Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สุตฺตนิปาตปาฬิ • Suttanipātapāḷi

    ๑๑. กลหวิวาทสุตฺตํ

    11. Kalahavivādasuttaṃ

    ๘๖๘.

    868.

    ‘‘กุโตปหูตา กลหา วิวาทา, ปริเทวโสกา สหมจฺฉรา จ;

    ‘‘Kutopahūtā kalahā vivādā, paridevasokā sahamaccharā ca;

    มานาติมานา สหเปสุณา จ, กุโตปหูตา เต ตทิงฺฆ พฺรูหิ’’ฯ

    Mānātimānā sahapesuṇā ca, kutopahūtā te tadiṅgha brūhi’’.

    ๘๖๙.

    869.

    ‘‘ปิยปฺปหูตา กลหา วิวาทา,

    ‘‘Piyappahūtā kalahā vivādā,

    ปริเทวโสกา สหมจฺฉรา จ;

    Paridevasokā sahamaccharā ca;

    มานาติมานา สหเปสุณา จ,

    Mānātimānā sahapesuṇā ca,

    มเจฺฉรยุตฺตา กลหา วิวาทา;

    Maccherayuttā kalahā vivādā;

    วิวาทชาเตสุ จ เปสุณานิ’’ฯ

    Vivādajātesu ca pesuṇāni’’.

    ๘๗๐.

    870.

    ‘‘ปิยา สุ 1 โลกสฺมิํ กุโตนิทานา, เย จาปิ 2 โลภา วิจรนฺติ โลเก;

    ‘‘Piyā su 3 lokasmiṃ kutonidānā, ye cāpi 4 lobhā vicaranti loke;

    อาสา จ นิฎฺฐา จ กุโตนิทานา, เย สมฺปรายาย นรสฺส โหนฺติ’’ฯ

    Āsā ca niṭṭhā ca kutonidānā, ye samparāyāya narassa honti’’.

    ๘๗๑.

    871.

    ‘‘ฉนฺทานิทานานิ ปิยานิ โลเก, เย จาปิ โลภา วิจรนฺติ โลเก;

    ‘‘Chandānidānāni piyāni loke, ye cāpi lobhā vicaranti loke;

    อาสา จ นิฎฺฐา จ อิโตนิทานา, เย สมฺปรายาย นรสฺส โหนฺติ’’ฯ

    Āsā ca niṭṭhā ca itonidānā, ye samparāyāya narassa honti’’.

    ๘๗๒.

    872.

    ‘‘ฉโนฺท นุ โลกสฺมิํ กุโตนิทาโน, วินิจฺฉยา จาปิ 5 กุโตปหูตา;

    ‘‘Chando nu lokasmiṃ kutonidāno, vinicchayā cāpi 6 kutopahūtā;

    โกโธ โมสวชฺชญฺจ กถํกถา จ, เย วาปิ ธมฺมา สมเณน วุตฺตา’’ฯ

    Kodho mosavajjañca kathaṃkathā ca, ye vāpi dhammā samaṇena vuttā’’.

    ๘๗๓.

    873.

    ‘‘สาตํ อสาตนฺติ ยมาหุ โลเก, ตมูปนิสฺสาย ปโหติ ฉโนฺท;

    ‘‘Sātaṃ asātanti yamāhu loke, tamūpanissāya pahoti chando;

    รูเปสุ ทิสฺวา วิภวํ ภวญฺจ, วินิจฺฉยํ กุพฺพติ 7 ชนฺตุ โลเกฯ

    Rūpesu disvā vibhavaṃ bhavañca, vinicchayaṃ kubbati 8 jantu loke.

    ๘๗๔.

    874.

    ‘‘โกโธ โมสวชฺชญฺจ กถํกถา จ, เอเตปิ ธมฺมา ทฺวยเมว สเนฺต;

    ‘‘Kodho mosavajjañca kathaṃkathā ca, etepi dhammā dvayameva sante;

    กถํกถี ญาณปถาย สิเกฺข, ญตฺวา ปวุตฺตา สมเณน ธมฺมา’’ฯ

    Kathaṃkathī ñāṇapathāya sikkhe, ñatvā pavuttā samaṇena dhammā’’.

    ๘๗๕.

    875.

    ‘‘สาตํ อสาตญฺจ กุโตนิทานา, กิสฺมิํ อสเนฺต น ภวนฺติ เหเต;

    ‘‘Sātaṃ asātañca kutonidānā, kismiṃ asante na bhavanti hete;

    วิภวํ ภวญฺจาปิ ยเมตมตฺถํ, เอตํ เม ปพฺรูหิ ยโตนิทานํ’’ฯ

    Vibhavaṃ bhavañcāpi yametamatthaṃ, etaṃ me pabrūhi yatonidānaṃ’’.

    ๘๗๖.

    876.

    ‘‘ผสฺสนิทานํ สาตํ อสาตํ, ผเสฺส อสเนฺต น ภวนฺติ เหเต;

    ‘‘Phassanidānaṃ sātaṃ asātaṃ, phasse asante na bhavanti hete;

    วิภวํ ภวญฺจาปิ ยเมตมตฺถํ, เอตํ เต ปพฺรูมิ อิโตนิทานํ’’ฯ

    Vibhavaṃ bhavañcāpi yametamatthaṃ, etaṃ te pabrūmi itonidānaṃ’’.

    ๘๗๗.

    877.

    ‘‘ผโสฺส นุ โลกสฺมิ กุโตนิทาโน, ปริคฺคหา จาปิ กุโตปหูตา;

    ‘‘Phasso nu lokasmi kutonidāno, pariggahā cāpi kutopahūtā;

    กิสฺมิํ อสเนฺต น มมตฺตมตฺถิ, กิสฺมิํ วิภูเต น ผุสนฺติ ผสฺสา’’ฯ

    Kismiṃ asante na mamattamatthi, kismiṃ vibhūte na phusanti phassā’’.

    ๘๗๘.

    878.

    ‘‘นามญฺจ รูปญฺจ ปฎิจฺจ ผโสฺส, อิจฺฉานิทานานิ ปริคฺคหานิ;

    ‘‘Nāmañca rūpañca paṭicca phasso, icchānidānāni pariggahāni;

    อิจฺฉายสนฺตฺยา น มมตฺตมตฺถิ, รูเป วิภูเต น ผุสนฺติ ผสฺสา’’ฯ

    Icchāyasantyā na mamattamatthi, rūpe vibhūte na phusanti phassā’’.

    ๘๗๙.

    879.

    ‘‘กถํสเมตสฺส วิโภติ รูปํ, สุขํ ทุขญฺจาปิ 9 กถํ วิโภติ;

    ‘‘Kathaṃsametassa vibhoti rūpaṃ, sukhaṃ dukhañcāpi 10 kathaṃ vibhoti;

    เอตํ เม ปพฺรูหิ ยถา วิโภติ, ตํ ชานิยามาติ 11 เม มโน อหุ’’ฯ

    Etaṃ me pabrūhi yathā vibhoti, taṃ jāniyāmāti 12 me mano ahu’’.

    ๘๘๐.

    880.

    ‘‘น สญฺญสญฺญี น วิสญฺญสญฺญี, โนปิ อสญฺญี น วิภูตสญฺญี;

    ‘‘Na saññasaññī na visaññasaññī, nopi asaññī na vibhūtasaññī;

    เอวํสเมตสฺส วิโภติ รูปํ, สญฺญานิทานา หิ ปปญฺจสงฺขา’’ฯ

    Evaṃsametassa vibhoti rūpaṃ, saññānidānā hi papañcasaṅkhā’’.

    ๘๘๑.

    881.

    ‘‘ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน,

    ‘‘Yaṃ taṃ apucchimha akittayī no,

    อญฺญํ ตํ ปุจฺฉาม ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

    Aññaṃ taṃ pucchāma tadiṅgha brūhi;

    เอตฺตาวตคฺคํ นุ 13 วทนฺติ เหเก,

    Ettāvataggaṃ nu 14 vadanti heke,

    ยกฺขสฺส สุทฺธิํ อิธ ปณฺฑิตาเส;

    Yakkhassa suddhiṃ idha paṇḍitāse;

    อุทาหุ อญฺญมฺปิ วทนฺติ เอโตฺตฯ

    Udāhu aññampi vadanti etto.

    ๘๘๒.

    882.

    ‘‘เอตฺตาวตคฺคมฺปิ วทนฺติ เหเก, ยกฺขสฺส สุทฺธิํ อิธ ปณฺฑิตาเส;

    ‘‘Ettāvataggampi vadanti heke, yakkhassa suddhiṃ idha paṇḍitāse;

    เตสํ ปเนเก สมยํ วทนฺติ, อนุปาทิเสเส กุสลา วทานาฯ

    Tesaṃ paneke samayaṃ vadanti, anupādisese kusalā vadānā.

    ๘๘๓.

    883.

    ‘‘เอเต จ ญตฺวา อุปนิสฺสิตาติ, ญตฺวา มุนี นิสฺสเย โส วิมํสี;

    ‘‘Ete ca ñatvā upanissitāti, ñatvā munī nissaye so vimaṃsī;

    ญตฺวา วิมุโตฺต น วิวาทเมติ, ภวาภวาย น สเมติ ธีโร’’ติฯ

    Ñatvā vimutto na vivādameti, bhavābhavāya na sameti dhīro’’ti.

    กลหวิวาทสุตฺตํ เอกาทสมํ นิฎฺฐิตํฯ

    Kalahavivādasuttaṃ ekādasamaṃ niṭṭhitaṃ.







    Footnotes:
    1. ปิยานุ (สฺยา.), ปิยสฺสุ (ก.)
    2. เย วาปิ (สี. สฺยา. ปี.)
    3. piyānu (syā.), piyassu (ka.)
    4. ye vāpi (sī. syā. pī.)
    5. วาปิ (สี. สฺยา. ปี.)
    6. vāpi (sī. syā. pī.)
    7. กุรุเต (พหูสุ)
    8. kurute (bahūsu)
    9. ทุขํ วาปิ (สี. สฺยา.)
    10. dukhaṃ vāpi (sī. syā.)
    11. ชานิสฺสามาติ (สี. ก.)
    12. jānissāmāti (sī. ka.)
    13. โน (สี. สฺยา.)
    14. no (sī. syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / สุตฺตนิปาต-อฎฺฐกถา • Suttanipāta-aṭṭhakathā / ๑๑. กลหวิวาทสุตฺตวณฺณนา • 11. Kalahavivādasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact