Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā

    ๘. จีวรกฺขนฺธกํ

    8. Cīvarakkhandhakaṃ

    ชีวกวตฺถุกถา

    Jīvakavatthukathā

    ๓๒๖. จีวรกฺขนฺธเก – ปทกฺขิณาติ เฉกา กุสลาฯ อภิสฎาติ อภิคตาฯ เกหิ อภิคตาติ? อตฺถิเกหิ อตฺถิเกหิ มนุเสฺสหิ; กรณเตฺถ ปน สามิวจนํ กตฺวา ‘‘อตฺถิกานํ อตฺถิกานํ มนุสฺสาน’’นฺติ วุตฺตํฯ ปญฺญาสาย จ รตฺติํ คจฺฉตีติ ปญฺญาส กหาปเณ คเหตฺวา รตฺติํ คจฺฉติฯ เนคโมติ กุฎุมฺพิยคโณฯ

    326. Cīvarakkhandhake – padakkhiṇāti chekā kusalā. Abhisaṭāti abhigatā. Kehi abhigatāti? Atthikehi atthikehi manussehi; karaṇatthe pana sāmivacanaṃ katvā ‘‘atthikānaṃ atthikānaṃ manussāna’’nti vuttaṃ. Paññāsāya ca rattiṃ gacchatīti paññāsa kahāpaṇe gahetvā rattiṃ gacchati. Negamoti kuṭumbiyagaṇo.

    ๓๒๗. สาลวติํ กุมาริํ คณิกํ วุฎฺฐาเปสีติ นาครา เทฺว สตสหสฺสานิ, ราชา สตสหสฺสนฺติ ตีณิ สตสหสฺสานิ, อญฺญญฺจ อารามุยฺยานวาหนาทิปริเจฺฉทํ ทตฺวา วุฎฺฐาเปสุํ; คณิกฎฺฐาเน ฐเปสุนฺติ อโตฺถฯ ปฎิสเตน จ รตฺติํ คจฺฉตีติ รตฺติํ ปฎิสเตน คจฺฉติฯ คิลานํ ปฎิเวเทยฺยนฺติ คิลานภาวํ ชานาเปยฺยํฯ กตฺตรสุเปฺปติ ชิณฺณสุเปฺปฯ

    327.Sālavatiṃ kumāriṃ gaṇikaṃ vuṭṭhāpesīti nāgarā dve satasahassāni, rājā satasahassanti tīṇi satasahassāni, aññañca ārāmuyyānavāhanādiparicchedaṃ datvā vuṭṭhāpesuṃ; gaṇikaṭṭhāne ṭhapesunti attho. Paṭisatena ca rattiṃ gacchatīti rattiṃ paṭisatena gacchati. Gilānaṃ paṭivedeyyanti gilānabhāvaṃ jānāpeyyaṃ. Kattarasuppeti jiṇṇasuppe.

    ๓๒๘. กา เม เทว มาตา, โก ปิตาติ กสฺมา ปุจฺฉิ? ตํ กิร อเญฺญ ราชทารกา กีฬนฺตา กลเห อุฎฺฐิเต ‘‘นิมฺมาติโก นิปฺปิติโก’’ติ วทนฺติฯ ยถา จ อเญฺญสํ ทารกานํ ฉณาทีสุ จุฬมาตามหามาตาทโย กิญฺจิ ปณฺณาการํ เปเสนฺติ, ตถา ตสฺส น โกจิ กิญฺจิ เปเสติฯ อิติ โส ตํ สพฺพํ จิเนฺตตฺวา ‘‘นิมฺมาติโกเยว นุ โข อห’’นฺติ ชานนตฺถํ ‘‘กา เม เทว มาตา, โก ปิตา’’ติ ปุจฺฉิฯ

    328.Kā me deva mātā, ko pitāti kasmā pucchi? Taṃ kira aññe rājadārakā kīḷantā kalahe uṭṭhite ‘‘nimmātiko nippitiko’’ti vadanti. Yathā ca aññesaṃ dārakānaṃ chaṇādīsu cuḷamātāmahāmātādayo kiñci paṇṇākāraṃ pesenti, tathā tassa na koci kiñci peseti. Iti so taṃ sabbaṃ cintetvā ‘‘nimmātikoyeva nu kho aha’’nti jānanatthaṃ ‘‘kā me deva mātā, ko pitā’’ti pucchi.

    ยนฺนูนาหํ สิปฺปํ สิเกฺขยฺยนฺติ ยํนูน อหํ เวชฺชสิปฺปํ สิเกฺขยฺยนฺติ จิเนฺตสิฯ ตสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘อิมานิ โข หตฺถิอสฺสสิปฺปาทีนิ ปรูปฆาตปฎิสํยุตฺตานิ, เวชฺชสิปฺปํ เมตฺตาปุพฺพภาคํ สตฺตานํ หิตปฎิสํยุตฺต’’นฺติฯ ตสฺมา เวชฺชสิปฺปเมว สนฺธาย ‘‘ยํนูนาหํ สิปฺปํ สิเกฺขยฺย’’นฺติ จิเนฺตสิฯ อปิจายํ อิโต กปฺปสตสหสฺสสฺส อุปริ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต อุปฎฺฐากํ ‘‘พุทฺธุปฎฺฐาโก อย’’นฺติ จตุปริสนฺตเร ปตฺถตคุณํ เวชฺชํ ทิสฺวา ‘‘อโห วตาหมฺปิ เอวรูปํ ฐานนฺตรํ ปาปุเณยฺย’’นฺติ จิเนฺตตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส ทานํ ทตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ‘‘อหมฺปิ ภควา ตุมฺหากํ อุปฎฺฐาโก อสุกเวโชฺช วิย อนาคเต พุทฺธุปฎฺฐาโก ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนมกาสิฯ ตาย ปุริมปตฺถนาย โจทิยมาโนเปส เวชฺชสิปฺปเมว สนฺธาย ‘‘ยํนูนาหํ สิปฺปํ สิเกฺขยฺย’’นฺติ จิเนฺตสิฯ

    Yannūnāhaṃ sippaṃ sikkheyyanti yaṃnūna ahaṃ vejjasippaṃ sikkheyyanti cintesi. Tassa kira etadahosi – ‘‘imāni kho hatthiassasippādīni parūpaghātapaṭisaṃyuttāni, vejjasippaṃ mettāpubbabhāgaṃ sattānaṃ hitapaṭisaṃyutta’’nti. Tasmā vejjasippameva sandhāya ‘‘yaṃnūnāhaṃ sippaṃ sikkheyya’’nti cintesi. Apicāyaṃ ito kappasatasahassassa upari padumuttarassa bhagavato upaṭṭhākaṃ ‘‘buddhupaṭṭhāko aya’’nti catuparisantare patthataguṇaṃ vejjaṃ disvā ‘‘aho vatāhampi evarūpaṃ ṭhānantaraṃ pāpuṇeyya’’nti cintetvā sattāhaṃ buddhappamukhassa saṅghassa dānaṃ datvā bhagavantaṃ vanditvā ‘‘ahampi bhagavā tumhākaṃ upaṭṭhāko asukavejjo viya anāgate buddhupaṭṭhāko bhaveyya’’nti patthanamakāsi. Tāya purimapatthanāya codiyamānopesa vejjasippameva sandhāya ‘‘yaṃnūnāhaṃ sippaṃ sikkheyya’’nti cintesi.

    ๓๒๙. ทิสาปาโมโกฺขติ สพฺพทิสาสุ วิทิโต ปากโฎ ปธาโน วาติ อโตฺถฯ ตสฺมิญฺจ สมเย ตกฺกสีลโต วาณิชา อภยราชกุมารํ ทสฺสนาย อคมํสุฯ เต ชีวโก ‘‘กุโต ตุเมฺห อาคตา’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘ตกฺกสีลโต’’ติ วุเตฺต ‘‘อตฺถิ ตตฺถ เวชฺชสิปฺปาจริโย’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘อาม กุมาร, ตกฺกสีลายํ ทิสาปาโมโกฺข เวโชฺช ปฎิวสตี’’ติ สุตฺวา ‘‘เตน หิ ยทา คจฺฉถ, มยฺหํ อาโรเจยฺยาถา’’ติ อาหฯ เต ตถา อกํสุฯ โส ปิตรํ อนาปุจฺฉา เตหิ สทฺธิํ ตกฺกสีลํ อคมาสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อภยํ ราชกุมารํ อนาปุจฺฉา’’ติอาทิฯ

