Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๒๙๗] ๗. กามวิลาปชาตกวณฺณนา

    [297] 7. Kāmavilāpajātakavaṇṇanā

    อุเจฺจ สกุณ เฑมานาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิฯ ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ ปุปฺผรตฺตชาตเก (ชา. ๑.๑.๑๔๗) กถิตํ, อตีตวตฺถุ อินฺทฺริยชาตเก (ชา. ๑.๘.๖๐ อาทโย) อาวิภวิสฺสติฯ ตํ ปน ปุริสํ ชีวนฺตํ สูเล อุตฺตาเสสุํฯ โส ตตฺถ นิสิโนฺน อากาเสน คจฺฉนฺตํ เอกํ กากํ ทิสฺวา ตาวขรมฺปิ ตํ เวทนํ อคเณตฺวา ปิยภริยาย สาสนํ เปเสตุํ กากํ อามเนฺตโนฺต อิมา คาถา อาห –

    Uccesakuṇa ḍemānāti idaṃ satthā jetavane viharanto purāṇadutiyikāpalobhanaṃ ārabbha kathesi. Paccuppannavatthu puppharattajātake (jā. 1.1.147) kathitaṃ, atītavatthu indriyajātake (jā. 1.8.60 ādayo) āvibhavissati. Taṃ pana purisaṃ jīvantaṃ sūle uttāsesuṃ. So tattha nisinno ākāsena gacchantaṃ ekaṃ kākaṃ disvā tāvakharampi taṃ vedanaṃ agaṇetvā piyabhariyāya sāsanaṃ pesetuṃ kākaṃ āmantento imā gāthā āha –

    ๑๓๙.

    139.

    ‘‘อุเจฺจ สกุณ เฑมาน, ปตฺตยาน วิหงฺคม;

    ‘‘Ucce sakuṇa ḍemāna, pattayāna vihaṅgama;

    วชฺชาสิ โข ตฺวํ วามูรุํ, จิรํ โข สา กริสฺสติฯ

    Vajjāsi kho tvaṃ vāmūruṃ, ciraṃ kho sā karissati.

    ๑๔๐.

    140.

    ‘‘อิทํ โข สา น ชานาติ, อสิํ สตฺติญฺจ โอฑฺฑิตํ;

    ‘‘Idaṃ kho sā na jānāti, asiṃ sattiñca oḍḍitaṃ;

    สา จณฺฑี กาหติ โกธํ, ตํ เม ตปติ โน อิทํฯ

    Sā caṇḍī kāhati kodhaṃ, taṃ me tapati no idaṃ.

    ๑๔๑.

    141.

    ‘‘เอส อุปฺปลสนฺนาโห, นิกฺขญฺจุสฺสีสโกหิตํ;

    ‘‘Esa uppalasannāho, nikkhañcussīsakohitaṃ;

    กาสิกญฺจ มุทุํ วตฺถํ, ตเปฺปตุ ธนิกา ปิยา’’ติฯ

    Kāsikañca muduṃ vatthaṃ, tappetu dhanikā piyā’’ti.

    ตตฺถ เฑมานาติ คจฺฉมาน จรมานฯ ปตฺตยานาติ ตเมวาลปติ, ตถา วิหงฺคมาติฯ โส หิ ปเตฺตหิ ยานํ กตฺวา คมนโต ปตฺตยาโน, อากาเส คมนโต วิหงฺคโมฯ วชฺชาสีติ วเทยฺยาสิฯ วามูรุนฺติ กทลิกฺขนฺธสมานอูรุํ, มม สูเล นิสินฺนภาวํ วเทยฺยาสิฯ จิรํ โข สา กริสฺสตีติ สา อิมํ ปวตฺติํ อชานมานา มม อาคมนํ จิรํ กริสฺสติ, ‘‘จิรํ เม คตสฺส ปิยสฺส น จ อาคจฺฉตี’’ติ เอวํ จิเนฺตสฺสตีติ อโตฺถฯ

    Tattha ḍemānāti gacchamāna caramāna. Pattayānāti tamevālapati, tathā vihaṅgamāti. So hi pattehi yānaṃ katvā gamanato pattayāno, ākāse gamanato vihaṅgamo. Vajjāsīti vadeyyāsi. Vāmūrunti kadalikkhandhasamānaūruṃ, mama sūle nisinnabhāvaṃ vadeyyāsi. Ciraṃ kho sā karissatīti sā imaṃ pavattiṃ ajānamānā mama āgamanaṃ ciraṃ karissati, ‘‘ciraṃ me gatassa piyassa na ca āgacchatī’’ti evaṃ cintessatīti attho.

    อสิํ สตฺติญฺจาติ อสิสมานตาย สตฺติสมานตาย จ สูลเมว สนฺธาย วทติฯ ตญฺหิ ตสฺส อุตฺตาสนตฺถาย โอฑฺฑิตํ ฐปิตํฯ จณฺฑีติ โกธนาฯ กาหติ โกธนฺติ ‘‘อติจิรายตี’’ติ มยิ โกธํ กริสฺสติฯ ตํ เม ตปตีติ ตํ ตสฺสา กุชฺฌนํ มํ ตปติฯ โน อิทนฺติ อิธ ปน อิทํ สูลํ มํ น ตปตีติ ทีเปติฯ

    Asiṃ sattiñcāti asisamānatāya sattisamānatāya ca sūlameva sandhāya vadati. Tañhi tassa uttāsanatthāya oḍḍitaṃ ṭhapitaṃ. Caṇḍīti kodhanā. Kāhati kodhanti ‘‘aticirāyatī’’ti mayi kodhaṃ karissati. Taṃ me tapatīti taṃ tassā kujjhanaṃ maṃ tapati. No idanti idha pana idaṃ sūlaṃ maṃ na tapatīti dīpeti.

    ‘‘เอส อุปฺปลสนฺนาโห’’ติอาทีหิ ฆเร อุสฺสีสเก ฐปิตํ อตฺตโน ภณฺฑํ อาจิกฺขติฯ ตตฺถ อุปฺปลสนฺนาโหติ อุปฺปโล จ สนฺนาโห จ อุปฺปลสนฺนาโห, อุปฺปลสทิโส กณโย จ สนฺนาหโก จาติ อโตฺถฯ นิกฺขญฺจาติ ปญฺจหิ สุวเณฺณหิ กตํ องฺคุลิมุทฺทิกํฯ กาสิกญฺจ มุทุ วตฺถนฺติ มุทุํ กาสิกสาฎกยุคํ สนฺธายาหฯ เอตฺตกํ กิร เตน อุสฺสีสเก นิกฺขิตฺตํฯ ตเปฺปตุ ธนิกา ปิยาติ เอตํ สพฺพํ คเหตฺวา สา มม ปิยา ธนตฺถิกา อิมินา ธเนน ตเปฺปตุ ปูเรตุ, สนฺตุฎฺฐา โหตูติฯ

    ‘‘Esa uppalasannāho’’tiādīhi ghare ussīsake ṭhapitaṃ attano bhaṇḍaṃ ācikkhati. Tattha uppalasannāhoti uppalo ca sannāho ca uppalasannāho, uppalasadiso kaṇayo ca sannāhako cāti attho. Nikkhañcāti pañcahi suvaṇṇehi kataṃ aṅgulimuddikaṃ. Kāsikañca mudu vatthanti muduṃ kāsikasāṭakayugaṃ sandhāyāha. Ettakaṃ kira tena ussīsake nikkhittaṃ. Tappetu dhanikā piyāti etaṃ sabbaṃ gahetvā sā mama piyā dhanatthikā iminā dhanena tappetu pūretu, santuṭṭhā hotūti.

    เอวํ โส ปริเทวมาโนว กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติฯ

    Evaṃ so paridevamānova kālaṃ katvā niraye nibbatti.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺฐิตภิกฺขุ, โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิฯ ‘‘ตทา ภริยา เอตรหิ ภริยา อโหสิ, เยน ปน เทวปุเตฺตน ตํ การณํ ทิฎฺฐํ, โส อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne ukkaṇṭhitabhikkhu, sotāpattiphale patiṭṭhahi. ‘‘Tadā bhariyā etarahi bhariyā ahosi, yena pana devaputtena taṃ kāraṇaṃ diṭṭhaṃ, so ahameva ahosi’’nti.

    กามวิลาปชาตกวณฺณนา สตฺตมาฯ

    Kāmavilāpajātakavaṇṇanā sattamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๙๗. กามวิลาปชาตกํ • 297. Kāmavilāpajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact