิ. ๒.๓๗)ฯ

    Ime sattā ‘‘mama ida’’nti pariggahitaṃ attanibbisesaṃ maññamānā abbhantarimaṃ karonti. Abbhantaraṭṭho ca anto-saddoti sakaparikkhāresu uppajjanamānāpi taṇhā ‘‘antojaṭā’’ti vuttā. Pabbajitassa pattādi, gahaṭṭhassa hatthiādi sakaparikkhāro. Attāti bhavati ettha abhimānoti attabhāvo, upādānakkhandhapañcakaṃ. Sarīranti keci. ‘‘Mama attabhāvo sundaro, asukassa viya mama attabhāvo bhaveyyā’’tiādinā sakaattabhāvādīsu taṇhāya uppajjanākāro veditabbo. Attano cakkhādīni ajjhattikāyatanāni, attano ca paresañca rūpādīni bāhirāyatanāni, paresaṃ sabbāni vā. Saparasantatipariyāpannāni vā cakkhādīni ajjhattikāyatanāni, tathā rūpādīni bāhirāyatanāni. Parittamahaggatabhavesu pavattiyāpi taṇhāya antojaṭābahijaṭābhāvo veditabbo. Kāmabhavo hi kassacipi kilesassa avikkhambhitattā katthacipi avimutto ajjhattaggahaṇassa visesapaccayoti ‘‘ajjhattaṃ anto’’ti ca vuccati, tabbipariyāyato rūpārūpabhavo ‘‘bahiddhā bahī’’ti ca. Tenāha bhagavā – ‘‘ajjhattasaṃyojano puggalo, bahiddhāsaṃyojano puggalo’’ti (a. ni. 2.37).

    วิสยเภเทน ปวตฺติอาการเภเทน อเนกเภทภินฺนมฺปิ ตณฺหํ ชฎาภาวสามเญฺญน เอกนฺติ คเหตฺวา ‘‘ตาย เอวํ อุปฺปชฺชมานาย ชฎายา’’ติ วุตฺตํฯ สา ปน ปชาติ วุตฺตสตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา เอว หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ตํ ชเฎนฺตี วินนฺธนฺตี ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ชฎาย ชฎิตา ปชา’’ติฯ ตถา หิ ปรมตฺถโต ยทิปิ อวยวพฺยติเรเกน สมุทาโย นตฺถิ, เอกเทโส ปน สมุทาโย นาม น โหตีติ อวยวโต สมุทายํ ภินฺนํ กตฺวา อุปมูปเมยฺยํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยถา นาม เวฬุชฎาทีหิ…เป.… สํสิพฺพิตา’’ติ อาหฯ อิมํ ชฎนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตีสุ ธาตูสุ เอกมฺปิ อเสเสตฺวา สํสิพฺพเนน เตธาตุกํ ชเฎตฺวา ฐิตํฯ เตนสฺสา มหาวิสยตํ วิชฎนสฺส จ สุทุกฺกรภาวมาหฯ วิชเฎตุํ โก สมโตฺถติ อิมินา ‘‘วิชฎเย’’ติ ปทํ สตฺติอตฺถํ, น วิธิอตฺถนฺติ ทเสฺสติฯ

    Visayabhedena pavattiākārabhedena anekabhedabhinnampi taṇhaṃ jaṭābhāvasāmaññena ekanti gahetvā ‘‘tāya evaṃ uppajjamānāya jaṭāyā’’ti vuttaṃ. Sā pana pajāti vuttasattasantānapariyāpannā eva hutvā punappunaṃ taṃ jaṭentī vinandhantī pavattatīti āha ‘‘jaṭāya jaṭitā pajā’’ti. Tathā hi paramatthato yadipi avayavabyatirekena samudāyo natthi, ekadeso pana samudāyo nāma na hotīti avayavato samudāyaṃ bhinnaṃ katvā upamūpameyyaṃ dassento ‘‘yathā nāma veḷujaṭādīhi…pe… saṃsibbitā’’ti āha. Imaṃ jaṭanti sambandho. Tīsu dhātūsu ekampi asesetvā saṃsibbanena tedhātukaṃ jaṭetvā ṭhitaṃ. Tenassā mahāvisayataṃ vijaṭanassa ca sudukkarabhāvamāha. Vijaṭetuṃ ko samatthoti iminā ‘‘vijaṭaye’’ti padaṃ sattiatthaṃ, na vidhiatthanti dasseti.

    เอวํ ‘‘อโนฺตชฎา’’ติอาทินา ปุโฎฺฐ อถสฺส ภควา ตมตฺถํ วิสฺสเชฺชโนฺต ‘‘สีเล ปติฎฺฐายา’’ติอาทิมาหฯ เอตฺถ สีเลติ กุสลสีเลฯ ตํ ปน ปาติโมกฺขสํวราทิเภเทสุ ปริสุทฺธเมว อิจฺฉิตพฺพนฺติ อาห ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีเล’’ติฯ

    Evaṃ ‘‘antojaṭā’’tiādinā puṭṭho athassa bhagavā tamatthaṃ vissajjento ‘‘sīle patiṭṭhāyā’’tiādimāha. Ettha sīleti kusalasīle. Taṃ pana pātimokkhasaṃvarādibhedesu parisuddhameva icchitabbanti āha ‘‘catupārisuddhisīle’’ti.

    นรติ เนตีติ นโร, ปุริโสฯ กามํ อิตฺถีปิ ตณฺหาชฎาวิชฎเน สมตฺถา อตฺถิ, ปธานเมว ปน สตฺตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘นโร’’ติ อาห ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ, อฎฺฐกถายํ ปน อวิภาเคน ปุคฺคลปริยาโย อยนฺติ ทเสฺสตุํ ‘‘นโรติ สโตฺต’’ติ วุตฺตํฯ วิปากภูตาย สห ปญฺญาย ภวตีติ สปโญฺญฯ ตาย หิ อาทิโต ปฎฺฐาย สนฺตานวเสน พหุลํ ปวตฺตมานาย อยํ สโตฺต สวิเสสํ สปโญฺญติ วตฺตพฺพตํ อรหติฯ วิปากปญฺญาปิ หิ สนฺตานวิเสเสน ภาวนาปญฺญุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ อเหตุกทฺวิเหตุกานํ ตทภาวโตฯ กมฺมชติเหตุกปฎิสนฺธิปญฺญายาติ กมฺมชาย ติเหตุกปฎิสนฺธิยํ ปญฺญายาติ เอวํ ติเหตุกสโทฺท ปฎิสนฺธิสเทฺทน สมฺพนฺธิตโพฺพ, น ปญฺญาสเทฺทนฯ น หิ ปญฺญา ติเหตุกา อตฺถิฯ ปฎิสนฺธิโต ปภุติ ปวตฺตมานา ปญฺญา ‘‘ปฎิสนฺธิยํ ปญฺญา’’ติ วุตฺตา ตํมูลกตฺตา, น ปฎิสนฺธิกฺขเณ ปวตฺตา เอวฯ

    Narati netīti naro, puriso. Kāmaṃ itthīpi taṇhājaṭāvijaṭane samatthā atthi, padhānameva pana sattaṃ dassento ‘‘naro’’ti āha yathā ‘‘satthā devamanussāna’’nti, aṭṭhakathāyaṃ pana avibhāgena puggalapariyāyo ayanti dassetuṃ ‘‘naroti satto’’ti vuttaṃ. Vipākabhūtāya saha paññāya bhavatīti sapañño. Tāya hi ādito paṭṭhāya santānavasena bahulaṃ pavattamānāya ayaṃ satto savisesaṃ sapaññoti vattabbataṃ arahati. Vipākapaññāpi hi santānavisesena bhāvanāpaññuppattiyā upanissayapaccayo hoti ahetukadvihetukānaṃ tadabhāvato. Kammajatihetukapaṭisandhipaññāyāti kammajāya tihetukapaṭisandhiyaṃ paññāyāti evaṃ tihetukasaddo paṭisandhisaddena sambandhitabbo, na paññāsaddena. Na hi paññā tihetukā atthi. Paṭisandhito pabhuti pavattamānā paññā ‘‘paṭisandhiyaṃ paññā’’ti vuttā taṃmūlakattā, na paṭisandhikkhaṇe pavattā eva.

    จิเนฺตติ อารมฺมณํ อุปนิชฺฌายตีติ จิตฺตํ, สมาธิฯ โส หิ สาติสยํ อุปนิชฺฌานกิโจฺจฯ น หิ วิตกฺกาทโย วินา สมาธินา ตมตฺถํ สาเธนฺติ, สมาธิ ปน เตหิ วินาปิ สาเธตีติฯ ปคุณพลวภาวาปาทเนน ปจฺจเยหิ จิตฺตํ, อตฺตสนฺตานํ จิโนตีติปิ จิตฺตํ, สมาธิฯ ปฐมชฺฌานาทิวเสน จิตฺตวิจิตฺตตาย อิทฺธิวิธาทิจิตฺตกรเณน จ สมาธิ จิตฺตนฺติ วินาปิ ปโรปเทเสนสฺส จิตฺตปริยาโย ลพฺภเตวฯ อฎฺฐกถายํ ปน จิตฺต-สโทฺท วิญฺญาเณ นิรุโฬฺหติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสีเสน เหตฺถ อฎฺฐ สมาปตฺติโย กถิตา’’ติฯ ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ชานาตีติ ปญฺญาฯ สา ยทิปิ กุสลาทิเภทโต พหุวิธา, ‘‘ภาวย’’นฺติ ปน วจนโต ภาเวตพฺพา อิธาธิเปฺปตาติ ตํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ปญฺญานาเมน วิปสฺสนา กถิตา’’ติฯ ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนํ, ตํ สมฺมาทิฎฺฐิอาทีนมฺปิ อเตฺถว, อาตปฺปสโทฺท วิย ปน อาตาป-สโทฺท วีริเย เอว นิรุโฬฺหติ อาห ‘‘อาตาปีติ วีริยวา’’ติฯ ยถา กมฺมฎฺฐานํ ตาย ปญฺญาย ปริโต หรียติ ปวตฺตียติ, เอวํ สาปิ ตทตฺถํ โยคินาติ อาห ‘‘ปาริหาริยปญฺญา’’ติฯ อภิกฺกมาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ สาตฺถกสมฺปชญฺญาทิวเสน ปริจฺฉิชฺช เนตีติ สพฺพกิจฺจปริณายิกา

    Cinteti ārammaṇaṃ upanijjhāyatīti cittaṃ, samādhi. So hi sātisayaṃ upanijjhānakicco. Na hi vitakkādayo vinā samādhinā tamatthaṃ sādhenti, samādhi pana tehi vināpi sādhetīti. Paguṇabalavabhāvāpādanena paccayehi cittaṃ, attasantānaṃ cinotītipi cittaṃ, samādhi. Paṭhamajjhānādivasena cittavicittatāya iddhividhādicittakaraṇena ca samādhi cittanti vināpi paropadesenassa cittapariyāyo labbhateva. Aṭṭhakathāyaṃ pana citta-saddo viññāṇe niruḷhoti katvā vuttaṃ ‘‘cittasīsena hettha aṭṭha samāpattiyo kathitā’’ti. Yathāsabhāvaṃ pakārehi jānātīti paññā. Sā yadipi kusalādibhedato bahuvidhā, ‘‘bhāvaya’’nti pana vacanato bhāvetabbā idhādhippetāti taṃ dassento ‘‘paññānāmena vipassanā kathitā’’ti. Yadipi kilesānaṃ pahānaṃ ātāpanaṃ, taṃ sammādiṭṭhiādīnampi attheva, ātappasaddo viya pana ātāpa-saddo vīriye eva niruḷhoti āha ‘‘ātāpīti vīriyavā’’ti. Yathā kammaṭṭhānaṃ tāya paññāya parito harīyati pavattīyati, evaṃ sāpi tadatthaṃ yogināti āha ‘‘pārihāriyapaññā’’ti. Abhikkamādīni sabbakiccāni sātthakasampajaññādivasena paricchijja netīti sabbakiccapariṇāyikā.

    ยสฺมา ปุคฺคลาธิฎฺฐาเนน คาถา ภาสิตา, ตสฺมา ปุคฺคลาธิฎฺฐานเมว อุปมํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยถา นาม ปุริโส’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ สุนิสิตนฺติ สุฎฺฐุ นิสิตํ, อติวิย ติขิณนฺติ อโตฺถฯ สตฺถสฺส นิสิตตรภาวกรณํ นิสานสิลายํ, พาหุพเลน จสฺส อุกฺขิปนนฺติ อุภยเมฺปตํ อตฺถาปนฺนํ กตฺวา อุปมา วุตฺตาติ ตทุภยํ อุปเมยฺยํ ทเสฺสโนฺต ‘‘สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ…เป.… ปญฺญาหเตฺถน อุกฺขิปิตฺวา’’ติ อาหฯ สมาธิคุเณน หิ ปญฺญาย ติกฺขภาโวฯ ยถาห ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑)ฯ วีริยญฺจสฺสา อุปตฺถมฺภกํ ปคฺคณฺหนโตฯ วิชเฎยฺยาติ วิชเฎตุํ สกฺกุเณยฺยฯ วุฎฺฐานคามินิวิปสฺสนาย หิ วตฺตมานาย โยคาวจโร ตณฺหาชฎํ วิชเฎตุํ สมโตฺถ นามฯ วิชฎนเญฺจตฺถ สมุเจฺฉทวเสน ปหานนฺติ อาห – ‘‘สญฺฉิเนฺทยฺย สมฺปทาเลยฺยา’’ติฯ

    Yasmā puggalādhiṭṭhānena gāthā bhāsitā, tasmā puggalādhiṭṭhānameva upamaṃ dassento ‘‘yathā nāma puriso’’tiādimāha. Tattha sunisitanti suṭṭhu nisitaṃ, ativiya tikhiṇanti attho. Satthassa nisitatarabhāvakaraṇaṃ nisānasilāyaṃ, bāhubalena cassa ukkhipananti ubhayampetaṃ atthāpannaṃ katvā upamā vuttāti tadubhayaṃ upameyyaṃ dassento ‘‘samādhisilāyaṃ sunisitaṃ…pe… paññāhatthena ukkhipitvā’’ti āha. Samādhiguṇena hi paññāya tikkhabhāvo. Yathāha ‘‘samāhito yathābhūtaṃ pajānātī’’ti (saṃ. ni. 3.5; 4.99; 5.1071). Vīriyañcassā upatthambhakaṃ paggaṇhanato. Vijaṭeyyāti vijaṭetuṃ sakkuṇeyya. Vuṭṭhānagāminivipassanāya hi vattamānāya yogāvacaro taṇhājaṭaṃ vijaṭetuṃ samattho nāma. Vijaṭanañcettha samucchedavasena pahānanti āha – ‘‘sañchindeyya sampadāleyyā’’ti.

    มคฺคกฺขเณ ปเนส วิชเฎติ นาม, อคฺคผลกฺขเณ สพฺพโส วิชฎิตชโฎ นามฯ เตนาห ‘‘อิทานี’’ติอาทิฯ ยสฺมา ชฎาย วิชฎนํ อริยมเคฺคน, ตญฺจ โข นิพฺพานํ อาคมฺม, ตสฺมา ตํ สนฺธายาห ‘‘ชฎาย วิชฎโนกาส’’นฺติฯ ยตฺถ ปน สา วิชฎียติ, ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยตฺถ นามญฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ‘‘ปฎิฆํ รูปสญฺญา จา’’ติ คาถาสุขตฺถํ สานุนาสิกํ กตฺวา นิเทฺทโส, ‘‘ปฎิฆรูปสญฺญา’’ติ วุตฺตํ โหติฯ ปฎิฆสญฺญาวเสน กามภโว คหิโต กามภวปริยาปนฺนตฺตา ตายฯ ปถวีกสิณาทิรูเป สญฺญา รูปสญฺญาฯ อุภยตฺถาปิ สญฺญาสีเสน จิตฺตุปฺปาทเสฺสว คหณํฯ ภวสเงฺขเปนาติ ภวภาเวน สงฺขิปิตพฺพตาย, ภวลกฺขเณน เอกลกฺขณตฺตาติ อโตฺถฯ รูเป วา วิรชฺชนวเสน จ วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยา อิธ รูปสญฺญาติ วุตฺตา , เอวเมฺปตฺถ อรูปภวสฺส จ คหิตตา เวทิตพฺพาฯ ‘‘นามญฺจ รูปญฺจา’’ติ อนวเสสโต นามรูปํ คหิตนฺติ อรูปภว-อสญฺญภวานเมฺปตฺถ คหณํ สิทฺธนฺติ อปเรฯ ปริยาทิยนฎฺฐาเนติ ปริยาทิยนการเณ สพฺพโส เขปนนิมิเตฺต นิพฺพาเนฯ เตนาห ‘‘นิพฺพานํ…เป.… ทสฺสิโต โหตี’’ติฯ

    Maggakkhaṇe panesa vijaṭeti nāma, aggaphalakkhaṇe sabbaso vijaṭitajaṭo nāma. Tenāha ‘‘idānī’’tiādi. Yasmā jaṭāya vijaṭanaṃ ariyamaggena, tañca kho nibbānaṃ āgamma, tasmā taṃ sandhāyāha ‘‘jaṭāya vijaṭanokāsa’’nti. Yattha pana sā vijaṭīyati, taṃ dassetuṃ ‘‘yattha nāmañcā’’tiādi vuttaṃ. ‘‘Paṭighaṃ rūpasaññā cā’’ti gāthāsukhatthaṃ sānunāsikaṃ katvā niddeso, ‘‘paṭigharūpasaññā’’ti vuttaṃ hoti. Paṭighasaññāvasena kāmabhavo gahito kāmabhavapariyāpannattā tāya. Pathavīkasiṇādirūpe saññā rūpasaññā. Ubhayatthāpi saññāsīsena cittuppādasseva gahaṇaṃ. Bhavasaṅkhepenāti bhavabhāvena saṅkhipitabbatāya, bhavalakkhaṇena ekalakkhaṇattāti attho. Rūpe vā virajjanavasena ca vattuṃ sakkuṇeyyā idha rūpasaññāti vuttā , evampettha arūpabhavassa ca gahitatā veditabbā. ‘‘Nāmañca rūpañcā’’ti anavasesato nāmarūpaṃ gahitanti arūpabhava-asaññabhavānampettha gahaṇaṃ siddhanti apare. Pariyādiyanaṭṭhāneti pariyādiyanakāraṇe sabbaso khepananimitte nibbāne. Tenāha ‘‘nibbānaṃ…pe… dassito hotī’’ti.

    ชฎาสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Jaṭāsuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. ชฎาสุตฺตํ • 3. Jaṭāsuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. ชฎาสุตฺตวณฺณนา • 3. Jaṭāsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact