Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๒๑๕] ๕. กจฺฉปชาตกวณฺณนา
[215] 5. Kacchapajātakavaṇṇanā
อวธี วต อตฺตานนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต โกกาลิกํ อารพฺภ กเถสิฯ วตฺถุ มหาตกฺการิชาตเก (ชา. ๑.๑๓.๑๐๔ อาทโย) อาวิ-ภวิสฺสติฯ ตทา ปน สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, โกกาลิโก อิทาเนว วาจาย หโต, ปุเพฺพปิ วาจาย หโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Avadhī vata attānanti idaṃ satthā jetavane viharanto kokālikaṃ ārabbha kathesi. Vatthu mahātakkārijātake (jā. 1.13.104 ādayo) āvi-bhavissati. Tadā pana satthā ‘‘na, bhikkhave, kokāliko idāneva vācāya hato, pubbepi vācāya hatoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสโก อโหสิฯ โส ปน ราชา พหุภาณี อโหสิ, ตสฺมิํ กเถเนฺต อเญฺญสํ วจนสฺส โอกาโส นาม นตฺถิฯ โพธิสโตฺต ตสฺส ตํ พหุภาณิตํ วาเรตุกาโม เอกํ อุปายํ อุปธาเรโนฺต วิจรติฯ ตสฺมิญฺจ กาเล หิมวนฺตปเทเส เอกสฺมิํ สเร กจฺฉโป วสติ, เทฺว หํสโปตกา โคจราย จรนฺตา เตน สทฺธิํ วิสฺสาสํ อกํสุฯ เต ทฬฺหวิสฺสาสิกา หุตฺวา เอกทิวสํ กจฺฉปํ อาหํสุ – ‘‘สมฺม กจฺฉป, อมฺหากํ หิมวเนฺต จิตฺตกูฎปพฺพตตเล กญฺจนคุหายํ วสนฎฺฐานํ รมณีโย ปเทโส, คจฺฉสิ อมฺหากํ สทฺธิ’’นฺติฯ ‘‘อหํ กินฺติ กตฺวา คมิสฺสามี’’ติ? ‘‘มยํ ตํ คเหตฺวา คมิสฺสาม, สเจ ตฺวํ มุขํ รกฺขิตุํ สกฺขิสฺสสิ, กสฺสจิ กิญฺจิ น กเถสฺสสี’’ติฯ ‘‘รกฺขิสฺสามิ, สามิ, คเหตฺวา มํ คจฺฉถา’’ติฯ เต ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เอกํ ทณฺฑกํ กจฺฉเปน ฑํสาเปตฺวา สยํ ตสฺส อุโภ โกฎิโย ฑํสิตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิํสุฯ ตํ ตถา หํเสหิ นียมานํ คามทารกา ทิสฺวา ‘‘เทฺว หํสา กจฺฉปํ ทณฺฑเกน หรนฺตี’’ติ อาหํสุฯ
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto amaccakule nibbattitvā vayappatto tassa atthadhammānusāsako ahosi. So pana rājā bahubhāṇī ahosi, tasmiṃ kathente aññesaṃ vacanassa okāso nāma natthi. Bodhisatto tassa taṃ bahubhāṇitaṃ vāretukāmo ekaṃ upāyaṃ upadhārento vicarati. Tasmiñca kāle himavantapadese ekasmiṃ sare kacchapo vasati, dve haṃsapotakā gocarāya carantā tena saddhiṃ vissāsaṃ akaṃsu. Te daḷhavissāsikā hutvā ekadivasaṃ kacchapaṃ āhaṃsu – ‘‘samma kacchapa, amhākaṃ himavante cittakūṭapabbatatale kañcanaguhāyaṃ vasanaṭṭhānaṃ ramaṇīyo padeso, gacchasi amhākaṃ saddhi’’nti. ‘‘Ahaṃ kinti katvā gamissāmī’’ti? ‘‘Mayaṃ taṃ gahetvā gamissāma, sace tvaṃ mukhaṃ rakkhituṃ sakkhissasi, kassaci kiñci na kathessasī’’ti. ‘‘Rakkhissāmi, sāmi, gahetvā maṃ gacchathā’’ti. Te ‘‘sādhū’’ti vatvā ekaṃ daṇḍakaṃ kacchapena ḍaṃsāpetvā sayaṃ tassa ubho koṭiyo ḍaṃsitvā ākāsaṃ pakkhandiṃsu. Taṃ tathā haṃsehi nīyamānaṃ gāmadārakā disvā ‘‘dve haṃsā kacchapaṃ daṇḍakena harantī’’ti āhaṃsu.
กจฺฉโป ‘‘ยทิ มํ สหายกา เนนฺติ, ตุมฺหากํ เอตฺถ กิํ ทุฎฺฐเจฎกา’’ติ วตฺตุกาโม หํสานํ สีฆเวคตาย พาราณสินคเร ราชนิเวสนสฺส อุปริภาคํ สมฺปตฺตกาเล ทฎฺฐฎฺฐานโต ทณฺฑกํ วิสฺสเชฺชตฺวา อากาสงฺคเณ ปติตฺวา เทฺวภาโค อโหสิ, ‘‘กจฺฉโป อากาสโต ปติตฺวา เทฺวธา ภิโนฺน’’ติ เอกโกลาหลํ อโหสิฯ ราชา โพธิสตฺตํ อาทาย อมจฺจคณปริวุโต ตํ ฐานํ คนฺตฺวา กจฺฉปํ ทิสฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ – ‘‘ปณฺฑิต, กินฺติ กตฺวา เอส ปติโต’’ติ? โพธิสโตฺต ‘‘จิรปฎิกโงฺขหํ ราชานํ โอวทิตุกาโม อุปายํ อุปธาเรโนฺต จรามิ, อิมินา กจฺฉเปน หํเสหิ สทฺธิํ วิสฺสาโส กโต ภวิสฺสติ, เตหิ อิมํ ‘หิมวนฺตํ เนสฺสฺสามา’ติ ทณฺฑกํ ฑํสาเปตฺวา อากาสํ ปกฺขเนฺตหิ ภวิตพฺพํ, อถ อิมินา กสฺสจิ วจนํ สุตฺวา อรกฺขิตมุขตาย กิญฺจิ วตฺตุกาเมน ทณฺฑกา วิสฺสโฎฺฐ ภวิสฺสติ, เอวํ อากาสโต ปติตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปเตฺตเนว ภวิตพฺพ’’นฺติ จิเนฺตตฺวา ‘‘อาม มหาราช, อติมุขรา นาม อปริยนฺตวจนา เอวรูปํ ทุกฺขํ ปาปุณนฺติเยวา’’ติ วตฺวา อิมา คาถา อโวจ –
Kacchapo ‘‘yadi maṃ sahāyakā nenti, tumhākaṃ ettha kiṃ duṭṭhaceṭakā’’ti vattukāmo haṃsānaṃ sīghavegatāya bārāṇasinagare rājanivesanassa uparibhāgaṃ sampattakāle daṭṭhaṭṭhānato daṇḍakaṃ vissajjetvā ākāsaṅgaṇe patitvā dvebhāgo ahosi, ‘‘kacchapo ākāsato patitvā dvedhā bhinno’’ti ekakolāhalaṃ ahosi. Rājā bodhisattaṃ ādāya amaccagaṇaparivuto taṃ ṭhānaṃ gantvā kacchapaṃ disvā bodhisattaṃ pucchi – ‘‘paṇḍita, kinti katvā esa patito’’ti? Bodhisatto ‘‘cirapaṭikaṅkhohaṃ rājānaṃ ovaditukāmo upāyaṃ upadhārento carāmi, iminā kacchapena haṃsehi saddhiṃ vissāso kato bhavissati, tehi imaṃ ‘himavantaṃ nesssāmā’ti daṇḍakaṃ ḍaṃsāpetvā ākāsaṃ pakkhantehi bhavitabbaṃ, atha iminā kassaci vacanaṃ sutvā arakkhitamukhatāya kiñci vattukāmena daṇḍakā vissaṭṭho bhavissati, evaṃ ākāsato patitvā jīvitakkhayaṃ patteneva bhavitabba’’nti cintetvā ‘‘āma mahārāja, atimukharā nāma apariyantavacanā evarūpaṃ dukkhaṃ pāpuṇantiyevā’’ti vatvā imā gāthā avoca –
๑๒๙.
129.
‘‘อวธี วต อตฺตานํ, กจฺฉโป พฺยาหรํ คิรํ;
‘‘Avadhī vata attānaṃ, kacchapo byāharaṃ giraṃ;
สุคฺคหีตสฺมิํ กฎฺฐสฺมิํ, วาจาย สกิยาวธิฯ
Suggahītasmiṃ kaṭṭhasmiṃ, vācāya sakiyāvadhi.
๑๓๐.
130.
‘‘เอตมฺปิ ทิสฺวา นรวีริยเสฎฺฐ, วาจํ ปมุเญฺจ กุสลํ นาติเวลํ;
‘‘Etampi disvā naravīriyaseṭṭha, vācaṃ pamuñce kusalaṃ nātivelaṃ;
ปสฺสสิ พหุภาเณน, กจฺฉปํ พฺยสนํ คต’’นฺติฯ
Passasi bahubhāṇena, kacchapaṃ byasanaṃ gata’’nti.
ตตฺถ อวธี วตาติ ฆาเตสิ วตฯ พฺยาหรนฺติ พฺยาหรโนฺตฯ สุคฺคหีตสฺมิํ กฎฺฐสฺมินฺติ มุเขน สุฎฺฐุ ฑํสิตฺวา คหิเต ทณฺฑเกฯ วาจาย สกิยาวธีติ อติมุขรตาย อกาเล วาจํ นิจฺฉาเรโนฺต ทฎฺฐฎฺฐานํ วิสฺสเชฺชตฺวา ตาย สกาย วาจาย อตฺตานํ อวธิ ฆาเตสิฯ เอวเมส ชีวิตกฺขยํ ปโตฺต, น อญฺญถาติฯ เอตมฺปิ ทิสฺวาติ เอตมฺปิ การณํ ทิสฺวาฯ นรวีริยเสฎฺฐาติ นเรสุ วีริเยน เสฎฺฐ อุตฺตมวีริย ราชวรฯ วาจํ ปมุเญฺจ กุสลํ นาติเวลนฺติ สจฺจาทิปฎิสํยุตฺตํ กุสลเมว ปณฺฑิโต ปุริโส มุเญฺจยฺย นิจฺฉาเรยฺย, ตมฺปิ หิตํ กาลยุตฺตํ, น อติเวลํ, อติกฺกนฺตกาลํ อปริยนฺตวาจํ น ภาเสยฺยฯ ปสฺสสีติ นนุ ปจฺจกฺขโต ปสฺสสิฯ พหุภาเณนาติ พหุภณเนนฯ กจฺฉปํ พฺยสนํ คตนฺติ เอตํ กจฺฉปํ ชีวิตกฺขยํ ปตฺตนฺติฯ
Tattha avadhī vatāti ghātesi vata. Byāharanti byāharanto. Suggahītasmiṃ kaṭṭhasminti mukhena suṭṭhu ḍaṃsitvā gahite daṇḍake. Vācāya sakiyāvadhīti atimukharatāya akāle vācaṃ nicchārento daṭṭhaṭṭhānaṃ vissajjetvā tāya sakāya vācāya attānaṃ avadhi ghātesi. Evamesa jīvitakkhayaṃ patto, na aññathāti. Etampi disvāti etampi kāraṇaṃ disvā. Naravīriyaseṭṭhāti naresu vīriyena seṭṭha uttamavīriya rājavara. Vācaṃ pamuñce kusalaṃ nātivelanti saccādipaṭisaṃyuttaṃ kusalameva paṇḍito puriso muñceyya nicchāreyya, tampi hitaṃ kālayuttaṃ, na ativelaṃ, atikkantakālaṃ apariyantavācaṃ na bhāseyya. Passasīti nanu paccakkhato passasi. Bahubhāṇenāti bahubhaṇanena. Kacchapaṃ byasanaṃ gatanti etaṃ kacchapaṃ jīvitakkhayaṃ pattanti.
ราชา ‘‘มํ สนฺธาย ภาสตี’’ติ ญตฺวา ‘‘อเมฺห สนฺธาย กเถสิ, ปณฺฑิตา’’ติ อาหฯ โพธิสโตฺต ‘‘มหาราช, ตฺวํ วา โหหิ อโญฺญ วา, โย โกจิ ปมาณาติกฺกนฺตํ ภาสโนฺต เอวรูปํ พฺยสนํ ปาปุณาตี’’ติ ปากฎํ กตฺวา กเถสิฯ ราชา ตโต ปฎฺฐาย วิรมิตฺวา มนฺทภาณี อโหสิฯ
Rājā ‘‘maṃ sandhāya bhāsatī’’ti ñatvā ‘‘amhe sandhāya kathesi, paṇḍitā’’ti āha. Bodhisatto ‘‘mahārāja, tvaṃ vā hohi añño vā, yo koci pamāṇātikkantaṃ bhāsanto evarūpaṃ byasanaṃ pāpuṇātī’’ti pākaṭaṃ katvā kathesi. Rājā tato paṭṭhāya viramitvā mandabhāṇī ahosi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กจฺฉโป โกกาลิโก อโหสิ, เทฺว หํสโปตกา เทฺว มหาเถรา, ราชา อานโนฺท, อมจฺจปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā kacchapo kokāliko ahosi, dve haṃsapotakā dve mahātherā, rājā ānando, amaccapaṇḍito pana ahameva ahosi’’nti.
กจฺฉปชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ
Kacchapajātakavaṇṇanā pañcamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๑๕. กจฺฉปชาตกํ • 215. Kacchapajātakaṃ