Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๖. กามูปปตฺติสุตฺตวณฺณนา
6. Kāmūpapattisuttavaṇṇanā
๙๕. ฉเฎฺฐ กามูปปตฺติโยติ กามปฎิลาภา กามปฎิเสวนา วาฯ ปจฺจุปฎฺฐิตกามาติ นิพทฺธกามา นิพทฺธารมฺมณา ยถา ตํ มนุสฺสาฯ มนุสฺสา หิ นิพทฺธวตฺถุสฺมิํ วสํ วเตฺตนฺติฯ ยตฺถ ปฎิพทฺธจิตฺตา โหนฺติ, สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ ทตฺวา ตเมว มาตุคามํ อาเนตฺวา นิพทฺธโภคํ ภุญฺชนฺติฯ เอกเจฺจ จ เทวาฯ จาตุมหาราชิกโต ปฎฺฐาย หิ จตุเทวโลกวาสิโน นิพทฺธวตฺถุสฺมิํเยว วสํ วเตฺตนฺติฯ ปญฺจสิขวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสนํฯ ตถา เอกเจฺจ อาปายิเก เนรยิเก ฐเปตฺวา เสสอปายสตฺตาปิ นิพทฺธวตฺถุสฺมิํเยว วสํ วเตฺตนฺติฯ มจฺฉา หิ อตฺตโน มจฺฉิยา, กจฺฉโป กจฺฉปิยาติ เอวํ สเพฺพปิ ติรจฺฉานา เปตา วินิปาติกา จฯ ตสฺมา เนรยิเก ฐเปตฺวา เสสอปายสเตฺต อุปาทาย ยาว ตุสิตกายา อิเม สตฺตา ปจฺจุปฎฺฐิตกามา นาม, นิมฺมานรติโนติ สยํ นิมฺมิเต นิมฺมาเน รติ เอเตสนฺติ นิมฺมานรติโนฯ เต หิ นีลปีตาทิวเสน ยาทิสํ ยาทิสํ รูปํ อิจฺฉนฺติ, ตาทิสํ ตาทิสํ นิมฺมินิตฺวา รมนฺติ อายสฺมโต อนุรุทฺธสฺส ปุรโต มนาปกายิกา เทวตา วิยฯ ปรนิมฺมิตวสวตฺติโนติ ปเรหิ นิมฺมิเต กาเม วสํ วเตฺตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺติโนฯ เตสญฺหิ มนํ ญตฺวา ปเร ยถารุจิตํ กามโภคํ นิมฺมินนฺติ, เต ตตฺถ วสํ วเตฺตนฺติฯ กถํ เต ปรสฺส มนํ ชานนฺตีติ? ปกติเสวนาวเสนฯ ยถา หิ กุสโล สูโท รโญฺญ ภุญฺชนฺตสฺส ยํ ยํ รุจฺจติ, ตํ ตํ ชานาติ, เอวํ ปกติยา อภิรุจิตารมฺมณํ ญตฺวา ตาทิเสเยว นิมฺมินนฺติ, เต ตตฺถ วสํ วเตฺตนฺติ, เมถุนเสวนาทิวเสน กาเม ปริภุญฺชนฺติฯ เกจิ ปน ‘‘หสิตมเตฺตน โอโลกิตมเตฺตน อาลิงฺคิตมเตฺตน หตฺถคฺคหณมเตฺตน จ เตสํ กามกิจฺจํ อิชฺฌตี’’ติ วทนฺติ, ตํ อฎฺฐกถายํ ‘‘เอตํ ปน นตฺถี’’ติ ปฎิกฺขิตฺตํฯ น หิ กาเยน อผุสนฺตสฺส โผฎฺฐพฺพํ กามกิจฺจํ สาเธติฯ ฉนฺนมฺปิ กามาวจรเทวานํ กามา ปากติกา เอวฯ วุตฺตเญฺหตํ –
95. Chaṭṭhe kāmūpapattiyoti kāmapaṭilābhā kāmapaṭisevanā vā. Paccupaṭṭhitakāmāti nibaddhakāmā nibaddhārammaṇā yathā taṃ manussā. Manussā hi nibaddhavatthusmiṃ vasaṃ vattenti. Yattha paṭibaddhacittā honti, satampi sahassampi datvā tameva mātugāmaṃ ānetvā nibaddhabhogaṃ bhuñjanti. Ekacce ca devā. Cātumahārājikato paṭṭhāya hi catudevalokavāsino nibaddhavatthusmiṃyeva vasaṃ vattenti. Pañcasikhavatthu cettha nidassanaṃ. Tathā ekacce āpāyike nerayike ṭhapetvā sesaapāyasattāpi nibaddhavatthusmiṃyeva vasaṃ vattenti. Macchā hi attano macchiyā, kacchapo kacchapiyāti evaṃ sabbepi tiracchānā petā vinipātikā ca. Tasmā nerayike ṭhapetvā sesaapāyasatte upādāya yāva tusitakāyā ime sattā paccupaṭṭhitakāmā nāma, nimmānaratinoti sayaṃ nimmite nimmāne rati etesanti nimmānaratino. Te hi nīlapītādivasena yādisaṃ yādisaṃ rūpaṃ icchanti, tādisaṃ tādisaṃ nimminitvā ramanti āyasmato anuruddhassa purato manāpakāyikā devatā viya. Paranimmitavasavattinoti parehi nimmite kāme vasaṃ vattentīti paranimmitavasavattino. Tesañhi manaṃ ñatvā pare yathārucitaṃ kāmabhogaṃ nimminanti, te tattha vasaṃ vattenti. Kathaṃ te parassa manaṃ jānantīti? Pakatisevanāvasena. Yathā hi kusalo sūdo rañño bhuñjantassa yaṃ yaṃ ruccati, taṃ taṃ jānāti, evaṃ pakatiyā abhirucitārammaṇaṃ ñatvā tādiseyeva nimminanti, te tattha vasaṃ vattenti, methunasevanādivasena kāme paribhuñjanti. Keci pana ‘‘hasitamattena olokitamattena āliṅgitamattena hatthaggahaṇamattena ca tesaṃ kāmakiccaṃ ijjhatī’’ti vadanti, taṃ aṭṭhakathāyaṃ ‘‘etaṃ pana natthī’’ti paṭikkhittaṃ. Na hi kāyena aphusantassa phoṭṭhabbaṃ kāmakiccaṃ sādheti. Channampi kāmāvacaradevānaṃ kāmā pākatikā eva. Vuttañhetaṃ –
‘‘ฉ เอเต กามาวจรา, สพฺพกามสมิทฺธิโน;
‘‘Cha ete kāmāvacarā, sabbakāmasamiddhino;
สเพฺพสํ เอกสงฺขาตํ, อายุ ภวติ กิตฺตก’’นฺติฯ (วิภ. ๑๐๒๓);
Sabbesaṃ ekasaṅkhātaṃ, āyu bhavati kittaka’’nti. (vibha. 1023);
คาถาสุ เย จเญฺญติ เย ยถาวุตฺตเทเวหิ อเญฺญ จ กามโภคิโน มนุสฺสา เจว เอกเจฺจ อปายูปคา จ สเพฺพ เตฯ อิตฺถภาวญฺญถาภาวนฺติ อิมํ ยถาปฎิลทฺธตฺตภาวเญฺจว, อุปปตฺติภวนฺตรสงฺขาตํ อิโต อญฺญถาภาวญฺจาติ ทฺวิปฺปเภทํ สํสารํ นาติวตฺตเร น อติกฺกมนฺติฯ สเพฺพ ปริจฺจเช กาเมติ ทิพฺพาทิเภเท สเพฺพปิ กาเม วตฺถุกาเม จ กิเลสกาเม จ ปริจฺจเชยฺยฯ กิเลสกาเม อนาคามิมเคฺคน ปชหโนฺตเยว หิ วตฺถุกาเม ปริจฺจชติ นามฯ ปิยรูปสาตคธิตนฺติ ปิยรูเปสุ รูปาทีสุ สุขเวทนสฺสาเทน คธิตํ คิทฺธํฯ เฉตฺวา โสตํ ทุรจฺจยนฺติ อเญฺญหิ ทุรจฺจยํ ทุรติกฺกมํ ตณฺหาโสตํ อรหตฺตมเคฺคน สมุจฺฉินฺทิตฺวาฯ เสสํ เหฎฺฐา วุตฺตนยเมวาติฯ
Gāthāsu ye caññeti ye yathāvuttadevehi aññe ca kāmabhogino manussā ceva ekacce apāyūpagā ca sabbe te. Itthabhāvaññathābhāvanti imaṃ yathāpaṭiladdhattabhāvañceva, upapattibhavantarasaṅkhātaṃ ito aññathābhāvañcāti dvippabhedaṃ saṃsāraṃ nātivattare na atikkamanti. Sabbe pariccaje kāmeti dibbādibhede sabbepi kāme vatthukāme ca kilesakāme ca pariccajeyya. Kilesakāme anāgāmimaggena pajahantoyeva hi vatthukāme pariccajati nāma. Piyarūpasātagadhitanti piyarūpesu rūpādīsu sukhavedanassādena gadhitaṃ giddhaṃ. Chetvā sotaṃ duraccayanti aññehi duraccayaṃ duratikkamaṃ taṇhāsotaṃ arahattamaggena samucchinditvā. Sesaṃ heṭṭhā vuttanayamevāti.
ฉฎฺฐสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Chaṭṭhasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๖. กามูปปตฺติสุตฺตํ • 6. Kāmūpapattisuttaṃ