Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi |
๘. กลฺยาณสีลสุตฺตํ
8. Kalyāṇasīlasuttaṃ
๙๗. วุตฺตเญฺหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
97. Vuttañhetaṃ bhagavatā, vuttamarahatāti me sutaṃ –
‘‘กลฺยาณสีโล, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณธโมฺม กลฺยาณปโญฺญ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจติ –
‘‘Kalyāṇasīlo, bhikkhave, bhikkhu kalyāṇadhammo kalyāṇapañño imasmiṃ dhammavinaye ‘kevalī vusitavā uttamapuriso’ti vuccati –
‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ, อาจารโคจรสมฺปโนฺน อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณสีโล โหติฯ อิติ กลฺยาณสีโลฯ
‘‘Kathañca , bhikkhave, bhikkhu kalyāṇasīlo hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu sīlavā hoti, pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharati, ācāragocarasampanno aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī, samādāya sikkhati sikkhāpadesu. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu kalyāṇasīlo hoti. Iti kalyāṇasīlo.
‘‘กลฺยาณธโมฺม จ กถํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สตฺตนฺนํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ ภาวนานุโยคมนุยุโตฺต วิหรติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณธโมฺม โหติฯ อิติ กลฺยาณสีโล, กลฺยาณธโมฺมฯ
‘‘Kalyāṇadhammo ca kathaṃ hoti? Idha, bhikkhave, bhikkhu sattannaṃ bodhipakkhiyānaṃ dhammānaṃ bhāvanānuyogamanuyutto viharati. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu kalyāṇadhammo hoti. Iti kalyāṇasīlo, kalyāṇadhammo.
‘‘กลฺยาณปโญฺญ จ กถํ โหติ ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กลฺยาณปโญฺญ โหติฯ
‘‘Kalyāṇapañño ca kathaṃ hoti ? Idha, bhikkhave, bhikkhu āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharati. Evaṃ kho, bhikkhave, bhikkhu kalyāṇapañño hoti.
‘‘อิติ กลฺยาณสีโล กลฺยาณธโมฺม กลฺยาณปโญฺญ อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย ‘เกวลี วุสิตวา อุตฺตมปุริโส’ติ วุจฺจตี’’ติฯ เอตมตฺถํ ภควา อโวจฯ ตเตฺถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘Iti kalyāṇasīlo kalyāṇadhammo kalyāṇapañño imasmiṃ dhammavinaye ‘kevalī vusitavā uttamapuriso’ti vuccatī’’ti. Etamatthaṃ bhagavā avoca. Tatthetaṃ iti vuccati –
‘‘ยสฺส กาเยน วาจาย, มนสา นตฺถิ ทุกฺกฎํ;
‘‘Yassa kāyena vācāya, manasā natthi dukkaṭaṃ;
ตํ เว กลฺยาณธโมฺมติ, อาหุ ภิกฺขุํ อนุสฺสทํฯ
Taṃ ve kalyāṇadhammoti, āhu bhikkhuṃ anussadaṃ.
‘‘โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ, อิเธว ขยมตฺตโน;
‘‘Yo dukkhassa pajānāti, idheva khayamattano;
ตํ เว กลฺยาณปโญฺญติ, อาหุ ภิกฺขุํ อนาสวํฯ
Taṃ ve kalyāṇapaññoti, āhu bhikkhuṃ anāsavaṃ.
‘‘เตหิ ธเมฺมหิ สมฺปนฺนํ, อนีฆํ ฉินฺนสํสยํ;
‘‘Tehi dhammehi sampannaṃ, anīghaṃ chinnasaṃsayaṃ;
อสิตํ สพฺพโลกสฺส, อาหุ สพฺพปหายิน’’นฺติฯ
Asitaṃ sabbalokassa, āhu sabbapahāyina’’nti.
อยมฺปิ อโตฺถ วุโตฺต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติฯ อฎฺฐมํฯ
Ayampi attho vutto bhagavatā, iti me sutanti. Aṭṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā / ๘. กลฺยาณสีลสุตฺตวณฺณนา • 8. Kalyāṇasīlasuttavaṇṇanā