Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๘. กลฺยาณมิตฺตสุตฺตวณฺณนา
8. Kalyāṇamittasuttavaṇṇanā
๑๒๙. สีลาทิคุณสมนฺนาคโต กลฺยาโณ ภทฺทโก มิโตฺต เอตสฺสาติ กลฺยาณมิโตฺต, ตสฺส ธโมฺม กลฺยาณมิตฺตเสฺสว สฺวาขาโต นาม โหติ สุตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจสฺส สาธนโตฯ เตนาห ‘‘อตฺถํ ปูเรตี’’ติฯ อิตรสฺสาติ ปาปมิตฺตสฺสฯ เตนาติ อตฺถปูรเณนฯ เอตนฺติ ‘‘โส จ โข กลฺยาณมิตฺตสฺสา’’ติ เอตํ วจนํฯ เทสนาธโมฺมติ ปริยตฺติธโมฺมฯ โส หิ กลฺยาณมิตฺตโต ปจฺจกฺขโต ลทฺธโพฺพ, อิตเร ตทุปนิสฺสยา ปจฺจตฺตปุริสกาเรหิ, เตน ลทฺธโพฺพ กลฺยาณมิโตฺตติ เอวมโตฺถ คเหตโพฺพฯ สาวกโพธิสตฺตวเสน เหสา เทสนา อาคตาฯ น หิ เสสโพธิสตฺตานํ ปโรปเทเสน ปโยชนํ อตฺถิฯ
129. Sīlādiguṇasamannāgato kalyāṇo bhaddako mitto etassāti kalyāṇamitto, tassa dhammo kalyāṇamittasseva svākhāto nāma hoti sutvā kattabbakiccassa sādhanato. Tenāha ‘‘atthaṃ pūretī’’ti. Itarassāti pāpamittassa. Tenāti atthapūraṇena. Etanti ‘‘so ca kho kalyāṇamittassā’’ti etaṃ vacanaṃ. Desanādhammoti pariyattidhammo. So hi kalyāṇamittato paccakkhato laddhabbo, itare tadupanissayā paccattapurisakārehi, tena laddhabbo kalyāṇamittoti evamattho gahetabbo. Sāvakabodhisattavasena hesā desanā āgatā. Na hi sesabodhisattānaṃ paropadesena payojanaṃ atthi.
อุปฑฺฒํ กลฺยาณมิตฺตโตติ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตสฺส อุปฑฺฒคุโณ กลฺยาณมิตฺตโต ลทฺธโพฺพฯ อุปฑฺฒํ ปจฺจตฺตปุริสการโตติ อิตรํ อุปฑฺฒํ ญาณํ ปฎิปชฺชนฺตสฺส อตฺตโน ปุริสการโตฯ โลเกปิ ปากโฎยมโตฺถ ‘‘อาจริยโต อุปฑฺฒํ, ปจฺจตฺตปุริสการโต อุปฑฺฒํ ลทฺธพฺพา เตวิชฺชตา’’ติ, ตสฺมา เถโร ตถา จิเนฺตสิฯ นิปฺปเทสนฺติ อนวเสสโตฯ ตโตติ กลฺยาณมิตฺตโตฯ อุปฑฺฒํ อาคจฺฉตีติ อุปฑฺฒคุโณ ปฎิปชฺชนฺตํ อุปคจฺฉติฯ พหูหิ ปุริเสหิฯ วินิโพฺภโค วิเวจนํ นตฺถิ เอกชฺฌํ อตฺถสฺส วิเวเจตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตาฯ เอสาติ ปรโตโฆสปจฺจตฺตปุริสการโต จ สิชฺฌมาโน อโตฺถฯ เอตฺตกนฺติ เอตฺตโก ภาโคฯ ยทิ น สกฺกา ลทฺธุํ, อถ กสฺมา อุปฑฺฒนฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กลฺยาณมิตฺตตายา’’ติอาทิฯ สมฺมาทิฎฺฐิอาทีสุ น สกฺกา ลทฺธุํฯ อสกฺกุเณเยฺย สกลมฺปิ น สมฺภวติ ปรโตโฆสมเตฺตน เตสํ อสิชฺฌนโต, ปธานเหตุภาวทีปนตฺถํ ปน ‘‘สกลเมวา’’ติ วุตฺตํฯ ปุพฺพภาคปฎิลาภงฺคนฺติ ปุพฺพภาเค ปฎิลทฺธพฺพการณํ กลฺยาณมิตฺตสฺส อุปเทเสน วินา เตน อุตฺตริ วิเสสโต อลทฺธพฺพโตฯ อตฺถโตติ ปรมตฺถโตฯ ‘‘กลฺยาณมิตฺตํ…เป.… จตฺตาโร ขนฺธา’’ติ วตฺวา สุตฺวาติ อโตฺถฯ เต ปน สีลาทโย สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนาติ อาห ‘‘สงฺขารกฺขโนฺธติปิ วทนฺติเยวา’’ติฯ
Upaḍḍhaṃ kalyāṇamittatoti brahmacariyaṃ carantassa upaḍḍhaguṇo kalyāṇamittato laddhabbo. Upaḍḍhaṃ paccattapurisakāratoti itaraṃ upaḍḍhaṃ ñāṇaṃ paṭipajjantassa attano purisakārato. Lokepi pākaṭoyamattho ‘‘ācariyato upaḍḍhaṃ, paccattapurisakārato upaḍḍhaṃ laddhabbā tevijjatā’’ti, tasmā thero tathā cintesi. Nippadesanti anavasesato. Tatoti kalyāṇamittato. Upaḍḍhaṃ āgacchatīti upaḍḍhaguṇo paṭipajjantaṃ upagacchati. Bahūhi purisehi. Vinibbhogo vivecanaṃ natthi ekajjhaṃ atthassa vivecetuṃ asakkuṇeyyattā. Esāti paratoghosapaccattapurisakārato ca sijjhamāno attho. Ettakanti ettako bhāgo. Yadi na sakkā laddhuṃ, atha kasmā upaḍḍhanti vuttanti āha ‘‘kalyāṇamittatāyā’’tiādi. Sammādiṭṭhiādīsu na sakkā laddhuṃ. Asakkuṇeyye sakalampi na sambhavati paratoghosamattena tesaṃ asijjhanato, padhānahetubhāvadīpanatthaṃ pana ‘‘sakalamevā’’ti vuttaṃ. Pubbabhāgapaṭilābhaṅganti pubbabhāge paṭiladdhabbakāraṇaṃ kalyāṇamittassa upadesena vinā tena uttari visesato aladdhabbato. Atthatoti paramatthato. ‘‘Kalyāṇamittaṃ…pe… cattāro khandhā’’ti vatvā sutvāti attho. Te pana sīlādayo saṅkhārakkhandhapariyāpannāti āha ‘‘saṅkhārakkhandhotipi vadantiyevā’’ti.
มาเหวนฺติ มา อห เอวนฺติ เฉโท, อหาติ นิปาตมตฺตํ, มาติ ปฎิเสเธ นิปาโตฯ เตนาห ‘‘มา เอวํ อภณี’’ติฯ ‘‘มาเหวํ อานนฺทา’’ติ วทโต ภควโต อิมสฺมิํ ฐาเน ตาทิสสฺส นาม เต, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตคุเณ เสวโต วตฺตุํ ยุตฺตํ อยาถาวโตติ ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส ยถาภูตคุณกิตฺตนมุเขน ปฎิเกฺขโป ยุโตฺตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘พหุสฺสุโต’’ติอาทิมาหฯ อิทนฺติ อิทํ วจนํ ภควา อาหาติ สมฺพโนฺธฯ สกลเมว หีติ เอตฺถ หิ-สโทฺท เหตุอโตฺถฯ เตน ‘‘มาเหว’’นฺติ ตสฺส ปฎิเกฺขปสฺส การณํ โชติตํ, น สรูปโต วุตฺตํฯ ‘‘กลฺยาณมิตฺตเสฺสต’’นฺติอาทินา ปน ตํ สรูปโต ทสฺสิตนฺติ อาห ‘‘อิทานิ…เป.… อาทิมาหา’’ติฯ ปาฎิกงฺขิตพฺพนฺติ อิจฺฉนเฎฺฐน ปาฎิกงฺขิตพฺพํ, น ปฎิกงฺขานิมิเตฺตนาติ อาห ‘‘อวสฺสํภาวีติ อโตฺถ’’ติฯ
Māhevanti mā aha evanti chedo, ahāti nipātamattaṃ, māti paṭisedhe nipāto. Tenāha ‘‘mā evaṃ abhaṇī’’ti. ‘‘Māhevaṃ ānandā’’ti vadato bhagavato imasmiṃ ṭhāne tādisassa nāma te, ānanda, kalyāṇamittaguṇe sevato vattuṃ yuttaṃ ayāthāvatoti dhammabhaṇḍāgārikassa yathābhūtaguṇakittanamukhena paṭikkhepo yuttoti dassento ‘‘bahussuto’’tiādimāha. Idanti idaṃ vacanaṃ bhagavā āhāti sambandho. Sakalameva hīti ettha hi-saddo hetuattho. Tena ‘‘māheva’’nti tassa paṭikkhepassa kāraṇaṃ jotitaṃ, na sarūpato vuttaṃ. ‘‘Kalyāṇamittasseta’’ntiādinā pana taṃ sarūpato dassitanti āha ‘‘idāni…pe… ādimāhā’’ti. Pāṭikaṅkhitabbanti icchanaṭṭhena pāṭikaṅkhitabbaṃ, na paṭikaṅkhānimittenāti āha ‘‘avassaṃbhāvīti attho’’ti.
อิธาติ อโนฺตคธาวธารณปทํ, อิเธวาติ อโตฺถฯ อิมสฺมิํเยว หิ สาสเน อริยมคฺคภาวนา, น อญฺญตฺถฯ อาทิปทานํเยวาติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ วาเกฺย อาทิโต เอว วุตฺตสมฺมาทิฎฺฐิอาทิปทานํเยวฯ สมฺมาทสฺสนลกฺขณาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริญฺญาภิสมยาทิวเสน สมฺมเทว ทสฺสนสภาวาฯ สมฺมาอภิโรปนลกฺขโณติ นิพฺพานสงฺขาเต อารมฺมเณ สมฺปยุตฺตธเมฺม สมฺมเทว อาโรปนสภาโวฯ สมฺมาปริคฺคหณลกฺขณาติ มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ ปฎิปกฺขภาวโต ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจา สินิทฺธภาเวน สมฺปยุตฺตธเมฺม สมฺมาวาจาปจฺจยํ สุภาสิตโสตารญฺจ ปุคฺคลํ ปริคฺคณฺหาตีติ สมฺมาปริคฺคหณลกฺขณาฯ ยถา กายิกกิริยา กิญฺจิ กตฺตพฺพํ สมุฎฺฐาเปติ, สยญฺจ สมุฎฺฐหนํ ฆฎนํ โหติ, ตถา สมฺมากมฺมนฺต สงฺขาตา วิรติปีติ สมุฎฺฐาปนลกฺขณา ทฎฺฐพฺพา, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา อุกฺขิปนํ สมุฎฺฐาปนํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิยฯ ชีวมานสฺส สตฺตสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา, ชีวิตปฺปวตฺติยา อาชีวเสฺสว วา สุทฺธิ โวทานํฯ ยถา อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ วชฺชานํ ธเมฺมน ปหานานุปฺปาทอตฺถลาภาทิปริวุฑฺฒิ โหติ, เอวํ สมฺปยุตฺตานํ ปคฺคหณสภาโวติ สมฺมาปคฺคหลกฺขโณ สมฺมาวายาโมฯ กายเวทนาจิตฺตธเมฺมสุ สุภสุขนิจฺจอตฺตคาหานญฺจ วิธมนวเสน สมฺมาปติฎฺฐานสภาวาติ สมฺมาอุปฎฺฐานลกฺขณา สมฺมาสติฯ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สมฺมา สมาทหนํ เอกคฺคตากรณํ สภาโว เอตสฺสาติ สมฺมาสมาธานลกฺขโณ สมฺมาสมาธิฯ ตีณิ กิจฺจานิ โหนฺติ ปฎิปกฺขธเมฺมสุ , อารมฺมณธเมฺมสุ, สมฺปยุตฺตธเมฺมสุ จ เอกสฺมิํเยว ขเณ ปวตฺติวิเสสภูตานิฯ อิทานิ ตานิ สรูปโต ทเสฺสตุํ ‘‘เสยฺยถิท’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ สทฺธินฺติ อิมินา ‘‘อเญฺญหี’’ติ วุตฺตกิเลสา มิจฺฉาทิฎฺฐิยา สห เอกฎฺฐา วา อเนกฎฺฐา วาติ ทเสฺสติฯ ปชหติ ปหาย นํ ปฎิวิชฺฌติฯ นิโรธนฺติ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรติ สจฺฉิกิริยาปฎิเวเธน ปฎิวิชฺฌติฯ
Idhāti antogadhāvadhāraṇapadaṃ, idhevāti attho. Imasmiṃyeva hi sāsane ariyamaggabhāvanā, na aññattha. Ādipadānaṃyevāti tasmiṃ tasmiṃ vākye ādito eva vuttasammādiṭṭhiādipadānaṃyeva. Sammādassanalakkhaṇāti catunnaṃ ariyasaccānaṃ pariññābhisamayādivasena sammadeva dassanasabhāvā. Sammāabhiropanalakkhaṇoti nibbānasaṅkhāte ārammaṇe sampayuttadhamme sammadeva āropanasabhāvo. Sammāpariggahaṇalakkhaṇāti musāvādādīnaṃ visaṃvādanādikiccatāya lūkhānaṃ apariggāhakānaṃ paṭipakkhabhāvato pariggāhakasabhāvā sammāvācā siniddhabhāvena sampayuttadhamme sammāvācāpaccayaṃ subhāsitasotārañca puggalaṃ pariggaṇhātīti sammāpariggahaṇalakkhaṇā. Yathā kāyikakiriyā kiñci kattabbaṃ samuṭṭhāpeti, sayañca samuṭṭhahanaṃ ghaṭanaṃ hoti, tathā sammākammanta saṅkhātā viratipīti samuṭṭhāpanalakkhaṇā daṭṭhabbā, sampayuttadhammānaṃ vā ukkhipanaṃ samuṭṭhāpanaṃ kāyikakiriyāya bhārukkhipanaṃ viya. Jīvamānassa sattassa, sampayuttadhammānaṃ vā, jīvitappavattiyā ājīvasseva vā suddhi vodānaṃ. Yathā uppannuppannānaṃ vajjānaṃ dhammena pahānānuppādaatthalābhādiparivuḍḍhi hoti, evaṃ sampayuttānaṃ paggahaṇasabhāvoti sammāpaggahalakkhaṇo sammāvāyāmo. Kāyavedanācittadhammesu subhasukhaniccaattagāhānañca vidhamanavasena sammāpatiṭṭhānasabhāvāti sammāupaṭṭhānalakkhaṇā sammāsati. Sampayuttadhammānaṃ sammā samādahanaṃ ekaggatākaraṇaṃ sabhāvo etassāti sammāsamādhānalakkhaṇo sammāsamādhi. Tīṇi kiccāni honti paṭipakkhadhammesu , ārammaṇadhammesu, sampayuttadhammesu ca ekasmiṃyeva khaṇe pavattivisesabhūtāni. Idāni tāni sarūpato dassetuṃ ‘‘seyyathida’’ntiādi vuttaṃ. Saddhinti iminā ‘‘aññehī’’ti vuttakilesā micchādiṭṭhiyā saha ekaṭṭhā vā anekaṭṭhā vāti dasseti. Pajahati pahāya naṃ paṭivijjhati. Nirodhanti nibbānaṃ ārammaṇaṃ karoti sacchikiriyāpaṭivedhena paṭivijjhati.
น เกวลํ มคฺคธมฺมา วุตฺตนเยเนว, อถ โข อปเรนปิ นเยน เวทิตพฺพาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาหฯ นานาขณา ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโตฯ นานารมฺมณา อนิจฺจานุปสฺสนาทิภาวโตฯ เอกกฺขณา สกิเทว อุปฺปชฺชนโตฯ เอการมฺมณา นิพฺพานวิสยตฺตาฯ จตฺตาริ นามานิ ลภติ ปริญฺญาภิสมยาทิวเสน ปวตฺติยาฯ ตีณิ นามานิ ลภติ กามสงฺกปฺปาทีนํ ปหานวเสน ปวตฺติยาฯ ปฎิปกฺขปหานวเสน หิสฺส นามตฺตยลาโภฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ วิรติโยปิ โหนฺติ เจตนาโยปิ ปุพฺพภาเคปิ วิกฺขมฺภนวเสน ปวตฺตนโตฯ มคฺคกฺขเณ ปน วิรติโยว ปฎิปกฺขสมุจฺฉินฺทนสฺส มคฺคกิจฺจตฺตาฯ น หิ เจตนา มคฺคสภาวาฯ สมฺมปฺปธานสติปฎฺฐานวเสนาติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานจตุพฺพิธสติปฎฺฐานวเสน จตฺตาริ นามานิ ลภติ อนุปฺปนฺนากุสลานุปฺปาทนาทีนํ กุสลานญฺจ วฑฺฒนโตฯ ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปีติ ยถา ปุพฺพภาเค ปฐมชฺฌานาทิวเสน นานาฯ เอวํ มคฺคกฺขเณปิฯ น หิ เอโกปิ จ มคฺคสมาธิ ปฐมชฺฌานสมาธิอาทินามานิ ลภติ สมฺมาทิฎฺฐิอาทีนํ วิย กิจฺจวเสน เภทาภาวโตฯ เตนาห ‘‘มคฺคกฺขเณปิ สมฺมาสมาธิเยวา’’ติฯ
Na kevalaṃ maggadhammā vuttanayeneva, atha kho aparenapi nayena veditabbāti dassento ‘‘apicā’’tiādimāha. Nānākhaṇā punappunaṃ uppajjanato. Nānārammaṇā aniccānupassanādibhāvato. Ekakkhaṇā sakideva uppajjanato. Ekārammaṇā nibbānavisayattā. Cattāri nāmāni labhati pariññābhisamayādivasena pavattiyā. Tīṇi nāmāni labhati kāmasaṅkappādīnaṃ pahānavasena pavattiyā. Paṭipakkhapahānavasena hissa nāmattayalābho. Esa nayo sesesupi. Viratiyopi honti cetanāyopi pubbabhāgepi vikkhambhanavasena pavattanato. Maggakkhaṇe pana viratiyova paṭipakkhasamucchindanassa maggakiccattā. Na hi cetanā maggasabhāvā. Sammappadhānasatipaṭṭhānavasenāti catubbidhasammappadhānacatubbidhasatipaṭṭhānavasena cattāri nāmāni labhati anuppannākusalānuppādanādīnaṃ kusalānañca vaḍḍhanato. Pubbabhāgepi maggakkhaṇepīti yathā pubbabhāge paṭhamajjhānādivasena nānā. Evaṃ maggakkhaṇepi. Na hi ekopi ca maggasamādhi paṭhamajjhānasamādhiādināmāni labhati sammādiṭṭhiādīnaṃ viya kiccavasena bhedābhāvato. Tenāha ‘‘maggakkhaṇepi sammāsamādhiyevā’’ti.
ญตฺวา ญาตพฺพาติ สมฺพโนฺธฯ วุทฺธิ นาม เวปุลฺลํ ภิโยฺยภาโว ปุนปฺปุนํ อุปฺปาโท เอวาติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ชเนตี’’ติฯ อภินิพฺพเตฺตตีติ อภิวฑฺฒํ ปาเปโนฺต นิพฺพเตฺตติฯ วิวิตฺตตาติ วิวิตฺตภาโวฯ โส หิ วิเวจนียโต วิวิจฺจติ, ยํ วิวิจฺจิตฺวา ฐิตํ, ตทุภยมฺปิ อิธ วิวิตฺตภาวสามเญฺญน ‘‘วิวิตฺตตา’’ติ วุตฺตํฯ เตสุ ปุริโม วิเวจนียโต วิวิจฺจมานตาย วิวิจฺจนกิริยาย สมงฺคี ธมฺมสมูโห ตาย เอว วิวิจฺจนกิริยาย วเสน วิเวโกติ คหิโตฯ อิตโร สพฺพโส ตโต วิวิตฺตสภาวตายฯ ตตฺถ ยสฺมิํ ธมฺมปุเญฺช สมฺมาทิฎฺฐิ ปวตฺตติ, ตํ ยถาวุตฺตาย วิวิจฺจมานตาย วิเวกสงฺขาตํ นิสฺสาเยว ปวตฺตติ, อิตรํ ปน ตํนินฺนตาตํอารมฺมณตาหีติ วุตฺตํ ‘‘วิเวกํ นิสฺสิตํ, วิเวเก วา นิสฺสิต’’นฺติฯ
Ñatvā ñātabbāti sambandho. Vuddhi nāma vepullaṃ bhiyyobhāvo punappunaṃ uppādo evāti āha ‘‘punappunaṃ janetī’’ti. Abhinibbattetīti abhivaḍḍhaṃ pāpento nibbatteti. Vivittatāti vivittabhāvo. So hi vivecanīyato viviccati, yaṃ viviccitvā ṭhitaṃ, tadubhayampi idha vivittabhāvasāmaññena ‘‘vivittatā’’ti vuttaṃ. Tesu purimo vivecanīyato viviccamānatāya viviccanakiriyāya samaṅgī dhammasamūho tāya eva viviccanakiriyāya vasena vivekoti gahito. Itaro sabbaso tato vivittasabhāvatāya. Tattha yasmiṃ dhammapuñje sammādiṭṭhi pavattati, taṃ yathāvuttāya viviccamānatāya vivekasaṅkhātaṃ nissāyeva pavattati, itaraṃ pana taṃninnatātaṃārammaṇatāhīti vuttaṃ ‘‘vivekaṃ nissitaṃ, viveke vā nissita’’nti.
ยถา วา วิเวกวเสน ปวตฺตํ ฌานํ ‘‘วิเวกช’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ วิเวกวเสน ปวตฺตา สมฺมาทิฎฺฐิ ‘‘วิเวกนิสฺสิตา’’ติ ทฎฺฐพฺพาฯ นิสฺสโย จ วิปสฺสนามคฺคานํ วเสน มคฺคผลานํ เวทิตโพฺพฯ อสติปิ ตาสํ ปุพฺพาปรภาเว ‘‘ปฎิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ เอตฺถ ปจฺจยานํ สมุปฺปาทนํ วิย อภินฺนธมฺมาธารา นิสฺสยภาวนา สมฺภวนฺติฯ ตสฺส ตทงฺค-สมุเจฺฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตํ วตฺวา ปฎิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตาย อวจนํ อริยมคฺคภาวนาย วุจฺจมานตฺตาฯ ภาวิตมคฺคสฺส หิ เย สจฺฉิกาตพฺพา ธมฺมาฯ เตสํ กิจฺจํ ปฎิปฺปสฺสทฺธิวิเวโกฯ อชฺฌาสยโตติ ‘‘นิพฺพานํ สจฺฉิกริสฺสามี’’ติ มหนฺตอชฺฌาสยโตฯ ยทิปิ หิ วิปสฺสนากฺขเณ สงฺขารารมฺมณํ จิตฺตํ, สงฺขาเรสุ ปน อาทีนวํ สุฎฺฐุ, ทิสฺวา ตปฺปฎิปเกฺข นิพฺพาเน นินฺนตาย อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิโต โหติ, อุณฺหาภิภูตสฺส ปุคฺคลสฺส สีตนินฺนจิตฺตตา วิยฯ เกจิ ปน ‘‘ยถา สภาวโต, ยถา อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตา, เอวํ ปฎิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตตาปิ สิยา’’ติ วทนฺติฯ ยทเคฺคน หิ นิพฺพานนินฺนตา สิยา, ตทเคฺคน ผลนินฺนตาปิ สิยา ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’’นฺติ อชฺฌาสยสมฺปตฺติยา ภาวโตฯ ยสฺมา ปหานวินโย วิย ราคนิโรโธปิ อิธาธิเปฺปตวิเวเกน อตฺถโต นิพฺพิสิโฎฺฐ, ตสฺมา วุตฺตํ เอส นโย วิราคนิสฺสิตาทีสูติฯ เตนาห ‘‘วิเวกตฺถา เอว หิ วิราคาทโย’’ติฯ
Yathā vā vivekavasena pavattaṃ jhānaṃ ‘‘vivekaja’’nti vuttaṃ, evaṃ vivekavasena pavattā sammādiṭṭhi ‘‘vivekanissitā’’ti daṭṭhabbā. Nissayo ca vipassanāmaggānaṃ vasena maggaphalānaṃ veditabbo. Asatipi tāsaṃ pubbāparabhāve ‘‘paṭiccasamuppādo’’ti ettha paccayānaṃ samuppādanaṃ viya abhinnadhammādhārā nissayabhāvanā sambhavanti. Tassa tadaṅga-samucchedanissaraṇavivekanissitataṃ vatvā paṭippassaddhivivekanissitatāya avacanaṃ ariyamaggabhāvanāya vuccamānattā. Bhāvitamaggassa hi ye sacchikātabbā dhammā. Tesaṃ kiccaṃ paṭippassaddhiviveko. Ajjhāsayatoti ‘‘nibbānaṃ sacchikarissāmī’’ti mahantaajjhāsayato. Yadipi hi vipassanākkhaṇe saṅkhārārammaṇaṃ cittaṃ, saṅkhāresu pana ādīnavaṃ suṭṭhu, disvā tappaṭipakkhe nibbāne ninnatāya ajjhāsayato nissaraṇavivekanissito hoti, uṇhābhibhūtassa puggalassa sītaninnacittatā viya. Keci pana ‘‘yathā sabhāvato, yathā ajjhāsayato nissaraṇavivekanissitatā, evaṃ paṭippassaddhivivekanissitatāpi siyā’’ti vadanti. Yadaggena hi nibbānaninnatā siyā, tadaggena phalaninnatāpi siyā ‘‘kudāssu nāmāhaṃ tadāyatanaṃ upasampajja vihareyya’’nti ajjhāsayasampattiyā bhāvato. Yasmā pahānavinayo viya rāganirodhopi idhādhippetavivekena atthato nibbisiṭṭho, tasmā vuttaṃ esa nayo virāganissitādīsūti. Tenāha ‘‘vivekatthā eva hi virāgādayo’’ti.
โวสฺสคฺคสโทฺท ปริจฺจาคโตฺถ ปกฺขนฺทนโตฺถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตาฯ โวสฺสชฺชนญฺหิ ปหานํ, วิสฺสฎฺฐภาเวน นิราสงฺกปวตฺติ จ, ตสฺมา วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสน, มคฺคกฺขเณ สมุเจฺฉทวเสน ปฎิปกฺขสฺส ปหานํ โวสฺสโคฺค, ตถา วิปสฺสนากฺขเณ ตํนินฺนภาเวน, มคฺคกฺขเณ อารมฺมณกรเณน วิสฺสฎฺฐสภาวตา โวสฺสโคฺคติ เวทิตพฺพํฯ เตเนวาห ‘‘ตตฺถ ปริจฺจาคโวสฺสโคฺค’’ติอาทิฯ อยํ สมฺมาทิฎฺฐีติ อยํ มิสฺสกวเสน วุตฺตา สมฺมาทิฎฺฐิฯ ยถาวุเตฺตน ปกาเรนาติ ตทงฺคปฺปหานสมุเจฺฉทปฺปหานปกาเรน ตํนินฺนตทารมฺมณกรณปฺปกาเรน จฯ
Vossaggasaddo pariccāgattho pakkhandanattho cāti vossaggassa duvidhatā vuttā. Vossajjanañhi pahānaṃ, vissaṭṭhabhāvena nirāsaṅkapavatti ca, tasmā vipassanākkhaṇe tadaṅgavasena, maggakkhaṇe samucchedavasena paṭipakkhassa pahānaṃ vossaggo, tathā vipassanākkhaṇe taṃninnabhāvena, maggakkhaṇe ārammaṇakaraṇena vissaṭṭhasabhāvatā vossaggoti veditabbaṃ. Tenevāha ‘‘tattha pariccāgavossaggo’’tiādi. Ayaṃ sammādiṭṭhīti ayaṃ missakavasena vuttā sammādiṭṭhi. Yathāvuttena pakārenāti tadaṅgappahānasamucchedappahānapakārena taṃninnatadārammaṇakaraṇappakārena ca.
ปุเพฺพ โวสฺสคฺควจนเสฺสว อตฺถสฺส วุตฺตตฺตา อาห ‘‘สกเลน วจเนนา’’ติฯ ปริณมนฺตํ วิปสฺสนากฺขเณ, ปริณตํ มคฺคกฺขเณฯ ปริณาโม นาม อิธ ปริปาโกติ อาห ‘‘ปริปจฺจนฺตํ ปริปกฺกญฺจา’’ติฯ ปริปาโก จ อาเสวนลาเภน ลทฺธสามตฺถิยสฺส กิเลเส ปริจฺจชิตุํ นิพฺพานํ ปกฺขนฺทิตุํ ติกฺขวิสทภาโวฯ เตนาห ‘‘อย’’นฺติอาทิฯ เอส นโยติ ยฺวายํ นโย ‘‘วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทินา สมฺมาทิฎฺฐิยํ วุโตฺต, เสเสสุ สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุปิ เอเสว นโย, เอวํ ตตฺถ เนตพฺพนฺติ อโตฺถฯ ปฎิจฺจาติ นิสฺสายฯ ชาติสภาวาติ ชายนสภาวาฯ สกโลติ อนวเสโส, สโพฺพติ อโตฺถฯ น โกจิ มโคฺค สาวเสโส หุตฺวา สมฺภวติฯ เหฎฺฐิเม มเคฺค อุปฺปเนฺน อุปริโม อุปฺปโนฺน เอว นาม อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโตฯ ววสฺสคฺคเตฺถติ วจสายเตฺถฯ วณฺณยนฺตีติ คุณวณฺณนวเสน วิตฺถาเรนฺติฯ
Pubbe vossaggavacanasseva atthassa vuttattā āha ‘‘sakalena vacanenā’’ti. Pariṇamantaṃ vipassanākkhaṇe, pariṇataṃ maggakkhaṇe. Pariṇāmo nāma idha paripākoti āha ‘‘paripaccantaṃ paripakkañcā’’ti. Paripāko ca āsevanalābhena laddhasāmatthiyassa kilese pariccajituṃ nibbānaṃ pakkhandituṃ tikkhavisadabhāvo. Tenāha ‘‘aya’’ntiādi. Esa nayoti yvāyaṃ nayo ‘‘vivekanissita’’ntiādinā sammādiṭṭhiyaṃ vutto, sesesu sammāsaṅkappādīsupi eseva nayo, evaṃ tattha netabbanti attho. Paṭiccāti nissāya. Jātisabhāvāti jāyanasabhāvā. Sakaloti anavaseso, sabboti attho. Na koci maggo sāvaseso hutvā sambhavati. Heṭṭhime magge uppanne uparimo uppanno eva nāma anantarāyena uppajjanato. Vavassaggattheti vacasāyatthe. Vaṇṇayantīti guṇavaṇṇanavasena vitthārenti.
กลฺยาณมิตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kalyāṇamittasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๘. กลฺยาณมิตฺตสุตฺตํ • 8. Kalyāṇamittasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. กลฺยาณมิตฺตสุตฺตวณฺณนา • 8. Kalyāṇamittasuttavaṇṇanā