    329.Disāpāmokkhoti sabbadisāsu vidito pākaṭo padhāno vāti attho. Tasmiñca samaye takkasīlato vāṇijā abhayarājakumāraṃ dassanāya agamaṃsu. Te jīvako ‘‘kuto tumhe āgatā’’ti pucchi. ‘‘Takkasīlato’’ti vutte ‘‘atthi tattha vejjasippācariyo’’ti pucchi. ‘‘Āma kumāra, takkasīlāyaṃ disāpāmokkho vejjo paṭivasatī’’ti sutvā ‘‘tena hi yadā gacchatha, mayhaṃ āroceyyāthā’’ti āha. Te tathā akaṃsu. So pitaraṃ anāpucchā tehi saddhiṃ takkasīlaṃ agamāsi. Tena vuttaṃ – ‘‘abhayaṃ rājakumāraṃ anāpucchā’’tiādi.

    อิจฺฉามหํ อาจริย สิปฺปํ สิกฺขิตุนฺติ ตํ กิร อุปสงฺกมนฺตํ ทิสฺวา โส เวโชฺช ‘‘โกสิ ตฺวํ ตาตา’’ติ ปุจฺฉิฯ โส ‘‘พิมฺพิสารมหาราชสฺส นตฺตา อภยกุมารสฺส ปุโตฺตมฺหี’’ติ อาหฯ ‘‘กสฺมา ปน ตฺวมสิ ตาต อิธาคโต’’ติ, ตโต โส ‘‘ตุมฺหากํ สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺขิตุ’’นฺติ วตฺวา อิจฺฉามหํ อาจริย สิปฺปํ สิกฺขิตุนฺติ อาหฯ พหุญฺจ คณฺหาตีติ ยถา อเญฺญ ขตฺติยกุมาราทโย อาจริยสฺส ธนํ ทตฺวา กิญฺจิ กมฺมํ อกตฺวา สิกฺขนฺติเยว, น โส เอวํฯ โส ปน กิญฺจิ ธนํ อทตฺวา ธมฺมเนฺตวาสิโกว หุตฺวา เอกํ กาลํ อุปชฺฌายสฺส กมฺมํ กโรติ, เอกํ กาลํ สิกฺขติฯ เอวํ สเนฺตปิ อภินีหารสมฺปโนฺน กุลปุโตฺต อตฺตโน เมธาวิตาย พหุญฺจ คณฺหาติ, ลหุญฺจ คณฺหาติ, สุฎฺฐุ จ อุปธาเรติ, คหิตญฺจสฺส น สมฺมุสฺสติฯ

    Icchāmahaṃ ācariya sippaṃ sikkhitunti taṃ kira upasaṅkamantaṃ disvā so vejjo ‘‘kosi tvaṃ tātā’’ti pucchi. So ‘‘bimbisāramahārājassa nattā abhayakumārassa puttomhī’’ti āha. ‘‘Kasmā pana tvamasi tāta idhāgato’’ti, tato so ‘‘tumhākaṃ santike sippaṃ sikkhitu’’nti vatvā icchāmahaṃ ācariya sippaṃ sikkhitunti āha. Bahuñca gaṇhātīti yathā aññe khattiyakumārādayo ācariyassa dhanaṃ datvā kiñci kammaṃ akatvā sikkhantiyeva, na so evaṃ. So pana kiñci dhanaṃ adatvā dhammantevāsikova hutvā ekaṃ kālaṃ upajjhāyassa kammaṃ karoti, ekaṃ kālaṃ sikkhati. Evaṃ santepi abhinīhārasampanno kulaputto attano medhāvitāya bahuñca gaṇhāti, lahuñca gaṇhāti, suṭṭhu ca upadhāreti, gahitañcassa na sammussati.

