Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi |
๖. กณฺหเปตวตฺถุ
6. Kaṇhapetavatthu
๒๐๗.
207.
‘‘อุเฎฺฐหิ กณฺห กิํ เสสิ, โก อโตฺถ สุปเนน เต;
‘‘Uṭṭhehi kaṇha kiṃ sesi, ko attho supanena te;
โย จ ตุยฺหํ สโก ภาตา, หทยํ จกฺขุ จ 1 ทกฺขิณํ;
Yo ca tuyhaṃ sako bhātā, hadayaṃ cakkhu ca 2 dakkhiṇaṃ;
๒๐๘.
208.
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, โรหิเณยฺยสฺส เกสโว;
‘‘Tassa taṃ vacanaṃ sutvā, rohiṇeyyassa kesavo;
ตรมานรูโป วุฎฺฐาสิ, ภาตุโสเกน อฎฺฎิโตฯ
Taramānarūpo vuṭṭhāsi, bhātusokena aṭṭito.
๒๐๙.
209.
‘‘กิํ นุ อุมฺมตฺตรูโปว, เกวลํ ทฺวารกํ อิมํ;
‘‘Kiṃ nu ummattarūpova, kevalaṃ dvārakaṃ imaṃ;
สโส สโสติ ลปสิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสิฯ
Saso sasoti lapasi, kīdisaṃ sasamicchasi.
๒๑๐.
210.
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหมยํ อถ รูปิยมยํ;
‘‘Sovaṇṇamayaṃ maṇimayaṃ, lohamayaṃ atha rūpiyamayaṃ;
สงฺขสิลาปวาฬมยํ, การยิสฺสามิ เต สสํฯ
Saṅkhasilāpavāḷamayaṃ, kārayissāmi te sasaṃ.
๒๑๑.
211.
‘‘สนฺติ อเญฺญปิ สสกา, อรญฺญวนโคจรา;
‘‘Santi aññepi sasakā, araññavanagocarā;
เตปิ เต อานยิสฺสามิ, กีทิสํ สสมิจฺฉสี’’ติฯ
Tepi te ānayissāmi, kīdisaṃ sasamicchasī’’ti.
๒๑๒.
212.
‘‘นาหเมเต สเส อิเจฺฉ, เย สสา ปถวิสฺสิตา;
‘‘Nāhamete sase icche, ye sasā pathavissitā;
จนฺทโต สสมิจฺฉามิ, ตํ เม โอหร เกสวา’’ติฯ
Candato sasamicchāmi, taṃ me ohara kesavā’’ti.
๒๑๓.
213.
‘‘โส นูน มธุรํ ญาติ, ชีวิตํ วิชหิสฺสสิ;
‘‘So nūna madhuraṃ ñāti, jīvitaṃ vijahissasi;
อปตฺถิยํ ปตฺถยสิ, จนฺทโต สสมิจฺฉสี’’ติฯ
Apatthiyaṃ patthayasi, candato sasamicchasī’’ti.
๒๑๔.
214.
‘‘เอวํ เจ กณฺห ชานาสิ, ยถญฺญมนุสาสสิ;
‘‘Evaṃ ce kaṇha jānāsi, yathaññamanusāsasi;
กสฺมา ปุเร มตํ ปุตฺตํ, อชฺชาปิ มนุโสจสิฯ
Kasmā pure mataṃ puttaṃ, ajjāpi manusocasi.
๒๑๕.
215.
‘‘น ยํ ลพฺภา มนุเสฺสน, อมนุเสฺสน วา ปน;
‘‘Na yaṃ labbhā manussena, amanussena vā pana;
ชาโต เม มา มริ ปุโตฺต, กุโต ลพฺภา อลพฺภิยํฯ
Jāto me mā mari putto, kuto labbhā alabbhiyaṃ.
๒๑๖.
216.
‘‘น มนฺตา มูลเภสชฺชา, โอสเธหิ ธเนน วา;
‘‘Na mantā mūlabhesajjā, osadhehi dhanena vā;
สกฺกา อานยิตุํ กณฺห, ยํ เปตมนุโสจสิฯ
Sakkā ānayituṃ kaṇha, yaṃ petamanusocasi.
๒๑๗.
217.
‘‘มหทฺธนา มหาโภคา, รฎฺฐวโนฺตปิ ขตฺติยา;
‘‘Mahaddhanā mahābhogā, raṭṭhavantopi khattiyā;
๒๑๘.
218.
‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
‘‘Khattiyā brāhmaṇā vessā, suddā caṇḍālapukkusā;
เอเต จเญฺญ จ ชาติยา, เตปิ โน อชรามราฯ
Ete caññe ca jātiyā, tepi no ajarāmarā.
๒๑๙.
219.
‘‘เย มนฺตํ ปริวเตฺตนฺติ, ฉฬงฺคํ พฺรหฺมจินฺติตํ;
‘‘Ye mantaṃ parivattenti, chaḷaṅgaṃ brahmacintitaṃ;
เอเต จเญฺญ จ วิชฺชาย, เตปิ โน อชรามราฯ
Ete caññe ca vijjāya, tepi no ajarāmarā.
๒๒๐.
220.
สรีรํ เตปิ กาเลน, วิชหนฺติ ตปสฺสิโนฯ
Sarīraṃ tepi kālena, vijahanti tapassino.
๒๒๑.
221.
‘‘ภาวิตตฺตา อรหโนฺต, กตกิจฺจา อนาสวา;
‘‘Bhāvitattā arahanto, katakiccā anāsavā;
นิกฺขิปนฺติ อิมํ เทหํ, ปุญฺญปาปปริกฺขยา’’ติฯ
Nikkhipanti imaṃ dehaṃ, puññapāpaparikkhayā’’ti.
๒๒๒.
222.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
‘‘Ādittaṃ vata maṃ santaṃ, ghatasittaṃva pāvakaṃ;
วารินา วิย โอสิญฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํฯ
Vārinā viya osiñcaṃ, sabbaṃ nibbāpaye daraṃ.
๒๒๓.
223.
‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, โสกํ หทยนิสฺสิตํ;
‘‘Abbahī vata me sallaṃ, sokaṃ hadayanissitaṃ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิฯ
Yo me sokaparetassa, puttasokaṃ apānudi.
๒๒๔.
224.
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสโลฺลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
‘‘Svāhaṃ abbūḷhasallosmi, sītibhūtosmi nibbuto;
๒๒๕.
225.
เอวํ กโรนฺติ สปฺปญฺญา, เย โหนฺติ อนุกมฺปกา;
Evaṃ karonti sappaññā, ye honti anukampakā;
นิวตฺตยนฺติ โสกมฺหา, ฆโฎ เชฎฺฐํว ภาตรํฯ
Nivattayanti sokamhā, ghaṭo jeṭṭhaṃva bhātaraṃ.
๒๒๖.
226.
ยสฺส เอตาทิสา โหนฺติ, อมจฺจา ปริจารกา;
Yassa etādisā honti, amaccā paricārakā;
สุภาสิเตน อเนฺวนฺติ, ฆโฎ เชฎฺฐํว ภาตรนฺติฯ
Subhāsitena anventi, ghaṭo jeṭṭhaṃva bhātaranti.
กณฺหเปตวตฺถุ ฉฎฺฐํฯ
Kaṇhapetavatthu chaṭṭhaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๖. กณฺหเปตวตฺถุวณฺณนา • 6. Kaṇhapetavatthuvaṇṇanā