Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๗. กาฬิโคธาปุตฺตภทฺทิยเตฺถรคาถาวณฺณนา

    7. Kāḷigodhāputtabhaddiyattheragāthāvaṇṇanā

    ยาตํ เม หตฺถิคีวายาติอาทิกา อายสฺมโต ภทฺทิยเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล มหาโภคกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ สตฺถุ สนฺติเก ธมฺมํ สุณโนฺต สตฺถารา เอกํ ภิกฺขุํ อุจฺจากุลิกานํ อคฺคฎฺฐาเน ฐปิยมานํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ ฐานนฺตรํ ปเตฺถตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ปณิธานํ อกาสิฯ สตฺถาปิสฺส อนนฺตราเยน สมิชฺฌนภาวํ ทิสฺวา พฺยากาสิฯ โสปิ ตํ พฺยากรณํ สุตฺวา อุจฺจากุลิกสํวตฺตนิกํ กมฺมํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมสฺสวนสฺส การาปนํ, ธมฺมมณฺฑเป อาสนทานํ, พีชนีทานํ, ธมฺมกถิกานํ ปูชาสกฺการกรณํ, อุโปสถาคาเร ปฎิสฺสยทานนฺติ เอวมาทิํ ยาวชีวํ พหุปุญฺญํ กตฺวา ตโต จุโต เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต กสฺสปสฺส ภควโต อปรภาเค อมฺหากํ ภควโต อุปฺปตฺติยา ปุเรตรํ พาราณสิยํ กุฎุมฺพิยฆเร นิพฺพโตฺต สมฺพหุเล ปเจฺจกพุเทฺธ ปิณฺฑาย จริตฺวา เอกสฺมิํเยว ฐาเน สมาคนฺตฺวา ภตฺตวิสฺสคฺคํ กโรเนฺต ทิสฺวา ตตฺถ ปาสาณผลกานิ อตฺถริตฺวา ปาโททกาทิํ อุปฎฺฐเปโนฺต ยาวชีวํ อุปฎฺฐหิฯ

    Yātaṃme hatthigīvāyātiādikā āyasmato bhaddiyattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro padumuttarassa bhagavato kāle mahābhogakule nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ satthu santike dhammaṃ suṇanto satthārā ekaṃ bhikkhuṃ uccākulikānaṃ aggaṭṭhāne ṭhapiyamānaṃ disvā sayampi taṃ ṭhānantaraṃ patthetvā sattāhaṃ buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa mahādānaṃ datvā paṇidhānaṃ akāsi. Satthāpissa anantarāyena samijjhanabhāvaṃ disvā byākāsi. Sopi taṃ byākaraṇaṃ sutvā uccākulikasaṃvattanikaṃ kammaṃ pucchitvā dhammassavanassa kārāpanaṃ, dhammamaṇḍape āsanadānaṃ, bījanīdānaṃ, dhammakathikānaṃ pūjāsakkārakaraṇaṃ, uposathāgāre paṭissayadānanti evamādiṃ yāvajīvaṃ bahupuññaṃ katvā tato cuto devamanussesu saṃsaranto kassapassa bhagavato aparabhāge amhākaṃ bhagavato uppattiyā puretaraṃ bārāṇasiyaṃ kuṭumbiyaghare nibbatto sambahule paccekabuddhe piṇḍāya caritvā ekasmiṃyeva ṭhāne samāgantvā bhattavissaggaṃ karonte disvā tattha pāsāṇaphalakāni attharitvā pādodakādiṃ upaṭṭhapento yāvajīvaṃ upaṭṭhahi.

    โส เอกํ พุทฺธนฺตรํ เทวมนุเสฺสสุ สํสริตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท กปิลวตฺถุนคเร สากิยราชกุเล นิพฺพตฺติ, ภทฺทิโยติสฺส นามํ อโหสิฯ โส วยปฺปโตฺต อนุรุทฺธาทีหิ ปญฺจหิ ขตฺติเยหิ สทฺธิํ สตฺถริ อนุปิยมฺพวเน วิหรเนฺต สตฺถุ สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ ตํ สตฺถา อปรภาเค เชตวเน อริยคณมเชฺฌ นิสิโนฺน อุจฺจากุลิกานํ ภิกฺขูนํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปสิฯ โส ผลสุเขน นิพฺพานสุเขน จ วีตินาเมโนฺต อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิฯ ตํ สุตฺวา ภิกฺขู สตฺถุ อาโรเจสุํ – ‘‘อายสฺมา ภทฺทิโย กาฬิโคธาย ปุโตฺต อภิกฺขณํ ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทติ, อนภิรโต มเญฺญ พฺรหฺมจริยํ จรตี’’ติฯ สตฺถา ตํ ปโกฺกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภทฺทิย, อภิกฺขณํ ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติ วทสี’’ติ ปุจฺฉิฯ โส ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ ปฎิชานิตฺวา ‘‘ปุเพฺพ เม, ภเนฺต, รชฺชํ กาเรนฺตสฺส สุสํวิหิตารโกฺข อโหสิํ, ตถาปิ ภีโต อุพฺพิโคฺค อุสฺสงฺกิโต วิหาสิํฯ อิทานิ ปน ปพฺพชิโต อภีโต อนุพฺพิโคฺค อนุสฺสงฺกิโต วิหรามี’’ติ วตฺวา –

    So ekaṃ buddhantaraṃ devamanussesu saṃsaritvā imasmiṃ buddhuppāde kapilavatthunagare sākiyarājakule nibbatti, bhaddiyotissa nāmaṃ ahosi. So vayappatto anuruddhādīhi pañcahi khattiyehi saddhiṃ satthari anupiyambavane viharante satthu santike pabbajitvā arahattaṃ pāpuṇi. Taṃ satthā aparabhāge jetavane ariyagaṇamajjhe nisinno uccākulikānaṃ bhikkhūnaṃ aggaṭṭhāne ṭhapesi. So phalasukhena nibbānasukhena ca vītināmento araññagatopi rukkhamūlagatopi suññāgāragatopi ‘‘aho sukhaṃ, aho sukha’’nti abhikkhaṇaṃ udānaṃ udānesi. Taṃ sutvā bhikkhū satthu ārocesuṃ – ‘‘āyasmā bhaddiyo kāḷigodhāya putto abhikkhaṇaṃ ‘aho sukhaṃ, aho sukha’nti vadati, anabhirato maññe brahmacariyaṃ caratī’’ti. Satthā taṃ pakkosāpetvā ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, bhaddiya, abhikkhaṇaṃ ‘aho sukhaṃ, aho sukha’nti vadasī’’ti pucchi. So ‘‘saccaṃ bhagavā’’ti paṭijānitvā ‘‘pubbe me, bhante, rajjaṃ kārentassa susaṃvihitārakkho ahosiṃ, tathāpi bhīto ubbiggo ussaṅkito vihāsiṃ. Idāni pana pabbajito abhīto anubbiggo anussaṅkito viharāmī’’ti vatvā –

    ๘๔๒.

    842.

    ‘‘ยาตํ เม หตฺถิคีวาย, สุขุมา วตฺถา ปธาริตา;

    ‘‘Yātaṃ me hatthigīvāya, sukhumā vatthā padhāritā;

    สาลีนํ โอทโน ภุโตฺต, สุจิมํสูปเสจโนฯ

    Sālīnaṃ odano bhutto, sucimaṃsūpasecano.

    ๘๔๓.

    843.

    ‘‘โสชฺช ภโทฺท สาตติโก, อุญฺฉาปตฺตาคเต รโต;

    ‘‘Sojja bhaddo sātatiko, uñchāpattāgate rato;

    ฌายติ อนุปาทาโน, ปุโตฺต โคธาย ภทฺทิโยฯ

    Jhāyati anupādāno, putto godhāya bhaddiyo.

    ๘๔๔.

    844.

    ‘‘ปํสุกูลี สาตติโก, อุญฺฉาปตฺตาคเต รโต;

    ‘‘Paṃsukūlī sātatiko, uñchāpattāgate rato;

    ฌายติ อนุปาทาโน, ปุโตฺต โคธาย ภทฺทิโยฯ

    Jhāyati anupādāno, putto godhāya bhaddiyo.

    ๘๔๕.

    845.

    ‘‘ปิณฺฑปาตี สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Piṇḍapātī sātatiko…pe….

    ๘๔๖.

    846.

    ‘‘เตจีวรี สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Tecīvarī sātatiko…pe….

    ๘๔๗.

    847.

    ‘‘สปทานจารี สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Sapadānacārī sātatiko…pe….

    ๘๔๘.

    848.

    ‘‘เอกาสนี สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Ekāsanī sātatiko…pe….

    ๘๔๙.

    849.

    ‘‘ปตฺตปิณฺฑี สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Pattapiṇḍī sātatiko…pe….

    ๘๕๐.

    850.

    ‘‘ขลุปจฺฉาภตฺตี สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Khalupacchābhattī sātatiko…pe….

    ๘๕๑.

    851.

    ‘‘อารญฺญิโก สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Āraññiko sātatiko…pe….

    ๘๕๒.

    852.

    ‘‘รุกฺขมูลิโก สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Rukkhamūliko sātatiko…pe….

    ๘๕๓.

    853.

    ‘‘อโพฺภกาสี สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Abbhokāsī sātatiko…pe….

    ๘๕๔.

    854.

    ‘‘โสสานิโก สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Sosāniko sātatiko…pe….

    ๘๕๕.

    855.

    ‘‘ยถาสนฺถติโก สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Yathāsanthatiko sātatiko…pe….

    ๘๕๖.

    856.

    ‘‘เนสชฺชิโก สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Nesajjiko sātatiko…pe….

    ๘๕๗.

    857.

    ‘‘อปฺปิโจฺฉ สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Appiccho sātatiko…pe….

    ๘๕๘.

    858.

    ‘‘สนฺตุโฎฺฐ สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Santuṭṭho sātatiko…pe….

    ๘๕๙.

    859.

    ‘‘ปวิวิโตฺต สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Pavivitto sātatiko…pe….

    ๘๖๐.

    860.

    ‘‘อสํสโฎฺฐ สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Asaṃsaṭṭho sātatiko…pe….

    ๘๖๑.

    861.

    ‘‘อารทฺธวีริโย สาตติโก…เป.…ฯ

    ‘‘Āraddhavīriyo sātatiko…pe….

    ๘๖๒.

    862.

    ‘‘หิตฺวา สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;

    ‘‘Hitvā satapalaṃ kaṃsaṃ, sovaṇṇaṃ satarājikaṃ;

    อคฺคหิํ มตฺติกาปตฺตํ, อิทํ ทุติยาภิเสจนํฯ

    Aggahiṃ mattikāpattaṃ, idaṃ dutiyābhisecanaṃ.

    ๘๖๓.

    863.

    ‘‘อุเจฺจ มณฺฑลิปากาเร, ทฬฺหมฎฺฎาลโกฎฺฐเก;

    ‘‘Ucce maṇḍalipākāre, daḷhamaṭṭālakoṭṭhake;

    รกฺขิโต ขคฺคหเตฺถหิ, อุตฺตมํ วิหริํ ปุเรฯ

    Rakkhito khaggahatthehi, uttamaṃ vihariṃ pure.

    ๘๖๔.

    864.

    ‘‘โสชฺช ภโทฺท อนุตฺราสี, ปหีนภยเภรโว;

    ‘‘Sojja bhaddo anutrāsī, pahīnabhayabheravo;

    ฌายติ วนโมคยฺห, ปุโตฺต โคธาย ภทฺทิโยฯ

    Jhāyati vanamogayha, putto godhāya bhaddiyo.

    ๘๖๕.

    865.

    ‘‘สีลกฺขเนฺธ ปติฎฺฐาย, สติํ ปญฺญญฺจ ภาวยํ;

    ‘‘Sīlakkhandhe patiṭṭhāya, satiṃ paññañca bhāvayaṃ;

    ปาปุณิํ อนุปุเพฺพน, สพฺพสํโยชนกฺขย’’นฺติฯ –

    Pāpuṇiṃ anupubbena, sabbasaṃyojanakkhaya’’nti. –

    อิมาหิ คาถาหิ สตฺถุ ปุรโต สีหนาทํ นทิฯ

    Imāhi gāthāhi satthu purato sīhanādaṃ nadi.

    ตตฺถ ยาตํ เม หตฺถิคีวายาติ, ภเนฺต, ปุเพฺพ มยา คจฺฉเนฺตนาปิ หตฺถิคีวาย หตฺถิกฺขเนฺธ นิสีทิตฺวา ยาตํ จริตํฯ วตฺถานิ ปริหรเนฺตนาปิ สุขุมา สุขสมฺผสฺสา กาสิกวตฺถวิเสสา ธาริตาฯ โอทนํ ภุญฺชเนฺตนาปิ ติวสฺสิกานํ ปุราณคนฺธสาลีนํ โอทโน ติตฺติรกปิญฺชราทินา สุจินา มํเสน อุปสิตฺตตาย สุจิมํสูปเสจโน ภุโตฺต, ตถาปิ ตํ สุขํ น มยฺหํ จิตฺตปริโตสกรํ อโหสิ, ยถา เอตรหิ วิเวกสุขนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โสชฺช ภโทฺท’’ติอาทิฯ เอตฺถ จ หตฺถิคฺคหเณเนว อสฺสรถยานานิ, วตฺถคฺคหเณน สพฺพราชาลงฺการา, โอทนคฺคหเณน สพฺพโภชนวิกติ คหิตาติ เวทิตพฺพํฯ โสชฺชาติ โส อชฺช เอตรหิ ปพฺพชฺชายํ ฐิโตฯ ภโทฺทติ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตตฺตา ภโทฺทฯ สาตติโกติ สมณธเมฺม ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหาเร สาตจฺจยุโตฺตฯ อุญฺฉาปตฺตาคเต รโตติ อุญฺฉาจริยาย ปเตฺต อาคเต ปตฺตปริยาปเนฺน อภิรโต, เตเนว สนฺตุโฎฺฐติ อธิปฺปาโยฯ ฌายตีติ ผลสมาปตฺติฌาเนน ฌายติฯ ปุโตฺต โคธายาติ กาฬิโคธาย นาม ขตฺติยาย ปุโตฺตฯ ภทฺทิโยติ เอวํนาโม อตฺตานเมว เถโร อญฺญํ วิย กตฺวา วทติฯ

    Tattha yātaṃ me hatthigīvāyāti, bhante, pubbe mayā gacchantenāpi hatthigīvāya hatthikkhandhe nisīditvā yātaṃ caritaṃ. Vatthāni pariharantenāpi sukhumā sukhasamphassā kāsikavatthavisesā dhāritā. Odanaṃ bhuñjantenāpi tivassikānaṃ purāṇagandhasālīnaṃ odano tittirakapiñjarādinā sucinā maṃsena upasittatāya sucimaṃsūpasecano bhutto, tathāpi taṃ sukhaṃ na mayhaṃ cittaparitosakaraṃ ahosi, yathā etarahi vivekasukhanti dassento āha ‘‘sojja bhaddo’’tiādi. Ettha ca hatthiggahaṇeneva assarathayānāni, vatthaggahaṇena sabbarājālaṅkārā, odanaggahaṇena sabbabhojanavikati gahitāti veditabbaṃ. Sojjāti so ajja etarahi pabbajjāyaṃ ṭhito. Bhaddoti sīlādiguṇehi samannāgatattā bhaddo. Sātatikoti samaṇadhamme diṭṭhadhammasukhavihāre sātaccayutto. Uñchāpattāgate ratoti uñchācariyāya patte āgate pattapariyāpanne abhirato, teneva santuṭṭhoti adhippāyo. Jhāyatīti phalasamāpattijhānena jhāyati. Putto godhāyāti kāḷigodhāya nāma khattiyāya putto. Bhaddiyoti evaṃnāmo attānameva thero aññaṃ viya katvā vadati.

    คหปติจีวรํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ปํสุกูลิกงฺคสมาทาเนน ปํสุกูลิโกฯ สงฺฆภตฺตํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ปิณฺฑปาติกงฺคสมาทาเนน ปิณฺฑปาติโกฯ อติเรกจีวรํ ปฎิกฺขิปิตฺวา เตจีวริกงฺคสมาทาเนน เตจีวริโกฯ โลลุปฺปจารํ ปฎิกฺขิปิตฺวา สปทานจาริกงฺคสมาทาเนน สปทานจารีฯ นานาสนโภชนํ ปฎิกฺขิปิตฺวา เอกาสนิกงฺคสมาทาเนน เอกาสนิโกฯ ทุติยกภาชนํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ปตฺตปิณฺฑิกงฺคสมาทาเนน ปตฺตปิณฺฑิโกฯ อติริตฺตโภชนํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคสมาทาเนน ขลุปจฺฉาภตฺติโกฯ คามนฺตเสนาสนํ ปฎิกฺขิปิตฺวา อารญฺญิกงฺคสมาทาเนน อารญฺญิโกฯ ฉนฺนวาสํ ปฎิกฺขิปิตฺวา รุกฺขมูลิกงฺคสมาทาเนน รุกฺขมูลิโกฯ ฉนฺนรุกฺขมูลานิ ปฎิกฺขิปิตฺวา อโพฺภกาสิกงฺคสมาทาเนน อโพฺภกาสิโกฯ นสุสานํ ปฎิกฺขิปิตฺวา โสสานิกงฺคสมาทาเนน โสสานิโกฯ เสนาสนโลลุปฺปํ ปฎิกฺขิปิตฺวา ยถาสนฺถติกงฺคสมาทาเนน ยถาสนฺถติโกฯ สยนํ ปฎิกฺขิปิตฺวา เนสชฺชิกงฺคสมาทาเนน เนสชฺชิโก ฯ อยเมตฺถ สเงฺขโปฯ วิตฺถารโต ปน ธุตงฺคกถา วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒ อาทโย) วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพาฯ

    Gahapaticīvaraṃ paṭikkhipitvā paṃsukūlikaṅgasamādānena paṃsukūliko. Saṅghabhattaṃ paṭikkhipitvā piṇḍapātikaṅgasamādānena piṇḍapātiko. Atirekacīvaraṃ paṭikkhipitvā tecīvarikaṅgasamādānena tecīvariko. Loluppacāraṃ paṭikkhipitvā sapadānacārikaṅgasamādānena sapadānacārī. Nānāsanabhojanaṃ paṭikkhipitvā ekāsanikaṅgasamādānena ekāsaniko. Dutiyakabhājanaṃ paṭikkhipitvā pattapiṇḍikaṅgasamādānena pattapiṇḍiko. Atirittabhojanaṃ paṭikkhipitvā khalupacchābhattikaṅgasamādānena khalupacchābhattiko. Gāmantasenāsanaṃ paṭikkhipitvā āraññikaṅgasamādānena āraññiko. Channavāsaṃ paṭikkhipitvā rukkhamūlikaṅgasamādānena rukkhamūliko. Channarukkhamūlāni paṭikkhipitvā abbhokāsikaṅgasamādānena abbhokāsiko. Nasusānaṃ paṭikkhipitvā sosānikaṅgasamādānena sosāniko. Senāsanaloluppaṃ paṭikkhipitvā yathāsanthatikaṅgasamādānena yathāsanthatiko. Sayanaṃ paṭikkhipitvā nesajjikaṅgasamādānena nesajjiko. Ayamettha saṅkhepo. Vitthārato pana dhutaṅgakathā visuddhimagge (visuddhi. 1.22 ādayo) vuttanayeneva gahetabbā.

    อุเจฺจติ อุจฺจาทิฎฺฐาเน, อุปริปาสาทตาย วา อุเจฺจฯ มณฺฑลิปากาเรติ มณฺฑลากาเรน ปาการปริกฺขิเตฺตฯ ทฬฺหมฎฺฎาลโกฎฺฐเกติ ถิเรหิ อฎฺฎาเลหิ ทฺวารโกฎฺฐเกหิ จ สมนฺนาคเต, นคเรติ อโตฺถฯ

    Ucceti uccādiṭṭhāne, uparipāsādatāya vā ucce. Maṇḍalipākāreti maṇḍalākārena pākāraparikkhitte. Daḷhamaṭṭālakoṭṭhaketi thirehi aṭṭālehi dvārakoṭṭhakehi ca samannāgate, nagareti attho.

    สติํ ปญฺญญฺจาติ เอตฺถ สติสีเสน สมาธิํ วทติฯ ผลสมาปตฺตินิโรธสมาปตฺติโย สนฺธาย ‘‘สติํ ปญฺญญฺจ ภาวย’’นฺติ วุโตฺตฯ เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวฯ

    Satiṃ paññañcāti ettha satisīsena samādhiṃ vadati. Phalasamāpattinirodhasamāpattiyo sandhāya ‘‘satiṃ paññañca bhāvaya’’nti vutto. Sesaṃ tattha tattha vuttanayattā uttānameva.

    เอวํ เถโร สตฺถุ สมฺมุขา สีหนาทํ นทิฯ ตํ สุตฺวา ภิกฺขู อภิปฺปสนฺนา อเหสุํฯ

    Evaṃ thero satthu sammukhā sīhanādaṃ nadi. Taṃ sutvā bhikkhū abhippasannā ahesuṃ.

    กาฬิโคธาปุตฺตภทฺทิยเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Kāḷigodhāputtabhaddiyattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๗. กาฬิโคธาปุตฺตภทฺทิยเตฺถรคาถา • 7. Kāḷigodhāputtabhaddiyattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact