Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๘. จีวรกฺขนฺธโก
8. Cīvarakkhandhako
๒๐๒. ชีวกวตฺถุ
202. Jīvakavatthu
๓๒๖. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน เวสาลี อิทฺธา เจว โหติ ผิตา 1 จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ; สตฺต จ ปาสาทสหสฺสานิ สตฺต จ ปาสาทสตานิ สตฺต จ ปาสาทา; สตฺต จ กูฎาคารสหสฺสานิ สตฺต จ กูฎาคารสตานิ สตฺต จ กูฎาคารานิ; สตฺต จ อารามสหสฺสานิ สตฺต จ อารามสตานิ สตฺต จ อารามา; สตฺต จ โปกฺขรณีสหสฺสานิ สตฺต จ โปกฺขรณีสตานิ สตฺต จ โปกฺขรณิโย; อมฺพปาลี จ คณิกา อภิรูปา โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา, ปทกฺขิณา 2 นเจฺจ จ คีเต จ วาทิเต จ, อภิสฎา อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ ปญฺญาสาย จ รตฺติํ คจฺฉติ; ตาย จ เวสาลี ภิโยฺยโสมตฺตาย อุปโสภติฯ อถ โข ราชคหโก เนคโม เวสาลิํ อคมาสิ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อทฺทสา โข ราชคหโก เนคโม เวสาลิํ อิทฺธเญฺจว ผิตญฺจ พหุชนญฺจ อากิณฺณมนุสฺสญฺจ สุภิกฺขญฺจ; สตฺต จ ปาสาทสหสฺสานิ สตฺต จ ปาสาทสตานิ สตฺต จ ปาสาเท; สตฺต จ กูฎาคารสหสฺสานิ สตฺต จ กูฎาคารสตานิ สตฺต จ กูฎาคารานิ; สตฺต จ อารามสหสฺสานิ สตฺต จ อารามสตานิ สตฺต จ อาราเม; สตฺต จ โปกฺขรณีสหสฺสานิ สตฺต จ โปกฺขรณีสตานิ สตฺต จ โปกฺขรณิโย ; อมฺพปาลิญฺจ คณิกํ อภิรูปํ ทสฺสนียํ ปาสาทิกํ ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตํ, ปทกฺขิณํ 3 นเจฺจ จ คีเต จ วาทิเต จ, อภิสฎํ อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ ปญฺญาสาย จ รตฺติํ คจฺฉนฺติํ, ตาย จ เวสาลิํ ภิโยฺยโสมตฺตาย อุปโสภนฺติํฯ
326. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena vesālī iddhā ceva hoti phitā 4 ca bahujanā ca ākiṇṇamanussā ca subhikkhā ca; satta ca pāsādasahassāni satta ca pāsādasatāni satta ca pāsādā; satta ca kūṭāgārasahassāni satta ca kūṭāgārasatāni satta ca kūṭāgārāni; satta ca ārāmasahassāni satta ca ārāmasatāni satta ca ārāmā; satta ca pokkharaṇīsahassāni satta ca pokkharaṇīsatāni satta ca pokkharaṇiyo; ambapālī ca gaṇikā abhirūpā hoti dassanīyā pāsādikā paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgatā, padakkhiṇā 5 nacce ca gīte ca vādite ca, abhisaṭā atthikānaṃ atthikānaṃ manussānaṃ paññāsāya ca rattiṃ gacchati; tāya ca vesālī bhiyyosomattāya upasobhati. Atha kho rājagahako negamo vesāliṃ agamāsi kenacideva karaṇīyena. Addasā kho rājagahako negamo vesāliṃ iddhañceva phitañca bahujanañca ākiṇṇamanussañca subhikkhañca; satta ca pāsādasahassāni satta ca pāsādasatāni satta ca pāsāde; satta ca kūṭāgārasahassāni satta ca kūṭāgārasatāni satta ca kūṭāgārāni; satta ca ārāmasahassāni satta ca ārāmasatāni satta ca ārāme; satta ca pokkharaṇīsahassāni satta ca pokkharaṇīsatāni satta ca pokkharaṇiyo ; ambapāliñca gaṇikaṃ abhirūpaṃ dassanīyaṃ pāsādikaṃ paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgataṃ, padakkhiṇaṃ 6 nacce ca gīte ca vādite ca, abhisaṭaṃ atthikānaṃ atthikānaṃ manussānaṃ paññāsāya ca rattiṃ gacchantiṃ, tāya ca vesāliṃ bhiyyosomattāya upasobhantiṃ.
๓๒๗. อถ โข ราชคหโก เนคโม เวสาลิยํ ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา ปุนเทว ราชคหํ ปจฺจาคญฺฉิฯ เยน ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มาคธํ เสนิยํ พิมฺพิสารํ เอตทโวจ – ‘‘เวสาลี, เทว, อิทฺธา เจว ผิตา จ พหุชนา จ อากิณฺณมนุสฺสา จ สุภิกฺขา จ; สตฺต จ ปาสาทสหสฺสานิ…เป.… ตาย จ เวสาลี ภิโยฺยโสมตฺตาย อุปโสภติฯ สาธุ, เทว, มยมฺปิ คณิกํ วุฎฺฐาเปสฺสามา’’ติ 7ฯ ‘‘เตน หิ, ภเณ, ตาทิสิํ กุมาริํ ชานาถ ยํ ตุเมฺห คณิกํ วุฎฺฐาเปยฺยาถา’’ติฯ เตน โข ปน สมเยน ราชคเห สาลวตี นาม กุมารี อภิรูปา โหติ ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตาฯ อถ โข ราชคหโก เนคโม สาลวติํ กุมาริํ คณิกํ วุฎฺฐาเปสิฯ อถ โข สาลวตี คณิกา นจิรเสฺสว ปทกฺขิณา อโหสิ นเจฺจ จ คีเต จ วาทิเต จ, อภิสฎา อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสานํ ปฎิสเตน จ รตฺติํ คจฺฉติฯ อถ โข สาลวตี คณิกา นจิรเสฺสว คพฺภินี อโหสิฯ อถ โข สาลวติยา คณิกาย เอตทโหสิ – ‘‘อิตฺถี โข คพฺภินี ปุริสานํ อมนาปาฯ สเจ มํ โกจิ ชานิสฺสติ สาลวตี คณิกา คพฺภินีติ, สโพฺพ เม สกฺกาโร ภญฺชิสฺสติ 8ฯ ยํนูนาหํ คิลานํ ปฎิเวเทยฺย’’นฺติฯ อถ โข สาลวตี คณิกา โทวาริกํ อาณาเปสิ – ‘‘มา, ภเณ โทวาริก, โกจิ ปุริโส ปาวิสิฯ โย จ มํ ปุจฺฉติ, ‘คิลานา’ติ ปฎิเวเทหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติ โข โส โทวาริโก สาลวติยา คณิกาย ปจฺจโสฺสสิฯ อถ โข สาลวตี คณิกา ตสฺส คพฺภสฺส ปริปากมนฺวาย ปุตฺตํ วิชายิฯ อถ โข สาลวตี คณิกา ทาสิํ อาณาเปสิ – ‘‘หนฺท, เช, อิมํ ทารกํ กตฺตรสุเปฺป ปกฺขิปิตฺวา นีหริตฺวา สงฺการกูเฎ ฉเฑฺฑหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, อเยฺย’’ติ โข สา ทาสี สาลวติยา คณิกาย ปฎิสฺสุตฺวา ตํ ทารกํ กตฺตรสุเปฺป ปกฺขิปิตฺวา นีหริตฺวา สงฺการกูเฎ ฉเฑฺฑสิฯ
327. Atha kho rājagahako negamo vesāliyaṃ taṃ karaṇīyaṃ tīretvā punadeva rājagahaṃ paccāgañchi. Yena rājā māgadho seniyo bimbisāro tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā rājānaṃ māgadhaṃ seniyaṃ bimbisāraṃ etadavoca – ‘‘vesālī, deva, iddhā ceva phitā ca bahujanā ca ākiṇṇamanussā ca subhikkhā ca; satta ca pāsādasahassāni…pe… tāya ca vesālī bhiyyosomattāya upasobhati. Sādhu, deva, mayampi gaṇikaṃ vuṭṭhāpessāmā’’ti 9. ‘‘Tena hi, bhaṇe, tādisiṃ kumāriṃ jānātha yaṃ tumhe gaṇikaṃ vuṭṭhāpeyyāthā’’ti. Tena kho pana samayena rājagahe sālavatī nāma kumārī abhirūpā hoti dassanīyā pāsādikā paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgatā. Atha kho rājagahako negamo sālavatiṃ kumāriṃ gaṇikaṃ vuṭṭhāpesi. Atha kho sālavatī gaṇikā nacirasseva padakkhiṇā ahosi nacce ca gīte ca vādite ca, abhisaṭā atthikānaṃ atthikānaṃ manussānaṃ paṭisatena ca rattiṃ gacchati. Atha kho sālavatī gaṇikā nacirasseva gabbhinī ahosi. Atha kho sālavatiyā gaṇikāya etadahosi – ‘‘itthī