Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๑๗๘] ๘. กจฺฉปชาตกวณฺณนา

    [178] 8. Kacchapajātakavaṇṇanā

    ชนิตฺตํ เม ภวิตฺตํ เมติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ อหิวาตกโรคมุตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ สาวตฺถิยํ กิร เอกสฺมิํ กุเล อหิวาตกโรโค อุปฺปชฺชิฯ มาตาปิตโร ปุตฺตํ อาหํสุ – ‘‘ตาต, มา อิมสฺมิํ เคเห วส, ภิตฺติํ ภินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ คนฺตฺวา ชีวิตํ รกฺข, ปจฺฉา อาคนฺตฺวา อิมสฺมิํ นาม ฐาเน มหานิธานํ อตฺถิ, ตํ อุทฺธริตฺวา กุฎุมฺพํ สณฺฐเปตฺวา สุเขน ชีเวยฺยาสี’’ติฯ ปุโตฺต เตสํ วจนํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวา ภิตฺติํ ภินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา อตฺตโน โรเค วูปสเนฺต อาคนฺตฺวา มหานิธานํ อุทฺธริตฺวา กุฎุมฺพํ สณฺฐเปตฺวา ฆราวาสํ วสิฯ โส เอกทิวสํ สปฺปิเตลาทีนิ เจว วตฺถจฺฉาทนาทีนิ จ คาหาเปตฺวา เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา นิสีทิฯ สตฺถา เตน สทฺธิํ ปฎิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เคเห อหิวาตกโรโค อุปฺปโนฺนติ อสฺสุมฺห, กินฺติ กตฺวา มุโตฺตสี’’ติ ปุจฺฉิ, โส ตํ ปวตฺติํ อาจิกฺขิฯ สตฺถา ‘‘ปุเพฺพปิ โข, อุปาสก, ภเย อุปฺปเนฺน อตฺตโน วสนฎฺฐาเน อาลยํ กตฺวา อญฺญตฺถ อคตา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิํสุ, อนาลยํ ปน กตฺวา อญฺญตฺถ คตา ชีวิตํ ลภิํสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ

    Janittaṃ me bhavittaṃ meti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ ahivātakarogamuttaṃ ārabbha kathesi. Sāvatthiyaṃ kira ekasmiṃ kule ahivātakarogo uppajji. Mātāpitaro puttaṃ āhaṃsu – ‘‘tāta, mā imasmiṃ gehe vasa, bhittiṃ bhinditvā palāyitvā yattha katthaci gantvā jīvitaṃ rakkha, pacchā āgantvā imasmiṃ nāma ṭhāne mahānidhānaṃ atthi, taṃ uddharitvā kuṭumbaṃ saṇṭhapetvā sukhena jīveyyāsī’’ti. Putto tesaṃ vacanaṃ sampaṭicchitvā bhittiṃ bhinditvā palāyitvā attano roge vūpasante āgantvā mahānidhānaṃ uddharitvā kuṭumbaṃ saṇṭhapetvā gharāvāsaṃ vasi. So ekadivasaṃ sappitelādīni ceva vatthacchādanādīni ca gāhāpetvā jetavanaṃ gantvā satthāraṃ vanditvā nisīdi. Satthā tena saddhiṃ paṭisanthāraṃ katvā ‘‘tumhākaṃ gehe ahivātakarogo uppannoti assumha, kinti katvā muttosī’’ti pucchi, so taṃ pavattiṃ ācikkhi. Satthā ‘‘pubbepi kho, upāsaka, bhaye uppanne attano vasanaṭṭhāne ālayaṃ katvā aññattha agatā jīvitakkhayaṃ pāpuṇiṃsu, anālayaṃ pana katvā aññattha gatā jīvitaṃ labhiṃsū’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กาสิคามเก กุมฺภการกุเล นิพฺพตฺติตฺวา กุมฺภการกมฺมํ กตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสสิฯ ตทา ปน พาราณสิยํ มหานทิยา สทฺธิํ เอกาพโทฺธ มหาชาตสฺสโร อโหสิฯ โส พหุอุทกกาเล นทิยา สทฺธิํ เอโกทโก โหติ, อุทเก มนฺทีภูเต วิสุํ โหติฯ มจฺฉกจฺฉปา ปน ‘‘อิมสฺมิํ สํวจฺฉเร สุวุฎฺฐิกา ภวิสฺสติ, อิมสฺมิํ สํวจฺฉเร ทุพฺพุฎฺฐิกา’’ติ ชานนฺติฯ อถ ตสฺมิํ สเร นิพฺพตฺตมจฺฉกจฺฉปา ‘‘อิมสฺมิํ สํวจฺฉเร ทุพฺพุฎฺฐิกา ภวิสฺสตี’’ติ ญตฺวา อุทกสฺส เอกาพทฺธกาเลเยว ตมฺหา สรา นิกฺขมิตฺวา นทิํ อคมิํสุฯ เอโก ปน กจฺฉโป ‘‘อิทํ เม ชาตฎฺฐานํ วฑฺฒิตฎฺฐานํ, มาตาปิตูหิ วสิตฎฺฐานํ, น สโกฺกมิ อิมํ ชหิตุ’’นฺติ นทิํ น อคมาสิฯ อถ นิทาฆสมเย ตตฺถ อุทกํ ฉิชฺชิ, โส กจฺฉโป โพธิสตฺตสฺส มตฺติกคหณฎฺฐาเน ภูมิํ ขณิตฺวา ปาวิสิฯ โพธิสโตฺต ‘‘มตฺติกํ คเหสฺสามี’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา มหากุทฺทาเลน ภูมิํ ขณโนฺต กจฺฉปสฺส ปิฎฺฐิํ ภินฺทิตฺวา มตฺติกปิณฺฑํ วิย กุทฺทาเลเนว นํ อุทฺธริตฺวา ถเล ปาเตสิฯ โส เวทนาปฺปโตฺต หุตฺวา ‘‘วสนฎฺฐาเน อาลยํ ชหิตุํ อสโกฺกโนฺต เอวํ วินาสํ ปาปุณิ’’นฺติ วตฺวา ปริเทวมาโน อิมา คาถา อโวจ –

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kāsigāmake kumbhakārakule nibbattitvā kumbhakārakammaṃ katvā puttadāraṃ posesi. Tadā pana bārāṇasiyaṃ mahānadiyā saddhiṃ ekābaddho mahājātassaro ahosi. So bahuudakakāle nadiyā saddhiṃ ekodako hoti, udake mandībhūte visuṃ hoti. Macchakacchapā pana ‘‘imasmiṃ saṃvacchare suvuṭṭhikā bhavissati, imasmiṃ saṃvacchare dubbuṭṭhikā’’ti jānanti. Atha tasmiṃ sare nibbattamacchakacchapā ‘‘imasmiṃ saṃvacchare dubbuṭṭhikā bhavissatī’’ti ñatvā udakassa ekābaddhakāleyeva tamhā sarā nikkhamitvā nadiṃ agamiṃsu. Eko pana kacchapo ‘‘idaṃ me jātaṭṭhānaṃ vaḍḍhitaṭṭhānaṃ, mātāpitūhi vasitaṭṭhānaṃ, na sakkomi imaṃ jahitu’’nti nadiṃ na agamāsi. Atha nidāghasamaye tattha udakaṃ chijji, so kacchapo bodhisattassa mattikagahaṇaṭṭhāne bhūmiṃ khaṇitvā pāvisi. Bodhisatto ‘‘mattikaṃ gahessāmī’’ti tattha gantvā mahākuddālena bhūmiṃ khaṇanto kacchapassa piṭṭhiṃ bhinditvā mattikapiṇḍaṃ viya kuddāleneva naṃ uddharitvā thale pātesi. So vedanāppatto hutvā ‘‘vasanaṭṭhāne ālayaṃ jahituṃ asakkonto evaṃ vināsaṃ pāpuṇi’’nti vatvā paridevamāno imā gāthā avoca –

    ๕๕.

    55.

    ‘‘ชนิตฺตํ เม ภวิตฺตํ เม, อิติ ปเงฺก อวสฺสยิํ;

    ‘‘Janittaṃ me bhavittaṃ me, iti paṅke avassayiṃ;

    ตํ มํ ปโงฺก อชฺฌภวิ, ยถา ทุพฺพลกํ ตถา;

    Taṃ maṃ paṅko ajjhabhavi, yathā dubbalakaṃ tathā;

    ตํ ตํ วทามิ ภคฺคว, สุโณหิ วจนํ มมฯ

    Taṃ taṃ vadāmi bhaggava, suṇohi vacanaṃ mama.

    ๕๖.

    56.

    ‘‘คาเม วา ยทิ วารเญฺญ, สุขํ ยตฺราธิคจฺฉติ;

    ‘‘Gāme vā yadi vāraññe, sukhaṃ yatrādhigacchati;

    ตํ ชนิตฺตํ ภวิตฺตญฺจ, ปุริสสฺส ปชานโต;

    Taṃ janittaṃ bhavittañca, purisassa pajānato;

    ยมฺหิ ชีเว ตมฺหิ คเจฺฉ, น นิเกตหโต สิยา’’ติฯ

    Yamhi jīve tamhi gacche, na niketahato siyā’’ti.

    ตตฺถ ชนิตฺตํ เม ภวิตฺตํ เมติ อิทํ มม ชาตฎฺฐานํ, อิทํ มม วฑฺฒิตฎฺฐานํฯ อิติ ปเงฺก อวสฺสยินฺติ อิมินา การเณนาหํ อิมสฺมิํ กทฺทเม อวสฺสยิํ นิปชฺชิํ, วาสํ กเปฺปสินฺติ อโตฺถฯ อชฺฌภวีติ อธิอภวิ วินาสํ ปาเปสิฯ ภคฺควาติ กุมฺภการํ อาลปติฯ กุมฺภการานญฺหิ นามโคตฺตปญฺญตฺติ เอสา, ยทิทํ ภคฺควาติฯ สุขนฺติ กายิกเจตสิกสฺสาทํฯ ตํ ชนิตฺตํ ภวิตฺตญฺจาติ ตํ ชาตฎฺฐานญฺจ วฑฺฒิตฎฺฐานญฺจฯ ‘‘ชานิตฺตํ ภาวิตฺต’’นฺติ ทีฆวเสนปิ ปาโฐ, โสเยวโตฺถฯ ปชานโตติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ ชานนฺตสฺสฯ น นิเกตหโต สิยาติ นิเกเต อาลยํ กตฺวา อญฺญตฺถ อคนฺตฺวา นิเกเตน หโต, เอวรูปํ มรณทุกฺขํ ปาปิโต น ภเวยฺยาติฯ

    Tattha janittaṃ me bhavittaṃ meti idaṃ mama jātaṭṭhānaṃ, idaṃ mama vaḍḍhitaṭṭhānaṃ. Iti paṅke avassayinti iminā kāraṇenāhaṃ imasmiṃ kaddame avassayiṃ nipajjiṃ, vāsaṃ kappesinti attho. Ajjhabhavīti adhiabhavi vināsaṃ pāpesi. Bhaggavāti kumbhakāraṃ ālapati. Kumbhakārānañhi nāmagottapaññatti esā, yadidaṃ bhaggavāti. Sukhanti kāyikacetasikassādaṃ. Taṃjanittaṃ bhavittañcāti taṃ jātaṭṭhānañca vaḍḍhitaṭṭhānañca. ‘‘Jānittaṃ bhāvitta’’nti dīghavasenapi pāṭho, soyevattho. Pajānatoti atthānatthaṃ kāraṇākāraṇaṃ jānantassa. Na niketahato siyāti nikete ālayaṃ katvā aññattha agantvā niketena hato, evarūpaṃ maraṇadukkhaṃ pāpito na bhaveyyāti.

    เอวํ โส โพธิสเตฺตน สทฺธิํ กเถโนฺต กาลมกาสิฯ โพธิสโตฺต ตํ คเหตฺวา สกลคามวาสิโน สนฺนิปาตาเปตฺวา เต มนุเสฺส โอวทโนฺต เอวมาห – ‘‘ปสฺสถ อิมํ กจฺฉปํ, อยํ อเญฺญสํ มจฺฉกจฺฉปานํ มหานทิํ คมนกาเล อตฺตโน วสนฎฺฐาเน อาลยํ ฉินฺทิตุํ อสโกฺกโนฺต เตหิ สทฺธิํ อคนฺตฺวา มม มตฺติกคหณฎฺฐานํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิฯ อถสฺสาหํ มตฺติกํ คณฺหโนฺต มหากุทฺทาเลน ปิฎฺฐิํ ภินฺทิตฺวา มตฺติกปิณฺฑํ วิย นํ ถเล ปาเตสิํ, อยํ อตฺตนา กตกมฺมํ สริตฺวา ทฺวีหิ คาถาหิ ปริเทวิตฺวา กาลมกาสิฯ เอวเมส อตฺตโน วสนฎฺฐาเน อาลยํ กตฺวา มรณํ ปโตฺต, ตุเมฺหปิ มา อิมินา กจฺฉเปน สทิสา อหุวตฺถ, อิโต ปฎฺฐาย ‘มยฺหํ รูปํ มยฺหํ สโทฺท มยฺหํ คโนฺธ มยฺหํ รโส มยฺหํ โผฎฺฐโพฺพ มยฺหํ ปุโตฺต มยฺหํ ธีตา มยฺหํ ทาสทาสิปริเจฺฉโท มยฺหํ หิรญฺญสุวณฺณ’นฺติ ตณฺหาวเสน อุปโภควเสน มา คณฺหิตฺถ, เอกโกเวส สโตฺต ตีสุ ภเวสุ ปริวตฺตตี’’ติฯ เอวํ พุทฺธลีลาย มหาชนสฺส โอวาทมทาสิ, โส โอวาโท สกลชมฺพุทีปํ ปตฺถริตฺวา สฎฺฐิมตฺตานิ วสฺสสหสฺสานิ อฎฺฐาสิฯ มหาชโน โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ฐตฺวา ทานาทีนิ ปุญฺญานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน สคฺคปุรํ ปูเรสิ, โพธิสโตฺตปิ ตเถว ปุญฺญานิ กตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิฯ

    Evaṃ so bodhisattena saddhiṃ kathento kālamakāsi. Bodhisatto taṃ gahetvā sakalagāmavāsino sannipātāpetvā te manusse ovadanto evamāha – ‘‘passatha imaṃ kacchapaṃ, ayaṃ aññesaṃ macchakacchapānaṃ mahānadiṃ gamanakāle attano vasanaṭṭhāne ālayaṃ chindituṃ asakkonto tehi saddhiṃ agantvā mama mattikagahaṇaṭṭhānaṃ pavisitvā nipajji. Athassāhaṃ mattikaṃ gaṇhanto mahākuddālena piṭṭhiṃ bhinditvā mattikapiṇḍaṃ viya naṃ thale pātesiṃ, ayaṃ attanā katakammaṃ saritvā dvīhi gāthāhi paridevitvā kālamakāsi. Evamesa attano vasanaṭṭhāne ālayaṃ katvā maraṇaṃ patto, tumhepi mā iminā kacchapena sadisā ahuvattha, ito paṭṭhāya ‘mayhaṃ rūpaṃ mayhaṃ saddo mayhaṃ gandho mayhaṃ raso mayhaṃ phoṭṭhabbo mayhaṃ putto mayhaṃ dhītā mayhaṃ dāsadāsiparicchedo mayhaṃ hiraññasuvaṇṇa’nti taṇhāvasena upabhogavasena mā gaṇhittha, ekakovesa satto tīsu bhavesu parivattatī’’ti. Evaṃ buddhalīlāya mahājanassa ovādamadāsi, so ovādo sakalajambudīpaṃ pattharitvā saṭṭhimattāni vassasahassāni aṭṭhāsi. Mahājano bodhisattassa ovāde ṭhatvā dānādīni puññāni katvā āyupariyosāne saggapuraṃ pūresi, bodhisattopi tatheva puññāni katvā saggapuraṃ pūresi.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส กุลปุโตฺต โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐาสิฯ ‘‘ตทา กจฺฉโป อานโนฺท อโหสิ, กุมฺภกาโร ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne so kulaputto sotāpattiphale patiṭṭhāsi. ‘‘Tadā kacchapo ānando ahosi, kumbhakāro pana ahameva ahosi’’nti.

    กจฺฉปชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ

    Kacchapajātakavaṇṇanā aṭṭhamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๗๘. กจฺฉปชาตกํ • 178. Kacchapajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact