Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๔. การณปาลีสุตฺตวณฺณนา
4. Kāraṇapālīsuttavaṇṇanā
๑๙๔. จตุเตฺถ การณปาลีติ ปาโลติ ตสฺส นามํ, ราชกุลานํ ปน กมฺมเนฺต กาเรตีติ การณปาลี นาม ชาโตฯ กมฺมนฺตํ กาเรตีติ ปาโตว อุฎฺฐาย ทฺวารฎฺฎาลกปากาเร อกเต กาเรติ, ชิเณฺณ ปฎิชคฺคาเปติฯ ปิงฺคิยานิํ พฺราหฺมณนฺติ เอวํนามกํ อนาคามิผเล ปติฎฺฐิตํ อริยสาวกํ พฺราหฺมณํฯ โส กิร ปาโตว อุฎฺฐาย คนฺธมาลาทีนิ คาหาเปตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา นครํ อาคจฺฉติ, อิทํ พฺราหฺมณสฺส เทวสิกํ วตฺตนฺติฯ ตํ โส เอวํ วตฺตํ กตฺวา อาคจฺฉนฺตํ อทฺทสฯ เอตทโวจาติ ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปญฺญวา ญาณุตฺตโร, กหํ นุ โข ปาโตว คนฺตฺวา อาคจฺฉตี’’ติ จิเนฺตตฺวา อนุกฺกเมน สนฺติกํ อาคตํ สญฺชานิตฺวา ‘‘หนฺท กุโต นู’’ติอาทิวจนํ อโวจฯ
194. Catutthe kāraṇapālīti pāloti tassa nāmaṃ, rājakulānaṃ pana kammante kāretīti kāraṇapālī nāma jāto. Kammantaṃkāretīti pātova uṭṭhāya dvāraṭṭālakapākāre akate kāreti, jiṇṇe paṭijaggāpeti. Piṅgiyāniṃ brāhmaṇanti evaṃnāmakaṃ anāgāmiphale patiṭṭhitaṃ ariyasāvakaṃ brāhmaṇaṃ. So kira pātova uṭṭhāya gandhamālādīni gāhāpetvā satthu santikaṃ gantvā vanditvā gandhamālādīhi pūjetvā nagaraṃ āgacchati, idaṃ brāhmaṇassa devasikaṃ vattanti. Taṃ so evaṃ vattaṃ katvā āgacchantaṃ addasa. Etadavocāti ‘‘ayaṃ brāhmaṇo paññavā ñāṇuttaro, kahaṃ nu kho pātova gantvā āgacchatī’’ti cintetvā anukkamena santikaṃ āgataṃ sañjānitvā ‘‘handa kuto nū’’tiādivacanaṃ avoca.
ตตฺถ ทิวา ทิวสฺสาติ ทิวสสฺสาปิ ทิวา, มชฺฌนฺหิกกาเลติ อโตฺถฯ ปณฺฑิโต มเญฺญติ ภวํ ปิงฺคิยานี สมณํ โคตมํ ปณฺฑิโตติ มญฺญติ, อุทาหุ โนติ อยเมตฺถ อโตฺถฯ โก จาหํ, โภติ, โภ, สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญาเวยฺยตฺติยชานเน อหํ โก นาม? โก จ สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญาเวยฺยตฺติยํ ชานิสฺสามีติ กุโต จาหํ สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญาเวยฺยตฺติยํ ชานิสฺสามิ, เกน นาม การเณน ชานิสฺสามีติ เอวํ สพฺพถาปิ อตฺตโน อชานนภาวํ ทีเปติฯ โสปิ นูนสฺส ตาทิโสวาติ โย สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญาเวยฺยตฺติยํ ชาเนยฺย, โสปิ นูน ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา สพฺพญฺญุตํ ปโตฺต ตาทิโส พุโทฺธเยว ภเวยฺยฯ สิเนรุํ วา หิ ปถวิํ วา อากาสํ วา ปเมตุกาเมน ตปฺปมาโณ ทโณฺฑ วา รชฺชุ วา ลทฺธุํ วฎฺฎติ, สมณสฺส โคตมสฺส ปญฺญํ ชานเนฺตนปิ ตสฺส ญาณสทิสเมว สพฺพญฺญุตญฺญาณํ ลทฺธุํ วฎฺฎตีติ ทีเปติฯ อาทรวเสน ปเนตฺถ อาเมฑิตํ กตํฯ อุฬารายาติ อุตฺตมาย เสฎฺฐายฯ โก จาหํ, โภติ, โภ, อหํ สมณสฺส โคตมสฺส ปสํสเน โก นามฯ โก จ สมณํ โคตมํ ปสํสิสฺสามีติ เกน การเณน ปสํสิสฺสามิฯ
Tattha divā divassāti divasassāpi divā, majjhanhikakāleti attho. Paṇḍito maññeti bhavaṃ piṅgiyānī samaṇaṃ gotamaṃ paṇḍitoti maññati, udāhu noti ayamettha attho. Ko cāhaṃ, bhoti, bho, samaṇassa gotamassa paññāveyyattiyajānane ahaṃ ko nāma? Ko ca samaṇassa gotamassa paññāveyyattiyaṃ jānissāmīti kuto cāhaṃ samaṇassa gotamassa paññāveyyattiyaṃ jānissāmi, kena nāma kāraṇena jānissāmīti evaṃ sabbathāpi attano ajānanabhāvaṃ dīpeti. Sopi nūnassa tādisovāti yo samaṇassa gotamassa paññāveyyattiyaṃ jāneyya, sopi nūna dasa pāramiyo pūretvā sabbaññutaṃ patto tādiso buddhoyeva bhaveyya. Sineruṃ vā hi pathaviṃ vā ākāsaṃ vā pametukāmena tappamāṇo daṇḍo vā rajju vā laddhuṃ vaṭṭati, samaṇassa gotamassa paññaṃ jānantenapi tassa ñāṇasadisameva sabbaññutaññāṇaṃ laddhuṃ vaṭṭatīti dīpeti. Ādaravasena panettha āmeḍitaṃ kataṃ. Uḷārāyāti uttamāya seṭṭhāya. Ko cāhaṃ, bhoti, bho, ahaṃ samaṇassa gotamassa pasaṃsane ko nāma. Ko ca samaṇaṃ gotamaṃ pasaṃsissāmīti kena kāraṇena pasaṃsissāmi.
ปสตฺถปฺปสโตฺถติ สพฺพคุณานํ อุปริ จเรหิ สพฺพโลกปสเตฺถหิ อตฺตโน คุเณเหว ปสโตฺถ, น ตสฺส อเญฺญหิ ปสํสนกิจฺจํ อตฺถิฯ ยถา หิ จมฺปกปุปฺผํ วา นีลุปฺปลํ วา ปทุมํ วา โลหิตจนฺทนํ วา อตฺตโน วณฺณคนฺธสิริยาว ปาสาทิกเญฺจว สุคนฺธญฺจ, น ตสฺส อาคนฺตุเกหิ วณฺณคเนฺธหิ โถมนกิจฺจํ อตฺถิฯ ยถา จ มณิรตนํ วา จนฺทมณฺฑลํ วา อตฺตโน อาโลเกเนว โอภาสติ, น ตสฺส อเญฺญน โอภาสนกิจฺจํ อตฺถิ, เอวํ สมโณ โคตโม สพฺพโลกปสเตฺถหิ อตฺตโน คุเณเหว ปสโตฺถ โถมิโต, สพฺพโลกสฺส เสฎฺฐตํ ปาปิโตฯ น ตสฺส อเญฺญน ปสํสนกิจฺจํ อตฺถิฯ
Pasatthappasatthoti sabbaguṇānaṃ upari carehi sabbalokapasatthehi attano guṇeheva pasattho, na tassa aññehi pasaṃsanakiccaṃ atthi. Yathā hi campakapupphaṃ vā nīluppalaṃ vā padumaṃ vā lohitacandanaṃ vā attano vaṇṇagandhasiriyāva pāsādikañceva sugandhañca, na tassa āgantukehi vaṇṇagandhehi thomanakiccaṃ atthi. Yathā ca maṇiratanaṃ vā candamaṇḍalaṃ vā attano ālokeneva obhāsati, na tassa aññena obhāsanakiccaṃ atthi, evaṃ samaṇo gotamo sabbalokapasatthehi attano guṇeheva pasattho thomito, sabbalokassa seṭṭhataṃ pāpito. Na tassa aññena pasaṃsanakiccaṃ atthi.
ปสเตฺถหิ วา ปสโตฺถติปิ ปสตฺถปฺปสโตฺถฯ เก ปน ปสตฺถา นาม? ราชา ปเสนทิ โกสโล กาสิโกสลวาสิเกหิ ปสโตฺถ, พิมฺพิสาโร องฺคมคธวาสีหิ, เวสาลิกา ลิจฺฉวี วชฺชิตฎฺฐวาสีหิ ปสตฺถา, ปาเวยฺยกา มลฺลา โกสินารกา มลฺลา อเญฺญปิ เต เต ขตฺติยา เตหิ เตหิ ชานปเทหิ ปสตฺถา, จงฺกิอาทโย พฺราหฺมณา พฺราหฺมณคเณหิ, อนาถปิณฺฑิกาทโย อุปาสกา อุปาสกคเณหิ, วิสาขาอาทิกา อุปาสิกา อเนกสตาหิ อุปาสิกาหิ, สกุลุทายิอาทโย ปริพฺพาชกา อเนเกหิ ปริพฺพาชกสเตหิ, อุปฺปลวณฺณเตฺถริอาทิกา มหาสาวิกา อเนเกหิ ภิกฺขุนิสเตหิ, สาริปุตฺตเตฺถราทโย มหาเถรา อเนกสเตหิ ภิกฺขูหิ, สกฺกาทโย เทวา อเนกสหเสฺสหิ เทเวหิ, มหาพฺรหฺมาทโย พฺรหฺมาโน อเนกสหเสฺสหิ พฺรเหฺมหิ ปสตฺถาฯ เต สเพฺพปิ ทสพลํ โถเมนฺติ วเณฺณนฺติ ปสํสนฺตีติ ภควา ‘‘ปสตฺถปฺปสโตฺถ’’ติ วุจฺจติฯ อตฺถวสนฺติ อตฺถานิสํสํฯ
Pasatthehi vā pasatthotipi pasatthappasattho. Ke pana pasatthā nāma? Rājā pasenadi kosalo kāsikosalavāsikehi pasattho, bimbisāro aṅgamagadhavāsīhi, vesālikā licchavī vajjitaṭṭhavāsīhi pasatthā, pāveyyakā mallā kosinārakā mallā aññepi te te khattiyā tehi tehi jānapadehi pasatthā, caṅkiādayo brāhmaṇā brāhmaṇagaṇehi, anāthapiṇḍikādayo upāsakā upāsakagaṇehi, visākhāādikā upāsikā anekasatāhi upāsikāhi, sakuludāyiādayo paribbājakā anekehi paribbājakasatehi, uppalavaṇṇattheriādikā mahāsāvikā anekehi bhikkhunisatehi, sāriputtattherādayo mahātherā anekasatehi bhikkhūhi, sakkādayo devā anekasahassehi devehi, mahābrahmādayo brahmāno anekasahassehi brahmehi pasatthā. Te sabbepi dasabalaṃ thomenti vaṇṇenti pasaṃsantīti bhagavā ‘‘pasatthappasattho’’ti vuccati. Atthavasanti atthānisaṃsaṃ.
อถสฺส โส อตฺตโน ปสาทการณํ อาจิกฺขโนฺต เสยฺยถาปิ, โภ, ปุริโสติอาทิมาหฯ ตตฺถ อคฺครสปริติโตฺตติ โภชนรเสสุ ปายาโส เสฺนหรเสสุ โคสปฺปิ, กสาวรเสสุ ขุทฺทกมธุ อเนฬกํ, มธุรรเสสุ สกฺกราติ เอวมาทโย อคฺครสา นามฯ เตสุ เยน เกนจิ ปริติโตฺต อากณฺฐปฺปมาณํ ภุญฺชิตฺวา ฐิโตฯ อเญฺญสํ หีนานนฺติ อคฺครเสหิ อเญฺญสํ หีนรสานํฯ สุตฺตโสติ สุตฺตโต, สุตฺตภาเวนาติ อโตฺถฯ เสสุปิ เอเสว นโยฯ ตโต ตโตติ สุตฺตาทีสุ ตโต ตโตฯ อเญฺญสํ ปุถุสมณพฺราหฺมณาปฺปวาทานนฺติ เย อเญฺญสํ ปุถูนํ สมณพฺราหฺมณานํ ลทฺธิสงฺขาตปฺปวาทา, เตสํฯ น ปิเหตีติ น ปเตฺถติ, เต กถิยมาเน โสตุมฺปิ น อิจฺฉติฯ ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรโตติ ชิฆจฺฉาย เจว ทุพฺพลภาเวน จ อนุคโตฯ มธุปิณฺฑิกนฺติ สาลิปิฎฺฐํ ภชฺชิตฺวา จตุมธุเรน โยเชตฺวา กตํ พทฺธสตฺตุปิณฺฑิกํ, มธุรปูวเมว วาฯ อธิคเจฺฉยฺยาติ ลเภยฺยฯ อเสจนกนฺติ มธุรภาวกรณตฺถาย อเญฺญน รเสน อนาสิตฺตกํ โอชวนฺตํ ปณีตรสํฯ
Athassa so attano pasādakāraṇaṃ ācikkhanto seyyathāpi, bho, purisotiādimāha. Tattha aggarasaparitittoti bhojanarasesu pāyāso sneharasesu gosappi, kasāvarasesu khuddakamadhu aneḷakaṃ, madhurarasesu sakkarāti evamādayo aggarasā nāma. Tesu yena kenaci parititto ākaṇṭhappamāṇaṃ bhuñjitvā ṭhito. Aññesaṃ hīnānanti aggarasehi aññesaṃ hīnarasānaṃ. Suttasoti suttato, suttabhāvenāti attho. Sesupi eseva nayo. Tato tatoti suttādīsu tato tato. Aññesaṃ puthusamaṇabrāhmaṇāppavādānanti ye aññesaṃ puthūnaṃ samaṇabrāhmaṇānaṃ laddhisaṅkhātappavādā, tesaṃ. Na pihetīti na pattheti, te kathiyamāne sotumpi na icchati. Jighacchādubbalyaparetoti jighacchāya ceva dubbalabhāvena ca anugato. Madhupiṇḍikanti sālipiṭṭhaṃ bhajjitvā catumadhurena yojetvā kataṃ baddhasattupiṇḍikaṃ, madhurapūvameva vā. Adhigaccheyyāti labheyya. Asecanakanti madhurabhāvakaraṇatthāya aññena rasena anāsittakaṃ ojavantaṃ paṇītarasaṃ.
หริจนฺทนสฺสาติ สุวณฺณวณฺณจนฺทนสฺสฯ โลหิตจนฺทนสฺสาติ รตฺตวณฺณจนฺทนสฺสฯ สุรภิคนฺธนฺติ สุคนฺธํฯ ทรถาทโย วฎฺฎทรถา, วฎฺฎกิลมถา, วฎฺฎปริฬาหา เอวฯ อุทานํ อุทาเนสีติ อุทาหารํ อุทาหริฯ ยถา หิ ยํ เตลํ มานํ คเหตุํ น สโกฺกติ, วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ อวเสโกติ วุจฺจติฯ ยญฺจ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สโกฺกติ, อโชฺฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ, ตํ โอโฆติ วุจฺจติฯ เอวเมวํ ยํ ปีติวจนํ หทยํ คเหตุํ น สโกฺกติ, อธิกํ หุตฺวา อโนฺต อสณฺฐหิตฺวา พหิ นิกฺขมติ, ตํ อุทานนฺติ วุจฺจติฯ เอวรูปํ ปีติมยวจนํ นิจฺฉาเรสีติ อโตฺถฯ
Haricandanassāti suvaṇṇavaṇṇacandanassa. Lohitacandanassāti rattavaṇṇacandanassa. Surabhigandhanti sugandhaṃ. Darathādayo vaṭṭadarathā, vaṭṭakilamathā, vaṭṭapariḷāhā eva. Udānaṃ udānesīti udāhāraṃ udāhari. Yathā hi yaṃ telaṃ mānaṃ gahetuṃ na sakkoti, vissanditvā gacchati, taṃ avasekoti vuccati. Yañca jalaṃ taḷākaṃ gahetuṃ na sakkoti, ajjhottharitvā gacchati, taṃ oghoti vuccati. Evamevaṃ yaṃ pītivacanaṃ hadayaṃ gahetuṃ na sakkoti, adhikaṃ hutvā anto asaṇṭhahitvā bahi nikkhamati, taṃ udānanti vuccati. Evarūpaṃ pītimayavacanaṃ nicchāresīti attho.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๔. การณปาลีสุตฺตํ • 4. Kāraṇapālīsuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๔. การณปาลีสุตฺตวณฺณนา • 4. Kāraṇapālīsuttavaṇṇanā