Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๒๗๓] ๓. กจฺฉปชาตกวณฺณนา
[273] 3. Kacchapajātakavaṇṇanā
โก นุ อุทฺธิตภโตฺตวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต โกสลราชสฺส ทฺวินฺนํ มหามตฺตานํ กลหวูปสมนํ อารพฺภ กเถสิฯ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ ทุกนิปาเต กถิตเมวฯ
Konu uddhitabhattovāti idaṃ satthā jetavane viharanto kosalarājassa dvinnaṃ mahāmattānaṃ kalahavūpasamanaṃ ārabbha kathesi. Paccuppannavatthu dukanipāte kathitameva.
อตีเต ปน พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กาสิรเฎฺฐ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา กาเม ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา หิมวนฺตปเทเส คงฺคาตีเร อสฺสมปทํ มาเปตฺวา ตตฺถ อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพเตฺตตฺวา ฌานกีฬํ กีฬโนฺต วาสํ กเปฺปสิฯ อิมสฺมิํ กิร ชาตเก โพธิสโตฺต ปรมมชฺฌโตฺต อโหสิ, อุเปกฺขาปารมิํ ปูเรสิฯ ตสฺส ปณฺณสาลทฺวาเร นิสินฺนสฺส เอโก ปคโพฺภ ทุสฺสีโล มกฺกโฎ อาคนฺตฺวา กณฺณโสเตสุ องฺคชาเตน สลากปเวสนกมฺมํ กโรติ, โพธิสโตฺต อวาเรตฺวา มชฺฌโตฺต หุตฺวา นิสีทติเยวฯ อเถกทิวสํ เอโก กจฺฉโป อุทกา อุตฺตริตฺวา คงฺคาตีเร มุขํ วิวริตฺวา อาตปํ ตปฺปโนฺต นิทฺทายติฯ ตํ ทิสฺวา โส โลลวานโร ตสฺส มุเข สลากปเวสนกมฺมํ อกาสิฯ อถสฺส กจฺฉโป ปพุชฺฌิตฺวา องฺคชาตํ สมุเคฺค ปกฺขิปโนฺต วิย ฑํสิ, พลวเวทนา อุปฺปชฺชิฯ เวทนํ อธิวาเสตุํ อสโกฺกโนฺต ‘‘โก นุ โข มํ อิมมฺหา ทุกฺขา โมเจยฺย, กสฺส สนฺติกํ คจฺฉามี’’ติ จิเนฺตตฺวา ‘‘อโญฺญ มํ อิมมฺหา ทุกฺขา โมเจตุํ สมโตฺถ นตฺถิ อญฺญตฺร ตาปเสน, ตเสฺสว สนฺติกํ มยา คนฺตุํ วฎฺฎตี’’ติ กจฺฉปํ ทฺวีหิ หเตฺถหิ อุกฺขิปิตฺวา โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ อคมาสิฯ โพธิสโตฺต เตน ทุสฺสีลมกฺกเฎน สทฺธิํ ทวํ กโรโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte pana bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kāsiraṭṭhe brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto takkasilāyaṃ sabbasippāni uggaṇhitvā kāme pahāya isipabbajjaṃ pabbajitvā himavantapadese gaṅgātīre assamapadaṃ māpetvā tattha abhiññā ca samāpattiyo ca nibbattetvā jhānakīḷaṃ kīḷanto vāsaṃ kappesi. Imasmiṃ kira jātake bodhisatto paramamajjhatto ahosi, upekkhāpāramiṃ pūresi. Tassa paṇṇasāladvāre nisinnassa eko pagabbho dussīlo makkaṭo āgantvā kaṇṇasotesu aṅgajātena salākapavesanakammaṃ karoti, bodhisatto avāretvā majjhatto hutvā nisīdatiyeva. Athekadivasaṃ eko kacchapo udakā uttaritvā gaṅgātīre mukhaṃ vivaritvā ātapaṃ tappanto niddāyati. Taṃ disvā so lolavānaro tassa mukhe salākapavesanakammaṃ akāsi. Athassa kacchapo pabujjhitvā aṅgajātaṃ samugge pakkhipanto viya ḍaṃsi, balavavedanā uppajji. Vedanaṃ adhivāsetuṃ asakkonto ‘‘ko nu kho maṃ imamhā dukkhā moceyya, kassa santikaṃ gacchāmī’’ti cintetvā ‘‘añño maṃ imamhā dukkhā mocetuṃ samattho natthi aññatra tāpasena, tasseva santikaṃ mayā gantuṃ vaṭṭatī’’ti kacchapaṃ dvīhi hatthehi ukkhipitvā bodhisattassa santikaṃ agamāsi. Bodhisatto tena dussīlamakkaṭena saddhiṃ davaṃ karonto paṭhamaṃ gāthamāha –
๖๗.
67.
‘‘โก นุ อุทฺธิตภโตฺตว, ปูรหโตฺถว พฺราหฺมโณ;
‘‘Ko nu uddhitabhattova, pūrahatthova brāhmaṇo;
กหํ นุ ภิกฺขํ อจริ, กํ สทฺธํ อุปสงฺกมี’’ติฯ
Kahaṃ nu bhikkhaṃ acari, kaṃ saddhaṃ upasaṅkamī’’ti.
ตตฺถ โก นุ อุทฺธิตภโตฺตวาติ โก นุ เอส วฑฺฒิตภโตฺต วิย, เอกํ วฑฺฒิตภตฺตํ ภตฺตปูรปาติํ หเตฺถหิ คเหตฺวา วิย โก นุ เอโส อาคจฺฉตีติ อโตฺถฯ ปูรหโตฺถว พฺราหฺมโณติ กตฺติกมาเส วาจนกํ ลภิตฺวา ปูรหโตฺถ พฺราหฺมโณ วิย จ โก นุ โข เอโสติ วานรํ สนฺธาย วทติฯ กหํ นุ ภิกฺขํ อจรีติ, โภ วานร, กสฺมิํ ปเทเส อชฺช ตฺวํ ภิกฺขํ อจริฯ กํ สทฺธํ อุปสงฺกมีติ กตรํ นาม ปุพฺพเปเต อุทฺทิสฺส กตํ สทฺธภตฺตํ, กตรํ วา สทฺธํ ปุคฺคลํ ตฺวํ อุปสงฺกมิ, กุโต เต อยํ เทยฺยธโมฺม ลโทฺธติ ทีเปติฯ
Tattha ko nu uddhitabhattovāti ko nu esa vaḍḍhitabhatto viya, ekaṃ vaḍḍhitabhattaṃ bhattapūrapātiṃ hatthehi gahetvā viya ko nu eso āgacchatīti attho. Pūrahatthova brāhmaṇoti kattikamāse vācanakaṃ labhitvā pūrahattho brāhmaṇo viya ca ko nu kho esoti vānaraṃ sandhāya vadati. Kahaṃ nu bhikkhaṃ acarīti, bho vānara, kasmiṃ padese ajja tvaṃ bhikkhaṃ acari. Kaṃ saddhaṃ upasaṅkamīti kataraṃ nāma pubbapete uddissa kataṃ saddhabhattaṃ, kataraṃ vā saddhaṃ puggalaṃ tvaṃ upasaṅkami, kuto te ayaṃ deyyadhammo laddhoti dīpeti.
ตํ สุตฺวา ทุสฺสีลวานโร ทุติยํ คาถมาห –
Taṃ sutvā dussīlavānaro dutiyaṃ gāthamāha –
๖๘.
68.
‘‘อหํ กปิสฺมิ ทุเมฺมโธ, อนามาสานิ อามสิํ;
‘‘Ahaṃ kapismi dummedho, anāmāsāni āmasiṃ;
ตฺวํ มํ โมจย ภทฺทํ เต, มุโตฺต คเจฺฉยฺย ปพฺพต’’นฺติฯ
Tvaṃ maṃ mocaya bhaddaṃ te, mutto gaccheyya pabbata’’nti.
ตตฺถ อหํ กปิสฺมิ ทุเมฺมโธติ ภทฺทํ เต อหํ อสฺมิ ทุเมฺมโธ จปลจิโตฺต มกฺกโฎฯ อนามาสานิ อามสินฺติ อนามสิตพฺพฎฺฐานานิ อามสิํฯ ตฺวํ มํ โมจย ภทฺทํ เตติ ตฺวํ ทยาลุ อนุกมฺปโก มํ อิมมฺหา ทุกฺขา โมเจหิ, ภทฺทํ เต โหตุฯ มุโตฺต คเจฺฉยฺย ปพฺพตนฺติ โสหํ ตวานุภาเวน อิมมฺหา พฺยสนา มุโตฺต ปพฺพตเมว คเจฺฉยฺยํ, น เต ปุน จกฺขุปเถ อตฺตานํ ทเสฺสยฺยนฺติฯ
Tattha ahaṃ kapismi dummedhoti bhaddaṃ te ahaṃ asmi dummedho capalacitto makkaṭo. Anāmāsāni āmasinti anāmasitabbaṭṭhānāni āmasiṃ. Tvaṃ maṃ mocaya bhaddaṃ teti tvaṃ dayālu anukampako maṃ imamhā dukkhā mocehi, bhaddaṃ te hotu. Mutto gaccheyya pabbatanti sohaṃ tavānubhāvena imamhā byasanā mutto pabbatameva gaccheyyaṃ, na te puna cakkhupathe attānaṃ dasseyyanti.
โพธิสโตฺต ตสฺมิํ การุเญฺญน กจฺฉเปน สทฺธิํ สลฺลปโนฺต ตติยํ คาถมาห –
Bodhisatto tasmiṃ kāruññena kacchapena saddhiṃ sallapanto tatiyaṃ gāthamāha –
๖๙.
69.
‘‘กจฺฉปา กสฺสปา โหนฺติ, โกณฺฑญฺญา โหนฺติ มกฺกฎา;
‘‘Kacchapā kassapā honti, koṇḍaññā honti makkaṭā;
มุญฺจ กสฺสป โกณฺฑญฺญํ, กตํ เมถุนกํ ตยา’’ติฯ
Muñca kassapa koṇḍaññaṃ, kataṃ methunakaṃ tayā’’ti.
ตสฺสโตฺถ – กจฺฉปา นาม กสฺสปโคตฺตา โหนฺติ, มกฺกฎา โกณฺฑญฺญโคตฺตา, กสฺสปโกณฺฑญฺญานญฺจ อญฺญมญฺญํ อาวาหวิวาหสมฺพโนฺธ อตฺถิฯ อทฺธา ตยิทํ โลเลน ทุสฺสีลมกฺกเฎน ตยา สทฺธิํ, ตยา จ ทุสฺสีเลน อิมินา มกฺกเฎน สทฺธิํ โคตฺตสทิสตาสงฺขาตสฺส เมถุนธมฺมสฺส อนุจฺฉวิกํ ทุสฺสีลฺยกมฺมสงฺขาตมฺปิ เมถุนกํ กตํ, ตสฺมา มุญฺจ, กสฺสป, โกณฺฑญฺญนฺติฯ
Tassattho – kacchapā nāma kassapagottā honti, makkaṭā koṇḍaññagottā, kassapakoṇḍaññānañca aññamaññaṃ āvāhavivāhasambandho atthi. Addhā tayidaṃ lolena dussīlamakkaṭena tayā saddhiṃ, tayā ca dussīlena iminā makkaṭena saddhiṃ gottasadisatāsaṅkhātassa methunadhammassa anucchavikaṃ dussīlyakammasaṅkhātampi methunakaṃ kataṃ, tasmā muñca, kassapa, koṇḍaññanti.
กจฺฉโป โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา การเณน ปสโนฺน วานรสฺส องฺคชาตํ มุญฺจิฯ มกฺกโฎ มุตฺตมโตฺตว โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา ปลาโต, ปุน ตํ ฐานํ นิวตฺติตฺวาปิ น โอโลเกสิฯ กจฺฉโปปิ โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา สกฎฺฐานเมว คโตฯ โพธิสโตฺตปิ อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิฯ
Kacchapo bodhisattassa vacanaṃ sutvā kāraṇena pasanno vānarassa aṅgajātaṃ muñci. Makkaṭo muttamattova bodhisattaṃ vanditvā palāto, puna taṃ ṭhānaṃ nivattitvāpi na olokesi. Kacchapopi bodhisattaṃ vanditvā sakaṭṭhānameva gato. Bodhisattopi aparihīnajjhāno brahmalokaparāyaṇo ahosi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กจฺฉปวานรา เทฺว มหามตฺตา อเหสุํ, ตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā kacchapavānarā dve mahāmattā ahesuṃ, tāpaso pana ahameva ahosi’’nti.
กจฺฉปชาตกวณฺณนา ตติยาฯ
Kacchapajātakavaṇṇanā tatiyā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๗๓. กจฺฉปชาตกํ • 273. Kacchapajātakaṃ