Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā |
๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา
4. Kāṇamātāsikkhāpadavaṇṇanā
๒๓๐. จตุตฺถสิกฺขาปเท – กาณมาตาติ กาณาย มาตาฯ สา กิรสฺสา ธีตา อภิรูปา อโหสิ, เย เย ตํ ปสฺสนฺติ, เต เต ราเคน กาณา โหนฺติ, ราคนฺธา โหนฺตีติ อโตฺถฯ ตสฺมา ปเรสํ กาณภาวกรณโต ‘‘กาณา’’ติ วิสฺสุตา อโหสิฯ ตสฺสา วเสน มาตาปิสฺสา ‘‘กาณมาตา’’ติ ปากฎา ชาตาฯ อาคตนฺติ อาคมนํฯ กิสฺมิํ วิยาติ กีทิสํ วิย; ลชฺชนกํ วิย โหตีติ อธิปฺปาโยฯ ริตฺตหตฺถํ คนฺตุนฺติ ริตฺตา หตฺถา อสฺมิํ คมเน ตทิทํ ริตฺตหตฺถํ, ตํ ริตฺตหตฺถํ คมนํ คนฺตุํ ลชฺชนกํ วิย โหตีติ วุตฺตํ โหติฯ ปริกฺขยํ อคมาสีติ อุปาสิกา อริยสาวิกา ภิกฺขู ทิสฺวา สนฺตํ อทาตุํ น สโกฺกติ, ตสฺมา ตาว ทาเปสิ, ยาว สพฺพํ ปริกฺขยํ อคมาสิฯ ธมฺมิยา กถายาติ เอตฺถ กาณาปิ มาตุ อตฺถาย เทสิยมานํ ธมฺมํ สุณนฺตี เทสนาปริโยสาเน โสตาปนฺนา อโหสิฯ อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามีติ อาสนโต อุฎฺฐหิตฺวา คโตฯ โสปิ ปุริโส ‘‘สตฺถา กิร กาณมาตาย นิเวสนํ อคมาสี’’ติ สุตฺวา กาณํ อาเนตฺวา ปกติฎฺฐาเนเยว ฐเปสิฯ
230. Catutthasikkhāpade – kāṇamātāti kāṇāya mātā. Sā kirassā dhītā abhirūpā ahosi, ye ye taṃ passanti, te te rāgena kāṇā honti, rāgandhā hontīti attho. Tasmā paresaṃ kāṇabhāvakaraṇato ‘‘kāṇā’’ti vissutā ahosi. Tassā vasena mātāpissā ‘‘kāṇamātā’’ti pākaṭā jātā. Āgatanti āgamanaṃ. Kismiṃ viyāti kīdisaṃ viya; lajjanakaṃ viya hotīti adhippāyo. Rittahatthaṃ gantunti rittā hatthā asmiṃ gamane tadidaṃ rittahatthaṃ, taṃ rittahatthaṃ gamanaṃ gantuṃ lajjanakaṃ viya hotīti vuttaṃ hoti. Parikkhayaṃ agamāsīti upāsikā ariyasāvikā bhikkhū disvā santaṃ adātuṃ na sakkoti, tasmā tāva dāpesi, yāva sabbaṃ parikkhayaṃ agamāsi. Dhammiyā kathāyāti ettha kāṇāpi mātu atthāya desiyamānaṃ dhammaṃ suṇantī desanāpariyosāne sotāpannā ahosi. Uṭṭhāyāsanā pakkāmīti āsanato uṭṭhahitvā gato. Sopi puriso ‘‘satthā kira kāṇamātāya nivesanaṃ agamāsī’’ti sutvā kāṇaṃ ānetvā pakatiṭṭhāneyeva ṭhapesi.
๒๓๑. อิมสฺมิํ ปน วตฺถุสฺมิํ อุปฺปนฺนมเตฺต อปฺปญฺญเตฺตเยว สิกฺขาปเท ปาเถยฺยวตฺถุ อุทปาทิ, ตสฺมา อนนฺตรเมว เจตํ ทเสฺสตุํ ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ โสปิ จ อุปาสโก อริยสาวกตฺตา สพฺพเมว ทาเปสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริกฺขยํ อคมาสี’’ติฯ
231. Imasmiṃ pana vatthusmiṃ uppannamatte appaññatteyeva sikkhāpade pātheyyavatthu udapādi, tasmā anantarameva cetaṃ dassetuṃ ‘‘tena kho pana samayenā’’tiādi vuttaṃ. Sopi ca upāsako ariyasāvakattā sabbameva dāpesi. Tena vuttaṃ – ‘‘parikkhayaṃ agamāsī’’ti.
๒๓๓. ยํกิญฺจิ ปเหณกตฺถายาติ ปณฺณาการตฺถาย ปฎิยตฺตํ ยํกิญฺจิ อติรสกโมทกสกฺขลิกาทิ สพฺพํ อิธ ปูโวเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉติฯ ยํกิญฺจิ ปาเถยฺยตฺถายาติ มคฺคํ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺคตฺถาย ปฎิยตฺตํ ยํกิญฺจิ พทฺธสตฺตุอพทฺธสตฺตุติลตณฺฑุลาทิ สพฺพํ อิธ มโนฺถเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉติฯ ตโต เจ อุตฺตรินฺติ สเจปิ ตติยํ ปตฺตํ ถูปีกตํ คณฺหาติ, ปูวคณนาย ปาจิตฺติยํฯ
233.Yaṃkiñci paheṇakatthāyāti paṇṇākāratthāya paṭiyattaṃ yaṃkiñci atirasakamodakasakkhalikādi sabbaṃ idha pūvotveva saṅkhyaṃ gacchati. Yaṃkiñcipātheyyatthāyāti maggaṃ gacchantānaṃ antarāmaggatthāya paṭiyattaṃ yaṃkiñci baddhasattuabaddhasattutilataṇḍulādi sabbaṃ idha manthotveva saṅkhyaṃ gacchati. Tato ce uttarinti sacepi tatiyaṃ pattaṃ thūpīkataṃ gaṇhāti, pūvagaṇanāya pācittiyaṃ.
ทฺวตฺติปตฺตปูเร ปฎิคฺคเหตฺวาติ มุขวฎฺฎิยา เหฎฺฐิมเลขาย สมปูเร ปเตฺต คเหตฺวาฯ อมุตฺร มยา ทฺวตฺติปตฺตปูราติ เอตฺถ สเจ เทฺว คหิตา, ‘‘อตฺร มยา เทฺว ปตฺตปูรา ปฎิคฺคหิตา, ตฺวํ เอกํ คเณฺหยฺยาสี’’ติ วตฺตพฺพํฯ เตนาปิ อญฺญํ ปสฺสิตฺวา ‘‘ปฐมํ อาคเตน เทฺว ปตฺตปูรา คหิตา, มยา เอโก, มา ตฺวํ คณฺหี’’ติ วตฺตพฺพํฯ เยน ปฐมํ เอโก คหิโต, ตสฺสาปิ ปรมฺปราโรจเน เอเสว นโยฯ เยน ปน สยเมว ตโย คหิตา, เตน อญฺญํ ทิสฺวา ‘‘มา โข เอตฺถ ปฎิคฺคณฺหิ’’ เจฺจว วตฺตพฺพํฯ ปฎิกฺกมนํ นีหริตฺวาติ อาสนสาลํ หริตฺวา, อาสนสาลํ คจฺฉเนฺตน จ ฉฑฺฑิตสาลา น คนฺตพฺพาฯ ยตฺถ มหา ภิกฺขุสโงฺฆ นิสีทติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํฯ มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ยา ลทฺธฎฺฐานโต อาสนฺนา อาสนสาลา, ตตฺถ คนฺตพฺพํฯ อตฺตโน ‘สนฺทิฎฺฐานํ วา สมฺภตฺตานํ วา เอกนิกายิกานํ วา ทสฺสามี’ติ อญฺญตฺถ คนฺตุํ น ลพฺภติฯ สเจ ปนสฺส นิพทฺธนิสีทนฎฺฐานํ โหติ, ทูรมฺปิ คนฺตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ
Dvattipattapūre paṭiggahetvāti mukhavaṭṭiyā heṭṭhimalekhāya samapūre patte gahetvā. Amutra mayā dvattipattapūrāti ettha sace dve gahitā, ‘‘atra mayā dve pattapūrā paṭiggahitā, tvaṃ ekaṃ gaṇheyyāsī’’ti vattabbaṃ. Tenāpi aññaṃ passitvā ‘‘paṭhamaṃ āgatena dve pattapūrā gahitā, mayā eko, mā tvaṃ gaṇhī’’ti vattabbaṃ. Yena paṭhamaṃ eko gahito, tassāpi paramparārocane eseva nayo. Yena pana sayameva tayo gahitā, tena aññaṃ disvā ‘‘mā kho ettha paṭiggaṇhi’’ cceva vattabbaṃ. Paṭikkamanaṃ nīharitvāti āsanasālaṃ haritvā, āsanasālaṃ gacchantena ca chaḍḍitasālā na gantabbā. Yattha mahā bhikkhusaṅgho nisīdati, tattha gantabbaṃ. Mahāpaccariyaṃ pana vuttaṃ ‘‘yā laddhaṭṭhānato āsannā āsanasālā, tattha gantabbaṃ. Attano ‘sandiṭṭhānaṃ vā sambhattānaṃ vā ekanikāyikānaṃ vā dassāmī’ti aññattha gantuṃ na labbhati. Sace panassa nibaddhanisīdanaṭṭhānaṃ hoti, dūrampi gantuṃ vaṭṭatī’’ti.
สํวิภชิตพฺพนฺติ สเจ ตโย ปตฺตปูรา คหิตา, เอกํ อตฺตโน ฐเปตฺวา เทฺว ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทาตพฺพาฯ สเจฺจ เทฺว คหิตา, เอกํ อตฺตโน ฐเปตฺวา เอโก สงฺฆสฺส ทาตโพฺพ, ยถามิตฺตํ ปน ทาตุํ น ลพฺภติฯ เยน เอโก คหิโต, น เตน กิญฺจิ อกามา ทาตพฺพํ, ยถารุจิ กาตพฺพํฯ
Saṃvibhajitabbanti sace tayo pattapūrā gahitā, ekaṃ attano ṭhapetvā dve bhikkhusaṅghassa dātabbā. Sacce dve gahitā, ekaṃ attano ṭhapetvā eko saṅghassa dātabbo, yathāmittaṃ pana dātuṃ na labbhati. Yena eko gahito, na tena kiñci akāmā dātabbaṃ, yathāruci kātabbaṃ.
๒๓๕. คมเน ปฎิปฺปสฺสเทฺธติ อนฺตรามเคฺค อุปทฺทวํ วา ทิสฺวา อนตฺถิกตาย วา ‘‘มยํ อิทานิ น เปสิสฺสาม, น คมิสฺสามา’’ติ เอวํ คมเน ปฎิปฺปสฺสเทฺธ อุปจฺฉิเนฺนฯ ญาตกานํ ปวาริตานนฺติ เอเตสํ พหุมฺปิ เทนฺตานํ ปฎิคฺคณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติฯ อฎฺฐกถาสุ ปน ‘‘เตสมฺปิ ปาเถยฺยปเหณกตฺถาย ปฎิยตฺตโต ปมาณเมว วฎฺฎตี’’ติ วุตฺตํฯ เสสํ อุตฺตานเมวฯ
235.Gamane paṭippassaddheti antarāmagge upaddavaṃ vā disvā anatthikatāya vā ‘‘mayaṃ idāni na pesissāma, na gamissāmā’’ti evaṃ gamane paṭippassaddhe upacchinne. Ñātakānaṃ pavāritānanti etesaṃ bahumpi dentānaṃ paṭiggaṇhantassa anāpatti. Aṭṭhakathāsu pana ‘‘tesampi pātheyyapaheṇakatthāya paṭiyattato pamāṇameva vaṭṭatī’’ti vuttaṃ. Sesaṃ uttānameva.
ฉสมุฎฺฐานํ – กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
Chasamuṭṭhānaṃ – kiriyaṃ, nosaññāvimokkhaṃ, acittakaṃ, paṇṇattivajjaṃ, kāyakammaṃ, vacīkammaṃ, ticittaṃ, tivedananti.
กาณมาตาสิกฺขาปทํ จตุตฺถํฯ
Kāṇamātāsikkhāpadaṃ catutthaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๔. โภชนวโคฺค • 4. Bhojanavaggo
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Kāṇamātāsikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Kāṇamātāsikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๔. กาณมาตาสิกฺขาปทวณฺณนา • 4. Kāṇamātāsikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๔. กาณมาตาสิกฺขาปทํ • 4. Kāṇamātāsikkhāpadaṃ