Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๒๕๐] ๑๐. กปิชาตกวณฺณนา

    [250] 10. Kapijātakavaṇṇanā

    อยํ อิสี อุปสมสํยเม รโตติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ กุหกํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตสฺส หิ กุหกภาโว ภิกฺขูสุ ปากโฎ ชาโตฯ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อสุโก ภิกฺขุ นิยฺยานิเก พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา กุหกวตฺตํ ปูเรตี’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว , เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, เอส ภิกฺขุ อิทาเนว, ปุเพฺพปิ กุหโกเยว, อคฺคิมตฺตสฺส การณา มกฺกโฎ หุตฺวา โกหญฺญมกาสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Ayaṃ isī upasamasaṃyame ratoti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ kuhakaṃ bhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tassa hi kuhakabhāvo bhikkhūsu pākaṭo jāto. Bhikkhū dhammasabhāyaṃ kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ – ‘‘āvuso, asuko bhikkhu niyyānike buddhasāsane pabbajitvā kuhakavattaṃ pūretī’’ti. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave , etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, esa bhikkhu idāneva, pubbepi kuhakoyeva, aggimattassa kāraṇā makkaṭo hutvā kohaññamakāsī’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กาสิรเฎฺฐ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ปุตฺตสฺส อาธาวิตฺวา ปริธาวิตฺวา วิจรณกาเล พฺราหฺมณิยา มตาย ปุตฺตํ อเงฺกนาทาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตมฺปิ ปุตฺตํ ตาปสกุมารกํ กตฺวา ปณฺณสาลาย วาสํ กเปฺปสิฯ วสฺสารตฺตสมเย อจฺฉินฺนธาเร เทเว วสฺสเนฺต เอโก มกฺกโฎ สีตปีฬิโต ทเนฺต ขาทโนฺต กมฺปโนฺต วิจรติฯ โพธิสโตฺต มหเนฺต ทารุกฺขเนฺธ อาหริตฺวา อคฺคิํ กตฺวา มญฺจเก นิปชฺชิ, ปุตฺตโกปิสฺส ปาเท ปริมชฺชมาโน นิสีทิฯ โส มกฺกโฎ เอกสฺส มตตาปสสฺส สนฺตกานิ วกฺกลานิ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ อชินจมฺมํ อํเส กตฺวา กาชกมณฺฑลุํ อาทาย อิสิเวเสนาคนฺตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร อคฺคิสฺส การณา กุหกกมฺมํ กตฺวา อฎฺฐาสิฯ ตาปสกุมารโก ตํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, ตาปโส เอโก สีตปีฬิโต กมฺปมาโน ติฎฺฐติ, อิธ นํ ปโกฺกสถ, วิสิเพฺพสฺสตี’’ติ ปิตรํ อายาจโนฺต ปฐมํ คาถมาห –

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kāsiraṭṭhe brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto puttassa ādhāvitvā paridhāvitvā vicaraṇakāle brāhmaṇiyā matāya puttaṃ aṅkenādāya himavantaṃ pavisitvā isipabbajjaṃ pabbajitvā tampi puttaṃ tāpasakumārakaṃ katvā paṇṇasālāya vāsaṃ kappesi. Vassārattasamaye acchinnadhāre deve vassante eko makkaṭo sītapīḷito dante khādanto kampanto vicarati. Bodhisatto mahante dārukkhandhe āharitvā aggiṃ katvā mañcake nipajji, puttakopissa pāde parimajjamāno nisīdi. So makkaṭo ekassa matatāpasassa santakāni vakkalāni nivāsetvā ca pārupitvā ca ajinacammaṃ aṃse katvā kājakamaṇḍaluṃ ādāya isivesenāgantvā paṇṇasāladvāre aggissa kāraṇā kuhakakammaṃ katvā aṭṭhāsi. Tāpasakumārako taṃ disvā ‘‘tāta, tāpaso eko sītapīḷito kampamāno tiṭṭhati, idha naṃ pakkosatha, visibbessatī’’ti pitaraṃ āyācanto paṭhamaṃ gāthamāha –

    ๒๐๐.

    200.

    ‘‘อยํ อิสี อุปสมสํยเม รโต, ส ติฎฺฐติ สิสิรภเยน อฎฺฎิโต;

    ‘‘Ayaṃ isī upasamasaṃyame rato, sa tiṭṭhati sisirabhayena aṭṭito;

    หนฺท อยํ ปวิสตุมํ อคารกํ, วิเนตุ สีตํ ทรถญฺจ เกวล’’นฺติฯ

    Handa ayaṃ pavisatumaṃ agārakaṃ, vinetu sītaṃ darathañca kevala’’nti.

    ตตฺถ อุปสมสํยเม รโตติ ราคาทิกิเลสอุปสเม จ สีลสํยเม จ รโตฯ ส ติฎฺฐตีติ โส ติฎฺฐติฯ สิสิรภเยนาติ วาตวุฎฺฐิชนิตสฺส สิสิรสฺส ภเยนฯ อฎฺฎิโตติ ปีฬิโตฯ ปวิสตุมนฺติ ปวิสตุ อิมํฯ เกวลนฺติ สกลํ อนวเสสํฯ

    Tattha upasamasaṃyame ratoti rāgādikilesaupasame ca sīlasaṃyame ca rato. Sa tiṭṭhatīti so tiṭṭhati. Sisirabhayenāti vātavuṭṭhijanitassa sisirassa bhayena. Aṭṭitoti pīḷito. Pavisatumanti pavisatu imaṃ. Kevalanti sakalaṃ anavasesaṃ.

    โพธิสโตฺต ปุตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา อุฎฺฐาย โอโลเกโนฺต มกฺกฎภาวํ ญตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

    Bodhisatto puttassa vacanaṃ sutvā uṭṭhāya olokento makkaṭabhāvaṃ ñatvā dutiyaṃ gāthamāha –

    ๒๐๑.

    201.

    ‘‘นายํ อิสี อุปสมสํยเม รโต, กปี อยํ ทุมวรสาขโคจโร;

    ‘‘Nāyaṃ isī upasamasaṃyame rato, kapī ayaṃ dumavarasākhagocaro;

    โส ทูสโก โรสโก จาปิ ชโมฺม, สเจ วเชมมฺปิ ทูเสยฺยคาร’’นฺติฯ

    So dūsako rosako cāpi jammo, sace vajemampi dūseyyagāra’’nti.

    ตตฺถ ทุมวรสาขโคจโรติ ทุมวรานํ สาขโคจโรฯ โส ทูสโก โรสโก จาปิ ชโมฺมติ โส เอวํ คตคตฎฺฐานสฺส ทูสนโต ทูสโก, ฆฎฺฎนตาย โรสโก, ลามกภาเวน ชโมฺมฯ สเจ วเชติ ยทิ อิมํ ปณฺณสาลํ วเช ปวิเสยฺย, สพฺพํ อุจฺจารปสฺสาวกรเณน จ อคฺคิทาเนน จ ทูเสยฺยาติฯ

    Tattha dumavarasākhagocaroti dumavarānaṃ sākhagocaro. So dūsako rosako cāpi jammoti so evaṃ gatagataṭṭhānassa dūsanato dūsako, ghaṭṭanatāya rosako, lāmakabhāvena jammo. Sace vajeti yadi imaṃ paṇṇasālaṃ vaje paviseyya, sabbaṃ uccārapassāvakaraṇena ca aggidānena ca dūseyyāti.

    เอวญฺจ ปน วตฺวา โพธิสโตฺต อุมฺมุกํ คเหตฺวา ตํ สนฺตาเสตฺวา ปลาเปสิฯ โส อุปฺปติตฺวา วนํ ปกฺขโนฺต ตถา ปกฺขโนฺตว อโหสิ, น ปุน ตํ ฐานํ อคมาสิฯ โพธิสโตฺต อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพเตฺตตฺวา ตาปสกุมารสฺส กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ, โสปิ อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ อุปฺปาเทสิฯ เต อุโภปิ อปริหีนชฺฌานา พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํฯ

    Evañca pana vatvā bodhisatto ummukaṃ gahetvā taṃ santāsetvā palāpesi. So uppatitvā vanaṃ pakkhanto tathā pakkhantova ahosi, na puna taṃ ṭhānaṃ agamāsi. Bodhisatto abhiññā ca samāpattiyo ca nibbattetvā tāpasakumārassa kasiṇaparikammaṃ ācikkhi, sopi abhiññā ca samāpattiyo ca uppādesi. Te ubhopi aparihīnajjhānā brahmalokaparāyaṇā ahesuṃ.

    สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, โปราณโต ปฎฺฐายเปส กุหโกเยวา’’ติ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิฯ สจฺจปริโยสาเน เกจิ โสตาปนฺนา, เกจิ สกทาคามิโน, เกจิ อนาคามิโน เกจิ อรหโนฺต อเหสุํฯ ‘‘ตทา มกฺกโฎ กุหกภิกฺขุ อโหสิ, ปุโตฺต ราหุโล, ปิตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā ‘‘na, bhikkhave, idāneva, porāṇato paṭṭhāyapesa kuhakoyevā’’ti imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi. Saccapariyosāne keci sotāpannā, keci sakadāgāmino, keci anāgāmino keci arahanto ahesuṃ. ‘‘Tadā makkaṭo kuhakabhikkhu ahosi, putto rāhulo, pitā pana ahameva ahosi’’nti.

    กปิชาตกวณฺณนา ทสมาฯ

    Kapijātakavaṇṇanā dasamā.

    สิงฺคาลวโคฺค ทสโมฯ

    Siṅgālavaggo dasamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    สพฺพทาฐี จ สุนโข, คุตฺติโล วิคติจฺฉา จ;

    Sabbadāṭhī ca sunakho, guttilo vigaticchā ca;

    มูลปริยายํ พาโลวาทํ, ปาทญฺชลิ กิํ สุโกปมํ;

    Mūlapariyāyaṃ bālovādaṃ, pādañjali kiṃ sukopamaṃ;

    สาลกํ กปิ เต ทสฯ

    Sālakaṃ kapi te dasa.

    อถ วคฺคุทฺทานํ –

    Atha vagguddānaṃ –

    ทฬฺหวโคฺค จ สนฺถโว, กลฺยาณธมฺมาสทิโส;

    Daḷhavaggo ca santhavo, kalyāṇadhammāsadiso;

    รูหโก ทฬฺหวโคฺค จ, พีรณถมฺภกาสาโว;

    Rūhako daḷhavaggo ca, bīraṇathambhakāsāvo;

    อุปาหโน สิงฺคาโล จ, ทสวคฺคา ทุเก สิยุํฯ

    Upāhano siṅgālo ca, dasavaggā duke siyuṃ.

    ทุกนิปาตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Dukanipātavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๕๐. กปิชาตกํ • 250. Kapijātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact