Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā |
ปญฺจวโคฺค
Pañcavaggo
กมฺมวคฺควณฺณนา
Kammavaggavaṇṇanā
๔๘๓. กมฺมวเคฺค ฐปิตอุโปสถปวารณานํ กตฺติกมาเส สามคฺคิยา กตาย สามคฺคีปวารณํ มุญฺจิตฺวา อุโปสถํ กาตุํ น วฎฺฎตีติ อาห ‘‘ฐเปตฺวา กตฺติกมาส’’นฺติฯ สเจ ปน เตสํ นานาสีมาสุ มหาปวารณาย วิสุํ ปวาริตานํ กตฺติกมาสพฺภนฺตเร สามคฺคี โหติ, สามคฺคีอุโปสโถ เอว เตหิ กตฺตโพฺพ, น ปวารณาฯ เอกสฺมิํ วเสฺส กตปวารณานํ ปุน ปวารณาย อวิหิตตฺตาฯ สามคฺคีทิวโสติ อนุโปสถทิวเส สามคฺคีกรณํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สเจ ปน จาตุทฺทสิยํ, ปนฺนรสิยํ วา สโงฺฆ สามคฺคิํ กโรติ, ตทา สามคฺคีอุโปสถทิวโส น โหติ, จาตุทฺทสีปนฺนรสีอุโปสโถว โหติฯ อุปริ ปวารณายปิ เอเสว นโยฯ
483. Kammavagge ṭhapitauposathapavāraṇānaṃ kattikamāse sāmaggiyā katāya sāmaggīpavāraṇaṃ muñcitvā uposathaṃ kātuṃ na vaṭṭatīti āha ‘‘ṭhapetvā kattikamāsa’’nti. Sace pana tesaṃ nānāsīmāsu mahāpavāraṇāya visuṃ pavāritānaṃ kattikamāsabbhantare sāmaggī hoti, sāmaggīuposatho eva tehi kattabbo, na pavāraṇā. Ekasmiṃ vasse katapavāraṇānaṃ puna pavāraṇāya avihitattā. Sāmaggīdivasoti anuposathadivase sāmaggīkaraṇaṃ sandhāya vuttaṃ. Sace pana cātuddasiyaṃ, pannarasiyaṃ vā saṅgho sāmaggiṃ karoti, tadā sāmaggīuposathadivaso na hoti, cātuddasīpannarasīuposathova hoti. Upari pavāraṇāyapi eseva nayo.
ปจฺจุกฺกฑฺฒิตฺวา ฐปิตทิวโสติ ภณฺฑนการเกหิ อุปทฺทุตา วา เกนจิเทว กรณีเยน ปวารณาสงฺคหํ วา กตฺวา ฐปิโต กาฬปกฺขจาตุทฺทสีทิวโสวฯ เทฺว จ ปุณฺณมาสิโยติ ปุพฺพ-กตฺติกปุณฺณมา, ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมา จาติ เทฺว ปุณฺณมาสิโยฯ เอวํ จตุพฺพิธมฺปีติ ปุณฺณมาสีทฺวเยน สทฺธิํ สามคฺคีปวารณํ, จาตุทฺทสีปวารณญฺจ สมฺปิเณฺฑตฺวา วุตฺตํฯ อิทญฺจ ปกติจาริตฺตวเสน วุตฺตํฯ ตถารูปปจฺจเย ปน สติ อุภินฺนํ ปุณฺณมาสีนํ ปุริมา เทฺว จาตุทฺทสิโยปิ กาฬปกฺขจาตุทฺทสิยา อนนฺตรา ปนฺนรสีปีติ อิเมปิ ตโย ทิวสา ปวารณาทิวสา เอวาติ อิมํ สตฺตวิธมฺปิ ปวารณาทิวสํ ฐเปตฺวา อญฺญสฺมิํ ทิวเส ปวาเรตุํ น วฎฺฎติฯ
Paccukkaḍḍhitvā ṭhapitadivasoti bhaṇḍanakārakehi upaddutā vā kenacideva karaṇīyena pavāraṇāsaṅgahaṃ vā katvā ṭhapito kāḷapakkhacātuddasīdivasova. Dve ca puṇṇamāsiyoti pubba-kattikapuṇṇamā, pacchimakattikapuṇṇamā cāti dve puṇṇamāsiyo. Evaṃ catubbidhampīti puṇṇamāsīdvayena saddhiṃ sāmaggīpavāraṇaṃ, cātuddasīpavāraṇañca sampiṇḍetvā vuttaṃ. Idañca pakaticārittavasena vuttaṃ. Tathārūpapaccaye pana sati ubhinnaṃ puṇṇamāsīnaṃ purimā dve cātuddasiyopi kāḷapakkhacātuddasiyā anantarā pannarasīpīti imepi tayo divasā pavāraṇādivasā evāti imaṃ sattavidhampi pavāraṇādivasaṃ ṭhapetvā aññasmiṃ divase pavāretuṃ na vaṭṭati.
๔๘๔. อนุสฺสาวนกมฺมํ กตฺวาติ ปฐมํ อนุสฺสาวนํ สาเวตฺวา ‘‘เอสา ญตฺตี’’ติ อนุสฺสาวนานนฺตรเมว สกลํ ญตฺติํ วตฺวา, ปริโยสาเน ‘‘เอสา ญตฺตี’’ติ วตฺวาติ อธิปฺปาโยฯ
484.Anussāvanakammaṃ katvāti paṭhamaṃ anussāvanaṃ sāvetvā ‘‘esā ñattī’’ti anussāvanānantarameva sakalaṃ ñattiṃ vatvā, pariyosāne ‘‘esā ñattī’’ti vatvāti adhippāyo.
๔๘๕. ยฺวายนฺติ พฺยญฺชนปฺปเภโท อธิเปฺปโตฯ ทสธา พฺยญฺชนพุทฺธิยา ปเภโทติ เอตฺถ ทสธา ทสวิเธน พฺยญฺชนานํ ปเภโทติ โยเชตพฺพํฯ เกนายํ ปเภโทติ อาห ‘‘พฺยญฺชนพุทฺธิยา’’ติฯ ยถาธิเปฺปตตฺถพฺยญฺชนโต พฺยญฺชนสงฺขาตานํ อกฺขรานํ ชนิกา พุทฺธิ พฺยญฺชนพุทฺธิ, ตาย พฺยญฺชนพุทฺธิยา , อกฺขรสมุฎฺฐาปกจิตฺตเภเทเนวาติ อโตฺถฯ ยํ วา สํโยคปรํ กตฺวา วุจฺจติ, อิทมฺปิ ครุกนฺติ โยชนาฯ
485.Yvāyanti byañjanappabhedo adhippeto. Dasadhā byañjanabuddhiyā pabhedoti ettha dasadhā dasavidhena byañjanānaṃ pabhedoti yojetabbaṃ. Kenāyaṃ pabhedoti āha ‘‘byañjanabuddhiyā’’ti. Yathādhippetatthabyañjanato byañjanasaṅkhātānaṃ akkharānaṃ janikā buddhi byañjanabuddhi, tāya byañjanabuddhiyā , akkharasamuṭṭhāpakacittabhedenevāti attho. Yaṃ vā saṃyogaparaṃ katvā vuccati, idampi garukanti yojanā.
ตตฺถ อายสฺมโตติอาทีสุ ยานิ อนนฺตริตานิ ส-การม-การาทิพฺยญฺชนานิ ‘‘สํโยโค’’ติ วุจฺจนฺติ, โส สํโยโค ปโร ยสฺส อ-การาทิโน, โส สํโยคปโร นามฯ รสฺสนฺติ อการาทิพฺยญฺชนรหิตํ สรํฯ อสํโยคปรนฺติ ‘‘ยสฺส นกฺขมตี’’ติอาทีสุ ย-การ น-การาทิพฺยญฺชนสหิตสรํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ต-การสฺส ถ-การํ อกตฺวา วคฺคนฺตเร สิถิลเมว กตฺวา ‘‘สุณาฎุ เม’’ติอาทิํ วทโนฺตปิ ทุรุตฺตํ กโรติเยว ฐเปตฺวา อนุรูปํ อาเทสํฯ ยญฺหิ ‘‘สจฺจิกตฺถปรมเตฺถนา’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘สจฺจิกฎฺฐปรมเฎฺฐนา’’ติ จ ‘‘อตฺถกถา’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘อฎฺฐกถา’’ติ จ ตตฺถ ตตฺถ วุจฺจติ, ตาทิสํ ปาฬิอฎฺฐกถาสุ ทิฎฺฐปโยคํ, ตทนุรูปญฺจ วตฺตุํ วฎฺฎติ, ตโต อญฺญํ น วฎฺฎติฯ เตนาห ‘‘อนุกฺกมาคตํ ปเวณิํ อวินาเสเนฺตนา’’ติอาทิฯ
Tattha āyasmatotiādīsu yāni anantaritāni sa-kārama-kārādibyañjanāni ‘‘saṃyogo’’ti vuccanti, so saṃyogo paro yassa a-kārādino, so saṃyogaparo nāma. Rassanti akārādibyañjanarahitaṃ saraṃ. Asaṃyogaparanti ‘‘yassa nakkhamatī’’tiādīsu ya-kāra na-kārādibyañjanasahitasaraṃ sandhāya vuttaṃ. Ta-kārassa tha-kāraṃ akatvā vaggantare sithilameva katvā ‘‘suṇāṭu me’’tiādiṃ vadantopi duruttaṃ karotiyeva ṭhapetvā anurūpaṃ ādesaṃ. Yañhi ‘‘saccikatthaparamatthenā’’ti vattabbe ‘‘saccikaṭṭhaparamaṭṭhenā’’ti ca ‘‘atthakathā’’ti vattabbe ‘‘aṭṭhakathā’’ti ca tattha tattha vuccati, tādisaṃ pāḷiaṭṭhakathāsu diṭṭhapayogaṃ, tadanurūpañca vattuṃ vaṭṭati, tato aññaṃ na vaṭṭati. Tenāha ‘‘anukkamāgataṃ paveṇiṃ avināsentenā’’tiādi.
ทีเฆ วตฺตเพฺพ รสฺสนฺติอาทีสุ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ วตฺตเพฺพ ‘‘ภิกฺขุน’’นฺติ วา ‘‘พหูสู’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘พหุสู’’ติ วา ‘‘นกฺขมตี’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘น ขมตี’’ติ วา ‘‘อุปสมฺปทาเปโกฺข’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘อุปสมฺปทาเปโข’’ติ วา เอวํ อนุรูปฎฺฐาเนสุ เอว ทีฆรสฺสาทิ รสฺสทีฆาทิวเสน ปริวเตฺตตุํ วฎฺฎติ, น ปน ‘‘นาโค’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘นโค’’ติ วา ‘‘สโงฺฆ’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘สโฆ’’ติ วา ‘‘ติโสฺส’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘ติโส’’ติ วา ‘‘ยาจตี’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘ยาจนฺตี’’ติ วา เอวํ อนนุรูปฎฺฐาเนสุ วตฺตุํฯ สมฺพนฺธํ, ปน ววตฺถานญฺจ สพฺพถาปิ วฎฺฎตีติ คเหตพฺพํฯ
Dīghe vattabbe rassantiādīsu ‘‘bhikkhūna’’nti vattabbe ‘‘bhikkhuna’’nti vā ‘‘bahūsū’’ti vattabbe ‘‘bahusū’’ti vā ‘‘nakkhamatī’’ti vattabbe ‘‘na khamatī’’ti vā ‘‘upasampadāpekkho’’ti vattabbe ‘‘upasampadāpekho’’ti vā evaṃ anurūpaṭṭhānesu eva dīgharassādi rassadīghādivasena parivattetuṃ vaṭṭati, na pana ‘‘nāgo’’ti vattabbe ‘‘nago’’ti vā ‘‘saṅgho’’ti vattabbe ‘‘sagho’’ti vā ‘‘tisso’’ti vattabbe ‘‘tiso’’ti vā ‘‘yācatī’’ti vattabbe ‘‘yācantī’’ti vā evaṃ ananurūpaṭṭhānesu vattuṃ. Sambandhaṃ, pana vavatthānañca sabbathāpi vaṭṭatīti gahetabbaṃ.
๔๘๖. เสสสีมาสุปีติ อติมหตีอาทีสุ ทสสุปิฯ
486.Sesasīmāsupīti atimahatīādīsu dasasupi.
๔๘๘. จตุวคฺคกรเณติ จตุวเคฺคน สเงฺฆน กตฺตเพฺพฯ อนิสฺสาริตาติ อุโปสถฎฺฐปนาทินา วา ลทฺธินานาสํวาสกภาเวน วา น พหิกตาฯ อฎฺฐกถายญฺหิ ‘‘อปกตตฺตสฺสาติ อุกฺขิตฺตกสฺส วา, ยสฺส วา อุโปสถปวารณา ฐปิตา โหนฺตี’’ติ (ปริ. อฎฺฐ. ๔๒๕) วุตฺตตฺตา ฐปิตอุโปสถปวารโณ ภิกฺขุ อปกตโตฺต เอวาติ คเหตพฺพํฯ ปริสุทฺธสีลาติ ปาราชิกํ อนาปนฺนา อธิเปฺปตาฯ ปริวาสาทิกเมฺมสุ ปน ครุกฎฺฐาปิ อปกตตฺตา เอวาติ คเหตพฺพํ ฯ อวเสสา…เป.… ฉนฺทารหาว โหนฺตีติ สงฺฆโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ฐิเต สนฺธาย วุตฺตํฯ อวิชหิตฺวา ฐิตา ปน ฉนฺทารหา น โหนฺติ, เตปิ จตุวคฺคาทิโต อธิกา หตฺถปาสํ วิชหิตฺวาว ฉนฺทารหา โหนฺติฯ ตสฺมา สงฺฆโต หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ฐิเตเนว ฉโนฺท วา ปาริสุทฺธิ วา ทาตพฺพาฯ
488.Catuvaggakaraṇeti catuvaggena saṅghena kattabbe. Anissāritāti uposathaṭṭhapanādinā vā laddhinānāsaṃvāsakabhāvena vā na bahikatā. Aṭṭhakathāyañhi ‘‘apakatattassāti ukkhittakassa vā, yassa vā uposathapavāraṇā ṭhapitā hontī’’ti (pari. aṭṭha. 425) vuttattā ṭhapitauposathapavāraṇo bhikkhu apakatatto evāti gahetabbaṃ. Parisuddhasīlāti pārājikaṃ anāpannā adhippetā. Parivāsādikammesu pana garukaṭṭhāpi apakatattā evāti gahetabbaṃ . Avasesā…pe… chandārahāva hontīti saṅghato hatthapāsaṃ vijahitvā ṭhite sandhāya vuttaṃ. Avijahitvā ṭhitā pana chandārahā na honti, tepi catuvaggādito adhikā hatthapāsaṃ vijahitvāva chandārahā honti. Tasmā saṅghato hatthapāsaṃ vijahitvā ṭhiteneva chando vā pārisuddhi vā dātabbā.
กมฺมวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kammavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / ปริวารปาฬิ • Parivārapāḷi / ๑. กมฺมวโคฺค • 1. Kammavaggo
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / ปริวาร-อฎฺฐกถา • Parivāra-aṭṭhakathā / กมฺมวคฺควณฺณนา • Kammavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / กมฺมวคฺควณฺณนา • Kammavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / กมฺมวคฺควณฺณนา • Kammavaggavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / กมฺมวคฺควณฺณนา • Kammavaggavaṇṇanā