    สตฺต จ เม วสฺสานิ อธียนฺตสฺส นยิมสฺส สิปฺปสฺส อโนฺต ปญฺญายตีติ เอตฺถ อยํ กิร ชีวโก ยตฺตกํ อาจริโย ชานาติ, ยํ อเญฺญ โสฬสหิ วเสฺสหิ อุคฺคณฺหนฺติ, ตํ สพฺพํ สตฺตหิ วเสฺสหิ อุคฺคเหสิ ฯ สกฺกสฺส ปน เทวรโญฺญ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ พุทฺธานํ อุปฎฺฐาโก อคฺควิสฺสาสโก ภวิสฺสติ, หนฺท นํ เภสชฺชโยชนํ สิกฺขาเปมี’’ติ อาจริยสฺส สรีเร อชฺฌาวสิตฺวา ยถา ฐเปตฺวา กมฺมวิปากํ อวเสสโรคํ เอเกเนว เภสชฺชโยเคน ติกิจฺฉิตุํ สโกฺกติ, ตถา นํ เภสชฺชโยชนํ สิกฺขาเปสิฯ โส ปน ‘‘อาจริยสฺส สนฺติเก สิกฺขามี’’ติ มญฺญติ, ตสฺมา ‘‘สมโตฺถ อิทานิ ชีวโก ติกิจฺฉิตุ’’นฺติ สเกฺกน วิสฺสฎฺฐมเตฺต เอวํ จิเนฺตตฺวา อาจริยํ ปุจฺฉิฯ อาจริโย ปน ‘‘น อิมินา มมานุภาเวน อุคฺคหิตํ, เทวตานุภาเวน อุคฺคหิต’’นฺติ ญตฺวาว เตน หิ ภเณติอาทิมาหฯ สมนฺตา โยชนํ อาหิณฺฑโนฺตติ ทิวเส ทิวเส เอเกเกน ทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา จตฺตาโร ทิวเส อาหิณฺฑโนฺตฯ ปริตฺตํ ปาเถยฺยํ ปาทาสีติ อปฺปมตฺตกํ อทาสิฯ กสฺมา? ตสฺส กิร เอตทโหสิ – ‘‘อยํ มหากุลสฺส ปุโตฺต คตมโตฺตเยว ปิติปิตามหานํ สนฺติกา มหาสกฺการํ ลภิสฺสติ, ตโต มยฺหํ วา สิปฺปสฺส วา คุณํ น ชานิสฺสติ, อนฺตรามเคฺค ปน ขีณปาเถโยฺย สิปฺปํ ปโยเชตฺวา อวสฺสํ มยฺหญฺจ สิปฺปสฺส จ คุณํ ชานิสฺสตี’’ติ ปริตฺตํ ทาเปสิฯ

    Satta ca me vassāni adhīyantassa nayimassa sippassa anto paññāyatīti ettha ayaṃ kira jīvako yattakaṃ ācariyo jānāti, yaṃ aññe soḷasahi vassehi uggaṇhanti, taṃ sabbaṃ sattahi vassehi uggahesi . Sakkassa pana devarañño etadahosi – ‘‘ayaṃ buddhānaṃ upaṭṭhāko aggavissāsako bhavissati, handa naṃ bhesajjayojanaṃ sikkhāpemī’’ti ācariyassa sarīre ajjhāvasitvā yathā ṭhapetvā kammavipākaṃ avasesarogaṃ ekeneva bhesajjayogena tikicchituṃ sakkoti, tathā naṃ bhesajjayojanaṃ sikkhāpesi. So pana ‘‘ācariyassa santike sikkhāmī’’ti maññati, tasmā ‘‘samattho idāni jīvako tikicchitu’’nti sakkena vissaṭṭhamatte evaṃ cintetvā ācariyaṃ pucchi. Ācariyo pana ‘‘na iminā mamānubhāvena uggahitaṃ, devatānubhāvena uggahita’’nti ñatvāva tena hi bhaṇetiādimāha. Samantā yojanaṃ āhiṇḍantoti divase divase ekekena dvārena nikkhamitvā cattāro divase āhiṇḍanto. Parittaṃ pātheyyaṃ pādāsīti appamattakaṃ adāsi. Kasmā? Tassa kira etadahosi – ‘‘ayaṃ mahākulassa putto gatamattoyeva pitipitāmahānaṃ santikā mahāsakkāraṃ labhissati, tato mayhaṃ vā sippassa vā guṇaṃ na jānissati, antarāmagge pana khīṇapātheyyo sippaṃ payojetvā avassaṃ mayhañca sippassa ca guṇaṃ jānissatī’’ti parittaṃ dāpesi.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๒๐๒. ชีวกวตฺถุ • 202. Jīvakavatthu

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ชีวกวตฺถุกถาวณฺณนา • Jīvakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ชีวกวตฺถุกถาวณฺณนา • Jīvakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ชีวกวตฺถุกถาทิวณฺณนา • Jīvakavatthukathādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๒๐๒. ชีวกวตฺถุกถา • 202. Jīvakavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact