Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๒. กฬารสุตฺตวณฺณนา
2. Kaḷārasuttavaṇṇanā
๓๒. ตสฺส เถรสฺส นามํ ชาติสมุทาคตํฯ นิวโตฺตติ ปุเพฺพ วฎฺฎโสตสฺส ปฎิโสตํ คนฺตุํ อารโทฺธ, ตํ อวิสหโนฺต อนุโสตเมว คจฺฉโนฺต, ตโต นิวโตฺต ปริเกฺลสวิธเม อสํสโฎฺฐ วิยุโตฺต โหติฯ เอตฺถ เจตนาติ วา อสฺสาโสฯ หีนายาวตฺตนํ นาม กาเมสุ สาเปกฺขตาย, ตตฺถ จ นิรเปกฺขตา ตติยมคฺคาธิคเมนาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตโย มเคฺค’’ติอาทิมาหฯ สาวกปารมีญาณํ เถรสฺส อรหตฺตาธิคเมน นิปฺผนฺนํ, ตสฺมา ตสฺส ตํ อุปริมโกฎิยา อสฺสาโส วุโตฺตฯ อุคฺฆาฎิตาติ วิวฎา, วูปสมิตาติ อโตฺถฯ ตตฺถาติ อรหตฺตปฺปตฺติยํฯ วิจิกิจฺฉาภาวนฺติ นิเพฺพมติกตํฯ
32.Tassa therassa nāmaṃ jātisamudāgataṃ. Nivattoti pubbe vaṭṭasotassa paṭisotaṃ gantuṃ āraddho, taṃ avisahanto anusotameva gacchanto, tato nivatto pariklesavidhame asaṃsaṭṭho viyutto hoti. Ettha cetanāti vā assāso. Hīnāyāvattanaṃ nāma kāmesu sāpekkhatāya, tattha ca nirapekkhatā tatiyamaggādhigamenāti dassento ‘‘tayo magge’’tiādimāha. Sāvakapāramīñāṇaṃ therassa arahattādhigamena nipphannaṃ, tasmā tassa taṃ uparimakoṭiyā assāso vutto. Ugghāṭitāti vivaṭā, vūpasamitāti attho. Tatthāti arahattappattiyaṃ. Vicikicchābhāvanti nibbematikataṃ.
น เอวํ พฺยากตาติ ‘‘ขีณา ชาตี’’ติอาทิกา เอวํ อุตฺตานกํ น พฺยากตา, ปริยาเยน ปน พฺยากตาฯ เกนจีติ เกนจิปิ การเณนฯ เอวํ อุตฺตานกํ พฺยากริสฺสติฯ
Naevaṃ byākatāti ‘‘khīṇā jātī’’tiādikā evaṃ uttānakaṃ na byākatā, pariyāyena pana byākatā. Kenacīti kenacipi kāraṇena. Evaṃ uttānakaṃ byākarissati.
ตสฺส ปจฺจยสฺส ขยาติ ตสฺส กมฺมภวสงฺขาตสฺส ปจฺจยสฺส อวิชฺชาย สหการิตายํ สงฺคหิตสฺส ขยา อนุปฺปาทา นิโรธาฯ ขีณสฺมินฺติ ขีเณฯ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุเทฺธ ชาติยา ยถาวุเตฺต ปจฺจเยฯ ชาติสงฺขาตํ ผลํ ขีณํ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิตนฺติฯ วิทิตํ ญาตํฯ อาชานาติ จตุสจฺจํ เหฎฺฐิมมเคฺคหิ ญาตํ อนติกฺกมิตฺวาว ปฎิวิชฺฌตีติ อญฺญา อคฺคมโคฺคฯ ตทุปจาเรน อคฺคผลํ อิธ ‘‘อญฺญา’’ นามฯ ปจฺจโยติ ภวูปปตฺติยา ปจฺจโย ปฎิจฺจสมุปฺปาโทฯ
Tassa paccayassa khayāti tassa kammabhavasaṅkhātassa paccayassa avijjāya sahakāritāyaṃ saṅgahitassa khayā anuppādā nirodhā. Khīṇasminti khīṇe. Anuppādanirodhena niruddhe jātiyā yathāvutte paccaye. Jātisaṅkhātaṃ phalaṃ khīṇaṃ anuppattidhammataṃ āpāditanti. Viditaṃ ñātaṃ. Ājānāti catusaccaṃ heṭṭhimamaggehi ñātaṃ anatikkamitvāva paṭivijjhatīti aññā aggamaggo. Tadupacārena aggaphalaṃ idha ‘‘aññā’’ nāma. Paccayoti bhavūpapattiyā paccayo paṭiccasamuppādo.
เมติ มยาฯ อญฺญาสิ อาการคฺคหเณน จิตฺตาจารํ ชานาติฯ เตนาติ ภควตาฯ พฺยากรณํ อนุโมทิตํ ปญฺหพฺยากรณสฺส วิสยกตภาวโตฯ
Meti mayā. Aññāsi ākāraggahaṇena cittācāraṃ jānāti. Tenāti bhagavatā. Byākaraṇaṃ anumoditaṃ pañhabyākaraṇassa visayakatabhāvato.
อยมสฺส วิสโยติ อยํ เวทนา อสฺส สาริปุตฺตเตฺถรสฺส สวิสโย ตตฺถ วิสยภาเวน ปวตฺตตฺตาฯ กิญฺจาปีติ กิญฺจาปิ สุขา เวทนา ฐิติสุขา ทุกฺขา เวทนา วิปริณามสุขา, อทุกฺขมสุขา เวทนา ญาณสุขาฯ วิปริณามโกฎิยาติ อนิจฺจภาเวน สพฺพาว เวทนา ทุกฺขา นาม ฯ สุขปฎิเกฺขปโตปิ หิ สุขปีติยา ผรณตาย สุขาติ ติกฺขมเตฺตน วิปริณามทุกฺขาติ วิปริณามโต อภาวาธิคเมน สุขนิโรธกฺขณมเตฺตนฯ ตถา หิ วุตฺตํ ปปญฺจสูทนิยํ ‘‘สุขาย เวทนาย อตฺถิภาโว สุข’’นฺติฯ สุขกาโม ทุกฺขํ ติติกฺขติฯ อปริญฺญาตวตฺถุกานญฺหิ สุขเวทนุปรโม ทุกฺขโต อุปฎฺฐาติ, ตสฺมายมโตฺถ วิโยเคน ทีเปตโพฺพฯ ‘‘ทุกฺขา วิปริณามสุขา’’ติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ตถาจาห ปปญฺจสูทนิยํ ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย นตฺถิภาโว สุข’’นฺติฯ ทุกฺขเวทนุปรโม หิ วุตฺตานํ สุขโต อุปฎฺฐาติ เอวาติ วทนฺติฯ ตสฺส โยคสฺส วูปสเมน ‘‘อโห สุขํ ชาต’’นฺติ มชฺฌตฺตเวทนาย ชานนภาโว ยาถาวโต อวพุชฺฌนํ สุขํฯ อทุกฺขมสุขาปิ เวทนา วิชานนฺตสฺส สุขํ โหติ ตสฺส สุขุมตาย วิเญฺญยฺยภาวโตฯ ยถา รูปารูปธมฺมานํ สลกฺขณโต สามญฺญลกฺขณโต จ สมฺมเทว อวโพโธ ปรมํ สุขํฯ เตนาห –
Ayamassa visayoti ayaṃ vedanā assa sāriputtattherassa savisayo tattha visayabhāvena pavattattā. Kiñcāpīti kiñcāpi sukhā vedanā ṭhitisukhā dukkhā vedanā vipariṇāmasukhā, adukkhamasukhā vedanā ñāṇasukhā. Vipariṇāmakoṭiyāti aniccabhāvena sabbāva vedanā dukkhā nāma. Sukhapaṭikkhepatopi hi sukhapītiyā pharaṇatāya sukhāti tikkhamattena vipariṇāmadukkhāti vipariṇāmato abhāvādhigamena sukhanirodhakkhaṇamattena. Tathā hi vuttaṃ papañcasūdaniyaṃ ‘‘sukhāya vedanāya atthibhāvo sukha’’nti. Sukhakāmo dukkhaṃ titikkhati. Apariññātavatthukānañhi sukhavedanuparamo dukkhato upaṭṭhāti, tasmāyamattho viyogena dīpetabbo. ‘‘Dukkhā vipariṇāmasukhā’’ti etthāpi eseva nayo. Tathācāha papañcasūdaniyaṃ ‘‘dukkhāya vedanāya natthibhāvo sukha’’nti. Dukkhavedanuparamo hi vuttānaṃ sukhato upaṭṭhāti evāti vadanti. Tassa yogassa vūpasamena ‘‘aho sukhaṃ jāta’’nti majjhattavedanāya jānanabhāvo yāthāvato avabujjhanaṃ sukhaṃ. Adukkhamasukhāpi vedanā vijānantassa sukhaṃ hoti tassa sukhumatāya viññeyyabhāvato. Yathā rūpārūpadhammānaṃ salakkhaṇato sāmaññalakkhaṇato ca sammadeva avabodho paramaṃ sukhaṃ. Tenāha –
‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
‘‘Yato yato sammasati, khandhānaṃ udayabbayaṃ;
ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติฯ (ธ. ป. ๓๗๔);
Labhatī pītipāmojjaṃ, amataṃ taṃ vijānata’’nti. (dha. pa. 374);
อญฺญาณทุกฺขาติ อชานนภาโว อทุกฺขมสุขาเวทนาย ทุกฺขํฯ สมฺมา วิภาคชานนสภาโว ญาณสฺส สมฺภโวฯ ญาณสมฺปยุตฺตา หิ ญาณูปนิสฺสยา อทุกฺขมสุขา เวทนา ปสตฺถาการา, ยโต สา อิฎฺฐา เจว อิฎฺฐผลา จาติฯ อชานนภาโวติ เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ ‘‘ทุกฺขนฺติ วิทิโต’’ติ ปาฬิ, อฎฺฐกถายํ ปน วิทิตนฺติ ปทุทฺธาโร กโต, ตํ อตฺถทสฺสนมตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Aññāṇadukkhāti ajānanabhāvo adukkhamasukhāvedanāya dukkhaṃ. Sammā vibhāgajānanasabhāvo ñāṇassa sambhavo. Ñāṇasampayuttā hi ñāṇūpanissayā adukkhamasukhā vedanā pasatthākārā, yato sā iṭṭhā ceva iṭṭhaphalā cāti. Ajānanabhāvoti ettha vuttavipariyāyena attho veditabbo. ‘‘Dukkhanti vidito’’ti pāḷi, aṭṭhakathāyaṃ pana viditanti paduddhāro kato, taṃ atthadassanamattanti daṭṭhabbaṃ.
เวทนาปริเจฺฉทชานเนติ ‘‘ติโสฺส อิมา เวทนา’’ติ เอวํ ปริเจฺฉทโต ชานเนฯ อญฺญาสีติ กทา อญฺญาสิ? อิมสฺมิํ เทสนากาเลติ วทนฺติ, ปฎิเวธกาเลติ ปน ยุตฺตํฯ ยถาปฎิวิทฺธา หิ เวทนา อิธ เถเรน เทสิตาติฯ อิมินา การเณนาติ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ เวทนานํ อนิจฺจตาย ทุกฺขภาวชานนสงฺขาเตน การเณนฯ ตํนิมิตฺตํ หิสฺส เวทนาสุ ตณฺหา น อุปฺปชฺชติฯ อติปฺปปโญฺจติ อติวิตฺถาโรฯ ทุกฺขสฺมิํ อโนฺตคธํ ทุกฺขปริยาปนฺนตฺตาฯ ทุกฺขนฺติ สพฺพํ เวทยิตํ ทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขภาวโตฯ ญาตมเตฺตติ ยาถาวโต อวพุชฺฌนมเตฺตฯ ตณฺหา น ติฎฺฐตีติ น สนฺติฎฺฐติ นปฺปวตฺตติฯ
Vedanāparicchedajānaneti ‘‘tisso imā vedanā’’ti evaṃ paricchedato jānane. Aññāsīti kadā aññāsi? Imasmiṃ desanākāleti vadanti, paṭivedhakāleti pana yuttaṃ. Yathāpaṭividdhā hi vedanā idha therena desitāti. Iminā kāraṇenāti ‘‘yadaniccaṃ taṃ dukkha’’nti vedanānaṃ aniccatāya dukkhabhāvajānanasaṅkhātena kāraṇena. Taṃnimittaṃ hissa vedanāsu taṇhā na uppajjati. Atippapañcoti ativitthāro. Dukkhasmiṃ antogadhaṃ dukkhapariyāpannattā. Dukkhanti sabbaṃ vedayitaṃ dukkhaṃ saṅkhāradukkhabhāvato. Ñātamatteti yāthāvato avabujjhanamatte. Taṇhā na tiṭṭhatīti na santiṭṭhati nappavattati.
กถํ วิโมกฺขาติ อชฺฌตฺตพหิทฺธาเภเทสุ วิมุตฺตาฯ เหตุมฺหิ เจตํ นิสฺสกฺกวจนนฺติ เหตุอเตฺถน กรณวจเนน อตฺถมาห ‘‘กตเรน วิโมเกฺขนา’’ติฯ กรณเตฺถปิ วา เอตํ นิสฺสกฺกวจนนฺติ ตถา วุตฺตํฯ อภินิเวโสติ วิปสฺสนารโมฺภฯ พหิทฺธาธมฺมาปิ ทฎฺฐพฺพาเยว สพฺพสฺสปิ ปริเญฺญยฺยสฺส ปริชานิตพฺพโตฯ ญาณํ ปวเตฺตตฺวาฯ เตติ อชฺฌตฺตสงฺขาเรฯ ววตฺถเปตฺวาติ สลกฺขณโต ปริจฺฉินฺทิตฺวาฯ พหิทฺธา โอตาเรตีติ พหิทฺธาสงฺขาเรสุ ญาณํ โอตาเรติฯ อชฺฌตฺตํ โอตาเรตีติ อชฺฌตฺตสงฺขาเร สมฺมสติฯ ตตฺร ตสฺมิํ จตุเกฺกฯ เตสํ ววตฺถานกาเลติ เตสํ อชฺฌตฺตสงฺขารานํ วิปสฺสนากาเลฯ
Kathaṃ vimokkhāti ajjhattabahiddhābhedesu vimuttā. Hetumhi cetaṃ nissakkavacananti hetuatthena karaṇavacanena atthamāha ‘‘katarena vimokkhenā’’ti. Karaṇatthepi vā etaṃ nissakkavacananti tathā vuttaṃ. Abhinivesoti vipassanārambho. Bahiddhādhammāpi daṭṭhabbāyeva sabbassapi pariññeyyassa parijānitabbato. Ñāṇaṃ pavattetvā. Teti ajjhattasaṅkhāre. Vavatthapetvāti salakkhaṇato paricchinditvā. Bahiddhā otāretīti bahiddhāsaṅkhāresu ñāṇaṃ otāreti. Ajjhattaṃ otāretīti ajjhattasaṅkhāre sammasati. Tatra tasmiṃ catukke. Tesaṃ vavatthānakāleti tesaṃ ajjhattasaṅkhārānaṃ vipassanākāle.
สพฺพุปาทานกฺขยาติ สพฺพโส อุปาทานานํ ขยาฯ กามํ ทิฎฺฐิสีลพฺพตอตฺตวาทุปาทานานิ ปฐมมเคฺคเนว ขียนฺติ, กามุปาทานํ ปน อคฺคมเคฺคนาติ ตสฺส วเสน ‘‘สพฺพุปาทานกฺขยา’’ติ วทโนฺต เถโร อตฺตโน อรหตฺตปตฺติํ พฺยากโรติฯ เตนาห ‘‘อาสวา นานุสฺสวนฺตี’’ติฯ สโตติ อิมินา สติเวปุลฺลปฺปตฺติํ ทเสฺสติฯ จกฺขุโต รูเป สวนฺตีติ จกฺขุวิญฺญาณวีถิยํ ตทนุคตมโนวิญฺญาณวีถิยญฺจ รูปารมฺมณา อาสวา ปวตฺตนฺตีติฯ กิญฺจาปิ ตตฺถ กุสลาทีนมฺปิ ปวตฺติ อตฺถิ, กามาสวาทโย เอว วณโต ยูสํ วิย ปคฺฆรณกอสุจิภาเวน สนฺทนฺติ, ตถา เสสวาเรสุฯ เตนาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ, ตสฺมา เต เอว ‘‘อาสวา’’ติ วุจฺจนฺติฯ ตตฺถ หิ ปคฺฆรณกอสุจิมฺหิ นิรุโฬฺห อาสวสโทฺทฯ ‘‘อตฺตานํ นาวชานามี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘โอมานปหานํ กถิต’’นฺติ อาหฯ เตน อาสเวสุ สมุทายุปลกฺขณํ กถิตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ น หิ เสยฺยมานาทิปฺปหาเนน วินา หีนมานํเยว ปชหติฯ ปชานนาติ ‘‘นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ วุตฺตปชานนสมฺปโนฺน โหตีติฯ
Sabbupādānakkhayāti sabbaso upādānānaṃ khayā. Kāmaṃ diṭṭhisīlabbataattavādupādānāni paṭhamamaggeneva khīyanti, kāmupādānaṃ pana aggamaggenāti tassa vasena ‘‘sabbupādānakkhayā’’ti vadanto thero attano arahattapattiṃ byākaroti. Tenāha ‘‘āsavā nānussavantī’’ti. Satoti iminā sativepullappattiṃ dasseti. Cakkhuto rūpe savantīti cakkhuviññāṇavīthiyaṃ tadanugatamanoviññāṇavīthiyañca rūpārammaṇā āsavā pavattantīti. Kiñcāpi tattha kusalādīnampi pavatti atthi, kāmāsavādayo eva vaṇato yūsaṃ viya paggharaṇakaasucibhāvena sandanti, tathā sesavāresu. Tenāha ‘‘eva’’ntiādi, tasmā te eva ‘‘āsavā’’ti vuccanti. Tattha hi paggharaṇakaasucimhi niruḷho āsavasaddo. ‘‘Attānaṃ nāvajānāmī’’ti vuttattā ‘‘omānapahānaṃ kathita’’nti āha. Tena āsavesu samudāyupalakkhaṇaṃ kathitanti daṭṭhabbaṃ. Na hi seyyamānādippahānena vinā hīnamānaṃyeva pajahati. Pajānanāti ‘‘nāparaṃ itthattāyā’’ti vuttapajānanasampanno hotīti.
สรูปเภทโตปีติ ‘‘จตฺตาโร’’ติ เอวํ ปริมาณปริเจฺฉทโตปิฯ อิทํ ภควา ทเสฺสโนฺต อาหาติ สมฺพโนฺธฯ อิทนฺติ จ ‘‘อยมฺปิ โข’’ติอาทิวจนํ สนฺธายาหฯ
Sarūpabhedatopīti ‘‘cattāro’’ti evaṃ parimāṇaparicchedatopi. Idaṃ bhagavā dassento āhāti sambandho. Idanti ca ‘‘ayampi kho’’tiādivacanaṃ sandhāyāha.
อสมฺภินฺนาย เอวาติ ยถานิสินฺนาย เอว, อวุฎฺฐิตาย เอวาติ อโตฺถฯ ปุคฺคลโถมนตฺถนฺติ เทสนากุสลานํ อานนฺทเตฺถราทีนํ ปุคฺคลานํ ปสํสนตฺถํ อุกฺกํสนตฺถํฯ ธมฺมโถมนตฺถนฺติ ปฎิปตฺติธมฺมสฺส ปสํสนตฺถํฯ เตปีติ อานนฺทเตฺถราทโย ภิกฺขูปิฯ ธมฺมปฎิคฺคาหกา ภิกฺขูฯ อเตฺถติ สีลาทิอเตฺถฯ ธเมฺมติ ปาฬิธเมฺมฯ
Asambhinnāya evāti yathānisinnāya eva, avuṭṭhitāya evāti attho. Puggalathomanatthanti desanākusalānaṃ ānandattherādīnaṃ puggalānaṃ pasaṃsanatthaṃ ukkaṃsanatthaṃ. Dhammathomanatthanti paṭipattidhammassa pasaṃsanatthaṃ. Tepīti ānandattherādayo bhikkhūpi. Dhammapaṭiggāhakā bhikkhū. Attheti sīlādiatthe. Dhammeti pāḷidhamme.
อสฺสาติ ภควโตฯ อานุภาวํ กริสฺสติ ‘‘ทิวสเญฺจปิ ภควา’’ติอาทินาฯ นนฺติ สาริปุตฺตเตฺถรํฯ อหมฺปิ ตเถว โถเมสฺสามิ ‘‘สา หิ ภิกฺขู’’ติอาทินาฯ เอวํ จิเนฺตสีติ เอวํ วกฺขมาเนน ธมฺมทายาทเทสนาย จินฺติตากาเรน จิเนฺตสิฯ เตนาห ‘‘ยถา’’ติอาทิฯ เอกชฺฌาสยายาติ สมานาธิปฺปายายฯ มติยาติ ปญฺญายฯ อยํ เทสนา อคฺคาติ ภควา ธมฺมเสนาปติํ คุณโต เอวํ ปคฺคณฺหาตีติ กตฺวา วุตฺตํฯ
Assāti bhagavato. Ānubhāvaṃ karissati ‘‘divasañcepi bhagavā’’tiādinā. Nanti sāriputtattheraṃ. Ahampi tatheva thomessāmi ‘‘sā hi bhikkhū’’tiādinā. Evaṃ cintesīti evaṃ vakkhamānena dhammadāyādadesanāya cintitākārena cintesi. Tenāha ‘‘yathā’’tiādi. Ekajjhāsayāyāti samānādhippāyāya. Matiyāti paññāya. Ayaṃ desanā aggāti bhagavā dhammasenāpatiṃ guṇato evaṃ paggaṇhātīti katvā vuttaṃ.
ปกาเสตฺวาติ คุณโต ปากฎํ ปญฺญาตํ กตฺวา สพฺพสาวเกหิ เสฎฺฐภาเว ฐเปตุกาโมฯ จิตฺตคติยา จิตฺตวเสน กายสฺส ปริณามเนน ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ กายสมานคติกตฺตาธิฎฺฐาเนนฯ กถํ ปน กาโย ทนฺธปฺปวตฺติโก ลหุปริวเตฺตน จิเตฺตน สมานคติโก โหตีติ? น สพฺพถา สมานคติโกฯ ยเถว หิ กายวเสน จิตฺตวิปริณามเน จิตฺตํ สพฺพถา กาเยน สมานคติกํ โหติฯ น หิ ตทา จิตฺตํ สภาวสิเทฺธน อตฺตโน ขเณน อวตฺติตฺวา ทนฺธวุตฺติกสฺส รูปธมฺมสฺส ขเณน วตฺติตุํ สโกฺกติ, ‘‘อิทํ จิตฺตํ อยํ กาโย วิย โหตู’’ติ ปนาธิฎฺฐาเนน ทนฺธคติกสฺส กายสฺส อนุวตฺตนโต ยาว อิจฺฉิตฎฺฐานปฺปตฺติ โหติ, ตาว กายคติอนุโลเมเนว หุตฺวา สนฺตานวเสน ปวตฺตมานํ จิตฺตํ กายคติยา ปริณามิตํ นาม โหติ, เอวํ ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย โหตู’’ติ อธิฎฺฐาเนน ปเคว สุขลหุสญฺญาย สมฺปาทิตตฺตา อภาวิติทฺธิปาทานํ วิย ทนฺธํ อวตฺติตฺวา ยถา ลหุกติปยจิตฺตวาเรเหว อิจฺฉิตฎฺฐานปฺปติ โหติ, เอวํ ปวตฺตรูปตา วิญฺญายตีติฯ
Pakāsetvāti guṇato pākaṭaṃ paññātaṃ katvā sabbasāvakehi seṭṭhabhāve ṭhapetukāmo. Cittagatiyā cittavasena kāyassa pariṇāmanena ‘‘ayaṃ kāyo idaṃ cittaṃ viya hotū’’ti kāyasamānagatikattādhiṭṭhānena. Kathaṃ pana kāyo dandhappavattiko lahuparivattena cittena samānagatiko hotīti? Na sabbathā samānagatiko. Yatheva hi kāyavasena cittavipariṇāmane cittaṃ sabbathā kāyena samānagatikaṃ hoti. Na hi tadā cittaṃ sabhāvasiddhena attano khaṇena avattitvā dandhavuttikassa rūpadhammassa khaṇena vattituṃ sakkoti, ‘‘idaṃ cittaṃ ayaṃ kāyo viya hotū’’ti panādhiṭṭhānena dandhagatikassa kāyassa anuvattanato yāva icchitaṭṭhānappatti hoti, tāva kāyagatianulomeneva hutvā santānavasena pavattamānaṃ cittaṃ kāyagatiyā pariṇāmitaṃ nāma hoti, evaṃ ‘‘ayaṃ kāyo idaṃ cittaṃ viya hotū’’ti adhiṭṭhānena pageva sukhalahusaññāya sampāditattā abhāvitiddhipādānaṃ viya dandhaṃ avattitvā yathā lahukatipayacittavāreheva icchitaṭṭhānappati hoti, evaṃ pavattarūpatā viññāyatīti.
อธิปฺปายานุรูปเมว ตสฺส ภควโต โถมนาย กตตฺตาฯ อิทํ นาม อตฺถชาตํ ภควา ปุจฺฉิสฺสตีติ ปุเพฺพ มยา อวิทิตํ อปสฺสํฯ อาสยชานนตฺถนฺติ ‘‘เอวํ พฺยากโรเนฺตน สตฺถุ อชฺฌาสโย คหิโต โหตี’’ติ เอวํ สตฺถุ อชฺฌาสยชานนตฺถํฯ ทุติยํ ปญฺหํ ปุจฺฉโนฺต ภควา ปฐมํ ปญฺหํ อนุโมทิ ทุติยํ ปญฺหํ ปุจฺฉเนฺตเนว ปฐมปญฺหวิสฺสชฺชนสฺส สมฺปฎิจฺฉิตภาวโตฯ
Adhippāyānurūpameva tassa bhagavato thomanāya katattā. Idaṃ nāma atthajātaṃ bhagavā pucchissatīti pubbe mayā aviditaṃ apassaṃ. Āsayajānanatthanti ‘‘evaṃ byākarontena satthu ajjhāsayo gahito hotī’’ti evaṃ satthu ajjhāsayajānanatthaṃ. Dutiyaṃ pañhaṃ pucchanto bhagavā paṭhamaṃ pañhaṃ anumodi dutiyaṃ pañhaṃ pucchanteneva paṭhamapañhavissajjanassa sampaṭicchitabhāvato.
เอตํ อโหสีติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิฯ อสฺสาติ กฬารขตฺติยสฺส ภิกฺขุโนฯ ธเมฺม ทหตีติ ธมฺมธาตุ, สาวกปารมีญาณํ, สาวกวิสเย ธเมฺม ทหติ ยาถาวโต อชิเต กตฺวา ฐเปตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘ธมฺมธาตู’’ติอาทิฯ สพฺพญฺญุตญฺญาณคติกเมว วิสเยฯ โคจรธเมฺมติ โคจรภูเต เญยฺยธเมฺมฯ
Etaṃ ahosīti etaṃ parivitakkanaṃ ahosi. Assāti kaḷārakhattiyassa bhikkhuno. Dhamme dahatīti dhammadhātu, sāvakapāramīñāṇaṃ, sāvakavisaye dhamme dahati yāthāvato ajite katvā ṭhapetīti attho. Tenāha ‘‘dhammadhātū’’tiādi. Sabbaññutaññāṇagatikameva visaye. Gocaradhammeti gocarabhūte ñeyyadhamme.
กฬารสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kaḷārasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. กฬารสุตฺตํ • 2. Kaḷārasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. กฬารสุตฺตวณฺณนา • 2. Kaḷārasuttavaṇṇanā