Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๑๐. กณฺหทินฺนเตฺถรคาถาวณฺณนา
10. Kaṇhadinnattheragāthāvaṇṇanā
อุปาสิตา สปฺปุริสาติ อายสฺมโต กณฺหทินฺนเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต อิโต จตุนวุเต กเปฺป กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต เอกทิวสํ โสภิตํ นาม ปเจฺจกพุทฺธํ ทิสฺวา ปสนฺนจิโตฺต ปุนฺนาคปุเปฺผหิ ปูชํ อกาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา กณฺหทิโนฺนติ ลทฺธนาโม วยปฺปโตฺต อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา โจทิยมาโน ธมฺมเสนาปติํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๔๘.๖๑-๖๕) –
Upāsitāsappurisāti āyasmato kaṇhadinnattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto ito catunavute kappe kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto ekadivasaṃ sobhitaṃ nāma paccekabuddhaṃ disvā pasannacitto punnāgapupphehi pūjaṃ akāsi. So tena puññakammena devamanussesu saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde rājagahe brāhmaṇakule nibbattitvā kaṇhadinnoti laddhanāmo vayappatto upanissayasampattiyā codiyamāno dhammasenāpatiṃ upasaṅkamitvā dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā vipassanaṃ vaḍḍhetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.48.61-65) –
‘‘โสภิโต นาม สมฺพุโทฺธ, จิตฺตกูเฎ วสี ตทา;
‘‘Sobhito nāma sambuddho, cittakūṭe vasī tadā;
คเหตฺวา คิริปุนฺนาคํ, สยมฺภุํ อภิปูชยิํฯ
Gahetvā giripunnāgaṃ, sayambhuṃ abhipūjayiṃ.
‘‘จตุนฺนวุติโต กเปฺป, ยํ พุทฺธมภิปูชยิํ;
‘‘Catunnavutito kappe, yaṃ buddhamabhipūjayiṃ;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –
Arahattaṃ pana patvā aññaṃ byākaronto –
๑๗๙.
179.
‘‘อุปาสิตา สปฺปุริสา, สุตา ธมฺมา อภิณฺหโส;
‘‘Upāsitā sappurisā, sutā dhammā abhiṇhaso;
สุตฺวาน ปฎิปชฺชิสฺสํ, อญฺชสํ อมโตคธํฯ
Sutvāna paṭipajjissaṃ, añjasaṃ amatogadhaṃ.
๑๘๐.
180.
‘‘ภวราคหตสฺส เม สโต, ภวราโค ปุน เม น วิชฺชติ;
‘‘Bhavarāgahatassa me sato, bhavarāgo puna me na vijjati;
น จาหุ น จ เม ภวิสฺสติ, น จ เม เอตรหิ วิชฺชตี’’ติฯ –
Na cāhu na ca me bhavissati, na ca me etarahi vijjatī’’ti. –
คาถาทฺวยํ อภาสิฯ
Gāthādvayaṃ abhāsi.
ตตฺถ อุปาสิตาติ ปริจริตา ปฎิปตฺติปยิรุปาสนาย ปยิรุปาสิตาฯ สปฺปุริสาติ สเนฺตหิ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคตา ปุริสา, อริยปุคฺคลา สาริปุตฺตเตฺถราทโยฯ เอเตน ปุริมจกฺกทฺวยสมฺปตฺติมตฺตโน ทเสฺสติฯ น หิ ปติรูปเทสวาเสน วินา สปฺปุริสูปนิสฺสโย สมฺภวติฯ สุตา ธมฺมาติ สจฺจปฎิจฺจสมุปฺปาทาทิปฎิสํยุตฺตธมฺมา โสตทฺวารานุสาเรน อุปธาริตาฯ เอเตน อตฺตโน พาหุสจฺจํ ทเสฺสโนฺต ปจฺฉิมจกฺกทฺวยสมฺปตฺติํ ทเสฺสติฯ อภิณฺหโสติ พหุโส น กาเลน กาลํฯ อิทญฺจ ปทํ ‘‘อุปาสิตา สปฺปุริสา’’ติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺพํฯ สุตฺวาน ปฎิปชฺชิสฺสํ, อญฺชสํ อมโตคธนฺติ เต ธเมฺม สุตฺวา ตตฺถ วุตฺตรูปารูปธเมฺม สลกฺขณาทิโต ปริคฺคเหตฺวา อนุกฺกเมน วิปสฺสนํ วเฑฺฒตฺวา อมโตคธํ นิพฺพานปติฎฺฐํ ตํสมฺปาปกํ อญฺชสํ อริยํ อฎฺฐงฺคิกํ มคฺคํ ปฎิปชฺชิํ ปาปุณิํฯ
Tattha upāsitāti paricaritā paṭipattipayirupāsanāya payirupāsitā. Sappurisāti santehi sīlādiguṇehi samannāgatā purisā, ariyapuggalā sāriputtattherādayo. Etena purimacakkadvayasampattimattano dasseti. Na hi patirūpadesavāsena vinā sappurisūpanissayo sambhavati. Sutā dhammāti saccapaṭiccasamuppādādipaṭisaṃyuttadhammā sotadvārānusārena upadhāritā. Etena attano bāhusaccaṃ dassento pacchimacakkadvayasampattiṃ dasseti. Abhiṇhasoti bahuso na kālena kālaṃ. Idañca padaṃ ‘‘upāsitā sappurisā’’ti etthāpi yojetabbaṃ. Sutvāna paṭipajjissaṃ, añjasaṃ amatogadhanti te dhamme sutvā tattha vuttarūpārūpadhamme salakkhaṇādito pariggahetvā anukkamena vipassanaṃ vaḍḍhetvā amatogadhaṃ nibbānapatiṭṭhaṃ taṃsampāpakaṃ añjasaṃ ariyaṃ aṭṭhaṅgikaṃ maggaṃ paṭipajjiṃ pāpuṇiṃ.
ภวราคหตสฺส เม สโตติ ภวราเคน ภวตณฺหาย อนาทิมติ สํสาเร หตสฺส อุปทฺทุตสฺส มม สโต สมานสฺส, อคฺคมเคฺคน วา หตภวราคสฺสฯ ภวราโค ปุน เม น วิชฺชตีติ ตโต เอว ปุน อิทานิ ภวราโค เม นตฺถิฯ น จาหุ น เม ภวิสฺสติ, น จ เม เอตรหิ วิชฺชตีติ ยทิปิ ปุเพฺพ ปุถุชฺชนกาเล เสกฺขกาเล จ เม ภวราโค อโหสิ, อคฺคมคฺคปฺปตฺติโต ปน ปฎฺฐาย น จาหุ น จ อโหสิ, อายติมฺปิ น เม ภวิสฺสติ, เอตรหิ อธุนาปิ น จ เม วิชฺชติ น จ อุปลพฺภติ, ปหีโนติ อโตฺถฯ ภวราควจเนเนว เจตฺถ ตเทกฎฺฐตาย มานาทีนมฺปิ อภาโว วุโตฺตติ สพฺพโส ปริกฺขีณภวสํโยชนตํ ทเสฺสติฯ
Bhavarāgahatassame satoti bhavarāgena bhavataṇhāya anādimati saṃsāre hatassa upaddutassa mama sato samānassa, aggamaggena vā hatabhavarāgassa. Bhavarāgo puna me na vijjatīti tato eva puna idāni bhavarāgo me natthi. Na cāhu na me bhavissati, na ca me etarahi vijjatīti yadipi pubbe puthujjanakāle sekkhakāle ca me bhavarāgo ahosi, aggamaggappattito pana paṭṭhāya na cāhu na ca ahosi, āyatimpi na me bhavissati, etarahi adhunāpi na ca me vijjati na ca upalabbhati, pahīnoti attho. Bhavarāgavacaneneva cettha tadekaṭṭhatāya mānādīnampi abhāvo vuttoti sabbaso parikkhīṇabhavasaṃyojanataṃ dasseti.
กณฺหทินฺนเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kaṇhadinnattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Tatiyavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑๐. กณฺหทินฺนเตฺถรคาถา • 10. Kaṇhadinnattheragāthā