Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๘. กลฺยาณมิตฺตตาทิวคฺควณฺณนา
8. Kalyāṇamittatādivaggavaṇṇanā
๗๑. อฎฺฐมสฺส ปฐเม กลฺยาณมิตฺตตาติ กลฺยาณา มิตฺตา อสฺสาติ กลฺยาณมิโตฺต, ตสฺส ภาโว กลฺยาณมิตฺตตาฯ เสสํ วุตฺตปฎิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํฯ
71. Aṭṭhamassa paṭhame kalyāṇamittatāti kalyāṇā mittā assāti kalyāṇamitto, tassa bhāvo kalyāṇamittatā. Sesaṃ vuttapaṭipakkhanayena veditabbaṃ.
๗๒-๗๓. ทุติเย อนุโยโคติ โยโค ปโยโคฯ อนนุโยโคติ อโยโค อปฺปโยโคฯ อนุโยคาติ อนุโยเคนฯ อนนุโยคาติ อนนุโยเคนฯ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ จตุภูมกกุสลธมฺมานํฯ ตติยํ อุตฺตานตฺถเมวฯ
72-73. Dutiye anuyogoti yogo payogo. Ananuyogoti ayogo appayogo. Anuyogāti anuyogena. Ananuyogāti ananuyogena. Kusalānaṃ dhammānanti catubhūmakakusaladhammānaṃ. Tatiyaṃ uttānatthameva.
๗๔. จตุเตฺถ โพชฺฌงฺคาติ พุชฺฌนกสตฺตสฺส องฺคภูตา สตฺต ธมฺมาฯ ยาย วา ธมฺมสามคฺคิยา โส พุชฺฌติ, สโมฺมหนิทฺทาโต วา วุฎฺฐาติ, จตุสจฺจธมฺมํ วา สจฺฉิกโรติฯ ตสฺสา โพธิยา องฺคภูตาติปิ โพชฺฌงฺคาฯ ‘‘โพชฺฌงฺคาติ เกนเฎฺฐน โพชฺฌงฺคา? พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, อนุพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, ปฎิพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, สมฺพุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคา, โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติ (ปฎิ. ม. ๒.๑๗)ฯ เอวํ ปเนตํ ปทํ วิภตฺตเมวฯ
74. Catutthe bojjhaṅgāti bujjhanakasattassa aṅgabhūtā satta dhammā. Yāya vā dhammasāmaggiyā so bujjhati, sammohaniddāto vā vuṭṭhāti, catusaccadhammaṃ vā sacchikaroti. Tassā bodhiyā aṅgabhūtātipi bojjhaṅgā. ‘‘Bojjhaṅgāti kenaṭṭhena bojjhaṅgā? Bujjhantīti bojjhaṅgā, anubujjhantīti bojjhaṅgā, paṭibujjhantīti bojjhaṅgā, sambujjhantīti bojjhaṅgā, bodhāya saṃvattantīti bojjhaṅgā’’ti (paṭi. ma. 2.17). Evaṃ panetaṃ padaṃ vibhattameva.
๗๕. ปญฺจเม ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺตีติ อิมินา ปเทน โพชฺฌงฺคานํ ยาถาวสรสภูมิ นาม กถิตา ฯ สา ปเนสา จตุพฺพิธา โหติ – วิปสฺสนา, วิปสฺสนาปาทกชฺฌานํ, มโคฺค, ผลนฺติฯ ตตฺถ วิปสฺสนาย อุปฺปชฺชนกาเล โพชฺฌงฺคา กามาวจรา โหนฺติ, วิปสฺสนาปาทกชฺฌานมฺหิ อุปฺปชฺชนกาเล รูปาวจรอรูปาวจรา, มคฺคผเลสุ อุปฺปชฺชนกาเล โลกุตฺตราฯ อิติ อิมสฺมิํ สุเตฺต โพชฺฌงฺคา จตุภูมกา กถิตาฯ
75. Pañcame bhāvanāpāripūriṃ gacchantīti iminā padena bojjhaṅgānaṃ yāthāvasarasabhūmi nāma kathitā . Sā panesā catubbidhā hoti – vipassanā, vipassanāpādakajjhānaṃ, maggo, phalanti. Tattha vipassanāya uppajjanakāle bojjhaṅgā kāmāvacarā honti, vipassanāpādakajjhānamhi uppajjanakāle rūpāvacaraarūpāvacarā, maggaphalesu uppajjanakāle lokuttarā. Iti imasmiṃ sutte bojjhaṅgā catubhūmakā kathitā.
๗๖. ฉฎฺฐสฺส อฎฺฐุปฺปตฺติโก นิเกฺขโปฯ อฎฺฐุปฺปตฺติยํ เหตํ นิกฺขิตฺตํ, สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนาฯ เตสํ อนฺตเร พนฺธุลมลฺลเสนาปติํ อารพฺภ อยํ กถา อุทปาทิ, ‘‘อาวุโส, อสุกํ นาม กุลํ ปุเพฺพ พหุญาติกํ อโหสิ พหุปกฺขํ, อิทานิ อปฺปญาติกํ อปฺปปกฺขํ ชาต’’นฺติฯ อถ ภควา เตสํ จิตฺตาจารํ ญตฺวา ‘‘มยิ คเต มหตี เทสนา ภวิสฺสตี’’ติ ญตฺวา คนฺธกุฎิโต นิกฺขมฺม ธมฺมสภายํ ปญฺญตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ อาหฯ ภควา อญฺญา คามนิคมาทิกถา นตฺถิ, อสุกํ นาม กุลํ ปุเพฺพ พหุญาติกํ อโหสิ พหุปกฺขํ, อิทานิ อปฺปญาติกํ อปฺปปกฺขํ ชาตนฺติ วทนฺตา นิสินฺนมฺหาติฯ สตฺถา อิมิสฺสา อฎฺฐุปฺปตฺติยา อปฺปมตฺติกา เอสา, ภิกฺขเว, ปริหานีติ อิทํ สุตฺตํ อารภิฯ
76. Chaṭṭhassa aṭṭhuppattiko nikkhepo. Aṭṭhuppattiyaṃ hetaṃ nikkhittaṃ, sambahulā kira bhikkhū dhammasabhāyaṃ sannisinnā. Tesaṃ antare bandhulamallasenāpatiṃ ārabbha ayaṃ kathā udapādi, ‘‘āvuso, asukaṃ nāma kulaṃ pubbe bahuñātikaṃ ahosi bahupakkhaṃ, idāni appañātikaṃ appapakkhaṃ jāta’’nti. Atha bhagavā tesaṃ cittācāraṃ ñatvā ‘‘mayi gate mahatī desanā bhavissatī’’ti ñatvā gandhakuṭito nikkhamma dhammasabhāyaṃ paññattavarabuddhāsane nisīditvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti āha. Bhagavā aññā gāmanigamādikathā natthi, asukaṃ nāma kulaṃ pubbe bahuñātikaṃ ahosi bahupakkhaṃ, idāni appañātikaṃ appapakkhaṃ jātanti vadantā nisinnamhāti. Satthā imissā aṭṭhuppattiyā appamattikā esā, bhikkhave, parihānīti idaṃ suttaṃ ārabhi.