kho gabbhinī purisānaṃ amanāpā. Sace maṃ koci jānissati sālavatī gaṇikā gabbhinīti, sabbo me sakkāro bhañjissati 10. Yaṃnūnāhaṃ gilānaṃ paṭivedeyya’’nti. Atha kho sālavatī gaṇikā dovārikaṃ āṇāpesi – ‘‘mā, bhaṇe dovārika, koci puriso pāvisi. Yo ca maṃ pucchati, ‘gilānā’ti paṭivedehī’’ti. ‘‘Evaṃ, ayye’’ti kho so dovāriko sālavatiyā gaṇikāya paccassosi. Atha kho sālavatī gaṇikā tassa gabbhassa paripākamanvāya puttaṃ vijāyi. Atha kho sālavatī gaṇikā dāsiṃ āṇāpesi – ‘‘handa, je, imaṃ dārakaṃ kattarasuppe pakkhipitvā nīharitvā saṅkārakūṭe chaḍḍehī’’ti. ‘‘Evaṃ, ayye’’ti kho sā dāsī sālavatiyā gaṇikāya paṭissutvā taṃ dārakaṃ kattarasuppe pakkhipitvā nīharitvā saṅkārakūṭe chaḍḍesi.
๓๒๘. เตน โข ปน สมเยน อภโย นาม ราชกุมาโร กาลเสฺสว ราชุปฎฺฐานํ คจฺฉโนฺต อทฺทส ตํ ทารกํ กาเกหิ สมฺปริกิณฺณํ , ทิสฺวาน มนุเสฺส ปุจฺฉิ – ‘‘กิํ เอตํ, ภเณ, กาเกหิ สมฺปริกิณฺณ’’นฺติ? ‘‘ทารโก, เทวา’’ติฯ ‘‘ชีวติ, ภเณ’’ติ? ‘‘ชีวติ, เทวา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, ภเณ, ตํ ทารกํ อมฺหากํ อเนฺตปุรํ เนตฺวา ธาตีนํ เทถ โปเสตุ’’นฺติฯ ‘‘เอวํ, เทวา’’ติ โข เต มนุสฺสา อภยสฺส ราชกุมารสฺส ปฎิสฺสุตฺวา ตํ ทารกํ อภยสฺส ราชกุมารสฺส อเนฺตปุรํ เนตฺวา ธาตีนํ อทํสุ – ‘‘โปเสถา’’ติฯ ตสฺส ชีวตีติ ‘ชีวโก’ติ นามํ อกํสุฯ กุมาเรน โปสาปิโตติ ‘โกมารภโจฺจ’ติ นามํ อกํสุฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ นจิรเสฺสว วิญฺญุตํ ปาปุณิฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ เยน อภโย ราชกุมาโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อภยํ ราชกุมารํ เอตทโวจ – ‘‘กา เม, เทว, มาตา, โก ปิตา’’ติ? ‘‘อหมฺปิ โข เต, ภเณ ชีวก, มาตรํ น ชานามิ; อปิ จาหํ เต ปิตา; มยาสิ 11 โปสาปิโต’’ติฯ อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิมานิ โข ราชกุลานิ น สุกรานิ อสิเปฺปน อุปชีวิตุํฯ ยํนูนาหํ สิปฺปํ สิเกฺขยฺย’’นฺติฯ
328. Tena kho pana samayena abhayo nāma rājakumāro kālasseva rājupaṭṭhānaṃ gacchanto addasa taṃ dārakaṃ kākehi samparikiṇṇaṃ , disvāna manusse pucchi – ‘‘kiṃ etaṃ, bhaṇe, kākehi samparikiṇṇa’’nti? ‘‘Dārako, devā’’ti. ‘‘Jīvati, bhaṇe’’ti? ‘‘Jīvati, devā’’ti. ‘‘Tena hi, bhaṇe, taṃ dārakaṃ amhākaṃ antepuraṃ netvā dhātīnaṃ detha posetu’’nti. ‘‘Evaṃ, devā’’ti kho te manussā abhayassa rājakumārassa paṭissutvā taṃ dārakaṃ abhayassa rājakumārassa antepuraṃ netvā dhātīnaṃ adaṃsu – ‘‘posethā’’ti. Tassa jīvatīti ‘jīvako’ti nāmaṃ akaṃsu. Kumārena posāpitoti ‘komārabhacco’ti nāmaṃ akaṃsu. Atha kho jīvako komārabhacco nacirasseva viññutaṃ pāpuṇi. Atha kho jīvako komārabhacco yena abhayo rājakumāro tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā abhayaṃ rājakumāraṃ etadavoca – ‘‘kā me, deva, mātā, ko pitā’’ti? ‘‘Ahampi kho te, bhaṇe jīvaka, mātaraṃ na jānāmi; api cāhaṃ te pitā; mayāsi 12 posāpito’’ti. Atha kho jīvakassa komārabhaccassa etadahosi – ‘‘imāni kho rājakulāni na sukarāni asippena upajīvituṃ. Yaṃnūnāhaṃ sippaṃ sikkheyya’’nti.
๓๒๙. เตน โข ปน สมเยน ตกฺกสิลายํ 13 ทิสาปาโมโกฺข เวโชฺช ปฎิวสติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ อภยํ ราชกุมารํ อนาปุจฺฉา เยน ตกฺกสิลา เตน ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน เยน ตกฺกสิลา, เยน เวโชฺช เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ เวชฺชํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, อาจริย, สิปฺปํ สิกฺขิตุ’’นฺติฯ ‘‘เตน หิ, ภเณ ชีวก, สิกฺขสฺสู’’ติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ พหุญฺจ คณฺหาติ ลหุญฺจ คณฺหาติ สุฎฺฐุ จ อุปธาเรติ, คหิตญฺจสฺส น สมฺมุสฺสติ 14ฯ อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส สตฺตนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน เอตทโหสิ – ‘‘อหํ, โข พหุญฺจ คณฺหามิ ลหุญฺจ คณฺหามิ สุฎฺฐุ จ อุปธาเรมิ, คหิตญฺจ เม น สมฺมุสฺสติ, สตฺต จ เม วสฺสานิ อธียนฺตสฺส, นยิมสฺส สิปฺปสฺส อโนฺต ปญฺญายติฯ กทา อิมสฺส สิปฺปสฺส อโนฺต ปญฺญายิสฺสตี’’ติฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ เยน โส เวโชฺช เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ เวชฺชํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, อาจริย, พหุญฺจ คณฺหามิ ลหุญฺจ คณฺหามิ สุฎฺฐุ จ อุปธาเรมิ, คหิตญฺจ เม น สมฺมุสฺสติ, สตฺต จ เม วสฺสานิ อธียนฺตสฺส, นยิมสฺส สิปฺปสฺส อโนฺต ปญฺญายติฯ กทา อิมสฺส สิปฺปสฺส อโนฺต ปญฺญายิสฺสตี’’ติ? ‘‘เตน หิ, ภเณ ชีวก, ขณิตฺติํ อาทาย ตกฺกสิลาย สมนฺตา โยชนํ อาหิณฺฑิตฺวา ยํ กิญฺจิ อเภสชฺชํ ปเสฺสยฺยาสิ ตํ อาหรา’’ติฯ ‘‘เอวํ, อาจริยา’’ติ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ตสฺส เวชฺชสฺส ปฎิสฺสุตฺวา ขณิตฺติํ อาทาย ตกฺกสิลาย สมนฺตา โยชนํ อาหิณฺฑโนฺต น กิญฺจิ อเภสชฺชํ อทฺทสฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ เยน โส เวโชฺช เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ เวชฺชํ เอตทโวจ – ‘‘อาหิณฺฑโนฺตมฺหิ, อาจริย, ตกฺกสิลาย สมนฺตา โยชนํ, น กิญฺจิ 15 อเภสชฺชํ อทฺทส’’นฺติฯ ‘‘สุสิกฺขิโตสิ , ภเณ ชีวกฯ อลํ เต เอตฺตกํ ชีวิกายา’’ติ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ ปาทาสิฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ตํ ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ อาทาย เยน ราชคหํ เตน ปกฺกามิฯ อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส ตํ ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ อนฺตรามเคฺค สาเกเต ปริกฺขยํ อคมาสิฯ อถ โข ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อิเม โข มคฺคา กนฺตารา อโปฺปทกา อปฺปภกฺขา, น สุกรา อปาเถเยฺยน คนฺตุํฯ ยํนูนาหํ ปาเถยฺยํ ปริเยเสยฺย’’นฺติฯ
329. Tena kho pana samayena takkasilāyaṃ 16 disāpāmokkho vejjo paṭivasati. Atha kho jīvako komārabhacco abhayaṃ rājakumāraṃ anāpucchā yena takkasilā tena pakkāmi. Anupubbena yena takkasilā, yena vejjo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ vejjaṃ etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, ācariya, sippaṃ sikkhitu’’nti. ‘‘Tena hi, bhaṇe jīvaka, sikkhassū’’ti. Atha kho jīvako komārabhacco bahuñca gaṇhāti lahuñca gaṇhāti suṭṭhu ca upadhāreti, gahitañcassa na sammussati 17. Atha kho jīvakassa komārabhaccassa sattannaṃ vassānaṃ accayena etadahosi – ‘‘ahaṃ, kho bahuñca gaṇhāmi lahuñca gaṇhāmi suṭṭhu ca upadhāremi, gahitañca me na sammussati, satta ca me vassāni adhīyantassa, nayimassa sippassa anto paññāyati. Kadā imassa sippassa anto paññāyissatī’’ti. Atha kho jīvako komārabhacco yena so vejjo tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā taṃ vejjaṃ etadavoca – ‘‘ahaṃ kho, ācariya, bahuñca gaṇhāmi lahuñca gaṇhāmi suṭṭhu ca upadhāremi, gahitañca me na sammussati, satta ca me vassāni adhīyantassa, nayimassa sippassa anto paññāyati. Kadā imassa sippassa anto paññāyissatī’’ti? ‘‘Tena hi, bhaṇe jīvaka, khaṇittiṃ ādāya takkasilāya samantā yojanaṃ āhiṇḍitvā yaṃ kiñci abhesajjaṃ passeyyāsi taṃ āharā’’ti. ‘‘Evaṃ, ācariyā’’ti kho jīvako komārabhacco tassa vejjassa paṭissutvā khaṇittiṃ ādāya takkasilāya samantā yojanaṃ āhiṇḍanto na kiñci abhesajjaṃ addasa. Atha kho jīvako komārabhacco yena so vejjo tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā taṃ vejjaṃ etadavoca – ‘‘āhiṇḍantomhi, ācariya, takkasilāya samantā yojanaṃ, na kiñci 18 abhesajjaṃ addasa’’nti. ‘‘Susikkhitosi , bhaṇe jīvaka. Alaṃ te ettakaṃ jīvikāyā’’ti jīvakassa komārabhaccassa parittaṃ pātheyyaṃ pādāsi. Atha kho jīvako komārabhacco taṃ parittaṃ pātheyyaṃ ādāya yena rājagahaṃ tena pakkāmi. Atha kho jīvakassa komārabhaccassa taṃ parittaṃ pātheyyaṃ antarāmagge sākete parikkhayaṃ agamāsi. Atha kho jīvakassa komārabhaccassa etadahosi – ‘‘ime kho maggā kantārā appodakā appabhakkhā, na sukarā apātheyyena gantuṃ. Yaṃnūnāhaṃ pātheyyaṃ pariyeseyya’’nti.
ชีวกวตฺถุ นิฎฺฐิตํฯ
Jīvakavatthu niṭṭhitaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ชีวกวตฺถุกถา • Jīvakavatthukathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ชีวกวตฺถุกถาวณฺณนา • Jīvakavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ชีวกวตฺถุกถาวณฺณนา • Jīvakavatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ชีวกวตฺถุกถาทิวณฺณนา • Jīvakavatthukathādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๐๒. ชีวกวตฺถุกถา • 202. Jīvakavatthukathā