Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๑๐. การณฺฑวสุตฺตวณฺณนา
10. Kāraṇḍavasuttavaṇṇanā
๑๐. ทสเม ปฎิจรตีติ ปฎิจฺฉาทนวเสน จรติ ปวตฺตติฯ ปฎิจฺฉาทนโฎฺฐ เอว วา จรติ-สโทฺท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘ปฎิจฺฉาเทตี’’ติฯ อเญฺญนาญฺญนฺติ ปน ปฎิจฺฉาทนาการทสฺสนนฺติ อาห ‘‘อเญฺญน การเณนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ อญฺญํ การณํ วจนํ วาติ ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนํ การณํ, วจนํ วา วุตฺตํ, ตํ ตโต อเญฺญเนว การเณน, วจเนน วา ปฎิจฺฉาเทติฯ การเณนาติ โจทนาย อมูลาย อมูลิกภาวทีปนิยา ยุตฺติยา วาฯ วจเนนาติ ตทตฺถโพธเกน วจเนนฯ ‘‘โก อาปโนฺน’’ติอาทินา โจทนํ วิสฺสเชฺชตฺวาว วิเกฺขปาปชฺชนํ อเญฺญนาญฺญํ ปฎิจรณํฯ พหิทฺธา กถาปนามนา นาม ‘‘อิตฺถนฺนามํ อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’’ติ วุเตฺต – ‘‘ปาฎลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติอาทินา โจทนํ วิสฺสเชฺชตฺวาติ อยเมว วิเสโสฯ โย หิ ‘‘อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’’ติ วุโตฺต ‘‘โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปนฺนา, กํ ภณถ, กิํ ภณถา’’ติ วา วทติ, ‘‘เอวรูปํ กิญฺจิ ตยา ทิฎฺฐ’’นฺติ วุเตฺต ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ วา อุปเนติ, อยํ อเญฺญนาญฺญํ ปฎิจรติ นามฯ โย ปน ‘‘อิตฺถนฺนามํ นาม อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’’ติ ปุโฎฺฐ ‘‘ปาฎลิปุตฺตํ คโตมฺหี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘น ตว ปาฎลิปุตฺตคมนํ ปุจฺฉาม, อาปตฺติํ ปุจฺฉามา’’ติ วุเตฺต ตโต ‘‘ราชคหํ คโตมฺหิฯ ราชคหํ วา ยาหิ พฺราหฺมณคหํ วา, อาปตฺติํ อาปโนฺนสีติฯ ตํ ตตฺถ เม สูกรมํสํ ลทฺธ’’นฺติอาทีนิ วทติ, อยํ พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ นาม ฯ สมณกจวโรติ สมณเวสธารเณน สมณปฺปติรูปกตาย สมณานํ กจวรภูตํฯ
10. Dasame paṭicaratīti paṭicchādanavasena carati pavattati. Paṭicchādanaṭṭho eva vā carati-saddo anekatthattā dhātūnanti āha ‘‘paṭicchādetī’’ti. Aññenāññanti pana paṭicchādanākāradassananti āha ‘‘aññena kāraṇenā’’tiādi. Tattha aññaṃ kāraṇaṃ vacanaṃ vāti yaṃ codakena cuditakassa dosavibhāvanaṃ kāraṇaṃ, vacanaṃ vā vuttaṃ, taṃ tato aññeneva kāraṇena, vacanena vā paṭicchādeti. Kāraṇenāti codanāya amūlāya amūlikabhāvadīpaniyā yuttiyā vā. Vacanenāti tadatthabodhakena vacanena. ‘‘Ko āpanno’’tiādinā codanaṃ vissajjetvāva vikkhepāpajjanaṃ aññenāññaṃ paṭicaraṇaṃ. Bahiddhā kathāpanāmanā nāma ‘‘itthannāmaṃ āpattiṃ āpannosī’’ti vutte – ‘‘pāṭaliputtaṃ gatomhī’’tiādinā codanaṃ vissajjetvāti ayameva viseso. Yo hi ‘‘āpattiṃ āpannosī’’ti vutto ‘‘ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpannā, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathā’’ti vā vadati, ‘‘evarūpaṃ kiñci tayā diṭṭha’’nti vutte ‘‘na suṇāmī’’ti sotaṃ vā upaneti, ayaṃ aññenāññaṃ paṭicarati nāma. Yo pana ‘‘itthannāmaṃ nāma āpattiṃ āpannosī’’ti puṭṭho ‘‘pāṭaliputtaṃ gatomhī’’ti vatvā puna ‘‘na tava pāṭaliputtagamanaṃ pucchāma, āpattiṃ pucchāmā’’ti vutte tato ‘‘rājagahaṃ gatomhi. Rājagahaṃ vā yāhi brāhmaṇagahaṃ vā, āpattiṃ āpannosīti. Taṃ tattha me sūkaramaṃsaṃ laddha’’ntiādīni vadati, ayaṃ bahiddhā kathaṃ apanāmeti nāma . Samaṇakacavaroti samaṇavesadhāraṇena samaṇappatirūpakatāya samaṇānaṃ kacavarabhūtaṃ.
การณฺฑวํ (สุ. นิ. อฎฺฐ. ๒.๒๘๓-๒๘๔) นิทฺธมถาติ วิปนฺนสีลตาย กจวรภูตํ ปุคฺคลํ กจวรมิว อนเปกฺขา อปเนถฯ กสมฺพุํ อปกสฺสถาติ กสมฺพุภูตญฺจ นํ ขตฺติยาทีนํ มชฺฌคตํ ปภินฺนปคฺฆริตกุฎฺฐํ จณฺฑาลํ วิย อปกฑฺฒถฯ กิํ การณํ? สงฺฆาราโม นาม สีลวนฺตานํ กโต, น ทุสฺสีลานํฯ ยโต เอตเทว สนฺธายาห ‘‘ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน’’ติฯ ยถา ปลาปา อโนฺตสารรหิตา อตณฺฑุลา พหิ ถุเสน วีหี วิย ทิสฺสนฺติ, เอวํ ปาปภิกฺขู อโนฺต สีลรหิตาปิ พหิ กาสาวาทิปริกฺขาเรน ภิกฺขู วิย ทิสฺสนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปลาปา’’ติ วุจฺจนฺติฯ เต ปลาเป วาเหถ โอปุนถ วิธมถ, ปรมตฺถโต อสฺสมเณ สมณเวสมเตฺตน สมณมานิเนฯ กปฺปยโวฺหติ กเปฺปถ, กโรถาติ วุตฺตํ โหติฯ ปติสฺสตาติ สปฺปติสฺสาฯ วฎฺฎทุกฺขสฺส อนฺตํ กริสฺสถ, ปรินิพฺพานํ ปาปุณิสฺสถาติ อโตฺถฯ
Kāraṇḍavaṃ (su. ni. aṭṭha. 2.283-284) niddhamathāti vipannasīlatāya kacavarabhūtaṃ puggalaṃ kacavaramiva anapekkhā apanetha. Kasambuṃ apakassathāti kasambubhūtañca naṃ khattiyādīnaṃ majjhagataṃ pabhinnapaggharitakuṭṭhaṃ caṇḍālaṃ viya apakaḍḍhatha. Kiṃ kāraṇaṃ? Saṅghārāmo nāma sīlavantānaṃ kato, na dussīlānaṃ. Yato etadeva sandhāyāha ‘‘tato palāpe vāhetha, assamaṇe samaṇamānine’’ti. Yathā palāpā antosārarahitā ataṇḍulā bahi thusena vīhī viya dissanti, evaṃ pāpabhikkhū anto sīlarahitāpi bahi kāsāvādiparikkhārena bhikkhū viya dissanti, tasmā ‘‘palāpā’’ti vuccanti. Te palāpe vāhetha opunatha vidhamatha, paramatthato assamaṇe samaṇavesamattena samaṇamānine. Kappayavhoti kappetha, karothāti vuttaṃ hoti. Patissatāti sappatissā. Vaṭṭadukkhassa antaṃ karissatha, parinibbānaṃ pāpuṇissathāti attho.
การณฺฑวสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kāraṇḍavasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
เมตฺตาวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mettāvaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๐. การณฺฑวสุตฺตํ • 10. Kāraṇḍavasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๐. การณฺฑวสุตฺตวณฺณนา • 10. Kāraṇḍavasuttavaṇṇanā