ตตฺถ อปฺปมตฺติกาติ ปริตฺตา ปริตฺตปฺปมาณาฯ เอตาย หิ ปริหานิยา สคฺคโต วา มคฺคโต วา ปริหานิ นาม นตฺถิ, ทิฎฺฐธมฺมิกปริหานิมตฺตเมว เอตนฺติ อาหฯ เอตํ ปติกิฎฺฐนฺติ เอตํ ปจฺฉิมํ เอตํ ลามกํฯ ยทิทํ ปญฺญาปริหานีติ ยา เอสา มม สาสเน กมฺมสฺสกตปญฺญาย ฌานปญฺญาย วิปสฺสนาปญฺญาย มคฺคปญฺญาย ผลปญฺญาย จ ปริหานิ, เอสา ปจฺฉิมา, เอสา ลามกา, เอสา ฉฑฺฑนียาติ อโตฺถฯ
Tattha appamattikāti parittā parittappamāṇā. Etāya hi parihāniyā saggato vā maggato vā parihāni nāma natthi, diṭṭhadhammikaparihānimattameva etanti āha. Etaṃ patikiṭṭhanti etaṃ pacchimaṃ etaṃ lāmakaṃ. Yadidaṃ paññāparihānīti yā esā mama sāsane kammassakatapaññāya jhānapaññāya vipassanāpaññāya maggapaññāya phalapaññāya ca parihāni, esā pacchimā, esā lāmakā, esā chaḍḍanīyāti attho.
๗๗. สตฺตมมฺปิ อฎฺฐุปฺปตฺติยเมว กถิตํฯ ธมฺมสภายํ กิร นิสิเนฺนสุ ภิกฺขูสุ เอกเจฺจ เอวํ อาหํสุ – ‘‘อสุกํ นาม กุลํ ปุเพฺพ อปฺปญาติกํ อปฺปปกฺขํ อโหสิ, อิทานิ ตํ พหุญาติกํ พหุปกฺขํ ชาต’’นฺติฯ กํ สนฺธาย เอวมาหํสูติ? วิสาขํ อุปาสิกํ เวสาลิเก จ ลิจฺฉวีฯ สตฺถา เตสํ จิตฺตาจารํ ญตฺวา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา ธมฺมาสเน นิสิโนฺน ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิฯ เต ยถาภูตํ กถยิํสุฯ สตฺถา อิมิสฺสา อฎฺฐุปฺปตฺติยา อิมํ สุตฺตํ อารภิฯ ตตฺถ อปฺปมตฺติกาติ ตํ สมฺปตฺติํ นิสฺสาย สคฺคํ วา มคฺคํ วา สมฺปตฺตานํ อภาวโต ปริตฺตาฯ ยทิทํ ปญฺญาวุทฺธีติ กมฺมสฺสกตปญฺญาทีนํ วุทฺธิฯ ตสฺมาติ ยสฺมา ญาตีนํ วุทฺธิ นาม ทิฎฺฐธมฺมิกมตฺตา อปฺปา ปริตฺตา, สา สคฺคํ วา มคฺคํ วา ปาเปตุํ อสมตฺถา, ตสฺมาฯ ปญฺญาวุทฺธิยาติ กมฺมสฺสกตาทิปญฺญาย วุทฺธิยาฯ
77. Sattamampi aṭṭhuppattiyameva kathitaṃ. Dhammasabhāyaṃ kira nisinnesu bhikkhūsu ekacce evaṃ āhaṃsu – ‘‘asukaṃ nāma kulaṃ pubbe appañātikaṃ appapakkhaṃ ahosi, idāni taṃ bahuñātikaṃ bahupakkhaṃ jāta’’nti. Kaṃ sandhāya evamāhaṃsūti? Visākhaṃ upāsikaṃ vesālike ca licchavī. Satthā tesaṃ cittācāraṃ ñatvā purimanayeneva āgantvā dhammāsane nisinno ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchi. Te yathābhūtaṃ kathayiṃsu. Satthā imissā aṭṭhuppattiyā imaṃ suttaṃ ārabhi. Tattha appamattikāti taṃ sampattiṃ nissāya saggaṃ vā maggaṃ vā sampattānaṃ abhāvato parittā. Yadidaṃ paññāvuddhīti kammassakatapaññādīnaṃ vuddhi. Tasmāti yasmā ñātīnaṃ vuddhi nāma diṭṭhadhammikamattā appā parittā, sā saggaṃ vā maggaṃ vā pāpetuṃ asamatthā, tasmā. Paññāvuddhiyāti kammassakatādipaññāya vuddhiyā.
๗๘. อฎฺฐมมฺปิ อฎฺฐุปฺปตฺติยเมว กถิตํฯ สมฺพหุลา กิร ภิกฺขู ธมฺมสภายํ สนฺนิสินฺนา มหาธนเสฎฺฐิปุตฺตํ อารพฺภ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ ปุเพฺพ มหาโภคํ มหาหิรญฺญสุวณฺณํ อโหสิ, ตํ อิทานิ อปฺปโภคํ ชาต’’นฺติ กถยิํสุฯ สตฺถา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา เตสํ วจนํ สุตฺวา อิมํ สุตฺตํ อารภิฯ
78. Aṭṭhamampi aṭṭhuppattiyameva kathitaṃ. Sambahulā kira bhikkhū dhammasabhāyaṃ sannisinnā mahādhanaseṭṭhiputtaṃ ārabbha ‘‘asukaṃ nāma kulaṃ pubbe mahābhogaṃ mahāhiraññasuvaṇṇaṃ ahosi, taṃ idāni appabhogaṃ jāta’’nti kathayiṃsu. Satthā purimanayeneva āgantvā tesaṃ vacanaṃ sutvā imaṃ suttaṃ ārabhi.
๗๙. นวมมฺปิ อฎฺฐุปฺปตฺติยเมว วุตฺตํฯ ธมฺมสภายํ กิร สนฺนิสินฺนา ภิกฺขู กากวลิยเสฎฺฐิญฺจ ปุณฺณเสฎฺฐิญฺจ อารพฺภ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ ปุเพฺพ อปฺปโภคํ อโหสิ, ตํ อิทานิ มหาโภคํ ชาต’’นฺติ กถยิํสุฯ สตฺถา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา เตสํ วจนํ สุตฺวา อิมํ สุตฺตํ อารภิฯ เสสํ อิเมสุ ทฺวีสุปิ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ
79. Navamampi aṭṭhuppattiyameva vuttaṃ. Dhammasabhāyaṃ kira sannisinnā bhikkhū kākavaliyaseṭṭhiñca puṇṇaseṭṭhiñca ārabbha ‘‘asukaṃ nāma kulaṃ pubbe appabhogaṃ ahosi, taṃ idāni mahābhogaṃ jāta’’nti kathayiṃsu. Satthā purimanayeneva āgantvā tesaṃ vacanaṃ sutvā imaṃ suttaṃ ārabhi. Sesaṃ imesu dvīsupi heṭṭhā vuttanayeneva veditabbaṃ.
๘๐. ทสมมฺปิ อฎฺฐุปฺปตฺติยํ วุตฺตํฯ ธมฺมสภายํ กิร ภิกฺขู โกสลมหาราชานํ อารพฺภ ‘‘อสุกํ นาม กุลํ ปุเพฺพ มหายสํ มหาปริวารํ อโหสิ, อิทานิ อปฺปยสํ อปฺปปริวารํ ชาต’’นฺติ กถยิํสุฯ ภควา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา เตสํ วจนํ สุตฺวา อิมํ ธมฺมเทสนํ อารภิฯ เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติฯ
80. Dasamampi aṭṭhuppattiyaṃ vuttaṃ. Dhammasabhāyaṃ kira bhikkhū kosalamahārājānaṃ ārabbha ‘‘asukaṃ nāma kulaṃ pubbe mahāyasaṃ mahāparivāraṃ ahosi, idāni appayasaṃ appaparivāraṃ jāta’’nti kathayiṃsu. Bhagavā purimanayeneva āgantvā tesaṃ vacanaṃ sutvā imaṃ dhammadesanaṃ ārabhi. Sesaṃ vuttanayeneva veditabbanti.
กลฺยาณมิตฺตตาทิวคฺควณฺณนาฯ
Kalyāṇamittatādivaggavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๘. กลฺยาณมิตฺตาทิวโคฺค • 8. Kalyāṇamittādivaggo
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๘. กลฺยาณมิตฺตาทิวคฺควณฺณนา • 8. Kalyāṇamittādivaggavaṇṇanā