Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๑๒๗] ๗. กลณฺฑุกชาตกวณฺณนา

    [127] 7. Kalaṇḍukajātakavaṇṇanā

    เต เทสา ตานิ วตฺถูนีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ วิกตฺถกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตตฺถ เทฺวปิ วตฺถูนิ กฎาหกชาตกสทิสาเนวฯ

    Tedesā tāni vatthūnīti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ vikatthakabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tattha dvepi vatthūni kaṭāhakajātakasadisāneva.

    อิธ ปเนส พาราณสิเสฎฺฐิโน ทาโส กลณฺฑุโก นาม อโหสิฯ ตสฺส ปลายิตฺวา ปจฺจนฺตวาสิเสฎฺฐิโน ธีตรํ คเหตฺวา มหเนฺตน ปริวาเรน วสนกาเล พาราณสิเสฎฺฐิ ปริเยสาเปตฺวาปิ ตสฺส คตฎฺฐานํ อชานโนฺต ‘‘คจฺฉ, กลณฺฑุกํ ปริเยสา’’ติ อตฺตนา ปุฎฺฐํ สุกโปตกํ เปเสสิฯ สุกโปตโก อิโต จิโต จ วิจรโนฺต ตํ นครํ ปาปุณิฯ ตสฺมิญฺจ กาเล กลณฺฑุโก นทีกีฬํ กีฬิตุกาโม พหุํ มาลาคนฺธวิเลปนเญฺจว ขาทนียโภชนียานิ จ คาหาเปตฺวา นทิํ คนฺตฺวา เสฎฺฐิธีตาย สทฺธิํ นาวํ อารุยฺห อุทเก กีฬติฯ ตสฺมิญฺจ ปเทเส นทีกีฬํ กีฬนฺตา อิสฺสรชาติกา ติขิณเภสชฺชปริภาวิตํ ขีรํ ปิวนฺติ, เตน เตสํ ทิวสภาคมฺปิ อุทเก กีฬนฺตานํ สีตํ น พาธติฯ อยํ ปน กลณฺฑุโก ขีรคณฺฑูสํ คเหตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ตํ ขีรํ นุฎฺฐุภติฯ นุฎฺฐุภโนฺตปิ อุทเก อนุฎฺฐุภิตฺวา เสฎฺฐิธีตาย สีเส นุฎฺฐุภติฯ สุกโปตโกปิ นทีตีรํ คนฺตฺวา เอกิสฺสา อุทุมฺพรสาขาย นิสีทิตฺวา โอโลเกตฺวา กลณฺฑุกํ สญฺชานิตฺวา เสฎฺฐิธีตาย สีเส นุฎฺฐุภนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อเร, กลณฺฑุก ทาส, อตฺตโน ชาติญฺจ วสนฎฺฐานญฺจ อนุสฺสร, ขีรคณฺฑูสํ คเหตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา ชาติสมฺปนฺนาย สุขสํวฑฺฒาย เสฎฺฐิธีตาย สีเส มา นุฎฺฐุภิ, อตฺตโน ปมาณํ น ชานาสี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –

    Idha panesa bārāṇasiseṭṭhino dāso kalaṇḍuko nāma ahosi. Tassa palāyitvā paccantavāsiseṭṭhino dhītaraṃ gahetvā mahantena parivārena vasanakāle bārāṇasiseṭṭhi pariyesāpetvāpi tassa gataṭṭhānaṃ ajānanto ‘‘gaccha, kalaṇḍukaṃ pariyesā’’ti attanā puṭṭhaṃ sukapotakaṃ pesesi. Sukapotako ito cito ca vicaranto taṃ nagaraṃ pāpuṇi. Tasmiñca kāle kalaṇḍuko nadīkīḷaṃ kīḷitukāmo bahuṃ mālāgandhavilepanañceva khādanīyabhojanīyāni ca gāhāpetvā nadiṃ gantvā seṭṭhidhītāya saddhiṃ nāvaṃ āruyha udake kīḷati. Tasmiñca padese nadīkīḷaṃ kīḷantā issarajātikā tikhiṇabhesajjaparibhāvitaṃ khīraṃ pivanti, tena tesaṃ divasabhāgampi udake kīḷantānaṃ sītaṃ na bādhati. Ayaṃ pana kalaṇḍuko khīragaṇḍūsaṃ gahetvā mukhaṃ vikkhāletvā taṃ khīraṃ nuṭṭhubhati. Nuṭṭhubhantopi udake anuṭṭhubhitvā seṭṭhidhītāya sīse nuṭṭhubhati. Sukapotakopi nadītīraṃ gantvā ekissā udumbarasākhāya nisīditvā oloketvā kalaṇḍukaṃ sañjānitvā seṭṭhidhītāya sīse nuṭṭhubhantaṃ disvā ‘‘are, kalaṇḍuka dāsa, attano jātiñca vasanaṭṭhānañca anussara, khīragaṇḍūsaṃ gahetvā mukhaṃ vikkhāletvā jātisampannāya sukhasaṃvaḍḍhāya seṭṭhidhītāya sīse mā nuṭṭhubhi, attano pamāṇaṃ na jānāsī’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –

    ๑๒๗.

    127.

    ‘‘เต เทสา ตานิ วตฺถูนิ, อหญฺจ วนโคจโร;

    ‘‘Te desā tāni vatthūni, ahañca vanagocaro;

    อนุวิจฺจ โข ตํ คเณฺหยฺยุํ, ปิว ขีรํ กลณฺฑุกา’’ติฯ

    Anuvicca kho taṃ gaṇheyyuṃ, piva khīraṃ kalaṇḍukā’’ti.

    ตตฺถ เต เทสา ตานิ วตฺถูนีติ มาตุกุจฺฉิํ สนฺธาย วทติฯ อยเมตฺถาธิปฺปาโย – ยตฺถ เต วสิตํ, น เต ขตฺติยธีตาทีนํ กุจฺฉิเทสาฯ ยตฺถ วาสิ ปติฎฺฐิโต, น ตานิ ขตฺติยธีตาทีนํ กุจฺฉิวตฺถูนิฯ อถ โข ทาสิกุจฺฉิยํ ตฺวํ วสิ เจว ปติฎฺฐิโต จาติฯ อหญฺจ วนโคจโรติ ติรจฺฉานภูโตปิ เอตมตฺถํ ชานามีติ ทีเปติฯ อนุวิจฺจ โข ตํ คเณฺหยฺยุนฺติ เอวํ อนาจารํ จรมานํ มยา คนฺตฺวา อาโรจิเต อนุวิจฺจ ชานิตฺวา ตว สามิกา ตาเฬตฺวา เจว ลกฺขณาหตญฺจ กตฺวา ตํ คเณฺหยฺยุํ, คเหตฺวา คมิสฺสนฺติ, ตสฺมา อตฺตโน ปมาณํ ญตฺวา เสฎฺฐิธีตาย สีเส อนุฎฺฐุภิตฺวา ปิว ขีรํฯ กลณฺฑุกาติ ตํ นาเมนาลปติฯ

    Tattha te desā tāni vatthūnīti mātukucchiṃ sandhāya vadati. Ayametthādhippāyo – yattha te vasitaṃ, na te khattiyadhītādīnaṃ kucchidesā. Yattha vāsi patiṭṭhito, na tāni khattiyadhītādīnaṃ kucchivatthūni. Atha kho dāsikucchiyaṃ tvaṃ vasi ceva patiṭṭhito cāti. Ahañca vanagocaroti tiracchānabhūtopi etamatthaṃ jānāmīti dīpeti. Anuvicca kho taṃ gaṇheyyunti evaṃ anācāraṃ caramānaṃ mayā gantvā ārocite anuvicca jānitvā tava sāmikā tāḷetvā ceva lakkhaṇāhatañca katvā taṃ gaṇheyyuṃ, gahetvā gamissanti, tasmā attano pamāṇaṃ ñatvā seṭṭhidhītāya sīse anuṭṭhubhitvā piva khīraṃ. Kalaṇḍukāti taṃ nāmenālapati.

    กลณฺฑุโกปิ สุวโปตกํ สญฺชานิตฺวา ‘‘มํ ปากฎํ กเรยฺยา’’ติ ภเยน ‘‘เอหิ, สามิ, กทา อาคโตสี’’ติ อาหฯ สุโก ‘‘น เอส มํ หิตกามตาย ปโกฺกสติ, คีวํ ปน เม วเฎฺฎตฺวา มาเรตุกาโม’’ติ ญตฺวาว ‘‘น เม ตยา อโตฺถ’’ติ ตโต อุปฺปติตฺวา พาราณสิํ คนฺตฺวา ยถาทิฎฺฐํ เสฎฺฐิโน วิตฺถาเรน กเถสิฯ เสฎฺฐิ ‘‘อยุตฺตํ เตน กต’’นฺติ วตฺวา คนฺตฺวา ตสฺส อาณํ กาเรตฺวา พาราณสิเมว นํ อาเนตฺวา ทาสปริโภเคน ปริภุญฺชิฯ

    Kalaṇḍukopi suvapotakaṃ sañjānitvā ‘‘maṃ pākaṭaṃ kareyyā’’ti bhayena ‘‘ehi, sāmi, kadā āgatosī’’ti āha. Suko ‘‘na esa maṃ hitakāmatāya pakkosati, gīvaṃ pana me vaṭṭetvā māretukāmo’’ti ñatvāva ‘‘na me tayā attho’’ti tato uppatitvā bārāṇasiṃ gantvā yathādiṭṭhaṃ seṭṭhino vitthārena kathesi. Seṭṭhi ‘‘ayuttaṃ tena kata’’nti vatvā gantvā tassa āṇaṃ kāretvā bārāṇasimeva naṃ ānetvā dāsaparibhogena paribhuñji.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กลณฺฑุโก อยํ ภิกฺขุ อโหสิ, พาราณสิเสฎฺฐิ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā kalaṇḍuko ayaṃ bhikkhu ahosi, bārāṇasiseṭṭhi pana ahameva ahosi’’nti.

    กลณฺฑุกชาตกวณฺณนา สตฺตมาฯ

    Kalaṇḍukajātakavaṇṇanā sattamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๒๗. กลณฺฑุกชาตกํ • 127. Kalaṇḍukajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact