Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๒. กเงฺขยฺยสุตฺตํ
2. Kaṅkheyyasuttaṃ
๙๘๘. เอกํ สมยํ อายสฺมา โลมสกํภิโย 1 สเกฺกสุ วิหรติ กปิลวตฺถุสฺมิํ นิโคฺรธาราเมฯ อถ โข มหานาโม สโกฺก เยนายสฺมา โลมสกํภิโย เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ โลมสกํภิยํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข มหานาโม สโกฺก อายสฺมนฺตํ โลมสกํภิยํ เอตทโวจ – ‘‘โส เอว นุ โข, ภเนฺต, เสโข วิหาโร โส ตถาคตวิหาโร, อุทาหุ อโญฺญว 2 เสโข วิหาโร อโญฺญ ตถาคตวิหาโร’’ติ?
988. Ekaṃ samayaṃ āyasmā lomasakaṃbhiyo 3 sakkesu viharati kapilavatthusmiṃ nigrodhārāme. Atha kho mahānāmo sakko yenāyasmā lomasakaṃbhiyo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmantaṃ lomasakaṃbhiyaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho mahānāmo sakko āyasmantaṃ lomasakaṃbhiyaṃ etadavoca – ‘‘so eva nu kho, bhante, sekho vihāro so tathāgatavihāro, udāhu aññova 4 sekho vihāro añño tathāgatavihāro’’ti?
‘‘น โข, อาวุโส มหานาม, เสฺวว เสโข วิหาโร, โส ตถาคตวิหาโรฯ อโญฺญ โข, อาวุโส มหานาม, เสโข วิหาโร, อโญฺญ ตถาคตวิหาโรฯ เย เต, อาวุโส มหานาม, ภิกฺขู เสขา อปฺปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคเกฺขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ, เต ปญฺจ นีวรเณ ปหาย วิหรนฺติฯ กตเม ปญฺจ? กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปหาย วิหรนฺติ, พฺยาปาทนีวรณํ…เป.… ถินมิทฺธนีวรณํ…เป.… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ…เป.… วิจิกิจฺฉานีวรณํ ปหาย วิหรนฺติฯ
‘‘Na kho, āvuso mahānāma, sveva sekho vihāro, so tathāgatavihāro. Añño kho, āvuso mahānāma, sekho vihāro, añño tathāgatavihāro. Ye te, āvuso mahānāma, bhikkhū sekhā appattamānasā anuttaraṃ yogakkhemaṃ patthayamānā viharanti, te pañca nīvaraṇe pahāya viharanti. Katame pañca? Kāmacchandanīvaraṇaṃ pahāya viharanti, byāpādanīvaraṇaṃ…pe… thinamiddhanīvaraṇaṃ…pe… uddhaccakukkuccanīvaraṇaṃ…pe… vicikicchānīvaraṇaṃ pahāya viharanti.
‘‘เยปิ เต, อาวุโส มหานาม, ภิกฺขู เสขา อปฺปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคเกฺขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ, เต อิเม ปญฺจ นีวรเณ ปหาย วิหรนฺติฯ
‘‘Yepi te, āvuso mahānāma, bhikkhū sekhā appattamānasā anuttaraṃ yogakkhemaṃ patthayamānā viharanti, te ime pañca nīvaraṇe pahāya viharanti.
‘‘เย จ โข เต, อาวุโส มหานาม, ภิกฺขู อรหโนฺต ขีณาสวา วุสิตวโนฺต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทญฺญา วิมุตฺตา, เตสํ ปญฺจ นีวรณา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา 5 อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ กตเม ปญฺจ? กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํ; พฺยาปาทนีวรณํ ปหีนํ…เป.… ถินมิทฺธนีวรณํ…เป.… อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ…เป.… วิจิกิจฺฉานีวรณํ ปหีนํ อุจฺฉินฺนมูลํ ตาลาวตฺถุกตํ อนภาวํกตํ อายติํ อนุปฺปาทธมฺมํฯ
‘‘Ye ca kho te, āvuso mahānāma, bhikkhū arahanto khīṇāsavā vusitavanto katakaraṇīyā ohitabhārā anuppattasadatthā parikkhīṇabhavasaṃyojanā sammadaññā vimuttā, tesaṃ pañca nīvaraṇā pahīnā ucchinnamūlā tālāvatthukatā anabhāvaṃkatā 6 āyatiṃ anuppādadhammā. Katame pañca? Kāmacchandanīvaraṇaṃ pahīnaṃ ucchinnamūlaṃ tālāvatthukataṃ anabhāvaṃkataṃ āyatiṃ anuppādadhammaṃ; byāpādanīvaraṇaṃ pahīnaṃ…pe… thinamiddhanīvaraṇaṃ…pe… uddhaccakukkuccanīvaraṇaṃ…pe… vicikicchānīvaraṇaṃ pahīnaṃ ucchinnamūlaṃ tālāvatthukataṃ anabhāvaṃkataṃ āyatiṃ anuppādadhammaṃ.
‘‘เย เต, อาวุโส มหานาม, ภิกฺขู อรหโนฺต ขีณาสวา วุสิตวโนฺต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทญฺญา วิมุตฺตา, เตสํ อิเม ปญฺจ นีวรณา ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ ตทมินาเปตํ, อาวุโส มหานาม, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา – อโญฺญว เสโข วิหาโร, อโญฺญ ตถาคตวิหาโรฯ
‘‘Ye te, āvuso mahānāma, bhikkhū arahanto khīṇāsavā vusitavanto katakaraṇīyā ohitabhārā anuppattasadatthā parikkhīṇabhavasaṃyojanā sammadaññā vimuttā, tesaṃ ime pañca nīvaraṇā pahīnā ucchinnamūlā tālāvatthukatā anabhāvaṃkatā āyatiṃ anuppādadhammā. Tadamināpetaṃ, āvuso mahānāma, pariyāyena veditabbaṃ yathā – aññova sekho vihāro, añño tathāgatavihāro.
‘‘เอกมิทํ, อาวุโส มหานาม, สมยํ ภควา อิจฺฉานงฺคเล วิหรติ อิจฺฉานงฺคลวนสเณฺฑฯ ตตฺร โข, อาวุโส มหานาม, ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, เตมาสํ ปฎิสลฺลียิตุํฯ นามฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตโพฺพ, อญฺญตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนา’ติฯ ‘เอวํ, ภเนฺต’ติ โข, อาวุโส มหานาม, เต ภิกฺขู ภควโต ปฎิสฺสุตฺวา นาสฺสุธ โกจิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมติ, อญฺญตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนฯ
‘‘Ekamidaṃ, āvuso mahānāma, samayaṃ bhagavā icchānaṅgale viharati icchānaṅgalavanasaṇḍe. Tatra kho, āvuso mahānāma, bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘icchāmahaṃ, bhikkhave, temāsaṃ paṭisallīyituṃ. Nāmhi kenaci upasaṅkamitabbo, aññatra ekena piṇḍapātanīhārakenā’ti. ‘Evaṃ, bhante’ti kho, āvuso mahānāma, te bhikkhū bhagavato paṭissutvā nāssudha koci bhagavantaṃ upasaṅkamati, aññatra ekena piṇḍapātanīhārakena.
‘‘อถ โข, อาวุโส, ภควา ตสฺส เตมาสสฺส อจฺจเยน ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘สเจ โข, ภิกฺขเว, อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ ปุเจฺฉยฺยุํ – กตเมนาวุโส, วิหาเรน สมโณ โคตโม วสฺสาวาสํ พหุลํ วิหาสีติ, เอวํ ปุฎฺฐา ตุเมฺห, ภิกฺขเว, เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ พฺยากเรยฺยาถ – อานาปานสฺสติสมาธินา โข, อาวุโส, ภควา วสฺสาวาสํ พหุลํ วิหาสีติฯ อิธาหํ, ภิกฺขเว , สโต อสฺสสามิ, สโต ปสฺสสามิฯ ทีฆํ อสฺสสโนฺต ทีฆํ อสฺสสามีติ ปชานามิ, ทีฆํ ปสฺสสโนฺต ทีฆํ ปสฺสสามีติ ปชานามิ…เป.… ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามีติ ปชานามิ, ปฎินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ ปชานามิ’’ฯ
‘‘Atha kho, āvuso, bhagavā tassa temāsassa accayena paṭisallānā vuṭṭhito bhikkhū āmantesi – ‘sace kho, bhikkhave, aññatitthiyā paribbājakā evaṃ puccheyyuṃ – katamenāvuso, vihārena samaṇo gotamo vassāvāsaṃ bahulaṃ vihāsīti, evaṃ puṭṭhā tumhe, bhikkhave, tesaṃ aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ byākareyyātha – ānāpānassatisamādhinā kho, āvuso, bhagavā vassāvāsaṃ bahulaṃ vihāsīti. Idhāhaṃ, bhikkhave , sato assasāmi, sato passasāmi. Dīghaṃ assasanto dīghaṃ assasāmīti pajānāmi, dīghaṃ passasanto dīghaṃ passasāmīti pajānāmi…pe… paṭinissaggānupassī assasissāmīti pajānāmi, paṭinissaggānupassī passasissāmī’ti pajānāmi’’.
‘‘ยญฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อริยวิหาโร อิติปิ, พฺรหฺมวิหาโร อิติปิ, ตถาคตวิหาโร อิติปิฯ อานาปานสฺสติสมาธิํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อริยวิหาโร อิติปิ, พฺรหฺมวิหาโร อิติปิ, ตถาคตวิหาโร อิติปิฯ
‘‘Yañhi taṃ, bhikkhave, sammā vadamāno vadeyya – ariyavihāro itipi, brahmavihāro itipi, tathāgatavihāro itipi. Ānāpānassatisamādhiṃ sammā vadamāno vadeyya – ariyavihāro itipi, brahmavihāro itipi, tathāgatavihāro itipi.
‘‘เย เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เสขา อปฺปตฺตมานสา อนุตฺตรํ โยคเกฺขมํ ปตฺถยมานา วิหรนฺติ, เตสํ อานาปานสฺสติสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต อาสวานํ ขยาย สํวตฺตติฯ
‘‘Ye te, bhikkhave, bhikkhū sekhā appattamānasā anuttaraṃ yogakkhemaṃ patthayamānā viharanti, tesaṃ ānāpānassatisamādhi bhāvito bahulīkato āsavānaṃ khayāya saṃvattati.
‘‘เย จ โข เต, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อรหโนฺต ขีณาสวา วุสิตวโนฺต กตกรณียา โอหิตภารา อนุปฺปตฺตสทตฺถา ปริกฺขีณภวสํโยชนา สมฺมทญฺญา วิมุตฺตา, เตสํ อานาปานสฺสติสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต ทิเฎฺฐว ธเมฺม สุขวิหาราย เจว สํวตฺตติ สติสมฺปชญฺญาย จฯ
‘‘Ye ca kho te, bhikkhave, bhikkhū arahanto khīṇāsavā vusitavanto katakaraṇīyā ohitabhārā anuppattasadatthā parikkhīṇabhavasaṃyojanā sammadaññā vimuttā, tesaṃ ānāpānassatisamādhi bhāvito bahulīkato diṭṭheva dhamme sukhavihārāya ceva saṃvattati satisampajaññāya ca.
‘‘ยญฺหิ ตํ, ภิกฺขเว, สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อริยวิหาโร อิติปิ, พฺรหฺมวิหาโร อิติปิ, ตถาคตวิหาโร อิติปิฯ อานาปานสฺสติสมาธิํ สมฺมา วทมาโน วเทยฺย – อริยวิหาโร อิติปิ, พฺรหฺมวิหาโร อิติปิ, ตถาคตวิหาโร อิติปี’’ติฯ ‘‘อิมินา โข เอตํ, อาวุโส มหานาม, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ, ยถา – อโญฺญว เสโข วิหาโร, อโญฺญ ตถาคตวิหาโร’’ติฯ ทุติยํฯ
‘‘Yañhi taṃ, bhikkhave, sammā vadamāno vadeyya – ariyavihāro itipi, brahmavihāro itipi, tathāgatavihāro itipi. Ānāpānassatisamādhiṃ sammā vadamāno vadeyya – ariyavihāro itipi, brahmavihāro itipi, tathāgatavihāro itipī’’ti. ‘‘Iminā kho etaṃ, āvuso mahānāma, pariyāyena veditabbaṃ, yathā – aññova sekho vihāro, añño tathāgatavihāro’’ti. Dutiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑-๒. อิจฺฉานงฺคลสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-2. Icchānaṅgalasuttādivaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๑-๒. อิจฺฉานงฺคลสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-2. Icchānaṅgalasuttādivaṇṇanā