Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi |
๑๒. กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ
12. Kaṇṇamuṇḍapetivatthu
๓๔๘.
348.
‘‘โสณฺณโสปานผลกา , โสณฺณวาลุกสนฺถตา;
‘‘Soṇṇasopānaphalakā , soṇṇavālukasanthatā;
ตตฺถ โสคนฺธิยา วคฺคู, สุจิคนฺธา มโนรมาฯ
Tattha sogandhiyā vaggū, sucigandhā manoramā.
๓๔๙.
349.
‘‘นานารุเกฺขหิ สญฺฉนฺนา, นานาคนฺธสเมริตา;
‘‘Nānārukkhehi sañchannā, nānāgandhasameritā;
๓๕๐.
350.
‘‘สุรภิํ สมฺปวายนฺติ, มนุญฺญา มาลุเตริตา;
‘‘Surabhiṃ sampavāyanti, manuññā māluteritā;
หํสโกญฺจาภิรุทา จ, จกฺกวกฺกาภิกูชิตาฯ
Haṃsakoñcābhirudā ca, cakkavakkābhikūjitā.
๓๕๑.
351.
‘‘นานาทิชคณากิณฺณา , นานาสรคณายุตา;
‘‘Nānādijagaṇākiṇṇā , nānāsaragaṇāyutā;
นานาผลธรา รุกฺขา, นานาปุปฺผธรา วนาฯ
Nānāphaladharā rukkhā, nānāpupphadharā vanā.
๓๕๒.
352.
‘‘น มนุเสฺสสุ อีทิสํ, นครํ ยาทิสํ อิทํ;
‘‘Na manussesu īdisaṃ, nagaraṃ yādisaṃ idaṃ;
ปาสาทา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;
Pāsādā bahukā tuyhaṃ, sovaṇṇarūpiyāmayā;
๓๕๓.
353.
‘‘ปญฺจ ทาสิสตา ตุยฺหํ, ยา เตมา ปริจาริกา;
‘‘Pañca dāsisatā tuyhaṃ, yā temā paricārikā;
๓๕๔.
354.
‘‘ปลฺลงฺกา พหุกา ตุยฺหํ, โสวณฺณรูปิยามยา;
‘‘Pallaṅkā bahukā tuyhaṃ, sovaṇṇarūpiyāmayā;
๓๕๕.
355.
‘‘ยตฺถ ตฺวํ วาสูปคตา, สพฺพกามสมิทฺธินี;
‘‘Yattha tvaṃ vāsūpagatā, sabbakāmasamiddhinī;
๓๕๖.
356.
‘‘อุยฺยานภูมิํ คนฺตฺวาน, โปกฺขรญฺญา สมนฺตโต;
‘‘Uyyānabhūmiṃ gantvāna, pokkharaññā samantato;
ตสฺสา ตีเร ตุวํ ฐาสิ, หริเต สทฺทเล สุเภฯ
Tassā tīre tuvaṃ ṭhāsi, harite saddale subhe.
๓๕๗.
357.
‘‘ตโต เต กณฺณมุโณฺฑ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติ;
‘‘Tato te kaṇṇamuṇḍo sunakho, aṅgamaṅgāni khādati;
ยทา จ ขายิตา อาสิ, อฎฺฐิสงฺขลิกา กตา;
Yadā ca khāyitā āsi, aṭṭhisaṅkhalikā katā;
โอคาหสิ โปกฺขรณิํ, โหติ กาโย ยถา ปุเรฯ
Ogāhasi pokkharaṇiṃ, hoti kāyo yathā pure.
๓๕๘.
358.
วเตฺถน ปารุปิตฺวาน, อายาสิ มม สนฺติกํฯ
Vatthena pārupitvāna, āyāsi mama santikaṃ.
๓๕๙.
359.
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฎํ กตํ;
‘‘Kiṃ nu kāyena vācāya, manasā dukkaṭaṃ kataṃ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, กณฺณมุโณฺฑ สุนโข ตวองฺคมงฺคานิ ขาทตี’’ติฯ
Kissa kammavipākena, kaṇṇamuṇḍo sunakho tavaaṅgamaṅgāni khādatī’’ti.
๓๖๐.
360.
ตสฺสาหํ ภริยา อาสิํ, ทุสฺสีลา อติจารินีฯ
Tassāhaṃ bhariyā āsiṃ, dussīlā aticārinī.
๓๖๑.
361.
๓๖๒.
362.
‘‘สาหํ โฆรญฺจ สปถํ, มุสาวาทญฺจ ภาสิสํ;
‘‘Sāhaṃ ghorañca sapathaṃ, musāvādañca bhāsisaṃ;
‘นาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสาฯ
‘Nāhaṃ taṃ aticarāmi, kāyena uda cetasā.
๓๖๓.
363.
‘‘‘สจาหํ ตํ อติจรามิ, กาเยน อุท เจตสา;
‘‘‘Sacāhaṃ taṃ aticarāmi, kāyena uda cetasā;
กณฺณมุโณฺฑ ยํ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทตุ’ฯ
Kaṇṇamuṇḍo yaṃ sunakho, aṅgamaṅgāni khādatu’.
๓๖๔.
364.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส วิปากํ, มุสาวาทสฺส จูภยํ;
‘‘Tassa kammassa vipākaṃ, musāvādassa cūbhayaṃ;
สเตฺตว วสฺสสตานิ, อนุภูตํ ยโต หิ เม;
Satteva vassasatāni, anubhūtaṃ yato hi me;
กณฺณมุโณฺฑ จ สุนโข, องฺคมงฺคานิ ขาทติฯ
Kaṇṇamuṇḍo ca sunakho, aṅgamaṅgāni khādati.
๓๖๕.
365.
‘‘ตฺวญฺจ เทว พหุกาโร, อตฺถาย เม อิธาคโต;
‘‘Tvañca deva bahukāro, atthāya me idhāgato;
สุมุตฺตาหํ กณฺณมุณฺฑสฺส, อโสกา อกุโตภยาฯ
Sumuttāhaṃ kaṇṇamuṇḍassa, asokā akutobhayā.
๓๖๖.
366.
‘‘ตาหํ เทว นมสฺสามิ, ยาจามิ ปญฺชลีกตา;
‘‘Tāhaṃ deva namassāmi, yācāmi pañjalīkatā;
ภุญฺช อมานุเส กาเม, รม เทว มยา สหา’’ติฯ
Bhuñja amānuse kāme, rama deva mayā sahā’’ti.
๓๖๗.
367.
‘‘ภุตฺตา อมานุสา กามา, รมิโตมฺหิ ตยา สห;
‘‘Bhuttā amānusā kāmā, ramitomhi tayā saha;
ตาหํ สุภเค ยาจามิ, ขิปฺปํ ปฎินยาหิ ม’’นฺติฯ
Tāhaṃ subhage yācāmi, khippaṃ paṭinayāhi ma’’nti.
กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุ ทฺวาทสมํฯ
Kaṇṇamuṇḍapetivatthu dvādasamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๑๒. กณฺณมุณฺฑเปติวตฺถุวณฺณนา • 12. Kaṇṇamuṇḍapetivatthuvaṇṇanā